one night stand (คืนหวามรัก)

27.0K · จบแล้ว
B.J.
15
บท
3.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โปรย คืนหวามรัก เขาเป็นเจ้านายจอมดุ ในขณะที่เธอเป็นเลขาจอมเฉิ่มเชย ตัวอย่างบางช่วงบางตอน ปลายดาวใช้มือปิดตาเอาไว้ ก่อนจะแอบแยกนิ้วออกมาเพื่อลอบมอง เหมือนมีคนมาช่วยตัวเองให้เธอดู ทั้ง ๆ ที่เธอแอบเข้ามาในห้องทำงานของเขา จริง ๆ ควรจะบอกว่าเธอมาแอบดูเจ้านายช่วยตัวเองเสียมากกว่า เจอหนังสดจะ ๆ ลูกกะตาแบบนี้ จะเป็นตากุ้งยิงหรือเปล่าหนา... คชากรเร่งมือหนักขึ้น ในขณะที่ปลายดาวเอามือออกจากการปิดตาตัวเอง เธอลุ้นตามเขาไปด้วย เพื่อให้เขาเสร็จสมเร็ว ๆ อาจจะมีช่วงที่เขาไปเข้าห้องน้ำและเธอจะสามารถหนีไปจากตรงนี้ได้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ปลายดาวอยากจะกรีดร้องให้กับความโชคร้ายมากมายมหาศาลของตัวเอง เธอรีบควานมือหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เสียงครางของเจ้านายหนุ่มหยุดลง พร้อมกับเสียงดุ ๆ ที่เอ่ยถามออกมาว่าใคร “โอ๊ย!” ปลายดาวเผลอตัวทำท่าจะยืนขึ้นสารภาพว่าเธอเอง แต่ลืมไปว่าหลบอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขา ทำให้ศีรษะของเธอกระแทกเข้าไปเต็มแรง จนรู้สึกมึนไปหมด คชากรรีบรูดซิปกางเกง เขาก้มลงมาใต้โต๊ะ ก็เห็นเลขาสาวกำลังทำหน้าเหยเกส่งมาให้ เขาหน้าแดงก่ำร้อนผ่าว ไม่คิดว่าหล่อนจะมาเห็นช็อตเด็ดของเขาแบบนี้ เขามัวแต่สาว หน้าก็แหงนขึ้นไปบนเพดานเลยไม่ได้ก้มดูว่าแม่เลขาสาวมาอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขาตอนไหน แต่จำได้ว่าหล่อนกลับไปแล้ว และชั้นบนนี้ก็เงียบสงบ เพราะไม่มีพนักงานคนใดขึ้นมาอีก นอกเหนือจากเวลางาน “คุณเข้ามาทำอะไรในห้องทำงานของผม” เสียงดุเข้มทำให้ปลายดาวคลานออกมาจากใต้โต๊ะอย่างลนลาน แถมยังชนแก้วกาแฟชนหกเลอะเทอะไปหมด กาแฟที่หกเต็มพื้น ทำให้คชากรสบถยาวเหยียด ปลายดาวตัวสั่น ก้มงุด มือที่ถือกระเป๋าสั่นเทา เสียงโทรศัพท์มือถือเงียบไปแล้ว อาจเพราะไม่มีคนรับ เลยเลิกโทร. ไปโดยปริยาย เวรแล้วไงยายปลาย จะทำไงต่อดีล่ะ!!! จะหนีตอนนี้ก็หนีไม่ทันแล้ว!!!

