3
คชากรขับรถมาส่งปลายดาวที่บ้านของหล่อน เขาเงียบไปตลอดทาง และปลายดาวก็ไม่กล้าถามว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ดูท่าว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะเคยมีความสำคัญกับคชากรมาก หล่อนถึงได้มีท่าทีและพูดจาเช่นนั้น
“ขอบคุณมากนะคะ” เธอยกมือไหว้เขา
“ฉันมาส่งเธอตรงเวลาตามที่ได้บอกพ่อกับแม่ของเธอเอาไว้แล้วนะ เป็นผู้หญิงไม่ควรกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ เข้าใจไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ของเธอก็ไม่ปาน
“ค่ะ” ปลายดาวรับคำ ก่อนที่บิดามารดาที่รอเธออยู่จะออกมารับ ดูเหมือนกับว่าบิดามารดาของเธอจะสนิมสนมกับเจ้านายหนุ่มของเธอเป็นอันมาก เขาไม่ถือตัวกับบิดามารดาของเธอเลย แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเจ้านายของเธอ เป็นเจ้าของบริษัทและมีฐานะร่ำรวย ก็ไม่เคยดูถูกคนมีฐานะต่ำต้อยกว่า
“ขอบคุณคุณกรมากนะคะที่มาส่งปลายดาวถึงบ้านแบบนี้” สมหญิงเอ่ยขอบคุณเจ้านายของบุตรสาว
“ผมรับปากแล้วว่าจะมาส่งให้ถึงบ้านและไม่ดึกมาก ก็ต้องทำตามที่พูดครับ งั้นผมลากลับก่อนนะครับ” คชากรยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง สมชายกับสมหญิงก็รับไหว้เจ้านายหนุ่มของลูกสาวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้านายของลูกนี่ดีจริง ๆ เจอพ่อกับแม่นี่ไม่เคยถือตัว ยกมือไหว้ตลอด ถ้าเป็นคนอื่นอย่าหวัง ลูกได้ทำงานกับคุณกรนี่ถือว่าโชคดีมากนะ”
“โชคดีเหรอคะ” ปลายดาวทำหน้าปูเลี่ยน เขาดุจะตายไป บิดามารดายังหาว่าเธอโชคดีอีกอย่างนั้นเหรอ
“ใช่จ้ะ มีอะไรหรือเปล่าลูก”
“ก็คุณกรน่ะสิคะ ดุจะตายไปค่ะ ไม่เห็นจะดีอย่างที่พ่อกับแม่ชมเลย” เธอทำหน้าเบ้
“แต่เขาก็ถือว่าใช้ได้นะ มีสัมมาคารวะดี อีกทั้งยังเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นอีก มารับลูกออกไปงานแต่งเพื่อน บอกว่าจะมาส่งกี่โมงก็มาเวลานั้นจริง ๆ หาคนตรงไปตรงมาแบบนี้ยากนะ พ่อเห็นหลายคนบอกว่ากำลังออกจากบ้าน แต่เพิ่งอาบน้ำก็มี ชอบโกหกและไม่ตรงเวลา”
“ค่ะพ่อ” ปลายดาวทำหน้าแหยๆ พูดอะไรว่าอะไรไม่ได้เลย บิดามารดาเข้าข้างเจ้านายของเธอตลอด
“นี่ลูกใส่ชุดนี้ไปงานเลี้ยงเหรอจ๊ะ” มารดาเอ่ยถาม
“ทำไมเหรอคะ อ้อ... มันเชยมากใช่ไหมคะ ใส่กระดุมจนถึงคอ ชุดอะไรก็ไม่รู้”
“มันสวยมากต่างหากล่ะ มิดชิดแต่ก็เรียบหรูดูดีนะจ๊ะ เราน่ะไม่มีรสนิยมเอาเสียเลย ไม่สมกับที่แม่ตัดเย็บเสื้อผ้า”
“มันสวยขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ปลายดาวเอ่ยถาม
“ใช่จ้ะ แม่ชอบ เราไม่ได้เลือกเองแน่เลย”
