EP 10 | คนขี้หวง
“คาร่าต้องไปจริงๆ เหรอคะคุณป้า”
ฉันถามย้ำคุณป้าอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เมื่อคุณป้าบอกว่าเย็นวันนี้ฉันจะต้องไปงานเลี้ยงรับตำแหน่งใหม่ของคุณแฟรงค์พ่อยัยเลียจู๋
“ตอนนี้เราโตเป็นสาวแล้วนะ ป้าก็อยากจะอวดลูกสาวให้คนอื่นๆ รู้จักบ้างสิ อีกอย่างป้าไม่ได้ให้ไปคนเดียวเสียหน่อย เราไปกันทั้งครอบครัวจ๊ะ”
ฉันไม่ชอบเข้างานสังคมมีแต่คนที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน บางคนพอรู้ว่าฉันเป็นลูกของใครก็มักจะมองฉันด้วยสายตาที่ดูถูกและอีกอย่างที่ไม่ชอบมากๆ เลยก็คือฉันไม่ชอบแต่งตัว!
แต่งตัวในที่นี้หมายถึงแต่งหน้าทำผมใส่ชุดกระโปรง มันดูไม่เป็นตัวฉัน ดูไม่ทะมัดทะแมงแถมถ้าต้องแต่งตัวให้เข้าชุดยังต้องใส่รองเท้าส้นสูงอีกด้วย
Oh My God!
แค่คิดก็จะบ้าตายแล้ว...
“เดี๋ยวสี่โมงช่างจะเข้ามาแต่งหน้าทำผมให้นะจ๊ะ ส่วนชุดของหนูป้าเลือกเอาไว้ให้แล้ว”
แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหมมม~
ค่ะ! ฉันไม่มีทางเลือกเพราะดูเหมือนคราวนี้คุณป้าก็ไม่ยอม อยากจะให้ฉันไปงานเลี้ยงนี้ให้ได้ คงจะสำคัญมากจริงๆ ฉันคงต้องจำใจไป
และช่วงบ่ายช่างแต่งหน้าทำผมก็เข้ามาที่บ้านค่ะ ซึ่งช่างจะแบ่งออกเป็นสองทีม ทีมแรกดูแลคุณป้าส่วนทีมที่สองก็ดูแลฉัน
ชุดที่คุณป้าเลือกให้เป็นชุดสีขาวแขนตุ๊กตาน่ารักแต่ตรงหน้าอกดันทรงขึ้นอวดบิ๊กเปาสองลูกของฉันเล็กน้อยพองาม ความยาวของกระโปรงอยู่เหนือเข่าขึ้นมานิดหน่อยซึ่งก็ดูไม่สั้นและไม่ยาวเกินไป
ฉันว่ามันเข้ากับฉันอยู่นะคุณป้าเลือกชุดเก่งสุดๆ ไปเลย
“คาร่าเสร็จหรือยังลูก”
เสียงของคุณป้าดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูห้องของฉันเข้ามาเสียอีก วันนี้คุณป้าอยู่ในชุดราตรีสีขาวที่สวยสมวัยเหมือนกัน
“เป็นยังไงบ้างคะ”
ฉันเอ่ยถามพลางเดินเข้าไปหาคุณป้าที่กำลังยืนยิ้มมองฉันด้วยสายตาภาคภูมิใจสุดๆ
“สวยมากเลยลูก เก่งมากๆ เดี๋ยวฉันให้ทิป”
คุณป้าพูดกับฉันก่อนจะหันไปชมช่างแต่งหน้าและทำผมที่นั่งอยู่ข้างหลัง พี่ๆ รีบกล่าวขอบคุณทันที
“ลงไปข้างล่างเถอะ หนุ่มๆ รออยู่แล้ว”
หนุ่มๆ ที่พูดถึงคงจะเป็นคุณลุงกับคุณโรมนั่นแหละค่ะเพราะเดินลงมาข้างล่างคุณลุงก็ยืนส่งยิ้มหวานให้คุณป้าอยู่แล้วส่วนคุณโรมยืนกำลังคุยโทรศัพท์แต่หันหลังให้เรา
“วันนี้สาวๆ สวยทั้งคู่เลยนะ”
คุณลุงเวสตันพูดขึ้นในขณะที่สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ภรรยาของตัวเอง ปากบอกว่าสวยทั้งคู่แต่มองคุณป้าคนเดียวเนี้ยนะ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“สวยทั้งคู่แล้วทำไมถึงมองคุณป้าคนเดียวล่ะคะ?”
