4
“หนูสายแล้วค่ะพ่อ”
“ใช่ คุณสายแล้ว ถ้าไปรถเมล์น่าจะสายมาก ไม่ทันเข้าประชุมแน่ ๆ”
“งั้นไปกันเถอะค่ะ” ปลายดาวรีบบอกเจ้านายหนุ่ม
“ไม่กินข้าวกินปลากันก่อนเหรอ แม่ทำกับข้าวเอาไว้เต็มเลยนะ”
“เดี๋ยวจะสายไปมากกว่านี้น่ะค่ะแม่ คงต้องไปฝากท้องที่ศูนย์อาหารของบริษัทค่ะ”
“ยังพอมีเวลา ผมเองก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ผมคงต้องขอฝากท้องกับลุงกับป้าด้วยแล้วกันครับ” คชากรยกนาฬิกาขึ้นดู ก่อนจะเอ่ยขึ้น นั่นทำให้ปลายดาวได้แต่มองตาปริบๆ
ปลายดาวเหลือบมองเจ้านายหนุ่มที่กำลังตั้งใจขับรถ บางวันเขาก็มีคนขับรถ บางวันเขาก็ขับรถเอง แต่วันนี้เขาขับรถเอง
“อาหารฝีมือแม่ของปลายพอกินได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถาม ลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายหล่อเหลาของเขา
“อร่อยนะ แล้วคุณล่ะ ทำอาหารเป็นหรือเปล่า”
“ก็พอได้นะคะ แต่ส่วนใหญ่แม่จะเป็นคนทำน่ะค่ะ”
“พ่อแม่ของคุณดูรักคุณมากนะ”
“ค่ะ ครอบครัวของเรามีกันอยู่แค่สามคนพ่อแม่ลูก เราก็เลยรักกันมาก”
“ผมเห็นแล้วยังอิจฉาเลย”
“เจ้านายจะอิจฉาปลายทำไมกันคะ ปลายและคนอื่น ๆ ต่างหาก ต้องอิจฉาเจ้านาย ก็เจ้านายทั้งรวย ทั้งเป็นเจ้าของธุรกิจ คนมีเงินอยากจะทำอะไรก็ได้ จะกินอะไรก็ได้ จะไปไหนก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงิน”
“เมื่อก่อนผมเคยจนมาก่อน” ประโยคนั้นของเขาทำให้เธอต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าสมัยก่อนเขาเคยยากจนมาก่อน แบบนี้นี่เอง เขาถึงไม่รังเกียจการรับประทานอาหารง่าย ๆ กับครอบครัวของเธอ ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถกินอาหารแต่ละมื้อได้ในราคาที่แพงแสนแพง
“แบบนี้นี่เอง เจ้านายก็เลยดูติดดิน” เธอเผลอพูดออกมา แต่เขาไม่ได้ตอบว่ากระไร
“ขอโทษเจ้านายด้วยนะคะที่เผลอวิจารณ์เจ้านายแบบนี้” เธอรีบเอ่ยขอโทษขอโพย เขาไม่ได้ว่าอะไรเธอเลยโล่งใจ หล่อนหวนคิดไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เจ้านายของเธอดุจริง แต่เขาก็เป็นคนลุย ๆ ติดดิน กินก๋วยเตี๋ยวข้างทางกับเธอยังได้ กินข้าวต้มโต้รุ่งราคาเบา ๆ ก็ไม่ถือตัว แวะร้านต้นไม้ข้างทางก็เดินเลือกอย่างบันเทิงใจไม่กลัวร้อน ไม่กลัวเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่เคยคิดว่าคนเช่นเขาน่าจะนั่งอยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ เลือกต้นไม้สวยๆ จากโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงได้ไม่ยาก อยากได้ต้นไหนก็จิ้มเอาก็จะมีพนักงานมาส่งให้จนถึงบ้าน
“ผู้หญิงคนเมื่อคืนใครเหรอคะ” อยากจะตบปากตัวเองจริง ๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้เธอเอ่ยปากถามเขาออกไป
