นิยาย
นางร้าย พันธนาการรัก
เธอมีคู่หมั้นที่หมั้นหมายกันมานานถึง 5 ปี เพราะผู้ใหญ่สองฝ่ายเห็นว่าเหมาะสม เธอเองก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้ แม้จะยุ่งกับการทำงาน มีเวลาเจอกันน้อยแต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีมากมาโดยตลอด ดีจนเป็นที่อิจฉาของทุกคน กระทั่งเธอจับได้คาหนังคาเขาว่าฝ่ายชายนอกใจ และนอกกาย นอนรวมร่างอยู่กับน้องสาวคนละพ่อในวันสำคัญของเธอ วันที่เธอได้ขึ้นเวทีรับรางวัลนักแสดงหญิงสมทบยอดเยี่ยมจากละครที่เพิ่งจบไปบนเวทีใหญ่ที่สุดของปีเป็นครั้งแรกในฐานะนักแสดง ท่ามกลางความยินดีจากทุกคนที่ปรารถนาดีกับเธอ 2 ชั่วโมงให้หลัง ความสุขที่มีพลันหายไป การรอคอยที่จะให้แฟนหนุ่มชื่นชมรางวัลด้วยกันกลายเป็นเรื่องตลก เธอพบชายโฉด หญิงชั่วคู่หนึ่งกำลังระเริงรักกันอย่างเร่าร้อนบนเตียง คนหนึ่งคือแฟนหนุ่ม และอีกคนคือน้องสาวที่กำลังเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการใช้ชื่อเสียงของเธอเป็นบันไดเพื่อก้าวไปสู่ดาว ตลอด 5 ปี ที่หมั้นกันมาเธอไม่เคยทำผิดต่อณัฐดนัยเลยสักครั้งเดียว คอยคำนึงถึงความรู้สึกเขาเสมอแม้ในวันที่เธอจะเจอข่าวลบก็ไม่ได้นึกถึงตัวเองก่อน แต่ดูสิ่งที่เขาทำ มันสมควรได้รับการให้อภัยอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทาง! ให้เธอก้มหน้า เล่าความเท็จยอมรับว่าเข้ากันไม่ได้กับคู่หมั้น ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายถูกนอกใจ เป็นฝ่ายถูกกระทำ นี่คือคำแนะนำที่อ้างว่าปรารถนาดีจากใจคนเป็นแม่ที่อุ้มท้องเธอมา 9 เดือน ไม่มีความรักให้ไม่ว่าแต่เป็นคนต้องมีศีลธรรม ความแค้นที่ยากจะลืมเลือนไม่มีทางที่เธอจะยอมกลืนลงท้องแล้วพูดว่าให้อภัยง่าย ๆ แม้ว่าเธอจะไม่แยแส แต่คนอย่างเปรมา เทวานุกูล ถ้าลองได้เกลียดแล้วก็คือเกลียดเข้ากระดูกดำ ร้ายกาจได้มากกว่าในบทละครที่แสดงหลายเท่า มารดาไร้หัวใจคนนั้นกลัวว่านังน้องสาวตัวดีที่คอยชิงดีชิงเด่นกับเธอมาตลอดจะพลาดการเข้าไปเป็นดาวเลยทั้งขู่ ทั้งกล่อมให้แล้วกันไป ยัยเปรมมิกาคงคิดว่าเอาชนะเธอได้แล้วที่แย่งคู่หมั้นเธอไปได้ แต่ขอโทษที แฟนคนต่อไปของเธอจะต้องดีกว่า เหนือกว่าไอ้เฮงซวยนั่นราวนรกกับสวรรค์ เชิญพวกแกสมสู่ จับมือกันไปปีนต้นงิ้วตามสบาย!