ฉันแซวคุณลุงพลางส่งยิ้มหวานให้เป็นจังหวะที่คุณโรมวางสายโทรศัพท์แล้วหันหน้ากลับมาพอดี ฉันจึงส่งยิ้มให้เขาด้วย
ตั้งแต่วันที่เรา เอ่อ...จูบกัน ฉันก็ไม่สร้างเรื่องเลยค่ะ บอกตามตรงว่าบทลงโทษแบบผู้ใหญ่ของเขามันทำให้ฉันหวั่นใจสุดๆ ทุกวันนี้ภาพยังติดตาอยู่เลย
“น้องสวยมั้ยตาโรม”
คุณป้าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคุณโรมยืนมองหน้าฉันนิ่ง แล้วรอยยิ้มของฉันก็ค่อยๆ หุบลงเมื่อคุณโรมมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางขมวดคิ้วแล้วหันไปมองหน้าคุณป้า
“แม่ครับ...”
น้ำเสียงเจือความไม่พอใจเล็กน้อยทำให้ความมั่นใจของฉันหดหายไปในทันทีแต่คุณป้ากลับหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วเดินเข้าไปกระซิบประโยคที่ฉันฟังไม่ค่อยถนัด
“ขี้หวงจริงๆ เลยเรา”
“ไม่มีชุดอื่นแล้วเหรอครับ”
ฉันก้มลงมองชุดของตัวเองอีกครั้ง บอกแล้วไงว่าฉันไม่เหมาะกับการใส่ชุดอะไรแบบนี้-^-
“ชุดนี้สวยที่สุดแล้ว รีบไปกันดีกว่าจ้ะ”
คุณป้าหันกลับมาส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินออกจากบ้านไปพร้อมคุณลุง ส่วนคนที่คิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจหันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไปเถอะ”
คุณโรมพูดพลางยื่นมือมาตรงหน้าฉัน ไม่สวยแล้วจะมาจับมือทำไมยะ!
“คาร่าเดินเองได้ค่ะ”
เดินเลี่ยงออกมาได้แค่สามก้าวร่างฉันก็แทบจะปลิวกลับไปชนกับอกแกร่งของคุณโรมเพราะเขาตวัดแขนกอดเอวฉันเอาไว้
“ว๊าย! คุณโรม”
“ไม่พอใจอะไรพี่”
ทำไมต้องยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ขนาดนั้นด้วยล่ะพ่อคุณ หัวใจคาร่าก็มีอยู่แค่นี้มันจะวายเอานะ!
“เปล่านี่คะ”
ฉันตอบแต่ก็ไม่กล้าหันไปสบตาเขา มือทั้งสองข้างพยายามดันตัวเขาออกเพราะกลัวใครจะมาเห็นเข้าแต่คุณโรมกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
“พี่ต่างหากที่ต้องไม่พอใจ”
ขวับ!
ฉันหันกลับมาจ้องหน้าเขาทันที สายตาของคุณโรมกำลังไล่ระดับมองฉันไปทีละส่วน เขาใช้แค่สายตามองเท่านั้นแต่ฉันกลับรู้สึกร้อนวูบวาบราวกับเขากำลังเอาเหล็กร้อนๆ ลากไปตามตัว
“คาร่ารู้ค่ะว่าตัวเองไม่สวยต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณโรมไม่พอใจ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน บ้าเอ้ย! นี่ไม่ใช่ตัวฉันเลยนะเนี้ย ปกติไม่พอใจอะไรฉันก็จะพูดออกไปตรงๆ
“หึ เพราะสวยมากต่างหากพี่ก็เลยไม่พอใจ”
“คะ?”
คุณโรมปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนแล้วถอดเสื้อสูทของเขามาคลุมไหล่ฉันเอาไว้ ส่วนฉันตอนนี้กำลังยืนงงเป็นไก่ตาแตก
ถ้าสวยแล้วทำไมต้องไม่พอใจด้วยล่ะ?
