กลอุบายในวัง

นางคือ...บุตรีเอกสารพัดพิษลิขิตสวรรค์
หยิ่นซู่ฮั่ว อัจฉริยะคู่ขนานทั้งแพทย์แผนจีนและตะวันตก ข้ามภพไปอยู่ในร่างของบุตรีเอกที่ไม่ได้รับการโปรดปราน แม้แต่งานสมรสก็ยังถูกกลั่นแกล้งขวางอยู่หน้าประตูจวนอ๋อง “อยากก้าวเข้าประตูจวนอ๋อง ก็ต้องตัดสัมพันธ์กับจวนเฉิงเซี่ยงเสียก่อน” “อยากได้มันก็ไม่มา แต่ถ้าซื่อจื่ออยากแต่งงานกับข้า จะมีสนมไม่ได้เด็ดขาดตลอดชีวิต” เข้าจวนเพียงลำพัง แต่งงานเพียงลำพัง เข้าห้องหอเพียงลำพัง หยิ่นซู่ฮั่วแสดงความในใจออกมา มันมีเรื่องดีอย่างนี้เชียวหรือ? ในมือมีห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อยู่ นางยิ้มอย่างร้ายกาจ จัดการกับทาสบริวารที่ร้ายเล่ห์อวดดี พร้อมแผนการที่เด็ดขาดเฉียบแหลม และเขามองดูซื่อจื่อเฟยที่เหมือนเป็นเป็นอีกคนด้วยสายตาเยือกเย็น เพียงแต่ว่าแต่งงานไม่กี่วัน ทั้งตี้ตูก็พูดกันหนาหูว่าซื่อจื่อจวนหนิงอ๋องร่างกายอ่อนแอขี้โรค ในห้องหอมีใจไร้แรง น่าสงสารเยี่ยงนัก แต่หยิ่นซู่ฮั่วผู้ใส่ไฟแต่แรกกลับถูกซื่อจื่อบางคนโอบตัวเอาไว้ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น:ได้ยินว่าซื่อจื่อเฟยพูดว่าข้าเสียๆหายๆกับคนไปทั่วงั้นรึ?

ชายาผู้มากพรสวรรค์ เป็นหนึ่งในบัลลังก์
ฉู่จิงกั๋วในฐานะผู้นำสูงสุดแพทย์ภาคสนามที่ทะลุมิติมา นางมีฝีมือในการผ่าตัด ทำการผ่าตัดคลอดด้วยตนเอง ราชาสงครามกลับเกลียดชังอย่างสุดขีด:“นังสัตว์ประหลาด!เทียบกับเหลียนเอ๋อไม่ถึงหนึ่งในสิบเลยด้วยซ้ำ!” ฉู่จิงกั๋วยกเท้าเข้าให้:“งั้นข้าก็สมหมายพวกเจ้า ขอให้พวกเจ้า น้องโสฯกับหมาวัด รักกันไปตราบฟ้าจะหาไม่!” นางอุ้มเด็กทารกและจากไปอย่างสง่า นับแต่นี้ไปข้าจะทำให้ใต้หล้าต้องสะเทือนกับความงามและความสามารถอันยิ่งยอด หมอมหัศจรรย์เป็นนางซะได้!เจ้าสัวหญิงวงการค้าอันดับหนึ่งเป็นนางซะได้!นางบรรเลงขิมผู้ลึกลับยังคงเป็นนาง!เทพสงครามหญิงยอดแกร่งก็ยังคงเป็นนางอีก! ราชาสงครามเสียดายสุดๆ:“กลับมาเถิด มาเป็นพระชายาของข้า” ฉู่จิงกั๋วแสยะยิ้ม:“ขออภัยด้วย ตอนนี้ข้าเป็นฮองเฮา!”พอสิ้นเสียง จักรพรรดิก็อุ้มเด็กน่ารักเยื้องกราย:“ยังไม่เคารพพี่สะใภ้เจ้าอีกรึ?”

ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว"

ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้
เสี่ยวจิ่วฮวา นางได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่มีจิตใจริษยา มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่เห็นหัวใคร รังแกแม้กระทั่งพี่สาวของตนเอง จนกระทั่งวันที่นางตายอย่างน่าเวทนาทำให้นางได้รู้สำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี รู้ถึงสัจธรรมของชีวิต ทว่าสวรรค์ยังมีเมตตาให้นางย้อนเวลากลับมาในร่างของตนเองตอนที่มีอายุเพียงสิบสี่ปี เสี่ยวจิ่วฮวารู้ว่าการจะเปลี่ยนสันดานเดิมนั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ถือว่ายากเสียทีเดียว นางจึงปรับเปลี่ยนนิสัยตนเองเสียใหม่ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดี ชั่วชีวิตนี้ไม่ขอแต่งงาน เพียงเสพสุขกับอาหารตรงหน้าก็พอแล้ว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ทำให้นางไปยุ่งเกี่ยวกับ เติ้งหมิงซี ท่านอ๋องบ้าใบ้ผู้หนึ่งเข้า เรื่องราวจึงวุ่นวายไม่น้อย ไหนจะเรื่องที่ต้องแก้ไข เรื่องการเมือง เรื่องการกบฏ และการเอาตัวรอดจากฮ่องเต้จอมบ้าอำนาจ จึงเกิดขึ้น

ตำแหน่งฮองเฮานี้ข้าครอง
เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?

ชะตาลิขิตหวนคืน
เมื่อความรักแปรเปลี่ยนเป็นหายนะ และความไว้ใจกลายเป็นคมมีดที่แทงกลางใจ… ในช่วงสุดท้ายของลมหายใจ นางยอมดื่มยาพิษเพื่อปลิดชีพตนเอง… ทว่ากลับลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฟ้าประทานโอกาสให้นางกลับมาแก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาด

เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต
หลายปีที่ใช้ชีวิตเป็นสายลับ หลังจากตายเซี่ยชิงหลีได้เข้าไปอยู่ในร่างหญิงใบ้ในยุคโบราณ ทั้งชีวิตไม่เคยได้อยู่ดีๆ หลังจากนี้เธอจะทำให้ครอบครัวใหม่มีแต่ความสุข เซี่ยชิงหลี สายลับที่แฝงตัวในนามหมอเถื่อนได้รับมอบหมายให้เจาะเอาข้อมูลลับของกลุ่มวิจัยมนุษย์ จากสถาบันวิจัยเถื่อน ทว่าเกิดการทรยศขึ้นภายในองค์กรทำให้สถานะตนเองถูกเปิดโปง การทรมานทุกรูปแบบได้เริ่มขึ้นเพื่อรีดเค้นเอาความลับ กว่าครึ่งปีที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ทว่าฝ่ายศัตรูก็มิได้สิ่งใดจากปากของตน สองศูนย์แปด คือรหัสของเซี่ยชิงหลี พวกมันได้ไปเพียงเท่านั้น ทว่าต่อมาเธอได้ถูกส่งตัวไปยังห้องทดลองวิจัยเพื่อทดลองยาพิษ สามปีที่ติดอยู่ที่นั่นกว่าจะหลบหนีออกมาได้ ภายหลังจากส่งข้อมูลลับให้กับทางองค์กร ที่อยู่ของตนกลับถูกถล่มด้วยละเบิดนาปาล์มลูกใหญ่ เสียงสุดท้ายที่เซี่ยชิงหลีได้ยินคือคำบอกลาจากหัวหน้าครูฝึกของเธอ ตนถูกทิ้งแล้วสินะ... ********************************************* ม่านหมอกยามเช้าลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือพื้นดินและยอดไม้ ละอองน้ำค้างยัง เกาะพราวอยู่บนใบหญ้า เปล่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ดวงน้อยที่กำลังคลี่แสงออก แม้รอบกายจะดูสวยงามจนมิอาจละสายตา ทว่า...ที่นี่คือที่ไหน! ดวงตาดำขลับสำรวจรอบกายอย่างระมัดระวังตามความเคยชินที่ฝึกเป็นประจำ ทำให้ร่างกายจดจำและกลายเป็นสัญชาตญาณ ไร้แผ่นดินที่แห้งแล้ง ไร้การต่อสู้ ไร้เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ไร้เสียงปืนและระเบิด ************************************************* ร่างบางพึมพำเสียงเบา สมองยังไม่ทันได้ประมวลผลว่าเหตุใดตนเองยังคงมีชีวิตอยู่ วินาทีต่อมากลับมีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งตัวเข้าหาอย่างรวดเร็วจนไม่อาจหลบได้ทัน เซี่ยชิงหลีตกอยู่ภายใต้อ้อมแขนของหญิงสาวแปลกหน้า ท่าทางที่ดูเป็นกังวลและซุ่มเสียงที่เหมือนกำลังตำหนิตนเองทำให้คนพูดไม่ออก ดวงตากลมโตจดจ้องใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้นด้วยท่าทีงงงัน พลันเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในหัวราวกับประทัดแตก ความเจ็บปวดบางอย่างกรีดแทงเข้าไปในส่วนลึกของประสาท เซี่ยชิงหลียกมือขึ้นกุมหัวของตนด้วยสีหน้าเจ็บปวด แต่แล้วเสียงนั้นก็หายไป ความโล่งสบายเกิดขึ้นในชั่วขณะ ในหัวราวกับถูกกระชากบางอย่างออกไป “....เจ้าได้ยินที่แม่พูดหรือไม่!! หลีเอ๋อ!! เกิดอะไรขึ้น ลูกไม่สบายหรือเจ็บตรงไหนบอกแม่มา” ฟังออกแล้ว!! ในที่สุดตนเองก็สามารถฟังผู้หญิงตรงหน้าเข้าใจ มหัศจรรย์จริงๆ “ชิ! คนก็หาเจอแล้วยังต้องร้องไห้คร่ำครวญอันใดอีก” จางซุนโหรวที่ตามขึ้นเขาในตอนเช้าเพื่อดูลาดเลาเอ่ยเหน็บแนม หญิงสาวหันขวับไปในทันที ความทรงจำหนึ่งพลันแล่นเข้ามาในหัว ทว่าครั้งนี้กลับต่างออกไปเพราะมันคือความทรงจำของคนอื่น และนั่นทำให้ร่างกายของเซี่ยชิงหลีทำไปตามสัญชาตญาณเดิม หญิงสาวพุ่งเข้าคว้าลำคอสตรีนางนั้นด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ดวงตาเย็นชาจ้องมองไปยังนางราวกับกำลังมองคนตาย หลายปีที่ต้องคุกคลีอยู่กับความตาย ทำให้กลิ่นอายที่แผ่ออกมาดูน่าพลั่นพรึง บัดนี้เซี่ยชิงหลีรู้แน่ชัดแล้วว่าตนไม่ได้อยู่ที่โลกเดิมที่คุ้นเคย และร่างที่ตนมาอาศัยอยู่เจ้าของเดิมถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมจากคนในครอบครัว ชีวิตที่สองนี้ต้องมาอยู่ในยุคโบราณที่แสนแปลกประหลาด แต่นางก็สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทว่า...หากไม่แก้แค้นใจดวงนี้คงมิอาจสงบได้ หญิงสาวออกแรงอีกครั้งใบหน้าของคนที่ตกอยู่ภายใต้กรงเล็บของเธอ เริ่มบิดเบี้ยวเขียวคล้ำเพราะขาดอากาศหายใจ เซี่ยชิงหลีรู้ดีว่าหากออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อย คอเล็กๆ ที่แสนบอบบางคงจะหักอย่างง่ายดาย “หลี่เอ๋อ!! หยุดเดี๋ยวนี้!! ปล่อยป้าสะใภ้ของลูกเร็วเข้า!!” ราวกับได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการ หญิงสาวปล่อยมือโดยอัตโนมัติ แม้จะรู้สึกมึนงงในปฏิกิริยาของตนและเหมือนการควบคุมร่างกายนี้ช่างเป็นไปอย่างยากลำบาก เห็นทีในอนาคตต้องฝึกฝนให้ร่างกายนี้สามารถตามทันความเร็วที่เคยฝึกในชีวิตก่อน “แค่ก!! แค่ก!! แค่ก!!” หญิงผู้เคราะห์ร้ายรีบสูดอากาศเข้าปอดเพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ แม้จะถูกทำให้เกือบตายทว่าก็ยังไม่รู้สึกสลด นางชีนิ้วมายังเซี่ยชิงหลีด้วยท่าทางเอาเรื่อง หลังจากกลับมาเป็นปกติจึงร้องโวยวายด้วยสีหน้าเดือดดาล