บ่วงรักแสนหวาน
“ถ้าหนูเป็นลูกแมวแล้วพี่วินล่ะคะเป็นอะไร” รอยยิ้มละมุนแต่งแต้มบนริมฝีปากเมื่อลองคิดเล่นๆกับคำถามของตัวเอง เธอคิดว่าพี่วินเหมาะกับการเป็นเสือนะเพราะชอบดุเธออยู่เรื่อย อะไรไม่ถูกใจก็นิดหน่อยก็ทำหน้าดุแล้ว “พี่ก็เป็นของหนูไงคะ เป็นของจัสมินคนเดียวเลยดีไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียบ ๆพลางอมยิ้มน้อย ๆเมื่อนัยน์ตาคู่หวานเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อหูของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น และอย่าว่าแต่จัสมินที่มีท่าทางตกใจแบบนี้เลย ตัวเขาเองที่เป็นคนพูดยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ว่าประโยคเมื่อกี้เป็นคนพูดออกมาเอง “หนูน่ะเขินมากเลยค่ะ แล้วพี่วินล่ะคะเขินเหมือนกับหนูไหม” จัสมินจิ้มหน้าท้องแกร่ง แก้มขาวใสแดงปลั่งบ่งบอกว่าเจ้าตัวเขินอายอย่างที่พูดจริง ๆ มือใหญ่ข้างที่ว่างของอนาวินยกขึ้นกอบกุมแก้มเนียนนุ่มแล้วเกลี่ยเบาๆอย่างเอ็นดูในความน่ารักของเจ้าหญิงน้อย ๆ รอยยิ้มอบอุ่นไม่จางหายไปจากริมฝีปาก “จัสมินเขินคนเดียวก็พอแล้วครับ อย่าให้พี่ต้องเขินด้วยเลย” “ทำไมล่ะคะ ทำไมพี่วินถึงเขินด้วยไม่ได้” คิ้วเรียวสวยขมวดกันยุ่งเพราะไม่เข้าใจว่าที่เขาพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร ชอบตอบอะไรไม่ค่อยเคลียร์รอบเดียวให้ชัด ๆไม่ค่อยได้ “ก็เพราะว่าถ้าพี่เขินมันคงไม่น่ามองเหมือนกับจัสมินไงครับ” “พี่วินทำหนูเขินอีกแล้วนะคะ” จัสมินบ่นอุบอิบแต่ทว่ามุมปากโค้งขึ้น ใบหน้าประดับไปด้วยความสุขอย่างชัดเจน “เด็กน้อย”
เล่ห์รักร้ายเดียงสา
“เราไม่ได้อยู่ในที่ลับตาผู้คนนะคะที่รัก อย่าประเจิดประเจ้อค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเตือนเบาๆ ถึงจะไม่มีใครสนใจเธอกับติณณ์ก็เถอะ เพราะแต่ละคู่ แต่ละครอบครัว คณะเพื่อนฝูง ต่างก็สนใจอยู่กับคน ของตัวเองกันทั้งนั้น “พี่ชอบที่ฟ้าเรียกพี่ว่าที่รัก เรียกตลอดเลยยิ่งดี และพี่จะชอบมากกว่านี้ถ้าเราอยู่ด้วยกันตามลำพังแค่สองคนในชุดวาบหวิวแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา” พึมพำ ก่อนจะกดปากจูบที่เนินเนื้อนุ่มที่โผล่พ้นคอชุดว่ายน้ำ ขบกัดจนเกิดรอยแดงสองสามแห่ง ไม่สนเสียงโวยวายราวกระซิบ
แก้วตาดวงใจ
“พี่ยังยืนยันที่จะเป็นแฟนกับแก้ว ถ้าจะยกเหตุผลเรื่องฐานะทางสังคม พี่เจ้าชู้ พ่อแม่พี่อาจจะไม่ชอบผู้หญิงที่พี่เลือก หรืออะไรก็ตามแต่เพื่อกีดกันพี่ออกไปจากชีวิตคงไม่ได้ผลนะยาหยี พี่โตแล้วไม่ต้องตกอยู่ใต้คำสั่งใคร และพ่อแม่พี่ก็ไม่ใช่คนแบบนั้น ตรงกันข้ามอยากให้พี่แต่งงานแล้วรีบมีหลานให้ท่านได้อุ้มด้วยซ้ำ หากไม่เชื่อพี่จะต่อสายตรงให้คุยเองเลย” อันเดรสรีบพูดดักทางเหตุผลต่างๆนานาที่คนข้างกายอาจจะหยิบยกมาปิดกั้นเขา “ถามตรงๆ นะคะพี่อันเดรส ที่อยากให้แก้วเป็นแฟนเนี่ยแฟนแบบไหน จริงจังไหมหรือว่าแค่คบกันเล่นๆหากไม่ใช่ก็เลิกลากันไป” แก้วตาลองหยั่งเชิงถาม “เห็นว่าพี่เป็นคนยังไงเนี่ย