อ้อนรักหวานใจ

102.0K · จบแล้ว
สิรี/evavy
34
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แรกพบสบตาสาวน้อย ลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิท ประธานหนุ่มเจ้าของโรงแรมอย่างภาคภูมิก็เกิดหัวใจเต้นแรงเหมือนหนุ่มน้อยอ่อนหัด มุ่งมั่นที่จะครอบครองเธอแม้วิธีการบางอย่างจะดูไร้ยางอายไปหน่อยก็ไม่สน หัวใจอันเร่าร้อนเพรียกหาแต่แม่ยอดขมองอิ่มทุกเมื่อเชื่อวัน เสียงเพราะพริ้งยามเรียกพี่ภาคคะ พี่ภาคขาอ่อนหวานน่าฟังต้องรีบหาทางรวบเธอมาอยู่ด้วยกัน เช้า สาย บ่าย เย็นอยากตัวติดกันตลอด

นิยายรักโรแมนติกประธานรักหวานๆรักแรกพบเศรษฐีผู้ชายอบอุ่นนักศึกษาฟินๆ

1 แรกพบ

“เอ่อ เจ้านายครับ เจ้านาย ถึงโรงแรมแล้วครับ” โทนี่เปิดประตูรถลงมาเรียกเจ้านายที่เบาะโดยสารหลังรถอย่างเกรงอกเกรงใจเนื่องจากเขาเรียกมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้านายมาดเข้มของเขาจะตื่นจากนิทรา ออกจากบ้านมาก็หลับทันที เห็นทุกทีที่ออกจากบ้านต้องคอยเช็คข่าว และตารางงานที่จะต้องทำในวันนี้ตลอด สงสัยจะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้วันนี้เจ้านายเข้ามาโรงแรมสายกว่าปกติมากโข

ภาคภูมิ  พิชญะสกุล  หนุ่มรูปหล่อบ้านรวย ผู้กุมบังเหียนใหญ่คนปัจจุบันของโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ Paradise ที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ เขามีพร้อมทั้งฐานะและหน้าตาเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาครอบครองสี่ห้องหัวใจของเขาได้เมื่อถึงเวลาเขาก็คงจะเจอคนที่หัวใจต้องการเอง เขาจึงไม่อยากคบใครฆ่าเวลา แค่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติของผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่มีข้อผูกมัดจะดีกว่าเพื่อรอใครบางคนที่จะมาดูแลหัวใจของเขาในอนาคต ซึ่งตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและจะมีจริงหรือไม่

“อือ รู้แล้ว แกจะตะโกนทำไมวะโทนี่ ฉันแค่พักสายตาไม่ได้หลับลึกขนาดนั้น” เสียงเข้มเอ่ยเสียงขุ่นกับเลขาพ่วงตำแหน่งลูกน้องคนสนิทก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถคันหรูพาร่างกายสมบูรณ์แบบเดินเข้าไปในโรงแรม

“นี่ฉันผิดเหรอวะจอห์นแล้วฉันก็ไม่ได้ตะโกนด้วยนะเว้ย แกก็ได้ยิน” โทนี่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่กกับจอห์นที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่

“ยังไม่ชินอีกเหรอวะ ไปเถอะ เจ้านายเดินไปโน่นแล้ว” จอห์นว่าก่อนจะลากคอโทนี่ที่ทำหน้าหมดอาลัยตายอยากเดินตามเจ้านายไป

“สวัสดีครับบอส/สวัสดีค่ะบอส”

เมื่อเห็นว่าเจ้านายรูปหล่อเข้ามาในโรงแรมเหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเจ้านายหนุ่มไปตลอดทาง เขาทำเพียงแค่พยักหน้าตอบและยิ้มน้อยๆให้กับลูกน้องของตนก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร แต่แล้วสายตาก็พลันไปสะดุดที่สาวน้อยหน้าหวานแต่แอบเซ็กซี่ในชุดนักศึกษาที่ล็อบบี้ของโรงแรมซึ่งกำลังคุยอย่างออกรสกับชายหนุ่มอีกคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเขามั่นใจว่าเมื่อตอนเขาเข้ามาไม่เห็นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเท่าที่ควร เมื่อเท้าไวเท่าความคิดเขาก็พาร่างกายของตัวเองเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ทันทีทำให้โทนี่กับจอห์นที่ตามหลังมารีบเดินตามเจ้านายไป

คนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นไม่ได้สังเกตรอบตัวว่ากำลังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาดีเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ และมาหยุดยืนอยู่ตรงด้านหลังสาวน้อยหน้าสวย

“ไอภาค” ธีรเดชที่เงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องมอง พอรู้ว่าเป็นใครก็ร้องเรียก แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่ายืนเหม่ออะไรอยู่ ท่าทางเลื่อนลอยอย่างกับคนบ้า ตานี่เยิ้มเชียว หันสบตากับลูกน้องมันลูกน้องมันก็ได้แต่ส่ายหัวกันไปมา ทนไม่ไหวเขาเลยต้องลุกไปหาแล้วตบหน้าดัง

เผียะ!