ไม่ชอบที่ฉันสวยเหรอ?
อิหยังวะ? -__-”
“ไปเถอะ”
คุณโรมพูดพลางจับมือฉันเดินไปที่รถตู้เบนซ์ คุณลุงกับคุณป้าที่นั่งรออยู่หันมามองเราสองคนพลางโคลงศีรษะเบาๆ แต่ไม่มีใครพูดอะไร
แน่นอนว่าฉันนั่งเงียบมาตลอดทางจนเรามาถึงไร่ของคุณแฟรงค์และจอดรถหน้าสถานที่จัดงานไม่ไกลนัก แต่ที่แปลกคือวันนี้เรามีรถบอดี้การ์ดตามมาตั้งหกคันไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไปก่อไว้หรือเปล่านะ
งานวันนี้เป็นงานเลี้ยงรับตำแหน่งสส.ของคุณแฟรงค์ซึ่งดูแลเขตในเมืองไม่ใช่เขตนี้หรอก งานจัดขึ้นในสวนซึ่งบรรยากาศของงานดูน่ารักดีไม่เป็นทางการมากเกินไป
“พี่โรมขาาาา~”
จะไม่น่ารักก็ตรงลูกเจ้าของงานนี่แหละ!
ทันทีที่รถจอดและประตูรถเปิดยัยเลียจู๋ก็วิ่งมายืนหน้าสล่อนก่อนจะส่งยิ้มหวานพลางกวาดสายตามองคุณลุง คุณป้า คุณโรมแล้วมาหุบยิ้มที่ฉัน
ซึ่งแน่นอนว่าฉันแบะปากส่งไปให้เช่นกัน
“คุณลุงเวสตันคุณป้านาเดียสวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะหนูจูเลีย”
คุณป้าเป็นคนตอบรับส่วนคุณลุงแค่ส่งยิ้มให้บางๆ เท่านั้น
“เดี๋ยวจูเลียเดินนำไปที่โต๊ะนะคะ”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ยัยเลียจู๋ก็ไม่ได้เดินนำไปทันทีหรอกค่ะ เธอเดินเข้าไปควงแขนคุณโรมแทน
“ไปค่ะพี่โรม เอ๊ะ? สูทพี่โรมละคะ?”
เหอะ!
“นี่ค่ะคุณโรมขอบคุณที่ให้ยืมนะคะ”
ฉันรีบถอดเสื้อสูทออกแล้วยื่นให้คุณโรมทันทีและคนที่ยื่นมือมารับก็คือยัยเลียจู๋นั่นแหละ
“เข้างานกันเถอะค่ะคุณป้า”
ฉันขยับเข้าไปยืนข้างคุณป้าแล้วพากันเดินเข้างาน ที่ไม่อยากยืนตรงนั้นนานๆ เพราะฉันกลัวว่าจะอ้วกแตกออกมาก่อนน่ะสิ
คนที่บอกว่าจะนำไปที่โต๊ะไม่รู้ว่าเดินหายกันไปไหน ส่วนฉันก็เดินทักทายแขกในงานกับคุณลุงคุณป้า บอกเลยว่าฉันเกือบหน้าทิ่มเพราะรองเท้าส้นสูงอยู่หลายครั้งถ้าไม่ติดว่าคุณป้าคว้ามือฉันไปจับไว้เสียก่อน
“ไหวมั้ยลูก”
“แหะๆ ไม่ค่อยชินเลยค่ะ”
“งั้นเราไปนั่งที่โต๊ะกันดีกว่านะ”
เมื่อได้ยินคุณป้าบอกว่าจะกลับไปนั่งที่โต๊ะ บริกรที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เดินนำพวกเราไปทันทีแสดงว่าเขาน่าจะระบุรายชื่อแขกที่นั่งแต่ละโต๊ะเอาไว้
“สวัสดีครับคุณเวสตันคุณนาเดีย เป็นเกียรติสำหรับผมมาเลยครับที่ผู้มีอิทธิพลใหญ่ของเมืองเซบิยามาร่วมงาน”