EP 8 | มึนตึง
“อย่าเสือกดีกว่าจ้ะคนสวย”
หัวหน้ามันพูดพลางแลบลิ้นเลียปากน่ารังเกียจก่อนจะยื่นมือเข้ามาจับแขนฉันแต่โดนฉันปัดมือทิ้งเสียก่อน
เพียะ!
“ดุซะด้วย ฮ่าๆ”
พวกมันสี่คนหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ในขณะที่ฉันกำลังจ้องหน้ามันอย่างเอาเรื่อง มีอะไรน่าขำวะ...
ตลกพ่อง!
“คนสวยบ้านอยู่ไหนจ๊ะ ทำไมพี่ไม่คุ้นหน้าเลย”
“ทำไมต้องทำร้ายลุงกับป้าเขาด้วย!”
ฉันตะคอกถามกลับไปโดยไม่สนใจสายตาและน้ำเสียงกะลิ้มกะเหลี่ยของพวกมัน
“คนสวยจ๊ะ พี่ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ ถ้าใครไม่มีเงินคืนพี่ก็ต้องยึดของๆมันสิจ๊ะ”
“ก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายร่างกายนี่!”
“แหม~ มันพูดไม่รู้เรื่องพี่ก็ต้องสั่งสอนไปบ้างแต่ถ้าคนสวยอยากช่วย ยอมไปนอนครางใต้ร่างพี่สักคืนสองคืนพี่จะช่วยถ่วงเวลาใช้หนี้ของมันให้”
“ฮ่าๆๆๆ”
ลูกน้องของมันหัวเราะเสริมขึ้นมาอีกครั้ง ฉันหันมองหน้าทั้งสี่คนด้วยสายตารังเกียจรู้สึกขยะแขยงสุดๆ
แก๊งสามทหารเสือและพี่ฮันนี่เดินมายืนอยู่ข้างๆ ฉัน พวกมันกวาดตามองมาที่พวกเราทีละคนพลางทำท่าไหวไหล่คงเป็นเพราะคิดว่าเราลงมามือเปล่า ไม่มีอาวุธ ไม่มีอะไรที่พวกมันต้องกลัว
“ว่าไงจ๊ะน้องสาว”
มันพูดพลางยื่นมือมาเพื่อจะจับมือฉันอีกครั้ง
อยากได้มือเหรอ?
เอาตีนไปแล้วกัน!
ผัวะ!
ฉันยกเท้าขึ้นถีบเข้ากลางเป้าของมันเต็มๆ หลังจากนั้นก็เริ่มตะลุมบอนกันทันที แก๊งสามทหารเสือวิ่งเข้าไปจัดการลูกน้องของมันที่ไม่ทันตั้งตัวส่วนฉันกับพี่ฮันนี่ตามเข้าไปกระทืบไอ้หัวหน้าของมันซ้ำ
ผัวะ! ตุบ! ตับ!
“อ๊ะ!”
พลั่ก!
ฉันพลาดท่าโดนมันจับเท้าเอาไว้ก่อนจะผลักออกอย่างเต็มแรงจนล้มลงที่พื้นและมันก็ลุกขึ้นด้วยความรวดเร็วเข้ามากระชากผมฉัน
“โอ๊ย!”
“หึๆ ดุๆ แบบนี้แหละพี่ชอบ”
มันพูดพลางหยิบปืนออกจากเอวแล้วจ่อที่หัวของฉันทันที เหตุการณ์ชุลมุนหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ
“ชอบตบจูบแบบในหนังก็ไม่บอก”
ลมหายใจร้อนๆ ข้างหูทำให้ฉันยืนตัวแข็งและรีบปรับสถานการณ์มาใช้ไม้อ่อนทันทีไม่งั้นได้โดนยิงสมองไหลทุกคนแน่ๆ
“ใช่จ้ะ เวลาพี่กระชากผมฉัน...มันถึงใจสุดๆ เลย”
ฉันเปลี่ยนมาพูดด้วยเสียงหวานพลางค่อยๆ หันไปเผชิญหน้ากับมันอีกครั้ง ต้องอาศัยทีเผลอแล้วแย่งปืนมาจากมือมันแต่ยังทำตอนนี้ไม่ได้ ยังเสี่ยงเกินไป
“แต่ถ้าฉันไม่ตบ พี่จะจูบฉันมั้ยล่ะ”
“พี่จัดให้ได้อยู่แล้วจ้ะ”
มันพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฝ่ามือหยาบกระด้างวางลงบนไหล่ของฉันก่อนจะลูบลงไปตามแขน ข้างลำตัวและจับเข้าที่เอว
หมับ!
