เมียรักยอดเสน่หา

145.0K · จบแล้ว
สิรี/evavy
61
บท
9.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผ่านมาสิบสองปีแล้ว จากเด็กหญิงวัยสิบขวบ กลายเป็นหญิงสาววัยยี่สิบสองปี วันนี้สิ่งที่เขารอคอยกำลังจะสิ้นสุดลง ความอดทนอดกลั้นก็จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อของรักกำลังจะกลับเข้าสู่อ้อมอกในอีกไม่ช้า น้องแพรวของพี่ เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งนาน เพื่อรอวันที่เธอพร้อมที่จะเป็นของเขาทั้งตัว และหัวใจ แพรวพิชชา น้องน้อยคนสวยของราฟาเอล มีชีวิตความเป็นอยู่ราวกับเจ้าหญิง ทั้งขี้อ้อน ขี้งอน และแสนซน หลังจากจบการศึกษาจากต่างประเทศก็ได้รับคำสั่งจากพี่ชายสุดหล่อ ให้เดินทางกลับมาประเทศไทยทันที พอเท้าแตะพื้นแผ่นดินประเทศไทยหลังจากที่ไม่ได้กลับมาเนิ่นนาน ชีวิตที่เคยอิสระก็ถูกตามติดแจ แถมใจยังต้องสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาเมื่อต้องชิดใกล้กับพี่ชายผู้มีพระคุณ ที่นับวันยิ่งแสดงออกกับเธอเกินกว่าพี่ชายเหมือนในวันวาน

นิยายรักนิยายรักโรแมนติกประธานผู้ชายอบอุ่นโตมาด้วยรักแรกพบเศรษฐีโรแมนติก21+

ตอนที่ 1 ราฟาเอล บารานอฟ

ร่างสูงสง่าตามแบบฉบับชายหนุ่มลูกครึ่งยืนกอดอกทอดมองออกไปยังสวนร่มรื่น ที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ทั้งน้อยใหญ่ปลูกอยู่ทั่วอาณาบริเวณคฤหาสน์หรู ห้องทำงานส่วนตัวเงียบสงบ ไม่มีเสียงใดรบกวนนอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังขึ้นริบหรี่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังถูกเปิดใช้งานอยู่ ใบหน้าหล่อรูปหัวใจนิ่งเรียบตามสไตล์ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดุจพญาเหยี่ยวแลดูน่าเกรงขาม รับกับจมูกโด่งที่บ่งบอกถึงความเป็นฝรั่ง ปากหยักเรียวสีชมพูราวกับผู้หญิง โดยรวมแล้วราฟาเอล บารานอฟ หล่อแบบดิบๆ ออกแนวดุดัน รอยยิ้มของเขาไม่เคยจะมีใครได้เห็นง่ายๆ นอกเสียจากเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันที่มักจะได้เห็นอยู่เสมอ

หลังจากที่บิดามารดาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ชีวิตวัยหนุ่มของเขาก็ได้จบลงด้วย ในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ยี่สิบปี อยู่กับความเศร้าโศกได้ไม่นานก็ต้องรับช่วงต่อกิจการทั้งหมดของครอบครัว ที่มีทั้งอสังหาริมทรัพย์ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ของประเทศต่างๆ เป็นรายใหญ่ในการนำเข้าส่งออกสินค้าจากประเทศนั้นไปประเทศนี้ รวมถึงยิบย่อยอีกหลายอย่าง ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียว ทำให้เขาต้องทำงานอย่างหนักพร้อมกับเรียนหนังสือไปด้วย เทียวไปเทียวมาระหว่างมหาวิทยาลัยในกรุงลอนดอนกับอีกหลายประเทศ จนกระทั่งอายุยี่สิบเอ็ดเขาก็สามารถคว้าใบปริญญาทางด้านบริหารธุรกิจมาได้ และได้กลับมาปักหลักอยู่ที่ประเทศไทย ประเทศที่พ่อและแม่ของเขารักที่สุด

การบริหารงานของเขาส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองไทย สาขาต่างประเทศก็สั่งงานผ่านระบบวิดีโอคอนฟอเรนซ์  หากมีปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าจะคุยผ่านวิดีโอเขาถึงจะบินไปแก้ไขด้วยตนเอง การทำงานของเขาเด็ดขาด ตัดสินใจอะไรลงไปแล้วไม่มีเปลี่ยนแปลง ทำให้ลูกน้องต่างเคารพยำเกรง และเมื่อถึงคราวที่ต้องบริจาคเงินทำบุญให้กับสถานสงเคราะห์ต่างๆ เขาก็ทุ่มไม่งั้นเหมือนครั้งที่พ่อกับแม่เคยทำเอาไว้ในแต่ละปี