มองพี่ในแง่ร้ายตลอดเลยยาหยี ถ้าไม่แน่ใจไม่มีทางที่พี่จะเอ่ยปากพูดแบบนี้หรอก อายุสามสิบแล้วนะพูดเรื่องนี้เล่นๆคงจะไม่ได้แล้วแหละ ว่าไงจะยังปฏิเสธอยู่อีกไหม พี่ไม่ชอบรออะไรนานๆนะ” ความที่ไม่เคยต้องรออะไรนานๆและตามตื๊อใครแบบนี้มาก่อนทำให้เขาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่ มันแลขัดๆกับบุคลิกและนิสัยที่เคยเป็นอย่างสิ้นเชิง “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่แก้วว่ามันยังเร็วไปนะคะ อีกอย่างแก้วจะกลับไปอยู่บ้านแล้วด้วย” คำว่าชอบอะไรสักคำก็ไม่เคยพูดดีแต่ฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัว “ไม่อยากทำงานพี่ก็ไม่ว่า แต่เรื่องจะหนีพี่กลับไปหลบหลังพ่อกับแม่อย่าได้คิดเชียว” ให้กลับก็บ้าแล้วล่ะ ขืนปล่อยไปเขาคงได้เหนื่อยหนักแน่ “พี่อันเดรสมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ บ้านแก้ว แก้วจะกลับใครก็ห้ามไม่ได้หรอก” ความรู้สึกในตอนนี้คือยิ่งคุยด้วยยิ่งโมโห เอะอะก็จะให้เป็นแฟนอย่างเดียว “พี่เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ทำไมเราพูดเรื่องนี้กันไม่รู้เรื่องสักที แค่เป็นแฟนพี่เนี่ยมันยากมากเลยเหรอ พี่ไม่ดีตรงไหนทำไมถึงได้ตั้งท่ารังเกียจเสียขนาดนี้” ลมหายใจอันเดรสเริ่มแรงขึ้นตามอารมณ์โมโห ใบหน้าเริ่มเครียดขึงจนน่ากลัว อาการหยอกล้อออดอ้อนหายไปในพริบตา “อย่ามาแสดงอาการแบบนี้กับแก้วนะพี่อันเดรส ที่เราพูดกันไม่รู้เรื่องนั่นเป็นเพราะพี่นั่นแหละที่เอาแต่ใจตัวเองฝ่ายเดียว การที่แก้วไม่ยอมตกลงแปลว่าแก้วผิดงั้นเหรอคะ เอาเข้าจริงพี่อันเดรสเคยถามความรู้สึกจริงๆของตัวเองบ้างไหมว่าคิดยังไงกับแก้ว แค่อยากลองของที่ได้มายากๆเฉยๆหรือว่าชอบจริงๆ พอไม่ได้ดั่งใจก็มาพาลแก้ว เป็นแบบนี้อย่าคุยกันเลยดีกว่า” ถ้อยคำของแก้วตาสาดใส่อันเดรสชนิดที่ว่าเดือดไม่แพ้กัน “ได้! ในเมื่อไม่คุยเราก็ทำอย่างอื่นกันเถอะ” อันเดรสจ้องหน้าอ่อนเยาว์เขม็ง แล้วจัดการรวบร่างบางขึ้นจากโซฟา เดินดุ่มไปทางห้องนอน “กรี๊ดดด! คิดจะทำอะไรไอ้ยักษ์บ้า! ปล่อยแก้วลงเดี๋ยวนี้นะ แก้วไม่เข้าห้องนะพี่อันเดรส” แก้วตาดิ้นไปด้วยทุบตีไปด้วย พยายามหาทางให้ตัวเองรอดพ้นจากวงแขนแข็งแรงนี้ไปโดยเร็ว “จะเป็นแฟนหรือเป็นเมียเลยเลือกมา อย่าชักช้านะไม่อย่างนั้นเข้าไปแล้วอย่าหวังว่าจะได้ออกมา” เมื่อเห็นว่ายังไม่ยอมตอบก็เริ่มเดินต่อจนหยุดอยู่หน้าประตู “ไม่ตอบถือว่าเลือกแล้วนะ เลือกเป็นเมียเลยเข้าทางพี่มากบอกเลย” สีหน้าเรียบเฉยมันขัดกับคำพูดเขายิ่งนัก แต่แก้วตาไม่มีเวลาจะใส่ใจมากนัก “แก้วยังไม่ทันตอบหรือเลือกเลยนะคะพี่อันเดรส” แก้วตาหน้ามุ่ย กัดปากล่างอย่างไม่มีทางเลือก “แก้วขอเลือกเป็นแฟนค่ะ” กลั้นใจตอบออกไปแล้วหลับตาปี๋ อยากจะบ้าตายทำไมจะเลือกอะไรแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ทำไมเธอจะรู้ไม่ทันว่านี่มันเป็นแผนของคนเจ้าเล่ห์ แต่ใครจะกล้าเสี่ยงกับความบ้าของเขากัน “ก็แค่นั้นแหละ เล่นตัวเสียนานเลยนะยาหยี” อันเดรสปล่อยร่างบางให้ยืนเองที่พื้น หน้าตาก็ยังไม่ได้ยิ้มแย้ม ไม่ได้แสดงท่าทางว่าดีใจกับคำตอบนั้น แต่กลับกันภายใต้ใบหน้านิ่งเฉยนั้นเขากำลังยิ้มอย่างเบิกบานใจ “ไอ้ยักษ์บ้า! ใครเขาเล่นตัวกัน พูดจาให้มันดีๆหน่อยนะ ถ้าไม่เพราะตัวเลือกบ้าๆนั่นแก้วไม่ตอบแบบนี้หรอกจะบอกให้” แก้วตาโมโหจนหน้าแดง คำพูดคำจาของเขามันน่าตบปากให้แตกจริงๆ เธอไม่ได้เล่นตัวเลยสักนิด
