หวานใจเจ้าพ่อที่รัก

170.0K · จบแล้ว
สิรี/evavy
73
บท
9.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อโคแก่อยากเคี้ยวหญ้าอ่อน ปฏิบัติการตามตื๊อชนิดหน้าด้านหน้าทนจึงเริ่มต้นขึ้น ถึงขั้นตั้งตนเป็น 'ป๋า' สาวน้อยหน้าแฉล้มคนสวยแห่งเมืองสุพรรณ เกิดมาทั้งชีวิตเพิ่งเคยเจอคนหน้าด้าน ชอบโมเม มากกว่านั้นคือชอบนัวเนีย คนหนึ่งอยากได้ คนหนึ่งอยากหนี ปฏิบัติการรุกไล่จึงเกิดขึ้น ... “หนูมาที่นี่ทำไมไม่บอกพี่ก่อน แล้วไหนจะแต่งตัวแบบนี้ออกมาอีกให้ตายสิ ถ้าเกิดระหว่างทางแท๊กซี่มันคิดอะไรไม่ดีกับหนูมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พี่ไม่อยากจะคิดเลย” สมัยนี้มันมีอันตรายรอบด้านแล้วหนูน้อยของเขาสวยเสียขนาดนี้เวลาไปไหนมาไหนก็เป็นจุดสนใจตลอด ให้ตายเถอะเขาหงุดหงิดเป็นบ้า “ก็พี่คาร์ลอสบอกว่าพี่มาร์ตินเมาหนักมาก แล้วร้องเรียกหาแต่หนูจนคนอื่นเอาไม่อยู่ หนูเป็นห่วงก็เลยรีบมาดูยังจะมาดุเขาอีก” พิศลดาหน้างอถึงแม้จะรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงก็ตาม “ที่ดุก็เพราะว่าพี่เป็นห่วง แล้วต่อไปนี้พี่ก็ขอสั่งห้ามไม่ให้หนูใส่กระโปรงหรือชุดสั้นๆ อีก ถ้าไม่ฟังคำสั่งพี่จะทำโทษสถานหนัก” มาร์ตินพูดเสียงเข้ม ก่อนจะหันมาต่อว่าคาร์ลอส “แกก็เหมือนกันไอ้คาร์ลอส ไปหลอกหนูน้อยของฉันแบบนั้นได้ยังไง ถ้าเกิดหนูน้อยของฉันเป็นอะไรขึ้นมาแกจะทำยังไง” “เออน่าฉันขอโทษ ฉันแค่อยากจะเห็นหน้าแฟนแก ครั้งหน้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” “แฟน? หนูไม่ใช่แฟนพี่มาร์ตินนะคะ” พิศลดาร้องเสียงหลง “อ้าวยังไงวะ ทึกทักเอาเองรึไงวะเพื่อน” ชาร์ตันกลั้วหัวเราะ “ไม่ใช่แฟนเว้ย!” มาร์ตินพูดนิ่ง ๆ พิศลดาเองก็หยุดดิ้น ส่วนเพื่อนของเขาทั้งสองคนทำหน้าแปลกใจ “ไม่ใช่แฟนแต่เป็นเมียชัดนะ” “คนบ้า!” มือน้อยระดมทุบที่ไหล่หนา ส่วนคนโดนทุบก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรจนพิศลดาเหนื่อยถึงหยุดไปเอง “เมีย! แกกับน้องเฟิร์นได้กันแล้วเหรอวะ ไวไฟกว่าฉันกับไอชาร์ลเยอะเลย โทษนะว่าแต่เมียแกนี่อายุเท่าไหร่วะ” “18” มาร์ตินกดจมูกโด่งลงบนผมหอมกรุ่น ไม่สนใจอาการตาค้างของเพื่อนรักทั้งสองคน “ไอ้โคแก่” ชาร์ตันและคาร์ลอสพูดขึ้นพร้อมเพียงกัน “ไม่สนโว้ย!” มาร์ตินสบตากับแม่เสือสาวที่ขู่เขาฟ่อ ๆ “ฉันกลับก่อนนะจะรีบไปกล่อมเมียนอน” มาร์ตินฉุดแขนเรียวให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินโอบเอวบางออกไป

นิยายรักประธานนักศึกษาฟินๆเศรษฐีรักหวานๆ25+

ตอนที่ 1 แรกพบก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว

มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยนักศึกษามากหน้าหลายตาที่เดินสวนกันไปมาบ้างก็นั่งคุยบ้างก็นั่งเล่นกันหนึ่งในนั้นก็คือ ใบเฟิร์น หรือ พิศลดา อัครมณี สาวน้อยแสนสวยจากจังหวัดสุพรรณบุรีที่เข้ามาเป็นเฟรชชี่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย ด้วยหน้าตาที่สวยผิวพรรณที่ขาวนวลเนียนรูปร่างอรชรทำให้พวกผู้หญิงทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันต่างอิจฉาสาวน้อยบ้านนาคนนี้ พิศลดาศึกษาอยู่ที่คณะบริหารธุรกิจและวันนี้เธอและเพื่อนๆ ก็จะต้องเข้าฟังการบรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านธุรกิจกับนักธุรกิจชื่อดังของประเทศ

“เฟิร์นแกรู้ไหมว่าวันนี้เราจะได้เจอคุณมาร์ตินด้วยฉันเนี่ยอยากจะเจอตัวเป็นๆ มานานมากละวันนี้ฝันฉันเป็นจริงแล้ว” ลิลลี่สาวหมวยเพื่อนของพิศลดาพูดขึ้นขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในร้านกาแฟของมหาวิทยาลัย

“เขาคือใครอ่ะฉันไม่รู้จัก” คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเธอไม่รู้จักจริงๆ เลยไม่รู้ว่าจะดีใจกับเพื่อนยังไง

“นี่เธอไปอยู่ที่ไหนมายะถึงไม่รู้จักนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่ออย่างคุณมาร์ตินแต่ไม่เป็นไรฉันจะบอกให้เขาเนี่ยเป็นนักธุรกิจเจ้าของบริษัทบัตเตอร์เบียร์และก็เจ้าของคลับดังๆ แล้วก็ธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่างรวยมากเลยแหละและที่สำคัญยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยมีแต่คู่ควงที่เขาควงไม่ซ้ำหน้า”

“เหอะ! เจ้าชู้ทำไมคนรวยๆ ถึงชอบใช้ผู้หญิงเปลืองนักนะ” โปรไฟล์ดีทุกอย่างแต่เจ้าชู้อย่างนี้เธอไม่ปลื้มหรอกเพราะเธอเกลียดคนเจ้าชู้ที่สุด

“นั่นนะสินี่ไงหนังสือเล่มนี้มีคุณมาร์ติน” ลิลลี่หยิบนิตยสารฉบับหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะที่พวกเธอนั่งยื่นให้กับพิศลดา

พิศลดารับมาเปิดดูคร่าวๆ เธอยอมรับว่าเขาหล่อหล่อมากตามแบบฉบับลูกครึ่งไม่แปลกที่สาวๆ จะตามกรี๊ดเขาแต่ยกเว้นเธอไว้คนหนึ่งละกัน

“แกๆ นั่นๆ เห็นไหมคนที่หล่อๆ นะที่ลงมาจากรถคันนั้นนะนั่นนะคุณมาร์ตินตัวจริงหล๊อหล่อเนอะ” ลิลลี่ที่มองออกไปนอกร้านมองเห็นมาร์ตินพอดีเลยรีบชี้ให้พิศลดาดูด้วยความตื่นเต้น

พิศลดามองไปทางที่ลิลลี่ชี้ให้ดูก็เห็นผู้ชายใส่สูทมาดเนี้ยบหน้าตาหล่อเหลาไม่ต่างจากนิตยสารที่เธอดูเลยรูปร่างสูงใหญ่กำลังยืนคุยอะไรบางอย่างกับผู้ชายอีกสองคน ที่ดูท่าทางจะเป็นลูกน้องก่อนที่สายตาของเธอจะปะทะเข้ากับสายตาคมดุที่มองมาตรงมายังเธอ