ปีแรกของการมาบริหารงาน เขาเลือกทำบุญกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง โดยได้เดินทางไปมอบด้วยตนเอง วันนั้นเขาได้พบกับเด็กผู้หญิงวัยสิบขวบที่ แอบนั่งร้องไห้อยู่ทางด้านหลังของบ้านเด็กกำพร้า ด้วยความที่สงสารทำให้เขาได้เข้าไปคุย และจับจูงให้เดินกลับเข้าบ้าน ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนรักเด็ก สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของแม่หนูน้อยจากคนดูแล บวกกับที่เขาถูกชะตาและรู้สึกเอ็นดู ทำให้เขาตัดสินใจรับเด็กคนนี้มาอุปการะ โดยที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น เด็กหญิงผมเปียหน้าตาบ๊องแบ๋วในวันนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม เขาใช้เวลาสองปีในการส่งให้น้องสาวบุญธรรมเรียนภาษา หลังจากนั้นเขาก็ส่งสาวน้อยให้ไปเรียนโรงเรียนประจำที่ประเทศอังกฤษเขายังจำถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้เป็นอย่างดี

‘พี่ราล์ฟขาแพรวอยากอยู่กับพี่ราล์ฟ พี่ราล์ฟอย่าทิ้งแพรวไว้คนเดียวสิคะ ฮึก แพรวไม่อยากอยู่ที่นี่’

‘พี่อยากให้น้องแพรวได้รับสิ่งดีๆ อยู่ที่นี่น้องแพรวต้องเป็นเด็กดีนะครับ แล้วพี่จะมาหาบ่อยๆ พี่ไม่ได้ทิ้งน้องแพรวไปไหน’

‘แต่แพรวอยากกลับบ้านกับพี่ราล์ฟ’

‘เลิกร้องนะคนดี พี่รักน้องแพรวนะ’

แม้แพรวพิชชาจะส่งเสียงร่ำไห้เพียงใด เขาก็ไม่หันกลับไปมอง เพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนพาน้องกลับบ้าน จากวันนั้นถึงวันนี้กสิบสองปีแล้ว จากเด็กวัยสิบขวบกลายเป็นสาววัยยี่สิบสองปี และวันนี้เองสิ่งที่เขารอคอยมานานหลายปีกำลังจะสิ้นสุดลง ความอดทนอดกลั้นก็จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อของรักกำลังจะกลับเข้าสู่อ้อมอกในอีกไม่ช้า

ร่างบางในชุดทะมัดทะแมงก้าวขาออกมาจากอาคารผู้โดยสารขาออกด้วยท่าทางมั่นใจ สายตากลมโตกวาดมองผู้คนที่เดินกันไปมา พลางชะเง้อมองหาคนที่มารับเธอกลับบ้าน แล้วรอยยิ้มแฉ่งอย่างดีใจก็ปรากฎเมื่อเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่ชูขึ้นโดยผู้ชายร่างโต

‘ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับคุณหนู’

แม้จะแอบน้อยใจนิดๆ ที่ไม่เห็นผู้เป็นพี่ชายมารับด้วยตัวเองอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ แต่รอยยิ้มสดใสก็ไม่ได้จางหายไปจากใบหน้าแต่อย่างใด

“พี่แบรทคิดถึงจังค่ะ ไม่เจอกันตั้งนาน ดูหล่อขึ้นนะเนี่ย” ร่างเล็กกระโดดกอดชายหนุ่มร่างโตที่ยืนยิ้มแฉ่งให้เธอ แต่พอโดนกอดก็รีบกระโดดออกราวกับติดสปริง ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วถึงกลับซีดลงไปอีกราวกับไก่ต้ม ถ้าทางลนลานของแบรททำให้คนชอบแกล้งอมยิ้มอย่างถูกใจ