เพียงใจ (Only you)
“เรียนยังไม่จบก็มีเมียได้ ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามเอาไว้สักหน่อย มีแต่พิ้งค์นั่นแหละไม่ยอมใจอ่อนเป็นเมียผมสักที ไม่รู้จะให้รอไปถึงเมื่อไหร่ ทนไม่ไหวขึ้นมาจับปล้ำแล้วเช้ามาก็ให้แม่ไปขอเลยดีไหมนะจะได้จบ ๆ ไป” พูดอย่างยียวนไม่สะทกสะท้านกับสายตาแวววาวที่จ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเลยแม้แต่น้อย
บงการร้าย ภรรยาที่รัก
“พี่มีเงิน และเงินที่มีสามารถใช้สร้างความสุข และเอาใจเมียตัวเองได้ทั้งชีวิต เรื่องเล็กน้อยแค่นั้นไม่จำเป็นต้องเกรงใจ บอกหลายครั้งแล้วว่าทุกอย่างของพี่เท่ากับของเรา ธุรกิจนี้พี่สนับสนุน ทำออกมาให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไงให้เป็นเรื่องของอนาคต จำไว้แค่ว่าบ้านเราไม่ได้ขาดแคลนเงิน ที่ต้องคุยกันให้เข้าใจมีแค่ว่าอย่าทุ่มเทกับร้านจนลืมสนใจฮับบี้ของหนูก็พอ พี่ต้องมาที่หนึ่ง” ประโยคแรก ๆ ก็พาซึ้งน้ำตาคลอเบ้าอยู่หรอก แต่ประโยคหลังนี่ทำคนอดหมั่นไส้ไม่ได้จริง ๆ ความโชคดีนี้ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเธอทำบุญด้วยอะไร “ฮับบี้จะบอกว่าถ้าทำออกมาแล้วมันไม่ประสบผลสำเร็จก็ไม่เป็นไรเหรอคะ?” “อืม” โรสิตามุ่ยปาก เป็นจอมเผด็จการที่ตามใจเก่งมาก พลางหยิกแก้มคนรวยเวอร์ เชิดหน้าพูดว่า “ลูกชุบจะไม่ทำให้เงินที่ลงทุนเสียเปล่าแน่” ยังไงก็ปฏิเสธความหวังดีนี้จากท่านประธานคนนี้ไม่ได้แล้ว มีทางเดียวคือต้องตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด “หืม ที่รักจะลุกไปไหนคะ?” กระชับวงแขนรวบเอวคอดกิ่วของสาวสวยบนตักที่ทำท่าจะลุกออกไป “ลูกชุบจะไปนั่งที่โซฟาค่ะ ฮับบี้หางานให้ทำแล้วจะมัวมานั่งเล่นไม่ได้” เธอต้องดูอีกหลายอย่างเลย ภาพในหัวตอนนี้จะว่าว่างเปล่าก็ไม่ผิด ก่อนคุยกับทีมอินทีเรียเธอต้องมีความต้องการในใจคร่าว ๆ “เอ๊ะ! จริงสิคะ ร้านลูกชุบฮับบี้ให้ตั้งอยู่ที่ไหนคะ” เกือบลืมเรื่องสำคัญไปแล้ว บางทีเธออาจใช้ช่วงเวลาที่โดมินิกเข้าประชุมไปดูสถานที่จริงสักหน่อย ได้คำตอบแล้วคนมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำธุรกิจก็หอมแก้มนายทุนใหญ่ไปสองฟอด จุ๊บปากไปอีกหนึ่งที แล้วหอบเอาไอแพดเครื่องโตที่ขอยืมใช้ชั่วคราวมาที่โซฟา ดวงตาอ่อนโยนมองตามร่างงามพลางทิ้งแผ่นหลังพิงเก้าอี้อย่างคิดไม่ตก การตัดสินใจในครั้งนี้จะสร้างความลำบากให้ตัวเขาเองหรือเปล่าชักไม่แน่ใจ คิดจะผิดคำพูด กลับคำว่าไม่ให้ทำแล้วตอนนี้ดูท่าแล้วแม่คุณทูนหัวคงไม่ยอมแน่ จากตอนแรกทำท่าไม่เห็นด้วยกับเซอร์ไพรส์ที่เขามอบให้ เพียงแค่เขาพูดด้วยความจริงใจว่าไม่ต้องจริงจังกับผลลัพธ์มากก็มีความกระตือรือร้นทันที
