EP 6 | น้องยังเด็ก
พายุหิมะเข้าตามคำพยากรณ์อากาศของกรมอุตุฯที่ประกาศเอาไว้จริงๆ และนั่นก็ยิ่งเป็นอุปสรรคในการออกตามหาตัวคาร่า
คนงานของไร่เซนได้รับคำสั่งให้ออกมาตามหาแทบทุกคนและค้นหาให้ทั่วทุกตารางนิ้วของไร่แห่งนี้ อากาศที่หนาวเหน็บไม่สามารถทำให้ใจของมาเฟียหนุ่มเย็นลงได้เลย
ยิ่งเวลาล่วงเลยใจของเขาก็แทบจะลุกเป็นไฟแม้จะโกรธที่เธอขัดคำสั่งเขาจนเกิดเรื่องแต่ก็อยากดึงตัวเธอมากอดแน่นๆ เสียมากกว่า
เธอคงจะหนาวและกลัวมาก
อยู่ไหนนะคาร่า...
“คาร่า! คาร่าได้ยินพี่มั้ย!”
“คะ คะ คุณโรม”
เสียงที่ตอบกลับมาอย่างแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบทำให้ขาของมาเฟียหนุ่มชะงักและพยายามหาที่มาของเสียง
“คาร่า! ตอบพี่ดังๆ”
“คะ คาร่าอยู่นี่”
เดินตามเสียงเข้าไปไม่ไกลโรมก็เจอกับร่างบางที่กำลังนั่งหนาวสั่นและพยายามซุกตัวอยู่กับต้นไม้ใหญ่ มาเฟียหนุ่มรีบถอดเสื้อโค้ตของตัวเองออกแล้วสวมให้เธอทันที
หมับ!
“คุณโรม ฮือๆๆ”
คาร่าพุ่งเข้ากอดคนพี่ด้วยความดีใจพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น ทั้งดีใจที่ตัวเองรอดตายและดีใจที่คนมาเจอเธอคือเขา
“ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่เป็นไรแล้ว”
โรมกอดตอบร่างบางพลางลูบหลังเธออย่างปลอบโยน เขาเองก็โล่งใจไม่น้อยที่ตามหาเธอจนเจอ คำดุด่าว่ากล่าวในสมองตอนนี้ไม่หลงเหลืออยู่สักคำมีแต่คำปลอบโยนมากมายที่เขาอยากจะพูดกับเธอ
แต่ตอนนี้เนื้อตัวของคาร่าเย็นเฉียบกว่าจะออกจากตรงนี้ไปถึงที่บ้านเธออาจจะหนาวตายก่อนก็ได้ เขาจึงตัดสินใจพาเธอไปที่เรือนกระจกแทน
โรมถอดผ้าพันคอของตัวเองออกมาพันให้คนร่างเล็กอย่างทุลักทุเลเพราะเธอกอดเขาไม่ยอมปล่อย
“พี่พาไปที่เรือนกระจกนะครับ”
หงึกๆ
คาร่าพยักหน้าตอบกลับก่อนจะยอมปล่อยแขนออกจากร่างแกร่ง โรมประคองเด็กดื้อของเขาให้ยืนขึ้นกระชับเสื้อโค้ตให้แน่นแล้วช้อนตัวอุ้มเธอเดินต่อไปที่เรือนกระจก
ทันทีที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกครั้งคาร่าซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งอย่างกับเด็กที่โหยหาความอบอุ่น
ใช้เวลาไม่นานโรมก็อุ้มคาร่าเดินมาถึงเรือนกระจก เนื้อตัวของทั้งคู่สั่นเทาไม่ต่างกัน โชคดีที่เรือนกระจกมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันรวมไปถึงฮีตเตอร์ด้วย
“นั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ”
ร่างเล็กถูกวางลงที่โซฟาสีขาวอย่างเบามือ โรมรีบคว้ารีโมทเปิดเครื่องฮีตเตอร์แล้วเดินไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำร้อน ขายาวๆ ก้าวต่อไปที่ราวเหล็กซึ่งมีเสื้อผ้าของเขาแขวนอยู่สองสามชุด
คาร่าต้องเปลี่ยนชุดเพราะชุดที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้เปียกชื้นไปหมด มันจะยิ่งอันตรายต่อร่างกายของเธอแต่เมื่อเดินกลับมาที่โซฟาขาของมาเฟียหนุ่มก็ชะงักไปเล็กน้อยเพราะคาร่าหลับไปแล้ว
“คาร่า คาร่าครับ”
เรียกพลางแตะมือหนาลงที่แก้มของเธออย่างแผ่วเบา เขารอช้าไม่ได้ต้องเปลี่ยนชุดและทำให้ร่างกายของเธออบอุ่นโดยเร็วที่สุด
แต่จะให้เขาเป็นคนถอดชุดของเธอ...กลัวว่าตัวเขาเองจะห้ามใจไม่ไหวแล้วทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อและแม่ของเขาในวันนั้นน่ะสิ
เขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าสาวน้อยที่เฝ้ารอมานานนอนเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้า...
“เอาวะ”
โรมโคลงศีรษะไปมาเพื่อต้องการสะบัดความคิดชั่วร้ายออกไปจากสมอง เขาลุกขึ้นกลับไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าอีกครั้งแล้วคว้าเอาเนกไทที่มีอยู่เส้นเดียวเดินกลับมานั่งลงข้างโซฟา
เนกไทสีดำถูกยกขึ้นผูกปิดตามาเฟียหนุ่ม เขาไม่ได้รัดมันแน่นมากยังคงมีช่องว่างให้เห็นอะไรได้รางๆ ก็ยังดีกว่าเห็นชัดเต็มสองตาวะ!