มาร์ติน  บัตเตอร์ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ รูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูดุดันรับกับคิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ ผิวขาว กำลังเดินตรงมายังร้านกาแฟที่มีนักศึกษานั่งกันอยู่บางตาด้วยท่าทางน่าเกรงขามสายตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่โต๊ะของนักศึกษาสาวที่เขาเผลอสบตาด้วย เมื่อสั่งกาแฟเสร็จเขาก็เดินมาหาที่นั่งและเลือกที่จะนั่งใกล้ๆ กับโต๊ะของคนที่เขาลอบมองอยู่อย่างสนใจใน ใบหน้าเรียวสวย ดวงตากลมโตที่แลดูสดใสรับกับคิ้วเรียวสวย ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส ผิวขาวอมชมพู รูปร่างอรชรในชุดนักศึกษามันชวนมองจนเขาไม่อยากจะละสายตามองไปที่อื่นแล้วสายตาเจ้ากรรมก็มาหยุดอยู่ที่อกอิ่มที่ดุนดันอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาสีขาดสะอาดและเรียวขาขาวขาวนวลเนียนที่โผล่พ้นออกมานอกกระโปรงนักศึกษาสีดำมันทำให้เขาขัดใจอยู่ไม่น้อยที่สาวเจ้าใส่กระโปรงสั้นเกินไป

“ใบเฟิร์นคุณมาร์ตินมานั่งใกล้พวกเราด้วยอะ” ลิลลี่กระซิบเสียงเบาด้วยท่าทางตื่นเต้น

“เธอจะตื่นเต้นอะไรเนี่ยลิลลี่” พิศลดาปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าเพื่อนเธอออกอาการซะโอเว่อร์แล้วมองไปยังโต๊ะที่มาร์ตินนั่งอยู่และก็เห็นว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่

“ก็ตื่นเต้นที่ได้เจอคุณมาร์ตินตัวเป็นๆ ไงละ” ลิลลี่ตอบเพื่อนและยิ้มให้มาร์ตินเมื่อเห็นเขามองมา

“ได้เจอแล้วยังไงละ” พิศลดาพูดเสียงไม่เบานักเพราะเริ่มจะไม่พอใจสายตาของเขาที่ใช้มองเธออย่างจาบจ้วงพิศลดาเลยพูดแบบไม่มีเสียงไปให้เขา

“ไม่มีมารยาท” แล้วก็แลบลิ้นไปให้เขา

“หึ” มาร์ตินอมยิ้มให้กับความแก่นเซี้ยวของเธอยิ่งเห็นลิ้นน้อยๆ แบบนั้นอยากจะจับมาจูบแลกลิ้นซะให้เข็ดแต่เขาก็ต้องตกใจกับความคิดของตัวเองตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยจูบกับใครเลยถึงแม้ว่าภายนอกคนจะมองว่าเขาเป็นพวกใช้ผู้หญิงเปลืองแต่เมื่อเขาทำกิจกรรมบนเตียงเพื่อปลดปล่อยตามความต้องการของผู้ชายเขาก็ไม่เคยจูบหรือให้ใครจูบเลยเพราะเขาจะเก็บไว้ให้กับคนที่เขารักจริงๆ เท่านั้นแต่กับสาวน้อยคนนี้เขามีความคิดแบบนี้ได้ยังไงทั้งๆ ที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกและแถมไม่ได้รู้จักกันเลยสักนิด

“เฟิร์นฉันว่าฉันไปขอถ่ายรูปกับคุณมาร์ตินดีกว่าไหนๆ ก็ได้เจอตัวแล้ว” ลิลลี่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปหามาร์ตินทันที ลิลลี่เข้าไปคุยกับมาร์ตินก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ

“อ้าวทำไมไม่ถ่ายละเขาไม่ถ่ายด้วยเหรอ” พิศลดาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินกลับมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย

“เปล่าแต่คุณมาร์ตินบอกว่าให้แกช่วยถ่ายให้จะดีกว่าเพราะเขาไม่อยากจะเซลฟี่นะแกไปถ่ายให้หน่อยนะนะ” ลิลลี่ดึงแขนเพื่อนให้ลุกไปถ่ายรูปให้