สิเน่หายิหวายอดรัก
กันตพัฒน์ ธนะทรัพย์ทวีสุข อายุ 37 ปี ท่านประธานใหญ่แห่ง ธนะทรัพย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศ ด้วยวัยของเขาที่อีกสามปีก็จะแตะเลขสี่ สมควรมีคู่ครอง สร้างทายาท แต่ก็ไร้วี่แวว กระทั่งวันหนึ่งลมหายใจเข้าออกก็เป็นชื่อของผู้หญิงที่ชื่อ... 'ยิหวา'
ขังรักดรุณี
เพราะความคออ่อนเป็นเหตุ ดารินจึงต้องเสียตัวให้กับผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่ง คิดว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องเจอกันแล้ว แต่โชคชะตาก็เบ่นตลกกับเธอ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยในคืนนั้นกลายมาเป็นเจ้านายของเธอ ชาร์ตัน หยาง และเธอดาริน ผู้ช่วยเลขา
หวงรักยัยตัวร้าย
“หมู” “หื้ม” ฉันตอบรับในลำคอเบาๆ แต่ไม่ได้หันไปมองเพราะกำลังตั้งใจถ่ายสไลด์บนหน้าจอโปรเจคเตอร์ที่อาจารย์บอกว่าไม่มีในชีทเรียน คือย้ำบ่อยมากจนฉันคิดว่ามันต้องออกสอบแน่นอนเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ คนอื่นๆก็ทำแบบฉันนะ ขี้เกียจจะใช้มือจด เยอะขนาดนี้จดไม่มีทางทันหรอก อาจารย์เปลี่ยนก่อน วิชาอื่นฉันก็ใช้เทคนิควิธีนี้เหมือนกัน มันง่ายและสะดวกดี “หมู” “ว่าไง เรียกแล้วทำไมไม่พูดล่ะ” ฉันหันไปมองแวบหนึ่งแล้วรีบมองไปหน้าห้องเรียน ฉันไม่อยากพลาดการถ่ายรูปเก็บเอาไว้เพื่อความอุ่นใจไปสักสไลด์ เพื่อนคนอื่นไม่ได้ทำความรู้จักไว้ ต้องเพิ่งตัวเองนี่แหละ คนข้างๆนี่อย่าหวังเลย ไม่เจ๊าะแจ๊ะฉันก็เล่นเกมส์ ลากมาด้วยได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่ถ้าดื้อแพ่งจะไม่มาแล้วฉันจะมาคนเดียวในวิชานี้ก็ไม่ยอมปล่อยนะ สรุปก็ต้องตามก้นฉันมาอยู่ดี “ก็เมียไม่ยอมสนใจ เอาแต่จ้องไอ้จอสี่เหลี่ยมกับหน้าอาจารย์” เสียงทุ้มพูดสะบัดในช่วงท้ายหน่อยๆ ถ้าไม่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเวลาสอบใครจะช่วย ต่อให้สนิทกับลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยมากแค่ไหนใช่ว่ามันจะอุ่นใจได้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด ฉันขยับมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้หันไปมองหรอก เพราะยังไม่ว่างมานั่งเอาใจคนขี้งอนที่ชอบให้ฉันมองตัวเองอยู่ในสายตาตลอดเวลา ยกเว้นตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งถ้าไม่นับตอนเรียนหรือตอนที่ขุนต้องทำงานเราก็ตัวติดกันเสมอ คู่รักบางคู่อาจจะเซ็งหรือเบื่อที่ไม่มีเวลาส่วนตัวหากแฟนทำตัวติดแจ แต่ฉันชอบนะที่เป็นอยู่อย่างนี้ เพราะนั่นหมายความว่าเราสำคัญสำหรับเขามาก “ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ หมูแดงกำลังทำอะไรอยู่อยู่ขุนก็เห็นอยู่นี่นา” นี่ฉันจะหลุดขำออกมาแล้วนะ อะไรจะอ้อนแรงเบอร์นี้คะทูนหัว เอาคางมากระแทกหัวไหล่ฉันจึกๆอย่างเรียกร้องความสนใจ สุดฤทธิ์ โถ ไอ้หมาน้อยเอ๊ย!