มือหนาเลื่อนเข้าไปถอดเสื้อโค้ตแล้วค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของคาร่าออกทีละเม็ด ทั้งที่ตั้งใจจะถอดชุดออกเผื่อไม่ให้หิมะเกาะอยู่ตามเนื้อตัวของเธอแต่ทำไมยิ่งปลดลงก็ยิ่งขาว ขาวกว่าหิมะที่กำลังตกอยู่ข้างนอกเสียอีก
“ฟู่วววว~”
โรมถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อถอดเสื้อของคนน้องได้สำเร็จ มือหนาสอดไปข้างหลังแล้วปลดตะขอบราออกอย่างรวดเร็วก่อนจะประคองให้ร่างบางค่อยๆ นั่งขึ้นเพื่อสวมเสื้อตัวใหม่
“หนาวววว”
“เฮือก!”
คาร่าซุกตัวเข้ากอดร่างหนาเพราะโหยหาความอบอุ่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าสองก้อนนุ่มนิ่มที่กำลังเบียดชิดกับลอนซิกแพคของใครบางคนกำลังสร้างความทรมานให้เจ้าของมันอย่างหนัก
น้องยังเด็ก...
น้องยังเด็กอยู่ไอ้โรม…
แต่สองก้อนที่กำลังเบียดชิดอยู่กับร่างกายของเขามันไม่เด็กเลยสักนิด ออกจะใหญ่เสียจนเขารู้ว่าถ้าสัมผัสโดยตรงมันคงจะเต็มไม้เต็มมือเขาไม่น้อย
“คาร่าครับใส่เสื้อก่อน”
สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดพยายามประคับประคองให้เขาทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ เมื่อสวมเสื้อให้เธอเรียบร้อยก็ต้องมาสู้รบกับช่วงล่างต่อ
“ใจเย็น ใจเย็น ใจเย็น”
เสียงทุ้มเฝ้าพึมพำบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา โรมค่อยๆ ประคองร่างบางให้นอนลงอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ปลดกระดุมกางเกงยีนของเธอออกเลื่อนซิปลงจนสุดแล้วจับเข้าที่ขอบเอวทั้งกางเกงตัวนอกตัวใน จัดการดึงออกไปจนพ้นทางก่อนจะสวมกางเกงของเขาเข้าไปแทน
เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็รีบเอาเสื้อโค้ตห่มทับให้เธออีกครั้ง ใบหน้าสวยที่ซีดเผือดเริ่มมีสีทำให้โรมเบาใจขึ้นมา
แต่ตัวเขานี่สิ!
หิมะก็ตกหนักทำไมเหงื่อถึงได้แตกพลั่กขนาดนี้!
โรมยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก เขาเดินเลี่ยงออกมาเปลี่ยนชุดของตัวเองและไม่ลืมที่จะส่งข้อความหาผู้เป็นแม่เพื่อแจ้งข่าวว่าเขาเจอคาร่าแล้ว
ไม่งั้นคุณหญิงนาเดียคงนอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงลูกสาวสุดที่รัก โรมนึกย้อนไปถึงวันที่แม่ของเขาบอกว่าจะรับคาร่ามาเป็นลูกบุญธรรม โชคดีนะที่แม่มาปรึกษาเขาก่อนไม่งั้นเธอได้กลายเป็นน้องสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาแน่ๆ
เขาไม่อยากให้เธอมาเป็นน้องสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายเสียหน่อย อยากได้เป็นอย่างอื่นมากกว่า
“นะ หนาววว”
เสียงของคาร่าทำให้โรมหลุดออกจากภวังค์ เขาเดินกลับมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าโซฟามองคนร่างเล็กที่นอนสั่นเทาด้วยความหนาว เสื้อโค้ตตัวเดียวคงให้ความอบอุ่นเธอได้ไม่พอ ผ้านวมก็ไม่มี
สิ่งเดียวที่พอจะให้ความอบอุ่นเธอได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นร่างกายของเขา
มาเฟียหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวขึ้นไปนอนบนโซฟาอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าคนร่างเล็กจะตื่น ฝ่ามือใหญ่ประคองศีรษะของคาร่าขึ้นแล้วสอดแขนเข้าไปเพื่อให้เธอหนุนนอนแทนหมอน
เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นข้างกายคาร่าก็พลิกตัวหันไปหาโรมก่อนจะซุกใบหน้าลงตรงหน้าอกแกร่งแล้ววาดวงแขนขึ้นกอดคนร่างหนาที่นอนตัวแข็งทื่อไปแล้ว ในสมองของเขาปรากฏหนึ่งคำขึ้นมาอย่างชัดเจน...
ฉิบหาย!
มาเฟียหนุ่มกัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายในร่างกายของเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมสยาย ความนุ่มนิ่มของเนื้อตัวคนที่นอนเบียดเข้ามากำลังทำให้ความอดทนอดกลั้นของเขาต่ำลงเรื่อยๆ
น้องยังเด็ก น้องยังเด็ก น้องยังเด็ก...
มันคือสามคำที่เขาท่องจนขึ้นใจมาตลอดแม้ตอนนี้ความใหญ่โตแสนนุ่มนิ่มที่กำลังบดเบียดร่างกายของเขาจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัวไปแล้วก็ตาม
“ฝันดีนะครับ”
โรมโน้มหน้าลงไปกระซิบข้างหูของเธออย่างแผ่วเบาพร้อมสูดดมกลิ่นหอมจางๆ จากตัวเธอเข้าเต็มปอดก่อนจะกระชับอ้อมกอดแล้วผล็อยหลับตามเธอไป