เกิดใหม่อีกทีขอไม่เป็นนางมาร
เมื่อนางมารกลับใจได้มาเกิดใหม่ในร่างเด็กสาวชาวบ้านธรรมดาหน้าตาอัปลักษณ์ นางคิดว่าชาตินี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ใครจะรู้ว่าฐานะของร่างเดิมกลับไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น ไม่เพียงเลิ่งยี่จะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ยังต้องเข้าไปผจญกับโชคชะตาของจางหวั่นอี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง ไม่รู้ว่านางมารผู้ไม่อยากให้มือกลับไปเปื้อนเลือด จะอดทนอดกลั้นได้นานแค่ไหน จะมีใครบ้างที่บังอาจก้าวข้ามขีดความอดทนของนาง : : : หลี่มู่ฉีรับผ้ามาค่อยๆ บรรจงเช็ดไปตามแผ่นอก รอนหน้าท้อง เจตนาทำให้นางเห็น ซึ่งเลิ่งยี่ก็เห็นตามที่เขาต้องการจริงๆ เพียงแต่สายตาที่มองยังคงเรียบเฉย หลี่มู่ฉีเห็นแล้วหมดอารมณ์จะเช็ดตัวขึ้นมาทันที เขาส่งผ้าคืนให้นาง เลิ่งยี่รับมาอย่างมึนงง “เช็ดตัวให้เปิ่นหวาง!” “อ้อ” เลิ่งยี่ขยับเข้าไปใกล้ แต่ก่อนที่ผ้าในมือนนางจะสัมผัสโดนร่าง หลี่มู่ฉีพลันเอ่ยเสียงเย็นชา “นี่เป็นหน้าที่ของสาวใช้ ห้ามคิดเงินเพิ่ม” นางได้ยินก็ฉีกยิ้ม ค่อยๆ เช็ดตัวให้เขาอย่างอารมณ์ดี ชาติก่อนเลิ่งยี่อยู่เหนือผู้คนมาทั้งชีวิต ไม่เคยมีชายใดกล้าเฉียดเข้าใกล้ กระทั่งอายุสี่สิบสองนางยังครองความบริสุทธิ์จนกระทั่งตาย ไหนเลยจะเข้าใจเรื่องชายหญิง นอกจากฝึกวิชากับฆ่าคนแล้ว เรื่องอื่นไม่เคยอยู่ในหัว นางหาใช่ไม่สนใจรูปร่างของเขา เพียงแต่ ความสนใจของนางอยู่ที่... เจ้าหนุ่มนี่หน่วยก้านดีใช้ได้เลยทีเดียว หากฝึกวิชาในคัมภีร์สัจจะคงเป็นหนึ่งในใต้หล้าได้ไม่ยาก

