2
“กรคะ คุณมางานแต่งด้วยเหรอคะ ดีใจจังเลยที่ได้เจอคุณ” จิตดีตรงเข้ากอดแขนของคชากรด้วยท่าทีสนิทสนม แต่หล่อนก็โดนเขาแกะมือออกอย่างสุภาพ
“งานแต่งเพื่อนผม ผมไม่มาได้ไง คุณนี่ก็ถามแปลกๆ นะ” เขาพูดขณะเดินไปประคองร่างของเลขาสาวขึ้นจากพื้น ปลายดาวร้องเบาๆ เพราะรู้สึกเจ็บสะโพก
“เป็นยังไงบ้างคุณ” เขาเอ่ยถาม ก่อนหันไปมองจิตดีอย่างตำหนิ จิตดีหน้าซีดที่เห็นสีหน้าและท่าทีรังเกียจของอดีตคนรัก
“ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่เจ็บสะโพกเท่านั้น”
“ไม่เป็นอะไรได้ไง เจ็บสะโพกก็แสดงว่าเป็นน่ะสิ คุณจะรับผิดชอบเลขาของผมยังไง คุณเดินมาชนเลขาของผมจนกระเด็น เท่ากับทำร้ายร่างกายเขาเลยนะ” คชากรพูดอย่างเอาเรื่อง จิตดีอ้าปากค้างไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้คชากรโกรธเคืองเธอได้ อาจเพราะเขาแค้นเธอในอดีต เพราะเอาเข้าจริง คนแบบเขาคงไม่ลดตัวลงไปปกป้องเลขาเฉิ่มเชยไร้รสนิยมแบบนี้หรอก
“ดีไม่ได้ตั้งใจนะคะ แล้วใครจะคิดว่าผู้หญิงเชย ๆ แบบนี้จะเป็นเลขาของคุณ รสนิยมของคุณดีกว่านี้นี่คะ” ประโยคของจิตดีทำให้คชากรเหยียดยิ้มใส่ผู้หญิงน่ารังเกียจตรงหน้า
“ผมว่าถึงเลขาของผมจะดูเชย แต่ก็ไม่เหมือนพวกสวยแต่รูปจูบไม่หอม หน้าตาดี แต่งตัวดี แต่นิสัยแย่ จิตใจต่ำทรามหรอกนะ” คชากรพูดกระแทกแดกดันผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายตรงหน้า เขาไม่จำเป็นต้องเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงชั่วช้าคนนี้
“คุณว่าใครคะ” จิตดีหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ เกิดมาไม่เคยมีใครด่าเธอขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นคชากรที่เขาเคยรักเคยหลงเธอมาก ยิ่งไม่น่าว่าเธอถึงขนาดนี้ เธอจำได้ว่าตอนที่เธอทิ้งเขาไปแต่งงานกับนพสิทธิ์ เขายังกอดแข้งกอดขาของเธอ ร้องห่มร้องไห้ขอร้องไม่ให้เธอไป เธอรำคาญจนต้องสลัดเขาทิ้งแล้วก็เขี่ยเขาออกไปด้วยเท้าน้อย ๆ ของเธอ
ในอดีตเธอพลาดเองที่เลือกแต่งงานกับนพสิทธิ์ และทิ้งคชากรไป เพราะไม่คิดว่าผู้ชายไม่ประสบความสำเร็จและโคตรจนแบบคชากรจะกลับมาร่ำรวยได้ แถมยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จเป็นอันมาก แต่เขากลับยังไม่มีภรรยาข้างกาย นั่นทำให้เธอมั่นใจว่าที่เขายังไม่มีใครเพราะยังรอให้เธอเลิกกับสามีอยู่นั่นเอง เขาเคยรักเธอมาก และเขาจะยังรักเธอตลอดไป
ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะกลับมาหาคชากร เพราะนพสิทธิ์นั้นทั้งเลวทั้งร้ายกาจ ตบตีเธอสารพัด อีกทั้งยังเจ้าชู้เป็นที่สุด เธออยู่กับนพสิทธิ์ด้วยความทุกข์ใจ ที่เธอทนเพราะว่าเขารวย แต่ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องทนอีกแล้ว เพราะคชากร อดีตคนรักของเธอก็ร่ำรวยไม่แพ้นพสิทธิ์ คราวนี้แหละ เธอจะควงคชากรเย้ยนพสิทธิ์ให้เขากระอักเลือดตายไปเลย ถึงเธอไม่มีเขา ก็ยังมีผู้ชายที่รักเธอเสมออย่างคชากรอยู่ เธอคิดว่ายังไงเขาก็ต้องกลับมาหาเธอ
“ใครอยากรับก็รับไปสิครับ หรือว่าคุณนิสัยแบบนั้น” คชากรเอ่ยถาม สีหน้าของเขาดูเหยียดหยามจนจิตดีหน้าร้อนผ่าวไปหมด
“ดีรู้คะว่าคุณยังโกรธดีอยู่ แต่ตอนนี้ดีกำลังจะเลิกกับเขานะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคะกร ดีผิดเองที่เลือกคนผิด ตัดสินใจผิดพลาด แต่เราก็ยังแก้ไขมันได้นะคะ” จิตดีตรงเข้ามากอดแขนของคชากรอีกรอบ ท่าทีของเธอดูไม่ค่อยมีสติ ท่าจะดื่มเข้าไปพอสมควร
“อย่ามาแตะต้องตัวผม ไม่ใช่อะไรหรอกนะ รังเกียจ” คชากรแกะมือของอดีตคนรักออกไปอย่างไม่นึกเกรงใจอีก พร้อมทั้งผลักจนร่างของจิตดีจนเซ ยิ่งได้ฟังในสิ่งที่เธอพูด เขาก็ยิ่งขยะแขยงเธอเป็นร้อยเป็นพันเท่า
“คุณปลายดาว คุณมีสเปรย์แอลกอฮอล์ไหม” คชากรหันไปถามเลขาสาวเสียงขรึม
“มีคะ เอาไปทำไมเหรอคะ”
“เอามาเถอะ” เสียงดุๆ ของเขาทำให้ปลายดาวต้องรีบหยิบสเปรย์แอลกอฮอล์จากกระเป๋าสะพายให้เขาในทันที
คชากรนำสเปรย์แอลกอฮอล์เลขาสาวมาฉีดไปตรงแขนเสื้อที่จิตดีจับเมื่อครู่ นั่นทำให้จิตดีหน้าแดงสลับซีด
“นี่คุณรับเกียจดีขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ใช่” เขาตอบอย่างไม่คิดลังเล
“ไม่จริง ที่คุณทำแบบนี้เพราะคุณแค่อยากประชดดี ดีจะไม่ยอมแพ้ จะทำให้คุณใจอ่อน ยอมรับความรู้สึกตัวเองว่ายังรักดีอยู่ให้ได้”
“เพ้อเจ้ออะไรของเธอ” คชากรพูดอย่างรังเกียจ สีหน้าแววตาของเขาทำให้ปลายดาวขนลุก ไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มมีท่าทีรังเกียจใครขนาดนี้มาก่อน
“กลับกันได้แล้ว อยู่แถวนี้นาน ๆ เสนียดจะติดตัว” คนดุและแสนเย็นชาจับมือเลขาสาวพาเดินไปยังรถยนต์ส่วนตัว ในขณะที่จิตดีวิ่งตามไปติด ๆ แต่เธอกลับสะดุดหกล้มไม่เป็นท่าเสียก่อน
“คุณคนนั้นหกล้มค่ะเจ้านาย”
คชากรไม่แม้แต่จะหยุดดู เขาดึงแขนให้เลขาสาวเดินตามเขาออกไปจากงาน
ในขณะที่จิตดีมองตามไปอย่างเจ็บใจ คนอย่างเธออยากได้อะไรก็ต้องได้ เธอจะต้องทำทุกวิถีทางให้คชากรกลับมาเป็นของเธอให้จงได้