“แฟนเก่า” น่าแปลกที่เขานิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบออกมา เธอกัดปากตัวเองเล็กน้อย ครุ่นคิดว่าเจ้านายของเธอน่าจะเลิกราไม่ดีกับแฟนเก่า เขาถึงได้ดูโกรธขนาดนี้เมื่อเห็นแฟนเก่าเข้ามาเกาะแกะ เธอเองเห็นท่าทีของเขายังรู้สึกได้ถึงความขยะแขยงที่เขามีให้แก่อดีตคนรัก ถึงกับเอาแอลกอฮอล์ฉีดพ่นเหมือนว่าหล่อนผู้นั้นคือตัวเชื้อโรค
“เลิกสนใจเรื่องคนอื่นเถอะ กลับมาเรื่องงานของตัวเอง ทำหน้าที่ให้ดี ผมไม่ชอบคนทำงานไม่เรียบร้อยหรือผิดพลาดบ่อย”
“ค่ะเจ้านาย” ปลายดาวรีบตอบ เธอนึกทบทวนการทำงานของตัวเอง ก็พบว่าไม่มีอะไรที่เธอทำผิดพลาดเลย ทุกอย่างเป็นที่พอใจของคชากรเสมอ
การมาทำงานกับเจ้าของบริษัททำให้ปลายดาวเป็นที่สนใจของพนักงานหลายคน ถึงเธอจะเป็นเลขา ไปไหนมาไหนกับเจ้าของบริษัท ก็น่าจะเป็นเรื่องงาน แต่ไปรับไปส่งกันด้วย แถมยังควงกันไปงานเลี้ยงและออกงานด้วยกัน มันดูเกินความเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ปลายดาวได้ยินพนักงานคุยกันแบบนั้นก็อยากจะเข้าไปอธิบายเหลือเกินว่ามันไม่มีอะไร เจ้านายของเธอไม่เคยแสดงออกว่าชอบหรือคิดจะจีบเธอ เขาดุกับเธอจะตายไป แบบนี้จะเรียกจีบได้ไง คนจีบกันมันต้องหวาน ๆ โรแมนติกไม่ใช่เหรอ แต่ก็ต้องชะงักเท้าเอาไว้ ถ้าเธอขืนพรวดพรานเข้าไปอธิบายก็จะโดนหาว่าแอบฟังคนอื่นคุยกันน่ะสิ
การประชุมผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย ปลายดาวยิ้มให้กับผลการทำงานของตัวเอง ถึงเธอจะดูเฉิ่มเชย แต่งตัวไม่เอาไหน แล้วก็ไม่สวยเหมือนใคร ๆ แต่เธอก็ทำงานได้ดี ไม่เคยทำให้เจ้านายของตัวเองต้องขายหน้าเลยสักครั้งเดียว
คชากรเองก็พึงพอใจกับการทำงานและความขยันของเลขาสาว เธอไม่ใช่เลขาที่เอาแต่แต่งหน้าทาปาก และชอบนินทา เขาไม่นิยมชมชอบผู้หญิงประเภทนั้น
“วันนี้คุณกลับไปก่อนนะ ผมมีงานต้องเคลียร์อีกนิด”
“ค่ะ” เธอรับคำ ไม่เซ้าซี้จะขออยู่รอเป็นเพื่อนเหมือนเคย เพราะจำได้ว่าตอนนั้นเธอเกรงใจคชากรที่เขาเป็นเจ้านาย เขายังไม่กลับ เธอเลยยืนยันจะทำงานของเธอไปด้วยไม่ยอมกลับบ้านบ้าง และไอ้การเคลียร์งานนิดเดียวของเขาก็ปาเข้าไปดึกดื่นเที่ยงคืน เธอเลยเข็ดหลาบไม่อยู่รอเป็นเพื่อนเขาอีก หากเขาอนุญาตให้กลับและหมดเวลางานแล้วเธอก็ควรจะรีบกลับ ก่อนที่มันจะดึกไปมากกว่านี้
ปลายดาวเดินออกไปจากบริษัท ก่อนจะออกไปยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ในขณะที่รถเมล์กำลังจะจอดเทียบท่า เธอก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตังค์เอาไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะทำงาน หญิงสาวเลยต้องรีบวิ่งกลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้ง ทำให้เธอพลาดรถเมล์คันนั้นไปอย่างน่าเสียดาย