“ใช่ค่ะเจ้านายของหนูเป็นคนเลือกให้ค่ะ”
“พ่อก็ว่าสวย มิดชิดดี ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ชอบใส่เปิดหน้าเปิดหลัง พ่อว่ามันโป๊ไป”
“ค่ะ” ปลายดาวรับคำ ทำหน้าเหยๆ ไม่ว่าคชากรจะทำอะไรก็ดูเหมือนกับว่าบิดามารดาของเธอจะชอบไปเสียหมด เขากลายเป็นขวัญใจพ่อแม่ของเธอไปเสียแล้ว
หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็นั่งเป่าผมจนแห้ง เธอง่วงเต็มที อยากเข้านอนเหลือเกินในตอนนี้ เพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานแต่เช้า
เสียงโทร. ไลน์ดังขึ้น ทำให้เธอสะดุ้ง พอเห็นหน้าเจ้านายจอมดุ เธอก็รีบกดรับในทันที
"ค่ะเจ้านาย"
“คุณนอนหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“เอกสารที่ผมให้คุณเตรียมเข้าประชุมพรุ่งนี้ คุณเตรียมพร้อมหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้นแค่นี้นะ”
“เจ้านายจะโทร. มาถามแค่นี้เหรอคะ”
“หรือคุณจะคุยกับผมต่อ”
“ปะ... เปล่าค่ะ แต่เรื่องแค่นี้ไลน์มาถามก็ได้ค่ะ”
“ผมอยากได้ยินเสียงคุณ โทร.ไม่ได้หรือไง”
“เอ่อ... ค่ะ”
“โทร. คุยเข้าใจกันเร็วกว่าพิมพ์ แค่นี้นะ” ประโยคของเขาจบลง เขาก็วางสายไปในทันที เธอมุ่ยหน้าใส่โทรศัพท์ คนอะไรดุที่สุด อยากจะกดวางก็กดวาง เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรกับเขาเลย
ปลายดาวล้มตัวลงนอน ก่อนจะหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง หญิงสาวรีบตาลีตาเหลือกวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ อาจเพราะว่าเธอกดปิดนาฬิกาที่ปลุกซ้ำ ๆ หลายครั้งจนตอนนี้สายมากแล้ว
ปลายดาววิ่งลงมาจากบ้านไม้หลังเล็กกลางเก่ากลางใหม่ของตัวเอง แต่บิดาก็หมั่นซ่อมแซมเป็นอย่างดี ท่าทีร้อนรนของบุตรสาวทำให้สมหญิงเอ่ยทักทาย
“เป็นอะไรลูก ทำไมทำท่าทีแบบนั้น”
“หนูสายแล้วค่ะแม่”
“แล้วทำไมสายล่ะ” คนถามอมยิ้ม
“ก็หนูตื่นสายไงคะ”
“ไม่ตั้งนาฬิกาปลุกหรือไง”
“ตั้งค่ะ แต่หนูกดปิดและคิดว่าจะนอนอีกห้านาที ดันนอนไปหนึ่งชั่วโมง ตาย ๆ ๆ กว่าจะโหนรถเมล์ไปถึงที่ทำงาน หนูต้องโดนเจ้านายบ่นยับแน่ ๆ เลยค่ะ”
“พูดถึงผมอยู่เหรอ” ประโยคของคชากรที่เดินเข้าบ้านมากับบิดาทำให้ปลายดาวอ้าปากค้าง เขามาที่บ้านเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นคือคำถามที่เกิดขึ้นในใจ
“เจ้านาย!!!”
“ทำไม เห็นหน้าผมทำไมถึงต้องมีท่าทีตกอกตกใจขนาดนั้นด้วย” เขาเอ่ยถามเลขาสาวของตัวเองเสียงดุนิด ๆ
“คุณกรมารอเราอยู่นานแล้ว พ่อเลยพาไปดูต้นไม้หลังบ้าน คุณกรชอบต้นไม้ที่พ่อเพาะพันธุ์เอาไว้หลายต้นเลย เย็นนี้จะให้คุณกรพากลับไปปลูกที่บ้านบ้าง เราล่ะทำไมหน้าตาตื่นขนาดนี้”