“เรื่องมากจริงเชียว” พิศลดาบ่นใบหน้าสวยงอง้ำแต่ก็ยอมเดินมาถ่ายให้เพื่อนแต่โดยดี

“ถ่ายได้เลยครับ” มาร์ตินนั่งอมยิ้มน้อยๆ ที่เขายิ้มไม่ใช่ยิ้มให้กล้องแต่ยิ้มให้ช่างภาพจำเป็นต่างหาก

“เสร็จแล้วฉันกลับไปนั่งรอที่โต๊ะนะ” พิศลดาส่งโทรศัพท์คืนให้เพื่อนแล้วหมุนตัวจะเดินกลับไปนั่งแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อนสิเธอไม่ถ่ายรูปกับฉันเหรอ” มาร์ตินถามยิ้มๆ เห็นแก้มป่องแล้วอยากจะจับมาหอมแก้มนัก

“ไม่ค่ะคุณไม่ใช่ดาราสักหน่อย” พิศลดาปฏิเสธทันควันทำไมเธอต้องอยากถ่ายรูปกับเขาด้วย

“ถ้าเป็นดาราเธอถึงจะถ่ายรูปด้วยใช่ไหม” มาร์ตินถามเสียงห้วนไอดาราเจ้าบทบาทพวกนั้นจะมาสู้คนอย่างเขาได้ยังไง

“เปล่าแค่เปรียบเทียบเฉยๆ แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจฉันด้วย” พิศลดาถามเสียงสะบัดอย่างไม่พอใจที่คนตรงหน้ารวนใส่เธอโดยไม่ทราบสาเหตุ

“เอ่อฉันว่าเราไปกันเถอะขอตัวก่อนนะคะคุณมาร์ติน” ลิลลี่เอ่ยขอตัวจากมาร์ติน

“เดี๋ยวก่อนเธอชื่ออะไรสาวน้อย” มาร์ตินชี้มาที่พิศลดาแต่เธอไม่ตอบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ

“เอ่อเพือ่นหนูชื่อพิศลดาค่ะชื่อเล่นว่าใบเฟิร์น” ลิลลี่เป็นฝ่ายตอบแทนเพื่อนก่อนจะเดินตามพิศลาไป

“ใบเฟิร์นงั้นเหรอชื่อน่ารักสมกับตัวเลย” มาร์ตินพึมพำเบาๆ

“คุณมาร์ตินมานานรึยังคะเนี่ยถ้าอรรู้ว่าคุณมาแล้วจะรีบมาหาเลยคะถ้าไม่ออกมาหากาแฟดื่มก็คงไม่รู้ว่าคุณถึงแล้ว” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงสดกับรองเท้าส้นสูงสีเดียวกันเดินเข้ามาหามาร์ตินแล้วทรุดกายเย้ายวนลงข้างๆ ชายหนุ่มมือขาวจับที่ท่อนแขนแกร่งหน้าอกหน้าใจถูไถไปที่แขนเขาอย่างยั่วยวน

“ผมเพิ่งมาถึงนะครับ” มาร์ตินตอบเสียงเรียบไม่สนใจการยั่วยวนของอาจารย์สาวที่เขาเคยมีสัมพันธ์ด้วย

“ค่ะ” อรนุชอาจารย์สาวคนสวยของมหาวิทยาลัยแสดงท่าทางสนิทสนมกับมาร์ตินอย่างออกนอกหน้าจนพิศลดากับลิลลี่ต้องเบ้ปาก

“อาจารย์อรนุชแทบจะสิงคุณมาร์ตินแล้วนะนั่นเป็นถึงอาจารย์แต่ดันทำตัวไม่เหมาะสมซะเอง” ลิลลี่กระซิบกับพิศลดาอย่างไม่ชอบใจ

“ฉันว่าก็พอกันทั้งคู่แหละ” พิศลดาพูดเสียงไม่เบานักแต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาแค่พูดลอยๆแต่มาร์ตินที่ได้ยินและรู้ดีว่าสาวน้อยนั้นหมายถึงเขาอย่างแน่นอนมีแต่อรนุชเท่านั้นที่ไม่ได้สนใจอะไรและไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งสิ้น