ปัง!
เลือดสีแดงกระเด็นออกมาเต็มหน้าฉันในขณะที่คนตรงหน้ายังตาค้างอยู่แล้วล้มลงไปทันที
ฟุบ!
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนฉันช็อก!
ฉันได้ยินเสียงลมเฉียดหูตัวเองไปแค่นิดเดียวก่อนที่กระสุนจะเจาะเข้าข้างขมับของมัน
“นาย!”
ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใครเพราะฉันยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนมือของใครบางคนยื่นมาจับต้นแขน ฉันสะดุ้งรู้สึกตัวแล้วหันกลับไปมองหน้าเขา
คุณโรม!
มือข้างซ้ายของเขาจับต้นแขนของฉันส่วนมือข้างขวาถือปืนอยู่ ด้านหลังมีพี่ไคโรและบอดี้การ์ดอีกสามสี่คนที่ตอนนี้เดินเข้าไปเอาปืนจ่อหัวลูกน้องที่เหลือของมันแล้ว
เมื่อกี้เขาเป็นคนยิงเหรอ?
มันเฉียดหูฉันไปแค่นิดเดียวเองนะ
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
คุณโรมเอ่ยถามพลางสำรวจเนื้อตัวของฉัน น้ำเสียงแสดงออกถึงความห่วงใยแต่สายตาดุดันน่ากลัวอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันจึงทำได้แค่พยักหน้าแล้วก้มลงไม่การสบตาเขา
“เก็บกวาดให้เรียบร้อย!”
เขาหันไปสั่งพี่ไคโรสั้นๆ แล้วจับมือฉันเดินตรงไปที่รถแต่เดินออกไปแค่ไม่กี่ก้าวฉันก็เข้าใจคำว่า ‘เก็บกวาด’ ของเขาได้แจ่มแจ้งเลยทีเดียว
ปัง! ปัง! ปัง!
ฉันจับมือของเขาแน่นขึ้น รู้ว่าเขาเป็นมาเฟียแต่ก็ไม่เคยเห็นเขาในโหมดนี้มาก่อนจนเราสองคนขึ้นมานั่งบนรถตู้เบนซ์ที่คุณโรมใช้ออกไปทำงานประจำเขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดคราบเลือดสีแดงบนหน้าให้ฉัน
การกระทำอ่อนโยนแต่ใบหน้ายังคงเรียบนิ่งยิ่งทำให้ฉันรู้สึกกลัวได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าพูดหรือกวนอารมณ์เขาอย่างที่ชอบทำ เมื่อเช็ดเสร็จเรียบร้อยเขาก็เปิดหน้าต่างแล้วโยนผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนคราบเลือดทิ้งอย่างไม่ไยดี
ไม่นานคนขับรถกับพี่ไคโรเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำตำแหน่งของตัวเองและพี่ไคโรก็เอ่ยรายงานทันที
“คนของคุณแฟรงค์ครับ ลุงกับป้าเอาที่ดินไปจำนองไว้แต่ไม่มีเงินไปไถ่คืนพวกมันเลยมายึดที่ครับ”
คะ...คนของคุณแฟงค์งั้นเหรอ? ฉันไม่เคยรู้ว่าก่อนเลยว่าเขาปล่อยเงินกู้ให้ชาวบ้านด้วย แล้วคุณโรมไปฆ่าคนของเขาแบบนี้จะต้องเป็นเรื่องแน่ๆ
สร้างเรื่องอีกแล้วยัยคาร่า!