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้ว ทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++โปรย+++ “บอกมาเจ้าเป็นใครกันแน่!” หลินซือเยว่พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ หากไม่บอกความจริงไป เขาคงไม่ปล่อยนางไปง่าย ๆ “นายกองลู่ เจ้าบอกนายท่านผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ทีว่าข้าเป็นใคร” “คุณหนูหลินเป็นนักโทษถูกเนรเทศมาอยู่ที่ค่ายทหารเมืองเหลียง นางออกมาทำงานนอกค่าย ตอนนี้ต้องกลับไปรับโทษที่ค่ายตามเดิม นายท่านโปรดอย่าขวางทางพวกเราเลย” นายกองลู่รู้สึกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาจึงเอ่ยอย่างนอบน้อมออกมา “หึ เป็นแค่นักโทษถูกเนรเทศ” นี่มันสายตาอันใดกัน หลินซือเยว่มองเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก นางมองดูโหงวเฮ้งของเขา ลองทำนายดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป “นายท่านดวงชะตาของท่านช่างลำบากนัก เติบโตมาท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดี สูญเสียมารดาไปแล้วมีบิดาก็เหมือนไม่มี แต่ปราณมังกรของท่านยังพอมีพลังอยู่บ้าง เลยทำให้ท่านมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ ตอนนี้แม้แต่บิดาก็ไม่มีแล้ว จุ๊ ๆ ชะตาดอกท้อยิ่งน่าสงสาร สามปีนี้ท่านคงไม่อาจตบแต่งสตรีเข้าจวนได้ แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง สิ่งของที่ท่านตามหานั้น...อยู่ที่นี่” นางดึงเชือกบังคับม้ากลับคืนไป เซวียนหมิงยู่ไม่รู้ว่าตัวเองปล่อยเชือกในมือไปตอนไหน ราวกับถ้อยคำของนางมีมนต์สะกดตรึงให้เขาอยู่กับที่ เขาหันไปทางองครักษ์คนสนิท “เก็บนางไว้ไม่ได้!”

สวรรค์ส่งข้ากลับมาทวงแค้น
ครั้งหนึ่งเคยให้ใจบุรุษจนตัวตาย กลับมาครั้งนี้นางจะทวงคืนความแค้นให้สาสม 'แม้ไม่ได้เกิดหรือตายวันเดียวคืนเดียวกันแต่ข้าจะรักและซื่อสัตย์ต่อท่านเพียงพระองค์เดียว' นั่นคือคำมั่นสัญญาที่ 'เฟิงซูเหยา' ให้ไว้กับบุรุษผู้หนึ่ง ผู้ที่เก็บนางมาจากกองขยะในตรอกมืดที่ไร้ผู้คนสัญจร ชุบชีวิตนางขึ้นมาเป็นองครักษ์เงาข้างกายเขา ทว่าเพียงรู้หน้ามิอาจเดาใจคนได้ ในวันที่นางมอบทั้งตัวและหัวใจให้เขาทั้งดวง คนผู้นั้นกลับตอบน้ำใจให้นางด้วย 'ความตาย' ชาตินี้เฟิงซูเหยามิอาจแก้แค้นคนที่หักหลังนางอย่างเลือดเย็นได้ ทว่าสวรรค์กลับเมตตาสงสารคนอย่างนางจึงส่งให้กลับมาเกิดใหม่ในร่าง 'ฟ่างเซียนเซียน' สตรีอ่อนแอเป็นที่รองมือรองเท้าสองแม่ลูกเมียรองที่คิดกำจัดนางออกจากตระกูลฟ่าง ตระกูลแม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวงถังเหลียนจนนางถึงแก่ความตาย ขณะที่กำลังจะบรรจุร่างไร้วิญญาณนั้นลงโลงศพเพื่อนำไปฝังยังสุสานของตระกูลร่วมกับมารดา ทันใดนั้นเกิดฟ้าผ่าขึ้นมาเปรี้ยงใหญ่ที่หน้าเรือนหลานฮวา ร่างที่เคยไร้วิญญาณกระตุกครั้งหนึ่งก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หากเพียงครั้งนี้ นางกลับมาด้วยจิตวิญญาณของเฟิงซูเหยา สตรีห้าวหาญ จับดาบเก่งยิ่งกว่าเย็บปักถักร้อย มันผู้ใดที่เคยทำร้ายร่างกายนี้ไว้ ครั้งนี้เฟิงซูเหยาผู้นี้จะเอาคืนแทนให้อย่างสาสม รวมถึงคนที่หักหลังนางอย่างเลือดเย็นผู้นั้น!!