“ผมก็คิดถึงคุณหนู แต่คุณหนูอย่ากอดผมแบบนี้สิครับ ถ้าคุณราล์ฟรู้เข้ามีหวังผมโดนยิงทิ้งแน่” แบรททำหน้าแหย ใครๆ ก็รู้ดีว่าคุณราล์ฟของเขาหวงคุณหนูแพรวพิชชาขนาดไหน ยิ่งถ้ารู้ว่าคุณหนูกอดเขาแบบนี้ไม่ตายดีแน่ แค่คิดก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว

“พี่ราล์ฟจะรู้ได้ยังไงถ้าเราสองคนไม่พูด พี่แบรทกับพี่โรมนี่กลัวพี่ชายแพรวเกินไปแล้วนะคะ” แพรวพิชชากลั้วหัวเราะ ลูกน้องคนสนิทของพี่ชายเธอกลัวเจ้านายยังไงก็อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม่กลัวได้ยังไงล่ะครับ คุณหนูก็รู้ว่ารายนั้นดุอย่างกับอะไรดี ทำอะไรไม่ถูกใจนิดเดียวก็โดนเตะแล้วครับ เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะครับคุณหนู ผมว่าเราไปคุยต่อกันในรถดีกว่าครับจะได้กลับบ้านกัน เดี๋ยวคุณราล์ฟรอนานแล้วพาลโมโหผมอีก ท่านยิ่งกำชับว่าให้รีบกลับทันทีไม่ต้องโอ้เอ้ที่ไหนตามใจคุณหนู” แบรทถ่ายทอดคำสั่งของเจ้านาย พร้อมกับแย่งรถเข็นสัมภาระของคุณหนูคนสวยมาเข็นเอง

“แพรวไม่ได้จะโอ้เอ้สักหน่อย พี่ราล์ฟชอบเห็นแพรวเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย พี่แบรทเดินนำไปที่รถเลยค่ะ เดี๋ยวเจ้านายรูปหล่อของพี่จะของขึ้น” แพรวพิชชาหน้าง้ำ แล้วผายมือให้แบรทเดินนำหน้า

เสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินเข้ามาด้วยความระมัดระวัง หวังจะไม่ให้คนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่รู้ตัว แต่คนที่มีเส้นประสาทในการฟังดีเยี่ยมก็รับรู้ได้ ทว่าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ร่างบางที่เดินเข้ามาประชิดติดด้านหลังกว้าง โผเข้ากอดเอวสอบอย่างแนบแน่น ใบหน้าน่ารักแนบลงกับแผ่นหลังอบอุ่น มีเสียงหัวเราะคิกคักดังเล็ดลอดออกมาจากเรียวปากสวย ไม่สนใจว่าคนที่กอดอยู่จะคุยอยู่กับใคร ราฟาเอลที่คุยธุระเสร็จแล้วหันกลับมามองอ้อมแขนเล็กที่กอดรัดเอวเอาไว้ด้วยสีหน้าท่าทางไม่ยินดียินร้ายอะไร

“คิดถึงจังค่ะพี่ราล์ฟ ไม่เจอกันตั้งนานขอกอดให้หายคิดถึงนานๆ หน่อยนะคะ” เสียงอู้อี้ดังอยู่ที่แผ่นหลังแกร่งอย่างออดอ้อน

มือใหญ่ดึงแขนเรียวออกห่าง ทำให้เห็นหน้าคนช่างอ้อนชัดๆ นัยน์ตาคมสำรวจคนตรงหน้าอย่างพินิจ ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้ม สวยใสไร้ที่ติ คิ้วเรียวงาม ดวงตาเป็นประกายสดใส จมูกโด่งเล็กน่ารัก เรียวปากเป็นกระจับสวย ทุกอย่างที่เห็นมันน่ารักไปเสียหมด

“ตัดผมสั้นทำไมน้องแพรว” ราฟาเอลถามเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงแลหงุดหงิด สายตาคมจับจ้องอยู่ที่ผมสั้นสีน้ำตาลสวยอย่างไม่วางตา แพรวพิชชาถึงกับถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แทนที่พี่ชายของเธอจะบอกว่าคิดถึงอะไรแบบนี้ กลับพูดถึงเรื่องผมเป็นอันดับแรก เธอละเชื่อเขาเลยจริงๆ