“เท่าไหร่”
“ห้าแสนครับ”
“จัดการให้ด้วย”
“ครับนาย”
ฉันไม่รู้ว่าจัดการของคุณโรมคืออะไรเลยได้แต่นั่งนิ่งเขี่ยนิ้วของตัวเองไปมาบรรยากาศในรถเงียบเชียบจนน่าอึดอัด ถ้าเขาจะบ่นหรือจะดุฉันยังดีเสียกว่าดูแลฉันเหมือนเดิมแล้วเงียบไปแบบนี้
สองสามวันมานี้คุณโรมเข้าไปดูงานโรงแรมที่เมืองเปโดร ถ้าเขายังอยู่บนรถคันนี้แปลว่าเขาเพิ่งกลับมาจากทำงานแล้วก็แวะเข้าไปช่วยฉันเลย
รถตู้เบนซ์เลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าบ้าน พี่ไคโรรีบลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูให้คุณโรม เขาก้าวขาลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านไปทันทีฉันได้แต่มองตามหลังพลางถอนหายใจ
“นายคงเหนื่อยๆ ครับ” พี่ไคโรพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของฉัน
“งานที่เปโดรยุ่งมากเลยเหรอคะ”
“ก็ยุ่งครับเพราะนายอยากจะรีบเคลียร์งานที่นู่นให้หมดแล้วกลับมาหา เอ่อ...มาดูงานที่ไร่ต่อครับก็เลยไม่ค่อยได้พักผ่อน พอกลับมา...”
“คาร่าก็สร้างเรื่องต่อ”
ฉันเสริมประโยคหลังให้พลางก้าวขาลงจากรถแล้วถอนหายใจอีกครั้ง พี่ไคโรไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงแต่ก้มคำนับฉันเท่านั้น
“บ้านเงียบจัง หายไปไหนกันหมด”
ฉันหันมองรอบๆ บ้านด้วยความสงสัย ออกไปข้างนอกแค่หนึ่งชั่วโมงทำไมบรรยากาศมันวังเวงแบบนี้ล่ะ
“คุณท่านกับคุณหญิงไปธุระด่วนที่เมืองเลออนค่ะ มื้อเย็นวันนี้คุณหนูจะให้ป้าตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ”
ป้านาตาลีแม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่พูดขึ้นในขณะที่กำลังเดินออกมาจากครัว คุณลุงคุณป้าไม่อยู่แบบนี้แปลว่าฉันอยู่กับคุณโรมสองคนน่ะสิแล้วเขาจะทานข้าวเลยไหมนะ
“รอคุณโรมก่อนก็ได้ค่ะป้านาตาลี”
“คุณโรมบอกว่าจะไม่รับมื้อเย็นค่ะ”
“อ่อ... งั้นตั้งเลยก็ได้ค่ะ”
ฉันฝืนยิ้มบางๆ ตอบกลับไป คุณลุงคุณป้าไม่อยู่คงไม่อยากนั่งกินข้าวกับฉันสองคนสินะ บวกกับความโกรธเรื่องเมื่อกี้เข้าไปอีก เฮ้ออออ~
Special Part
“นายครับ ลูกน้องแจ้งมาว่าคนของเราที่ออกไปทวงหนี้ถูกยิงตายหมดครับ”
ประโยครายงานของมือขวาคนสนิททำให้ว่าที่สส.ที่กำลังจะขึ้นรับตำแหน่งถึงกับขมวดคิ้ว ใครมันกล้ามีเรื่องกับเขา
“ฝีมือใคร”
“คุณโรมครับนาย”
ยิ่งได้ยินชื่อคนทำคิ้วหนายิ่งผูกเป็นปม มาเฟียหนุ่มเจ้าของไร่ข้างๆ ยิงคนของเขาทำไมในเมื่อที่ผ่านมาเราก็อยู่อย่างสันติมาโดยตลอด
“ผมให้ลูกน้องไปถามเจ้าของบ้านหลังนั้นมาแล้วครับ...”
ลูกน้องเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟังรวมถึงเรื่องที่เจ้าของบ้านหลังนั้นดันมีเงินมาชดใช้หนี้แล้วด้วย
“มึงไปสืบมาว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
แฟรงค์พูดพลางยกยิ้มมุมปาก อยู่กันเงียบๆ ไม่ชอบถ้าอยากได้ความบันเทิงเขาจะจัดให้