“ไอ้ทรพีมือหรือตีนวะตบมาได้นะมึง” ภาคภูมิถึงกับสะดุ้งลูบหน้าตัวเองที่ตอนนี้เขาคิดว่ามันคงแดงแน่ๆ เพราะแรงตบที่กระแทกหน้าเขามันแรงไม่ใช่น้อยไอเพื่อนเวรตบมาได้ แล้วดูสิยัยตัวเล็กคนสวยนี่ก็นั่งขำเขาด้วย ฮึ่ย!

“อ้าว ไอเวรนี่ เดี๋ยวพ่อก็ถีบให้อีกหรอ กูธีรเดชไม่ใช่ทรพีแล้วเป็นห่าอะไรวะ ยืนเหม่อเหมือนหมามองเครื่องบินเลย อย่าบอกนะว่าแอบคิดอะไรกับกู อย่าเชียวนะมึง” ธีรเดชลูบแขนตัวเองไปมาอย่างขนลุกเขาไม่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน อย่างเขาเหมาะแก่เป็นพ่อพันธ์ุมากกว่า

“ไอบ้าฉันไม่ได้ชอบไม้ป่าเดียวกัน พูดงี้เดี๋ยวกูขายไม่ออก” คำว่าขายไม่ออกเขาเน้นหนักเป็นพิเศษและสบตากับสาวน้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี

“พี่ธีร์คะ พลอยขอขัดจังหวะการจีบกันของพี่แป๊บนึงนะคะ คือพลอยจะขอตัวไปเรียนก่อนน่ะค่ะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน คลาสสำคัญด้วย” เธอเห็นว่าธีรเดชพูดคุยกับคนที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากพอสมควรจนเธอคิดว่าควรที่จะพาตนเองออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว และอีกอย่างอีตาคนที่ชื่อภาคอะไรนั่นก็ชอบมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ชอบกล

“อ่าฮะ แต่เดี๋ยวก่อนน้องพลอย พี่ลืมแนะนำเราเลยมัวแต่คุยเพลิน ภาค นี่แพรพลอย น้องสาวฉัน ลูกของคุณอาฉันน่ะ ส่วนนี่ภาคภูมิพี่ภาคเพื่อนสนิทพี่เองจ้ะ” ธีรเดชแนะนำสาวน้อยข้างกายให้กับเพื่อนสนิทได้รู้จักเพราะทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกันมาก่อน

เมื่อธีรเดชแนะนำแพรพลอยก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มและส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบใจสายตาของเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากให้พี่ชาย และเขามองตัวเองไม่ดีเลยต้องทำตามมารยาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องพลอย” เมื่อได้รับรู้ว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์เป็นน้องของเพื่อนสนิทเขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนแรกเขาคิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นเด็กของเพื่อนเขาแต่ตอนนี้รู้แล้วเขาเลยไม่ค่อยเก็บอาการ และสายตาเท่าที่ควร ชายหนุ่มใช้สายตาสำรวจสาวน้อยร่างบางจนได้ค้อนกลับมาเมื่อเจ้าตัวสบตากับเขาเข้าพอดี

“รู้จักกับเพื่อนพี่ธีร์แล้วงั้นพลอยขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวไปไม่ทันแล้วเจอกันนะคะพี่ธีร์ สวัสดีค่ะ” แพรพลอยเอ่ยลากับธีรเดชและไม่ลืมที่จะลาภาคภูมิที่กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแพรวพราว

“แล้วเจอกันน้องรัก” ธีรเดชขยี้ผมสวยอย่างเอ็นดู

“สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” แพรพลอยเอ่ยลาภาคภูมิอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวออกไป

แม้ว่าภาคภูมิจะอยากรั้งสาวเจ้าไว้ และอยากจะทำโทษที่โทษฐานเรียกเขาซะห่างเหิน แต่ก็ไม่อาจทำได้ จึงได้แต่มองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา เพราะเขายังไม่อยากทำให้ไก่ตื่นไปมากกว่านี้ แต่การกระทำของชายหนุ่มก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคู่ใจที่ลอบสบตากันเป็นระยะอย่างรู้กัน

“วันนี้แกมาทำอะไรที่นี่วะไอธี ไม่อยู่บริหารห้างกิ๊กก๊อกของแกแล้วเหรอ ถึงได้มีเวลามานั่งเล่นที่ห้องทำงานฉันเนี่ย” เขาแกล้งเย้าแหย่ธีรเดชให้มันยั๊วะ โทษฐานที่มันกล้าตบหน้าเขาโชว์สาววันนี้