อ้อนรักหวานใจ
แรกพบสบตาสาวน้อย ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิท ประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมอย่างภาคภูมิก็เกิดหัวใจเต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยอ่อนหัด มุ่งมั่นที่จะครอบครองเธอแม้วิธีการบางอย่างจะดูไร้ยางอายไปหน่อยก็ไม่สน หัวใจอันเร่าร้อนเพรียกหาแต่แม่ยอดขมองอิ่มทุกเมื่อเชื่อวัน เสียงเพราะพริ้งยามเรียกพี่ภาคคะ พี่ภาคขาอ่อนหวานน่าฟังต้องรีบหาทางรวบเธอมาอยู่ด้วยกัน เช้า สาย บ่าย เย็นอยากตัวติดกันตลอด
เมียรักยอดเสน่หา
ผ่านมาสิบสองปีแล้ว จากเด็กหญิงวัยสิบขวบ กลายเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสองปี วันนี้สิ่งที่เขารอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง ความอดทนอดกลั้นก็จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อของรักกำลังจะกลับเข้าสู่อ้อมอกในอีกไม่ช้า น้องแพรวของพี่ เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งนาน เพื่อรอวันที่เธอพร้อมที่จะเป็นของเขาทั้งตัว และหัวใจ แพรวพิชชา น้องน้อยคนสวยของราฟาเอล มีชีวิตความเป็นอยู่ราวกับเจ้าหญิง ทั้งขี้อ้อน ขี้งอน และแสนซน หลังจากจบการศึกษาจากต่างประเทศก็ได้รับคำสั่งจากพี่ชายสุดหล่อ ให้เดินทางกลับมาประเทศไทยทันที พอเท้าแตะพื้นแผ่นดินประเทศไทยหลังจากที่ไม่ได้กลับมาเนิ่นนาน ชีวิตที่เคยอิสระก็ถูกตามติดแจ แถมใจยังต้องสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเมื่อต้องชิดใกล้กับพี่ชายผู้มีพระคุณ ที่นับวันยิ่งแสดงออกกับเธอเกินกว่าพี่ชายเหมือนในวันวาน
เมียวัยแรกแย้ม
เมื่อโคแก่ตกหลุมรักหญ้าอ่อนที่อายุน้อยกว่า 15 ปี ความบ้ามุทะลุก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่แรกเจอ ... “คุณป๋าอะไร อยากจะเป็นพ่อหนูแล้วทำไมต้องมาลวนลามกันแบบนี้ด้วย” “คุณป๋าไม่ได้อยากเป็นพ่อ ไหนลองเรียกให้ชื่นใจสิเบบี๋ คุณป๋าน่ะ ” “ไม่เรียก ทำไมจะต้องเรียกแบบนั้นด้วย ถ้าจะให้เรียกขอเรียกตาแก่แทนละกัน คุณป๋าบ้าคุณป๋าบออะไรกัน เรียกแบบนั้นขนลุกตายเลย” ... “เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งทะเลาะกัน” ลูเซียสยกมือขึ้นห้าม “ขอขัดจังหวะแป๊บนึง เมื่อกี้หนูดีเรียกพี่ลูซว่าอะไรนะพี่ได้ยินไม่ชัด” “ก็คุณป๋าไงคะ” หนูดีตอบชัดๆ “แล้วทำไมต้องเรียกอย่างนั้นด้วย” ลูเซียสกลั้นยิ้มไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ชายเขาจะให้เรียกว่าอย่างนั้น แลเหมือนพ่อกับลูกอย่างไรอย่างนั้น ลูอิสเดาความคิดน้องชายออกเลยรีบพูดสวนออกไปก่อนที่เมียตัวน้อยจะโต้ตอบ “ฉันชอบและพอใจจะให้เรียกอย่างนั้น แล้วก็เลิกคิดว่าเหมือนพ่อกับลูกด้วยลูเซียส” ลูอิสพูดเสียงเข้ม ลูเซียสเองก็ไม่ได้อะไรได้แต่ไหวไหล่น้อยๆ วันนี้พี่ชายเขามีแต่เรี่องเซอร์ไพรส์ทั้งนั้น ... “ซีรีส์เพ้อฝันพวกนี้มันดีกว่าคุณป๋าตรงไหน พระเอกก็หน้าตางั้นๆ สู้คุณป๋าหนูไม่ได้เลยสักนิด “คุณป๋าอย่าเยอะได้ไหม หนูแค่ดูซีรีย์นะคะ ใครๆเขาก็ดูกันทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่แค่หนูคนเดียวสักหน่อย หากไม่ดูเดี๋ยวหนูคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง” ... รักเด็กหลงเด็กต้องยกให้เขาคนนี้