“ผมว่าคุณนั่งดีๆ ดีกว่านะคุณเป็นถึงอาจารย์มานั่งกอดแขนเบียดผมแบบนี้มันไม่เหมาะเท่าไหร่” มาร์ตินจับมือของอรนุชออกจากท่อนแขนของเขาถึงแม้ว่าเขากับอรนุชจะเคยมีสัมพันธ์กันแต่มันก็แค่เขาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ของบุรุษเพศไม่ใช่ความเสน่หาหรือรักใคร่ใดๆ ทั้งสิ้นและที่สำคัญเขาไม่อยากจะให้สาวน้อยที่ของเขามองเขาในทางที่ไม่ดีมากไปกว่านี้เพราะดูท่าทางแล้วคงจะไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ เลย

“คุณนี่น่ารักจังเลยค่ะห่วงภาพลักษณ์ของอรด้วย” อรนุชที่เข้าใจผิดคิดไปอีกทางนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อคิดว่ามาร์ตินเป็นห่วงภาพพจน์ความเป็นอาจารย์ของเธอเธอจึงโน้มหน้าเข้าไปหวังจะหอมแก้มเขาแต่เขาก็เบี่ยงใบหน้าหลบ

“ผมไม่ได้ห่วงคุณกรุณาอย่าเข้าใจผิดและที่สำคัญผมไม่ชอบให้ใครมาจูบมาหอมคุณก็น่าจะรู้ดีอย่ามาสำคัญตัวเองระหว่างเรามันก็เป็นแค่เพียงข้อตกลงไม่มีอย่างอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง” มาร์ตินพูดเสียงเรียบเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไว้หน้าใครแล้วไม่สนใจด้วยว่าอรนุชจะรู้สึกยังไง อรนุชที่ได้ยินดังนั้นก็นั่งเงียบไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกมาเพราะเสียงที่เขาพูดกับเธอไม่ได้เบาเลยทำให้ตอนนี้เธออายมากปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้น แล้วมองมายังอรนุชกับมาร์ติน คนที่โดนหนักก็คงจะเป็นอรนุชที่ทำตัวไม่เหมาะสม แถมยังโดนฝ่ายชายพูดแบบไม่ไว้หน้าอีกท่าทางเชิดๆ หยิ่งๆ จึงไม่หลงเหลืออยู่เลย

“ไปกันเถอะลิลลี่” พิศลดาลุกขึ้นยืนเดินนำลิลลี่ออกไปจากร้านโดยมีสายตาของมาร์ตินคอยจับจ้องอยู่แล้วรีบลุกตามออกไปโดยไม่สนใจอรนุชอีกเลย

“ยัยอาจารย์นั่นจากที่เชิดๆ หยิ่งๆ ตอนนี้หมดสภาพเลยเนอะ” ลิลลี่พูดขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กำลังเดินไปยังหอประชุม

“นี่ล่ะผู้ชายพอเบื่อแล้วก็เขี่ยทิ้งแต่บางทีอาจารย์อรนุชก็ทำตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าเป็นได้แค่ของเล่นก็ยังจะไปเล่นกับเขาอีก”

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะตอนนั่งอยู่ในร้านฉันเห็นคุณมาร์ตินมองแกบ่อยมากนะแล้วที่สำคัญตอนที่เขาให้ฉันเรียกแกไปถ่ายรูปให้เขาก็เอาแต่จ้องแกไม่วางตาเลยฉันว่าเขาต้องชอบแกแน่ๆ เลยความสวยของแกคงเข้าตาคุณมาร์ตินเข้าแล้วละ”

“จะบ้าเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอกย่ะ แล้วอีกอย่างแกบอกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยขนาดนี้ ก็คงมองฉันเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยควงด้วยนั่นแหละแต่เผอิญฉันไม่ได้เหมือนสาวๆ ของเขาฉันไม่ชอบคนเจ้าชู้แกก็รู้ถ้าฉันจะรักใครสักคนคนๆ นั้นต้องรักฉันจริงๆ และที่สำคัญนั่นรุ่นพ่อเลยนะ”

