บทย่อ
เสี่ยวจิ่วฮวา นางได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่มีจิตใจริษยา มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่เห็นหัวใคร รังแกแม้กระทั่งพี่สาวของตนเอง จนกระทั่งวันที่นางตายอย่างน่าเวทนาทำให้นางได้รู้สำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี รู้ถึงสัจธรรมของชีวิต ทว่าสวรรค์ยังมีเมตตาให้นางย้อนเวลากลับมาในร่างของตนเองตอนที่มีอายุเพียงสิบสี่ปี เสี่ยวจิ่วฮวารู้ว่าการจะเปลี่ยนสันดานเดิมนั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ถือว่ายากเสียทีเดียว นางจึงปรับเปลี่ยนนิสัยตนเองเสียใหม่ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดี ชั่วชีวิตนี้ไม่ขอแต่งงาน เพียงเสพสุขกับอาหารตรงหน้าก็พอแล้ว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ทำให้นางไปยุ่งเกี่ยวกับ เติ้งหมิงซี ท่านอ๋องบ้าใบ้ผู้หนึ่งเข้า เรื่องราวจึงวุ่นวายไม่น้อย ไหนจะเรื่องที่ต้องแก้ไข เรื่องการเมือง เรื่องการกบฏ และการเอาตัวรอดจากฮ่องเต้จอมบ้าอำนาจ จึงเกิดขึ้น
บทนำ
แคว้นผิงเป่ย
จวนตระกูลเสี่ยว
"ข้าสั่งพวกเจ้าเช่นไร เหตุใดไม่ทำตามที่ข้าสั่ง!!"
"คุณหนูรองโปรดอภัยให้บ่าวด้วยเจ้าค่ะ เดิมทีผ้าผืนนั้นฮูหยินใหญ่ให้นำไปมอบให้คุณหนูใหญ่เพื่อใช้ตัดชุดใหม่ ส่วนผืนนี้ให้นำมามอบให้คุณหนูรอง คุณหนูรองเจ้าคะมิสู้ใช้ผืนนี้ตัดชุดดีกว่าไหมเจ้าคะ มันก็งาม... โอ๊ย!!!"
เพียะ!!!
"ผู้ใดใช้ให้เจ้าสอดปากพูด ผู้ใดใช้ให้เจ้ามาเสนอความคิดเห็นโดยที่ข้าไม่ได้สั่ง!!!!"
เสี่ยวจิ่วฮวา ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของสาวใช้นามว่าหูเป่าอย่างเต็มแรง ก่อนจะเขวี้ยงปาข้าวของลงพื้นด้วยความโมโห เหล่าสาวใช้ที่อยู่ในเรือนต่างรีบก้มหน้างุด ไม่กล้าเอ่ยวาจาใดออกมาแม้เพียงครึ่งคำ เพราะเกรงว่าจะทำให้เสี่ยวจิ่วฮวาบันดาลโทสะมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เมื่อลงไม้ลงมือกับสาวใช้จนสาแก่ใจแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ปรายตาไปมองผ้าสีชมพูตรงหน้า ก่อนจะยื่นมือไปหยิบมันเขวี้ยงลงบนพื้น แล้วยกเท้าเหยียบมันอย่างไม่แยแส
ช่างดีนัก!! สิ่งของใดที่เป็นของข้าก็เอาไปประเคนให้เสี่ยวเย่วหยาบุตรสาวอดีตฮูหยินนางนั้นหมด ทั้งที่ข้าต่างหากคือบุตรสาวที่แท้จริง!!