"กิ๊กก๊อกบ้านป้าแกสิห้างฉันมันห้างมีระดับโว้ยที่มาวันนี้ก็แค่มานัดเจอน้องพลอยเพราะน้องฉันอยากกินเค้กของโรงแรมแกรายนั้นนะชอบอย่างกับอะไรดีซึ่งฉันว่ามันก็งั้นๆ แหละ” ธีรเดชกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ

ภาคภูมิส่ายหัวอย่างขำๆ เขาแค่แกล้งแหย่เล่นจริงๆ แล้วห้างมันใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศเชียวแหละเขาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้ทำงานอย่างผ่อนคลาย ไม่ได้สนใจเอกสารที่รอการอนุมัติจากเขาอย่างเร่งด่วน ปกติเขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานมาก ไม่เคยวอกแวกกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้นแต่วันนี้สติเขากระเจิดกระเจิงหมด ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น คิดถึงแต่น้องพลอยที่มองมุมไหนก็สวย ถึงแม้ตัวจะเล็กแต่ทรวดทรงองค์เอวไม่ธรรมดาถึงแม้จะมองแค่ภายนอก แต่เขาก็รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าภายใต้เสื้อผ้านั้นต้องมีสรีระที่งดงามแน่ๆ แต่แล้วสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องหรูของธีรเดชที่วางไว้บนโต๊ะ เนื่องจากเจ้าตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อคิดอะไรดีๆ ออกก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ยิ้มอะไรวะเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วนั่นมันโทรศัพท์ฉันนี่ เอาไปทำอะไรมาภาค” ธีรเดชเดินมาทรุดนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเพื่อนตามเดิมหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำมา

“ยืมมาโทรเข้าเครื่องตัวเองน่ะ พอดีว่าหาของตัวเองไม่เจอ สงสัยจะไม่ได้เอามา” เมื่อเห็นเพื่อนทำท่าสงสัยจึงส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป

“เอ่อ แกพาน้องพลอยมาแกไม่กลัวแฟนน้องเขาเข้าใจผิดคิดว่าแกจีบเหรอวะ” เขาถามคนที่กำลังเช็คโทรศัพท์ของตัวเองอยู่คงจะกลัวว่าเขาจะแกล้งอะไรล่ะสิ"

“ประสาทฉันกับน้องพลอยเป็นพี่น้องกันเว้ย แล้วก็คงไม่มีใครเข้าใจผิดหรอกเพราะน้องพลอยไม่มีแฟนเข้าใจ๊”

ร่างบอบบางใบหน้าสวยหมดจดในชุดนิสิตนักศึกษากำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ได้ฟังในสิ่งที่อาจารย์ผู้สอนกำลังบรรยายแม้แต่น้อยแต่ต้องมาสะดุ้งเมื่อรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขนจนต้องลูบแขนไปมาเพื่อบรรเทาความเจ็บ

“นี่ยัยชะนีหน้าสวย หล่อนเป็นอะไรยะ ทำหน้ายังกับยักษ์คิ้วนี่ขมวดซะยุ่งเชียว” ซินดี้สาวสวยในร่างชายชาตรีส่งเสียงกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาวเนื่องจากเห็นว่าแม่เพื่อนรักไม่ได้สนใจจะจดเล็กเชอร์แม้แต่น้อย ทำหน้าตาอย่างกับจะไปฆ่าใครงั้นแหละ

“แกจะหยิกฉันทำไมนังชาย เจ็บนะยะ ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง” สาวสวยทำปากยื่นแล้วแว้ดใส่เพื่อนเสียงเบา เพราะไม่กล้าส่งเสียงดังรบกวนคนที่ตั้งใจเรียน แล้วหยิกหมับเข้าที่หน้าอกเพื่อนอย่างแรงเป็นการเอาคืน ไม่ได้คิดถึงใครสักหน่อย แค่ไม่ชอบสายตาที่เพื่อนพี่ชายที่ใช้มองเธอต่างหาก คนอะไรไม่มีมารยาทเลย จาบจ้วงซะไม่มี เธอต่อประโยคนี้ในใจไม่ได้เอ่ยออกไปให้เพื่อนฟัง

“ว้าย อีนี่ซินดี้ย่ะ ซินดี้เรียกให้ถูกด้วยเดี๋ยวตบหน้าสั่น แล้วนี่หยิกมาได้หัวนมฉันแทบขาดเดี๋ยวแม่ยันโครมเลย” เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้เพราะอยู่ในห้องเรียนเลยได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้คนที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ แทน

เห็นว่าเพื่อนไม่ได้สนใจตนเองแล้วแพรพลอยก็กลับมาจมอยู่กับความคิดของตัวเองต่อ จะตั้งใจฟังบรรยายตอนนี้ก็คงจะไม่รู้เรื่องแล้วเพราะไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก ไว้ค่อยถามซินดี้เอา เพราะอีตานั่นคนเดียวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ ทำสมาธิเธอหดหายหมด