หวานใจเจ้าพ่อที่รัก
เมื่อโคแก่อยากเคี้ยวหญ้าอ่อน ปฏิบัติการตามตื๊อชนิดหน้าด้านหน้าทนจึงเริ่มต้นขึ้น ถึงขั้นตั้งตนเป็น 'ป๋า' สาวน้อยหน้าแฉล้มคนสวยแห่งเมืองสุพรรณ เกิดมาทั้งชีวิตเพิ่งเคยเจอคนหน้าด้าน ชอบโมเม มากกว่านั้นคือชอบนัวเนีย คนหนึ่งอยากได้ คนหนึ่งอยากหนี ปฏิบัติการรุกไล่จึงเกิดขึ้น ... “หนูมาที่นี่ทำไมไม่บอกพี่ก่อน แล้วไหนจะแต่งตัวแบบนี้ออกมาอีกให้ตายสิ ถ้าเกิดระหว่างทางแท๊กซี่มันคิดอะไรไม่ดีกับหนูมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พี่ไม่อยากจะคิดเลย” สมัยนี้มันมีอันตรายรอบด้านแล้วหนูน้อยของเขาสวยเสียขนาดนี้เวลาไปไหนมาไหนก็เป็นจุดสนใจตลอด ให้ตายเถอะเขาหงุดหงิดเป็นบ้า “ก็พี่คาร์ลอสบอกว่าพี่มาร์ตินเมาหนักมาก แล้วร้องเรียกหาแต่หนูจนคนอื่นเอาไม่อยู่ หนูเป็นห่วงก็เลยรีบมาดูยังจะมาดุเขาอีก” พิศลดาหน้างอถึงแม้จะรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงก็ตาม “ที่ดุก็เพราะว่าพี่เป็นห่วง แล้วต่อไปนี้พี่ก็ขอสั่งห้ามไม่ให้หนูใส่กระโปรงหรือชุดสั้นๆ อีก ถ้าไม่ฟังคำสั่งพี่จะทำโทษสถานหนัก” มาร์ตินพูดเสียงเข้ม ก่อนจะหันมาต่อว่าคาร์ลอส “แกก็เหมือนกันไอ้คาร์ลอส ไปหลอกหนูน้อยของฉันแบบนั้นได้ยังไง ถ้าเกิดหนูน้อยของฉันเป็นอะไรขึ้นมาแกจะทำยังไง” “เออน่าฉันขอโทษ ฉันแค่อยากจะเห็นหน้าแฟนแก ครั้งหน้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” “แฟน? หนูไม่ใช่แฟนพี่มาร์ตินนะคะ” พิศลดาร้องเสียงหลง “อ้าวยังไงวะ ทึกทักเอาเองรึไงวะเพื่อน” ชาร์ตันกลั้วหัวเราะ “ไม่ใช่แฟนเว้ย!” มาร์ตินพูดนิ่ง ๆ พิศลดาเองก็หยุดดิ้น ส่วนเพื่อนของเขาทั้งสองคนทำหน้าแปลกใจ “ไม่ใช่แฟนแต่เป็นเมียชัดนะ” “คนบ้า!” มือน้อยระดมทุบที่ไหล่หนา ส่วนคนโดนทุบก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรจนพิศลดาเหนื่อยถึงหยุดไปเอง “เมีย! แกกับน้องเฟิร์นได้กันแล้วเหรอวะ ไวไฟกว่าฉันกับไอชาร์ลเยอะเลย โทษนะว่าแต่เมียแกนี่อายุเท่าไหร่วะ” “18” มาร์ตินกดจมูกโด่งลงบนผมหอมกรุ่น ไม่สนใจอาการตาค้างของเพื่อนรักทั้งสองคน “ไอ้โคแก่” ชาร์ตันและคาร์ลอสพูดขึ้นพร้อมเพียงกัน “ไม่สนโว้ย!” มาร์ตินสบตากับแม่เสือสาวที่ขู่เขาฟ่อ ๆ “ฉันกลับก่อนนะจะรีบไปกล่อมเมียนอน” มาร์ตินฉุดแขนเรียวให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินโอบเอวบางออกไป
Theory ล้อมรัก ละลายใจ