“แทนที่พี่ราล์ฟจะบอกว่าคิดถึงแพรว แต่กลับพูดเรื่องผมเป็นอันดับแรก แบบนี้มันน่าน้อยใจนะคะ” เจ้สของใบหน้างอเอ่ยอย่างงอนๆ ยกแขนขึ้นมากอดอกตัวเองเอาไว้แน่นอย่างต้องการจะประท้วง คนอะไรนอกจากจะชอบทำหน้าตายแล้วยังใจดำอีก

“จะน้อยใจพี่ด้วยเรื่องอะไร ในเมื่อน้องแพรวก็รู้อยู่แล้วว่าพี่คิดถึงเรามากแค่ไหน พี่แค่อยากจะรู้ว่าทำไมน้องแพรวของพี่จะต้องตัดผมสั้นด้วย เพราะพี่ชอบให้ไว้ผมยาวมากกว่า” ราฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าคมก็ยังคงไม่คลายความขุ่นเคืองลง

“แพรวไม่อยากพูดกับพี่ราล์ฟแล้ว ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดินทางมาเหนื่อย ไว้เจอกันค่ะ” แพรวพิชชาแก้มป่องหมุนตัวหันหลังเตรียมจะเดินออกไป

“ขี้งอนไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ น้องแพรว” ราฟาเอลพึมพำกับตัวเอง แล้วส่ายหน้าน้อยๆ

“ว้าย!”

“จะตกใจทำไมกัน”

“พี่ราล์ฟจะทำอะไรคะ แพรวตกใจนะอยู่ๆ ก็มาอุ้มโดยไม่บอกไม่กล่าว เกิดหัวใจวายตายใครจะรับผิดชอบ แพรวยังไม่อยากกลายเป็นผีนะ” ตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อถูกรวบตัวจนขาลอยเหนือพื้น บ่นเป็นหมีกินผึ้งไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยงอง้ำอย่างเจ้าแง่แสนงอน

“แล้วเราจะรีบไปไหนล่ะ พี่ยังไม่ทันได้คุยอะไรด้วยเลย อีกอย่างตกใจแค่นี้ก็ไม่ถึงกับหัวใจวายตายหรอกน่า เลิกบ่นแล้วมาคุยกันดีๆ” ราฟาเอลยกร่างบางเดินไปยังโซฟาตัวนุ่ม ทรุดกายแกร่งลงนั่งตามด้วยร่างนุ่มหอมกรุ่นที่เขาบังคับให้นั่งทับบนตัก

“ถ้าจะคุยก็ให้แพรวนั่งดีๆ สิคะ โตแล้วไม่จำเป็นต้องนั่งตักพี่ราล์ฟหรอกค่ะ เก็บตักไว้ให้คนที่จะมาเป็นพี่สะใภ้เถอะ” คนโตเป็นสาวแล้วแย้งเสียงแข็ง ใบหน้าสวยคลายอาการงอนลง ไม่ทันได้สังเกตรอยลึกที่มุมปากของพี่ชาย เพียงแค่แวบเดียวรอยยิ้มน้อยๆ นั้นก็หายวับไป

“โตแล้วก็นั่งตักพี่ได้น้องแพรว โตยังไงก็ยังเด็กกว่าพี่มากอยู่ดี แล้วที่สำคัญไม่ต้องมาประชดพี่เรื่องผู้หญิงคนอื่น เราก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง” ราฟาเอลเอ่ยเรียบๆ เขาไม่เคยข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนนานๆ แล้วตอนนี้ก้ไม่ได้ยุ่งกับใครมานานแล้วด้วย ผู้หญิงที่เข้ามาก็หิวเงินด้วยกันทั้งนั้น เขาไม่คิดจะเสียเวลากับคนประเภทนั้นหรอก พอจบความต้องการทุกอย่างก็จบตามเหมือนกัน

“น้องรู้แล้วค่ะว่าพี่ราล์ฟยังหาเนื้อคู่ไม่เจอ พี่ราล์ฟไม่รีบก็ดีเหมือนกันจะได้อยู่กับแพรวไปนานๆ” แพรวพิชชาย่นคิ้ว ซบใบหน้าลงกับอกอุ่นๆ ที่ไม่ได้ซุกซบมานานเกือบหนึ่งปีเต็ม

“คิดถึงพี่ราล์ฟที่สุด เราไม่ได้เจอกันมาจะครบปีแล้วนะคะ เพราะคนแถวนี้ไม่มีเวลาว่างไปหาน้องเลย มัวแต่ทำงานงกๆ ไม่รู้จะคิดถึงเหมือนที่แพรวคิดถึงรึเปล่า” คนสวยบ่นอย่างไม่จริงจัง ถึงแม้จะไม่ได้เจอแต่ทั้งคู่ก็คุยโทรศัพท์กันเป็นประจำ