นิยายรักโรแมนติกตลกรักหวานๆโรแมนติก

1

“คุณแต่งตัวอะไรของคุณนี่” คชากรมองเลขาตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เสียงดุ ๆ ของเขาทำให้ปลายดาวที่ไม่มีความมั่นใจอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีความมั่นใจเข้าไปใหญ่

“ปลายแต่งชุดนี้ไม่เข้ากับงานเหรอคะ” เธอก้มมองชุดของตัวเอง พลางเม้มปากจิกมือกับกระโปรงสีขาวอย่างประหม่า

“โคตรไม่เข้ากันเลย ไปเปลี่ยนชุดใหม่เลย ไม่อย่างนั้นผมไล่คุณออก” คชากรแกล้งว่า เขาเกลียดผู้หญิงสวยทุกคน เพราะพวกหล่อนคิดว่าตัวเองสวยจึงคบเผื่อเลือก หวังหลอกผู้ชายไปวัน ๆ เขาไม่อยากให้คนที่ชอบทำตัวสวยให้ใครมอง นอกจากสวยให้เขาดูคนเดียว

คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ได้ทำทำสีหน้าเหลอหลา เธอคิดว่าชุดนี้ดูดีและสวยที่สุดแล้วนะ เพราะไม่อยากให้เขาต้องอายใครที่ต้องควงเธอมาออกงาน แม้จะมาในตำแหน่งเลขาก็ตามที

“เจ้าของร้านบอกว่าชุดนี้สวยมากเลยนะคะ ปลายก็ลงทุนเช่าไปตั้งหลายตังค์” ปลายดาวพูดเสียงอ่อย เธอก็อยากแต่งตัวให้ดูดีบ้าง เพราะโดนหาว่าเฉิ่มเชยมาตั้งแต่เด็ก

ตอนที่เธอมาสมัครงานเป็นเลขาของคชากร เธอคิดว่าเขาจะไม่รับเธอเข้ามาทำงานเสียแล้ว อาจเพราะเธอแต่งตัวเชยที่สุดในบรรดาผู้สมัครทุกคน และหลายคนก็แกล้งขัดขาเธอจนล้ม ไหนจะแกล้งเบียดเธอให้ไปอยู่รั้งท้ายในการสัมภาษณ์อีก

พ่อเป็นแค่คนขับรถรับจ้าง แม่เป็นแค่แม่บ้านและมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น เธอด้อยกว่าคนอื่นเรื่องฐานะ และคิดเสมอว่าโคตรจน แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ช่วยแบ่งเบาภาระของบิดามารดาโดยการทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ครอบครัวของเธออบอุ่น บิดามารดารักกัน และพวกท่านก็รักเธอมากด้วย ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน แม้คนข้างนอกจะพูดจะว่าหรือวิจารณ์เธอเช่นไร แต่บิดามารดารักเธอ เข้าใจเธอ ปลายดาวคิดว่าแค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว

แม้เธอจะโดนเพื่อนแกล้ง เพื่อนล้อว่าเป็นยายเฉิ่มเชย และยากจน แต่เธอก็เป็นที่รักของคุณครู และเรียนเก่งจนสอบชิงทุนได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

“ผมจะเสียเงินเช่าชุดให้คุณใหม่เอง ขอเพียงแค่คุณถอดชุดเฮงซวยนี่ออกไปจากตัวของคุณ” ประโยคของเขาทำให้เธอต้องขึ้นรถไปกับเขาอีกครั้งเพื่อไปซื้อชุดใหม่มาสวมใส่ไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิทของเขา

เธอคิดว่าชุดของตัวเองไม่สวย แต่ที่ไหนได้ เขาเช่าชุดมิดชิดเหมือนคุณยายให้เธอสวมใส่ บวกกับแว่นตาหนาเตอะของเธอก็ทำให้เธอดูเฉิ่มเชยไม่เข้ากับงานแต่งงานเอาเสียเลย แต่เขากลับยิ้มพึงพอใจเป็นอันมาก

หลังจากที่เจ้านายของเธอนำของขวัญไปให้เพื่อนของเขา เขาก็พาเธอออกมารับประทานอาหาร มีผู้หญิงมากมายทอดสะพานให้เขา โดยการชม้ายชายตาให้ แต่เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด

“เป็นผู้หญิงอย่าทำตัวแบบนี้ เล่นหูเล่นตากับผู้ชาย ทอดสะพานให้ผู้ชาย น่าเกลียดที่สุด” ปากคอเราะรายคือเขา ปลายดาวคุ้นชินกับนิสัยขึ้น ๆ ลง ๆ ของเขา เขาเกลียดผู้หญิงสวยทุกคน ปลายดาวคิดเช่นนั้น

ปลายดาวตักอาหารกินอย่างเกรงใจ แต่ยอมรับว่าอาหารอร่อยมาก

“กินเยอะ ๆ เลยคุณไม่ต้องกลัวอ้วนหรอก อ้วนผอมไม่สำคัญเท่าเป็นคนดีหรอกคุณ” เคยมีแฟน แล้วพวกหล่อนกระแดะว่ากลัวอ้วน กินอะไรนิดอะไรหน่อยก็กลัวหุ่นไม่ดี น่ารำคาญเป็นที่สุด

เขาจำได้ว่าตอนที่ปลายดาวมาสมัครงาน เธอโดนแกล้งจากผู้หญิงสวย ๆ คนอื่น ๆ ที่มาสมัครงานด้วย เขาแอบมองพฤติกรรมของทุกคน แต่พอพวกหล่อนเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ก็พูดจาดี ดูเป็นคนดี แต่งตัวดี ตอนเขาถามว่าคิดอย่างไรกับการกลั่นแกล้งบูลลี่คนอื่น ก็ตอบเสียเกือบจะหลงเชื่อว่าเป็นคนดีจริง หากไม่เห็นจากกล้องบันทึกภาพที่เขาแอบติดเอาไว้ดูพฤติกรรมพวกหล่อนก่อนสัมภาษณ์

เขาจึงตัดสินใจรับปลายดาวเข้าทำงาน เพราะหล่อนไม่มีพิษมีภัยกับใคร มีแต่จะโดนคนอื่นแกล้ง อีกทั้งก่อนเข้าสัมภาษณ์ หล่อนยังแสดงน้ำใจกับผู้สมัครรายอื่นแม้แต่เรื่องเล็กน้อย ไปจนถึงเรื่องสำคัญ เช่นยอมให้คนที่ท้องแซงคิวก่อน ยอมให้คนที่ท้องนั่งก่อน ให้ยืมปากกา และช่วยเหลือเรื่องเอกสารที่บางคนทำมาไม่เรียบร้อย

“ผู้หญิงบางคนทำเป็นไม่กล้ากิน พอกลับบ้านไปหิวเกือบตายซัดมาม่าเข้าไปอีกสองห่อใหญ่”

“แค่ก ๆ ๆ” ปลายดาวถึงกับสำลักเมื่อได้ยินประโยคนั้นของเจ้านายหนุ่ม ปากร้ายนี่คือนิยามของคชากรเขาละ

“คุณว่าจริงไหมล่ะ”

“ไม่ทราบค่ะ” เธอตอบแล้วมองเขาตาปริบ ๆ กำลังจะตักอาหารเพิ่ม แต่ร่างของใครคนหนึ่งก็เดินมาชนหล่อนจนกระเด็น

“โอ๊ย!” ปลายดาวร้องด้วยความเจ็บ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยขอโทษหรือสำนึกผิด กลับด่าเธอกลับว่ายืนเกะกะขวางทาง

“ยืนเกะกะเหลือเกินยายเฉิ่ม แถมยังตะกละอีก ฉันเห็นเธอตักของกินไม่หยุดมือ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงได้อ้วนเป็นหมูแบบนี้” ประโยคนั้นของจิตดีทำให้ปลายดาวอ้าปากค้างตาโต

เธอยืนของเธออยู่ดี ๆ หล่อนมาชนเธอ แถมยังมาพูดจาหมาไม่แดกแบบนี้อีก ตลกสิ้นดี ถ้าเธอฮาร์ดคอกว่านี้ คงจะหยุมหัวและตบซ้ายตบขวาให้หน้าหันไปแล้ว