“เว่อร์แก 18 เขา 30 แค่ห่างกัน 12 ปี เองฮ่าๆ” ลิลลี่พูดอย่างขำๆ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรก็จริงอย่างที่เพื่อนเธอพูดถ้าเราจะรักใครสักคน คนนั้นจะต้องรักเราจริงๆ

“ว่าฉันแก่ขนาดเป็นพ่อเธอเลยเหรอสาวน้อย ถ้าจะเป็นพ่อก็ต้องเป็นพ่อทูนหัวของเธอเท่านั้น และฉันก็ยังไม่มีใครนะ” มาร์ตินพึมพำออกมาเบาๆ แล้วเดินตามหลังสองสาวไปเงียบๆ

“อร๊าย! คุณมาร์ตินหล่อมากๆ เลยแกว่าไหมลิลลี่ เฟิร์น” ชมพู่สาวโคราชที่เพิ่งจะมาถึงมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้น

“เบาๆหน่อยก็ได้มั้งชมพู่ฉันว่าฉันหนักแล้วนะแกนี่หนักกว่าฉันเยอะเลย” ลิลลี่กระแทกไหล่ชมพู่เบาๆ ชมพู่เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของเธอและพิศลดา

“ฉันนี่นะเยอะแกลองดูพวกรุ่นพี่แล้วก็พวกรุ่นเดียวกับเราสิสะดีดสะดิ้งกว่าฉันซะอีก” ชมพู่พยักเพยิดไปยังพวกรุ่นพี่แล้วก็พวกรุ่นเดียวกันที่นั่งยืดคอบ้างก็หยิบเครื่องสำอางค์ขึ้นมาเติมหน้า

“เออว่ะ” ลิลลี่พยักหน้าเห็นด้วย

เสียงอื้ออึงเงียบลงเมื่อมาร์ตินเดินเข้ามา สายตาเขากวาดมองไปจนทั่วห้อง แล้วหยุดมองที่สาวน้อยของเขาที่กำลังมองมาทางเขาพอดี ปากหยักยกขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแต่ก็ต้องสะดุดลง เมื่อสายตาคู่คมเห็นว่ามีผู้ชายหน้าอ่อนมานั่งข้างสาวน้อยของเขา และพูดคุยกันจนทำให้เขาเกิดอาการไม่พอใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อเขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกันคุยกันสักคำก็ยังไม่เคย

“คุณมาร์ตินเขาเป็นอะไรทำไมหน้าตาบึ้งตึงขนาดนั้นเหมือนไม่พอใจอะไรเลย” ชายหนุ่มที่นั่งข้างพิศลดาเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยแล้วยังสายตาแปลกๆ ที่มาร์ตินส่งมาให้เขาอีกทำเหมือนโกรธอะไรเขางั้นแหละ

พิศลดาลอบมองมาร์ตินตามที่เพื่อนร่วมคณะเธอพูดขึ้นอยู่ๆ ทำไมอีตานั่นถึงทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าใครขนาดนั้นด้วย น้ำเสียงที่ใช้พูดก็ห้วนสิ้นดีแถมมองมาทางเธอตาขวางๆ อีกด้วยท่าจะบ้าเธอไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย

หลังจากที่มาร์ตินบรรยายเสร็จ พิศลดาก็ออกไปจากห้องทันที ไม่ได้รุมล้อมเขาเหมือนกับคนอื่น กว่าที่มาร์ตินจะแยกตัวออกจากวงล้อมได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร และก็ต้องหัวเสียเมื่อมองหาสาวน้อยของเขาไม่เจอเสียแล้ว เสียงห้วนเลยสบถคำหยาบคายออกมา เขาตั้งใจจะมาคุยกับเธอสักหน่อย ดันไม่ทันซะงั้น ก็ได้ วันนี้ไม่ทันไม่เป็นไร วันหน้ายังมี เขาไม่ยอมง่ายๆ หรอก