“ถ้าไม่ทำงานจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงเราล่ะ คิดถึงแค่ไหนพี่ก็ต้องอดทน นับวันรอให้ถึงวันที่เจ้าหญิงน้อยของพี่กลับมาอยู่บ้านเราอย่างถาวร และตอนนี้คำภาวนาของพี่ก็เป็นจริงแล้ว” อ้อมแขนแข็งแรงกอดรัดเอวคอดกิ่วแนบแน่น เกยคางไว้บนกระหม่อมบางแล้วขยี้เบาๆ อย่างมันเขี้ยว

“แพรวดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาอยู่กับพี่ราล์ฟ เงินพี่ราล์ฟมีเยอะแยะไม่ต้องทำงานหนักขนาดนั้นก็ได้ค่ะ อีกอย่างแพรวไม่ได้ใช้เงินเปลืองขนาดนั้นนะคะ กลับมาอยู่ที่นี่แล้วแพรวจะช่วยพี่ราล์ฟทำงานเองค่ะ ต่อไปพี่ราล์ฟก็จะได้มีเวลาว่างไปพักผ่อนนานๆ อย่างคนอื่นเขาบ้าง” คนอาสาช่วยทำงานพูดอย่างแข็งขัน ถ้าพี่ชายจะให้ทำอะไรเธอก็ยินดีทั้งนั้น

“งานพี่ทำเองได้ น้องแพรวแค่คอยเป็นกำลังใจให้พี่อย่างเดียวก็พอแล้ว ตัวเล็กๆ อย่างนี้ทำงานไม่ไหวหรอกเชื่อพี่เถอะ” ราฟาเอลยิ้มในหน้า ไม่เคยคิดจะใช้แรงงานสาวน้อยในอ้อมกอดนี่หรอก อยากจะให้อยู่อย่างสบายๆ มากกว่าต้องไปนั่งใช้ความคิดเรื่องธุรกิจให้ปวดหัว

“แค่เป็นกำลังใจอย่างเดียว มันไม่คุ้มกับเงินที่พี่ราล์ฟส่งแพรวไปเรียนเลยนะคะ ไม่รู้แหละยังไงแพรวก็ไม่ยอมอยู่บ้านเฉยๆ โดยเปล่าประโยชน์แน่ๆ ใครรู้เข้าคงว่าแพรวขี้เกียจ อุตส่าห์ไปร่ำไปเรียนมาตั้งนมนาน พอกลับมาดันนอนตีพุงอยู่บ้านเฉยๆ ซะอย่างงั้น”

“ช่างหัวคนอื่นประไร ใครจะพูดยังไงก็ปล่อยไปตามเรื่องตามราวเถอะ จำไว้แค่ว่าคนที่น้องแพรวควรจะแคร์คือพี่คนเดียว แค่น้องแพรวไม่ดื้อ เชื่อฟังพี่ พี่ก็พอใจแล้ว กลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว” ราฟาเอลบอกคนบนตักที่นั่งมองหน้าเขาตาแป๋วแหวว

“พี่ราล์ฟขึ้นไปด้วยกันสิคะ แพรวมีเรื่องมาเล่าให้พี่ราล์ฟฟังเยอะแยะเลย นะคะๆ” แพรวพิชชาเขย่าแขนแกร่งอย่างออดอ้อน ไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนั้นมันส่งผลต่อหัวใจราฟาเอลเข้าอย่างจัง โดนรบเร้ามากๆ คนที่ใจอ่อนกับน้องสาวนอกไส้แทบทุกเรื่องก็ยินยอมจนได้

“ไปสิ”

ร่างบอบางดีดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว มือเล็กคว้าแขนพี่ชายเอาไว้มั่นแล้วเดินควงออกไปจากห้องทำงานหรู

ราฟาเอลกับแพรวพิชชาเดินคุยกันกระหนุงกระหนิง เตรียมจะขึ้นด้านบนแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกพร้อมกับร่างท้วมที่เดินเร็วเข้ามาหา รอยยิ้มสดใสของคนข้างกายเจ้าของบ้านหนุ่มสว่างไหวขึ้นอีกครั้ง