She said : ฤดูหนาวหรือท้องฟ้าเหรอที่ปืนชอบอะ He said : พริกหวาน She said : ฮะ? He said : ชอบพริกหวาน Reader : Oops . “วันนี้มีดาวเคียงเดือน” “ดาวเคียงเดือน?” ผมเลิกคิ้ว เห็นท่าทางตื่นเต้นของพริกหวานจากหางตาเลยอดที่จะยิ้มเอ็นดูไม่ได้ และก่อนที่ผมจะเอ่ยปากถาม ว่าดาวเคียงเดือนที่ว่ามันคือละครหรืออะไร ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้ม ที่เงียบเสียงไปหลังจากแยกย้ายกับพวกไอ้เข้มที่ลานจอดรถเมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้วก็ชิงขยับเพื่อขยายความ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เท้าผมต้องแตะเบรกเพราะข้างหน้าเป็นสัญญาณไฟแดงพอดี คันแรกที่ติดเลยกู ผมเท้าข้อศอกข้างขวาตรงประตู ตามองจ้องอยู่ที่ตุ๊กตาหน้ารถถามว่าตอนนี้อารมณ์ขุ่นมัวของผมหายไปหรือยัง คำตอบคือมันยังอยู่ แต่เจือจางลงมากแล้วล่ะ โมโหเองหายเอง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นผมโมโหแทบตาย เชื่อไหมผมตกอยู่ในอาการนั้นเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ตั้งแต่นำพาชีวิตมาคลุกคลีอยู่กับพริกหวานน้อย เธออยู่เฉย ๆ ก็สามารถ ทำผมบ้าได้ “ดาวเคียงเดือน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพระจันทร์ยิ้มไง ปืนรู้จักใช่ไหม เมื่อกี้เค้าอ่านเจอในเฟซบุ๊ก บอกว่าค่ำวันนี้จะมี เค้าอยากดูมากกกก” ผมพยักหน้า ร้องอ๋อ แล้วเอนตัวไปข้างหน้ามองดูท้องฟ้าที่เริ่มถูกความมืดกลืนกินด้วยความสนใจ “แล้วเราจะเห็นปรากฏการณ์นั้นได้ตอนกี่โมงอะดื้อ” ดาวเคียงเดือนคือปรากฏการณ์ที่ดาวศุกร์ ดาวพฤหัสบดี และดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้กัน โดยดวงจันทร์จะหงายอยู่ด้านล่างของดาวอีกสองดวง สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สาเหตุที่เรียกว่าพระจันทร์ยิ้มก็เพราะมีลักษณะคล้ายใบหน้าคนกำลังยิ้ม จำได้เพราะเคยอ่านมา “ตามที่ข่าวบอก เราจะเห็นกันช่วงหัวค่ำ กินเวลาไม่นาน” “งั้นก็ต้องจับตาดูให้ดี” “ใช่ แต่ปืนจ๋า ช่วยพาเค้าไปส่งที่หอเลยได้ไหมอะ เค้าไม่อยากแวะที่ไหนอีกแล้ว” เสียงอ้อนอ่อนหวานเรียกปืนจ๋าของสาวตาใสแจ๋วและปากจู๋ ๆ ของเธอเรียกรอยยิ้มจากผม อดใจไม่ไหวต้องยื่นมือออกไปประคองซีกแก้มเนียนนุ่มไม่ต่างจากผิวเด็กทารกแรกเกิด ผมเกลี่ยคลึงเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ เล่นนุ่มนิ่มซะขนาดนี้จะไม่ให้อยากทะนุถนอมได้ยังไง “แต่ปืนยังไม่อยากแยกกับดื้อเลยทำไงดีล่ะ” ผมพูดเสียงเบา ก้มหน้าลงไล้ปลายจมูกเชิดรั้นอย่างหยอกล้อ ขณะเดียวกันก็ซึมซับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างบางไปด้วย พอได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันผมก็เกิดความโลภ อยากยืดเวลาออกไปอีก อยู่กับเพื่อนถึงตอนต้องแยกคือแยก ไม่มีความอาลัยอะไรหรอก แต่กับผู้หญิงคนนี้ผมดันอยากให้เวลา มีมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่ต้องพูดคุยอะไรกันก็ได้ ขอแค่นั่งมอง นอนมอง #ดื้อของปืน