เสี่ยวจิ่วฮวากำมือแน่น ก่อนจะทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วคิดถึงเรื่องราวเมื่อสองปีก่อน
สองปีก่อนหน้า
เมื่อสองปีก่อนนั้น เสี่ยวจิ่วฮวายังได้ชื่อว่าเป็นเพียงบุตรสาวที่เกิดจากอนุ มารดาของนางคือฉินอี๋เหนียง ฉินอี๋เหนียงไม่ได้เลี้ยงดูนางดีเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่เล็กจนโตเสี่ยวจิ่วฮวามักจะถูกดุด่าทุบตี ถูกขังเอาไว้ในห้องแคบๆ ข้าวปลาอาหารมักจะไม่ได้กินอิ่ม นางเคยสงสัยว่าเพราะเหตุใด ฉินอี๋เหนียงที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดาของนาง กลับปฏิบัติต่อนางอย่างเลวร้ายเช่นนี้
มีบางครั้งที่เหมือนว่าในแววตาของฉินอี๋เหนียงจะมีความเมตตาและความรักนางวูบผ่าน แต่มันก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น
ฉินอี๋เหนียงมักสั่งสอนนางแต่เรื่องที่ไม่ดีไม่งาม สอนให้นางรู้จักแก่งแย่งชิงดีกับพี่น้องในจวน สอนให้นางลงไม้ลงมือกับบ่าวไพร่ จนกระทั่งนางมีนิสัยที่เลวร้ายและบิดเบี้ยวเช่นนี้
จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิปีนั้นฉินอี๋เหนียงเกิดล้มป่วยจนร่างกายทนไม่ไหว และต้องการขอพบเสี่ยวฮูหยินเป็นครั้งสุดท้าย
ฉินอี๋เหนียงสารภาพว่าที่คุณหนูรองหายตัวไปเป็นเพราะนางเอง เมื่อสิบกว่าปีก่อนฉินอี๋เหนียงตั้งครรภ์พร้อมเสี่ยวฮูหยิน แต่โชคร้ายบุตรสาวของนางตายตั้งแต่คลอดออกมา นางจึงวางแผนลอบสลับตัวเอาบุตรสาวที่ตายแล้วของนางไปเปลี่ยนกับบุตรสาวของเสี่ยวฮูหยินนั่นก็คือเสี่ยวจิ่วฮวามาเลี้ยงดูเป็นบุตรสาวของตนแทน
ฉินอี๋เหนียงแค้นใจที่เสี่ยวฮูหยินคลอดบุตรสาวที่แข็งแรงออกมา อีกทั้งยังมีบุตรชายคอยค้ำจุน แต่บุตรสาวของนางกลับตายไปเสียก่อน ฉินอี๋เหนียงอาศัยจังหวะที่เสี่ยวฮูหยินหมดสติหลังคลอด สับเปลี่ยนตัวเด็ก นางซื้อตัวหมอตำแยและคนรับใช้ข้างกายเสี่ยวฮูหยินไปไม่น้อย ยามนั้นท่านพ่อของเสี่ยวจิ่วฮวาซึ่งก็คือแม่ทัพใหญ่เสี่ยวกำลังสู้กับกบฏอยู่ในสนามรบไม่ได้อยู่ที่จวนตระกูลเสี่ยว จึงง่ายต่อการลงมือของฉินอี๋เหนียง นางคิดเพียงว่าหากสามีรู้ว่านางคลอดบุตรมาแล้วบุตรตายจากไป นางคงไม่มีหน้าที่จะใช้ชีวิตอยู่ในจวนตระกูลเสี่ยวอย่างสงบสุขและมั่นคงได้เป็นแน่ ไหนๆเสี่ยวฮูหยินก็มีบุตรชายอยู่คนหนึ่งแล้ว สละบุตรสาวให้นางสักคนจะเป็นอันใดไป!!!
เสี่ยวฮูหยินหมดสติหลังจากคลอดบุตร ไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรสาวของตนเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะหมดสตินางเห็นเพียงว่าหมอทำคลอดอุ้มบุตรของนางเอาไว้ บอกเพียงว่านางได้บุตรสาว และที่หัวไหล่ข้างซ้ายของทารกมีปานแดงรูปวงกลมปรากฏเด่นชัด มันเป็นปานที่เดียวกับที่ตัวนางมี เมื่อได้สติฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ยินว่าลูกรักตายจากไปเสียแล้ว หมอตรวจพบว่าทารกไม่แข็งแรงตั้งแต่อยู่ในครรภ์เมื่อคลอดออกมาจึงป่วยตาย แม่นมข้างกายบอกเสี่ยวฮูหยินว่าเด็กเกิดมาแล้วตายเช่นนี้นับว่าเป็นอัปมงคลต้องรีบนำไปฝังนางยังไม่ได้กอดลูกเลยด้วยซ้ำก็ต้องมาพรากจากกันไปเสียก่อน เสี่ยวฮูหยินเสียใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้สภาพจิตใจและร่างกายย่ำแย่จนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก
เดิมทีเสี่ยวฮูหยินไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย แต่ฉินอี๋เหนียงกลับบอกว่า เสี่ยวจิ่วฮวามีปานแดงอยู่ที่หัวไหล่ข้างซ้ายเช่นเดียวกับเสี่ยวฮูหยิน ยามนั้นเสี่ยวฮูหยินล้มป่วยนางที่เป็นเพียงอนุจำต้องไปปรนนิบัติดูแลจึงได้เห็นปานแดงที่หัวไหล่ข้างซ้ายของเสี่ยวฮูหยินเข้า เสี่ยวฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงจนทำสิ่งใดไม่ถูกร่างกายโงนเงนจวนเจียนจะเป็นลม
ฉินอี๋เหนียงที่ใกล้ตายเต็มทีส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเศร้าใจ เดิมทีนางไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับเสี่ยวฮูหยิน คิดเสียว่าต้องการให้แม่ลูกทะเลาะด่าทอเกลียดชังกันเอง มันคงจะสาแก่ใจนางยิ่งนัก
แต่เมื่อคืนนางฝันเห็นบุตรสาวที่ตายไปแล้วของนาง บุตรสาวบอกว่าอยากอยู่กับนาง รอนางอยู่เสมอ
ฉินอี๋เหนียงตื่นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม นางคิดถึงบุตรสาวยิ่งนัก ตั้งแต่ลูกรักตายจากไปก็ไม่เคยมาหานางเลยสักครา แต่เมื่อคืนนางกลับฝันถึงลูกรักของนาง ฉินอี๋เหนียงจึงตัดสนสินใจบอกความจริงกับเสี่ยวฮูหยิน เผื่อว่าความจริงนี้จะชดใช้บาปกรรมที่นางเคยก่อเอาไว้ได้บ้าง เผื่อว่าการทำดีครั้งนี้จะทำให้นางได้พบกับบุตรสาวในปรโลกอีกสักครั้ง
แต่ทว่าในใจของฉินอี๋เหนียงนั้น กับเสี่ยวจิ่วฮวา แม้จะไม่ใช่บุตรของนาง แต่นางก็ยังพอมีเยื่อใยอยู่บ้าง ทั้งรักทั้งชังในคราวเดียวกัน!!!
เมื่อฉินอี๋เหนียงตายจากไป เสี่ยวฮูหยินรีบให้คนตามเสี่ยวจิ่วฮวาเข้ามาพบ ก่อนจะตรวจสอบปานแดงนั้น และพบว่าเสี่ยวจิ่วฮวามีปานแดงที่หัวไหล่ข้างซ้ายเหมือนกับนางจริงๆ!!
เสี่ยวฮูหยินมองดูเสี่ยวจิ่วฮวาก่อนจะปล่อยโฮออกมา ที่ผ่านมาแม้จะโมโหและไม่ชอบหน้าเสี่ยวจิ่วฮวามากเพียงใด แต่นางเองกลับไม่สามารถเกลียดเด็กสาวคนนี้ได้เลย แรกเริ่มไม่รู้เหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่ตอนนี้นางรู้แล้ว
มารดาจะเกลียดบุตรของตนได้อย่างไร มันคือสายใยบางๆที่เชื่อมแม่ลูกเอาไว้ด้วยกัน
เสี่ยวฮูหยินเองก็จัดการสืบสาวราวเรื่องหาตัวคนที่ร่วมมือกับอนุชั่ว แล้วจึงลงโทษสาวใช้ที่คิดไม่ซื่อและร่วมมือกับฉินอี๋เหนียงในครั้งนั้น แม้กระทั่งแม่นมข้างกายก็ถูกทำโทษ แม่นมบอกเพียงว่าที่ทำไปเพราะต้องการเงินไปให้ลูกชายจ่ายหนีในโรงพนันและไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวฮูหยิน อีกอย่างฉินอี๋เหนียงก็ไม่ได้เอาตัวคุณหนูรองไปทิ้งที่ใด กลับเลี้ยงอยู่ในจวนเช่นเดิม นางจึงยอมรับคำจะช่วย เสี่ยวฮูหยินเจ็บใจนัก ทั้งที่เป็นคนที่นางไว้ใจมากแต่กลับทรยศนางเพราะเงินไม่กี่ตำลึง ย่อมเก็บเอาไว้ไม่ได้!!!
นับแต่นั้นเสี่ยวจิ่วฮวาก็กลายเป็นคุณหนูรองแห่งจวนตระกูลเสี่ยว