ตอนที่ 3 แม่บ้านส่วนตัว
ตอนที่ 3 แม่บ้านส่วนตัว
จักรชัยมองบัตรในมือ เพียงครู่เดียวก็เคลิบเคลิ้มอยู่บ้าง
กี่สิบล้าน สำหรับเขาเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วก็เป็นแค่นิทานที่น่ามหัศจรรย์เรื่องหนึ่งจริงๆ
ในหัวนึกถึงพ่อแม่ที่ลำบากของตนเองอย่างไม่รู้สึกตัว สภาพที่ทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนเพื่อความเป็นอยู่และค่าเล่าเรียนของเขา อยากจะเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้
“ถ้าตอนแรกตามหาลูกได้เร็วกว่านี้สักหน่อย ก็คงไม่ทำให้ลูกได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างนี้!”
เมื่อครู่จักรชัยอยากจะบอกว่าเขาไม่ต้องการเงินนี้ แต่ยศพลเอ่ยปากออกมาเสียก่อน จึงทำให้เขาต้องกลืนคำที่อยากจะพูดลงไป
ได้ยินคำพูดของยศพล เขาก็รู้แล้วว่าเงินก้อนนี้ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาของตัวเลข แต่ถ้าไม่รับเงินก้อนนี้ ก็เหมือนกับไม่ยอมรับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
แต่ถ้ารับเงินก้อนนี้แล้ว ก็เหมือนกับละทิ้งพ่อแม่ที่เลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนตนเองมา จักรชัยลังเลแล้ว
“ผมไม่โทษพวกคุณ อันที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจนี่ครับ!”
จักรชัยเพียงพูดอย่างนี้ เพื่อปลอบใจทั้งสามคนตรงหน้า
“จักรชัย แม่ไม่รู้ว่าวันที่ผ่านมาลูกผ่านมันมาได้อย่างไร แต่ต่อไป พ่อกับแม่จะไม่ให้ลูกได้รับความไม่เป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว อย่าถือโทษโกรธเคืองที่พวกเราเจอลูกช้าเกินไปเลยนะ”
อันที่จริงเขาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆอย่างนั้น แทบจะไม่ติดต่อกับโลกภายนอกเลย ถ้าคราวนี้ไม่ใช่เพราะออกโทรทัศน์อย่างกะทันหัน บางทีอาจจะนานกว่านี้ถึงจะตามหาเจอ
พวกเขายอมรับพ่อแม่บุญธรรมของจักรชัย นอกจากเพราะบุญคุณที่พวกเขาเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมา ในเวลาเดียวกันก็ไม่อยากให้จักรชัยที่เพิ่งจะกลับมาอยู่ข้างกายไม่ยอมรับพวกเธอเพราะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่บุญธรรมหรอก
ในที่สุดธีรพลที่ยืนอยู่ข้างๆก็เอ่ยปากออกมา
“จักรชัย นายเป็นน้องชายของฉัน ระหว่างพวกเราเป็นความสัมพันธ์ทางสายเลือด ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้”
พูดๆอยู่ ก็เอาบัตรที่จักรชัยเตรียมจะส่งคืนดันเข้าไปอีกครั้ง
จักรชัยมองทั้งสามคนตรงหน้า ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ของตนเองอย่างไรดี
เงียบอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยๆเอ่ยปาก
“เงินนี้ผมรับไว้ก็ได้ แต่นี่ไม่สามารถทำให้ผมละทิ้งพ่อแม่ที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนผมมาได้ ถ้าพวกคุณมีความคิดอย่างนี้ เงินก้อนนี้พวกคุณเอาคืนไปจะดีกว่าครับ”
หลังจากที่สามีภรรยาได้ยินคำพูดของเขา ในสายตาของยศพลก็ปรากฏความหวั่นไหวออกมาเล็กน้อย ดอกเหมยถึงกับน้ำตาร่วงด้วยความตื่นเต้น
จักรชัยยินยอมรับเงินก้อนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้แสดงว่ายอมรับพวกเขา อย่างน้อยก็ไม่ตำหนิพวกเขาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่แรกเริ่มพวกเขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะให้จักรชัยตัดขาดความสัมพันธ์กับพ่อแม่บุญธรรมเลย ถ้าลูกชายของพวกเขาเป็นคนอย่างนั้น ในทางกลับกันก็คงทำให้พวกเขาไม่อยากจะยอมรับอยู่เล็กน้อย
“ไม่หรอกลูก พ่อแม่บุญธรรมของลูก พวกเราส่งคนไปรับมาแล้ว พรุ่งนี้เย็นคงจะเดินทางมาถึงพวกเราขอไปจัดการตามขั้นตอนการเข้าโรงพยาบาลให้ลูกก่อนนะ”
ดอกเหมยดึงพวกเขาสองคนออกไปอย่างตื่นเต้น ผ่านไปครู่หนึ่ง หมอเมื่อครู่ก็เข้ามาด้วยกัน
หมอยิ้มอย่างประจบสอพลอ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกไม่พอใจ
“เป็นคุณชายคนเล็กของตระกูลหัสบดินทร์นี่เอง เมื่อครู่ล่วงเกินไปมากจริงๆ โปรดอย่าถือสาเลยนะครับ”
ได้ยินหมอที่เพิ่งจะเข้ามายืนกล่าวขอโทษตนเองอยู่ตรงนี้ จักรชัยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ มีเงินนี่ทำอะไรก็ได้จริงๆ
นึกถึงแฟนของตนเอง แต่ก่อนแม้ว่าจะมีท่าทีอวดดีต่อหน้าเขา แต่ถึงอย่างไรก็ยังเดินมาด้วยกันตลอดทาง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ แค่พูดถึงเรื่องเงินก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นอีกคนแล้วอย่างนั้น
จักรชัยเม้มปาก: “บัตรพนักงานของฉัน......”
ยังพูดไม่ทันจบ หมอคนนี้ก็รีบส่งบัตรพนักงานมาให้เขาด้วยสองมือ
จักรชัยไม่ได้พูดอะไร ยินยอมให้หมอให้น้ำเกลือที่ก่อนหน้านี้ยังให้ไม่เสร็จอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังเก็บบัตรพนักงานไว้ในกระเป๋า ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่สวมเสื้อยืดสีขาวคนหนึ่ง
แค่มองไปเห็นดวงตาที่เปล่งประกายราวกับดวงดาวคู่นั้นก็ทำให้เขาสนใจเป็นพิเศษ ดั้งจมูกที่จิ้มลิ้มปรากฏออกมาอย่างสวยงาม ริมฝีปากชมพูละเอียดอ่อนเผยอออกเล็กน้อย ราวกับเป็นภาพวาดที่มีชีวิตชีวา
รูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ทำให้เด่นชัดมากขึ้นในเสื้อยืดรัดรูปดึงดูดใจคนมากเป็นพิเศษ
“สวัสดีค่ะ คุณชาย ฉันน้ำทิพย์เป็นแม่บ้านส่วนตัวของคุณค่ะ ดูแลชีวิตประจำวันของคุณ ต้องการอะไรบอกฉันได้ทันทีเลยนะคะ”