บทนางรองไร้ตัวตนในนิยาย ข้าไม่ได้ต้องการเสียหน่อย!
จากเดิมตั้งใจใช้ชีวิตคู่ไปอย่างไม่มีแบบแผนเพื่อรอวันหย่า ทุกอย่างกลับผิดคาดไปเสียได้ ไยเขาชอบยุแหย่ เห็นนางโกรธ เขายิ่งชอบ เห็นนางหนี เขายิ่งแกล้ง ก็แค่นางรองไร้ตัวตนในนิยาย เขาจะมาสนใจอะไรนักหนากัน!

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจ ภายหลังจากมารดาเสียชีวิต เด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปให้ได้พร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลก อีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกจับแยกออกไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

เชลยรักของฮองเฮาตัวร้าย
องค์หญิงน้อยซึ่งจำต้องก้าวขึ้นเป็นฮองเฮา นางจะหลอกล่อชายหนุ่มให้เป็นเชลยรักและส่งเสริมนางได้อย่างไร นางอยากเป็นฮองเฮาแสนดีมิใช่ฮองเฮาตัวร้ายสักหน่อย ฟากฟ้า ผู้ช่วยผู้จัดการกองถ่ายตื่นขึ้นมาในร่างขององค์หญิงน้อยทายาทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่และจำต้องก้าวขึ้นเป็นฮองเฮา แต่นางจะเป็นฮองเฮาเพียงเพื่อแต่งสวามีขึ้นเป็นฮ่องเต้และคอยปกครองวังหลังไล่ตบตีกับเหล่าสนม หรือจะขึ้นนั่งบัลลังค์ปกครองบ้านเมืองเสียเอง นางไม่ยอมเดินตามที่ผู้อื่นกดดันแน่ เธอจะควบตำแหน่งทั้งผู้เขียนบท ตัวแสดงในบทนางเอก และผู้กำกับ และจะเปลี่ยนบทของแต่ละตัวละครให้เป็นอย่างที่เธอต้องการ นับจากนี้ พวกตัวละครทั้งหลาย จงโลดแล่นไปตามที่ผู้กำกับฟากฟ้าได้สั่งการเถอะ นางจะหลอกล่อชายหนุ่มให้เป็นเชลยรักและส่งเสริมนาง สตรีงดงามเช่นนางควรจะเป็นฮองเฮาแสนดีมีคุณธรรม มิใช่ฮองเฮาตัวร้ายมีแต่เสียงผู้คนประนาม

ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน
ขัดใจกับบทนางร้ายในนิยายจนช็อคตายคาเตียงผู้ป่วย หนำซ้ำยังไปเจอกับนางร้ายในปรโลกอีก ไม่น่าเชื่อว่าการไปทะเลาะกับนางร้าย จะทำให้นางต้องกลายเป็นนางร้ายเสียเอง เป็นนางร้าย=ตาย แล้วใครมันจะอยากเป็นกันเล่า!

ฝันวสันต์ผลาญรัก
ท่านพ่อที่ไม่เคยบอกรัก คนที่นางหมายมั่นตั้งใจก็ไปแต่งงานกับผู้อื่น สามีก็เหมือนจะรักกับน้องสาว ญาติที่นางมีก็หักหลัง พี่เลี้ยงที่นางไว้ใจก็คือผู้ที่ทำร้ายนาง * * หากมีใครในโลกนี้ที่น่าสงสารที่สุดก็คงจะเป็นนาง . . . เฮ่อฟู่หลิงเพียรพยายามทำทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อที่ในวันข้างหน้านางจะได้แต่งงานกับบุรุษอันดับหนึ่งของแผ่นดิน อย่างเฉาเสวียนอวี้ แต่ไฉนเลยนางกลับได้แต่งงานกับบุรุษพิการเป็นใบ้ ซ้ำยังเป็นเชลยศึกต่างแคว้นที่ถูกจับมาเป็นตัวประกัน ที่ถูกผู้คนทั้งแผ่นดินดูหมิ่นดูแคลน . . . ริมฝีปากของนางขยับไปมา มู่หรงเจียเหอคล้ายกับตกอยู่ในภวังค์ ตอนที่นางถามว่าเหตุใดจึงไม่กิน คนตัวสูงขยับตัวเข้าไปโน้มใบหน้าจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่ม อย่างเผลอตัว ขบเม้มสัมผัสรสชาติขนมที่นางเพิ่งจะกินเข้าไป ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเขียนอักษรที่หัวไหล่ของนาง ช้า ๆ “กินแล้ว อร่อยมาก” เฮ่อฟู่หลิงรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที ใบหน้าแดงก่ำราวกับดอกมู่ตานที่เพิ่งแย้มบาน นางก้มหน้างุดลงมองชามในมือ ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย “ท่าน...” นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา มู่หรงเจียเหอยังคงอยู่ใกล้ สายตาของเขาไม่ละจากใบหน้างดงามของนาง เขายกมือขึ้นลูบเม็ดเหงื่อที่ไหลอาบแก้มนุ่มสีแดงระเรื่อ จากนั้นจึงเชยใบหน้างดงามขึ้นมาสบตากัน ปลายนิ้วของเขาร้อนลวกราวกับเปลวเพลิง “ร้อนมาก” เขาเขียนอักษรบนต้นแขนของนาง นางพยักหน้าเล็กน้อย ยกช้อนตักถั่วแดงเย็น ๆ ขึ้นมากินอีกคำ ความหวานและความเย็นช่วยคลายร้อนได้บ้าง แต่ความร้อนอีกรูปแบบหนึ่งกลับทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ชายาอ๋องตัวร้าย
ย้อนเวลากลับมาก็ดี หรือจะเป็นเพียงฝันหนึ่งก็ช่าง แต่ข้ารู้แล้วว่าการงมงายกับความรักข้างเดียวนั้นมันช่างน่าเวทนายิ่งนัก ในเมื่อข้าพยายามมามากแล้วแต่ท่านกลับไม่เห็นค่า เช่นนั้นก็พอเท่านี้เถอะ

ฟู่หยวนเพ่ย
จากสาวสายแพทย์แผนไทยที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันมาเข้าร่างของ ฟู่หยวนเพ่ย ญาติผู้น้องของสนมคนโปรดของหวงตี้ นางมิอยากถูกตระกูลหลักบงการชีวิตดั่งหุ่นกระบอกตัวหนึ่ง จึงตัดสินใจเสนอนวดถวายแทนการถวายตัว “เดี๋ยว เรามีคำถามอีกข้อ” พระองค์ทรงยกนิ้วพระหัตถ์ขึ้นประกอบ “เพคะ?” “เราสงสัยเรื่องที่เจ้าสวด เจ้าบอกได้ไหมว่าสวดอะไร” “...พระองค์อยากทราบจริงๆ หรือเพคะ” พระองค์พยักพักตร์ “บอกเราหน่อย แล้วสัญญาว่าจะเข้านอนแต่โดยดี” “...เพคะ” ฟู่หยวนเพ่ยสูดลมหายใจลึกก่อนเอ่ย “กรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ข้าพเจ้าได้ทำล่วงเกินแก่ผู้ใด ทั้งโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ขอโปรดยกโทษอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อกันเลย แม้แต่กรรมใดที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน” หวงตี้ทรงกะพริบตาปริบๆ หนึ่ง เป็นนางพูดรัวเร็วจนฟังไม่ถนัด สอง เป็นภาษาที่พระองค์ไม่รู้จัก “เจ้าช่วย อธิบายให้ข้าเข้าใจได้ไหม” “ถ้าจะให้เปรียบก็คงเป็นคาถาวัชสัตว์หฤทัยธารณี กระมังเพคะ” หวงตี้ขนลุกชันทั่ววรกาย พลางลุกพรวดมองเด็กสาวที่ยังคงยิ้มโง่งมไร้เดียงสา “...ฟู่หยวนเพ่ย เจ้าบอกเรามาตามตรง เจ้าเคยนวดใครตายคามือหรือไม่!?” หยวนเพ่ยอมยิ้ม พลางเอ่ยตอบไปอย่างสบายๆ ว่า “เท่าที่จำได้...ไม่มีเพคะ”

ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’

ยอดชายาจอมจักรพรรดิ
เมื่อหยางซินเยว่ถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจจนตัวเองต้องตายพอได้เกิดใหม่ในดินแดนที่แปลกประหลาดยังถูกน้องสาวต่างมารดารังแกแถมบิดาผู้ให้กำเนิดยังรังเกียจที่ไร้พลังทั้งยังต้องค้นหาชาติกำเนิดที่เเท้จริงของตน หยางซินเยว่ นักโจรกรรม สาวพราวเสน่ห์หลุดมาอยู่ในดินเเดนต่างมิติ ที่เรียกว่าทวีป 'ชิวหลิง' "แม้โลกนี้จะไม่เหมือนที่ที่ฉันจากมา แต่ฉันจะใช้ทักษะที่มีเอาชีวิตรอดให้ได้" ไป๋เยี่ยนหลง บุรุษผมสีเงินที่มีพลังยุทธ์ยากหยั่งถึงนิสัยเย็นชาเหี่ยมโหดไม่ไว้หน้า ใครใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนตลกตะลึง อวัยวะทั้งห้าราวกับ สวรรค์สรรสร้าง เฉยชาแต่ไม่สูญเสียความงดงาม ระดับพลังปราณแห่ง ทวีป ชิวหลิง ม่วง,คราม,น้ำเงิน,เขียว,เหลือง,ส้ม,แดง ยิ่งมีพลังยุทธ์แก่กล้าสีของพลังก็จะเลื่อนขั้นขึ้น สี แดง คือระดับต่ำสุด สี ม่วง คือระดับสูงสุด แต่ละระดับมีสามขั้นคือ ขั้นต้น,ขั้นกลาง,ขั้นสูง ยังมีระดับที่สูงขึ้นไปกว่าระดับพลังขั้นสีคือ ขั้นสร้างฐานราก ขั้นเจี๋ยตัน ขั้นหยวนหยิง ขั้นสร้างจิตวิญญาณ ขั้นแปลงจิต และถ้าหากฝึกถึงขั้นสร้างฐานราก ผู้ที่มีพลังมากกว่าระดับสีม่วงล้วนถูกขนามนามว่า ปรมาจารย์ยอดยุทธ

องค์ชายเจ้าขาองค์หญิงเช่นข้ามิใช่กบฎ
องค์ชายเจ้าขาองค์หญิงเช่นข้ามิใช่กบฎ โดย แม่นางว่างจิงจิง ------------------------------- ตื่นมาก็กลายเป็นองค์หญิงที่ถูกหาว่า ‘กบฏ’ ทั้งยังเจ็บตัวปางตายตั้งแต่ยังไม่ทันหายงง นั่นองค์ชายหกมิใช่หรือ? เขาควรจะโกรธหรือไม่ก็เมินข้าไปเสีย เหตุใดจึงโผล่มาช่วยเล่า? แล้วข้าควรทำอย่างไรดี? หนี? สู้? หรือรักษาตัวให้รอดก่อน หากกลั้นใจตายแล้วจะเกิดใหม่อีกรอบไหม! ‘ห้ามแตะต้องนาง...นางเป็นของข้า’ -------------------------------
