บทที่9 ประมูลเช่าตึก
.
..
เมื่อได้เปิดพิธีอย่างเป็นทางการเเล้ว
การประมูลที่แท้จริงอยู่ตรงหน้านี้แล้ว เขาได้แต่นั่งรอในห้อง วีวีไอพีเพื่อรอดูการประมูลเช่าตึกของเขา
"งั้นนับต่อจากนี้เป็นการประมูลเช่าตึกของตระกูลเฉิน เพื่อนำไปทำกิจการนะครับ"
พิธีกรพูดขี้น
ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ดังทันที
"งั้นเริ่มที่ ตึกแรกของเรากันเลยนะครับ"
"เราเริ่มกันที่หนึ่งแสนหยวนนะครับ"
เมื่อพิธีกรพูดจบ
ทุกคนก็ต่างกดปุ๋มแย่งกันเพื่อให้ได้เป็นคนแรกที่มีสิทธิได้
เมื่อมีชายแก่คนหนึ่งกดได้แล้วทุกคนทำหน้าไม่พอใจ
"ฉันให้ห้าแสนหยวน"
ชายแก่ที่กดปุ๋มไม่ทันเอ่ยขึ้นทันที
ทุกคนหันหน้าไปมอง
"หกแสน"
"เจ็ดแสน"
"แปดแสน"
"เก้าแสน"
"หนึ่งล้าน"
ชายแก่สองคนเถียงกันไปมา
แต่สุดท้ายก็ตกเป็นของชายแก่คนที่กดได้นั้นเอง
"เอาละครับทีนี้ การประมูลตึกแรกผ่านไปแล้วนะครับ"
พิธีกรพูดอีกครั้ง
"งั้นเรามาเริ่มตึกต่อไปกันเลยนะครับ"
การต่อสู้ของคนรวยที่พยายามจะมาลงทุนในที่ของเฉินหยางนั้นมีจำนวนมากจึงทำให้การประมูลในวันนี้ชั่งดุเดือดเป็นอย่างมาก
ถ้าเปรียบกับสนามรบคงจะมีศพที่ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก เลือดนอง
เมื่อการประมูลยังมาไม่ถึงครึ่งทาง
เขากลับได้เงินของการประมูลแล้วสองร้อยล้านกว่าหยวนถือว่าเป็นเงินจำนวนมากทีเดียวสำหรับเขาเมื่อก่อนแต่ตอนนี้กับช่างน้อยนิดเหลือเกิน
เงินที่เขาได้ในตอนนี้ยังไม่ถึงครึ่งเงินที่เขาได้จ่ายไป
ฝั่งทางเฉินหยางนั้น
รู้สึกเบื่อหน่ายกับการที่ต้องนั่งรอดูการอข่งขันของพวกคนรวยแล้ว
จึงได้เดินออกไปจากห้องวีวีไอพี
"นี่เดินเร็วๆหน่อยสิ เป็นพนักงานแค่ชั่วคราว ก็ทำดีๆหน่อยสิย่ะ"
หญิงสาวคนหนึ่งได้สั่งเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าประตูห้องครัว
"ครับ ครับ ขอโทษครับ"
เด็กหนุ่มพูดอย่างกลัวๆ
เมื่อหญิงสาวทำหน้าเซ็งๆ แล้วหันมาทางเขา เธอจึงทำหน้าโมโหใส่
"นี่แกคิดว่ามันงานเล็กๆหรือไงห้ะ ถึงได้มาเอาปานนี้"
หญิงสาวพูด
แต่เขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าทำไม
เพราะวันนี้เขาไม่ได้ใส่ชุดที่ไปดูงานการก่อสร้าง
แต่กลับใส่เสื้อที่เป็นเหมือนของก๊อปเกรดเอ กับกางเกงยีนถูกๆมาแทน
เขาเคยชินสถานการณ์แบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
เพราะงั้นครั้งนี้เขาจึงยอมก้มหน้าก้มตาต่อไปเพราะว่าเป็นงานของตัวเองจึงจำใจโดนใช้งาน
เมื่อเขากำลังยกเค้กไปวางไว้ระหว่างทางก็ได้มีคนที่ผิดหวังยากการประมูลเดินมาทางนี้พอดี
"นี่แกหยุดเดียวนี้"
ชายคนนั้นพูดเสียงดัง
เขาจึงค่อยๆหันไปหา
"ขนาดคนจนอย่างแกยังมีสิทธิ์ที่จะเขามาในนี้เลยเหรอ"
ชายคนนั้นพูดด้วยสายตาอย่างดูถูก
"ครับมีอะไรให้ช่วยเหรอครับคุณชาย"
เขาพูดอย่างสุภาพ
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ
ป้าปปปปปป
เสียงเค้กกระทบลงบนหน้าเขาอย่างแรง
เมื่อเขาเอามือค่อยๆลูบเค้กออกจากหน้าอย่างช้าๆ
"เชี้ยยยยยย"
เขาได้สบทออกมา
"คุณทำแบบนี้ทำไมครับ"
เขาพยายามถามอย่างใจเย็น
เขาไม่รู้ว่าทำไมพอเขารู้ว่าเขามีเงินแล้วเขากลับเป็นคนที่ทนถูกดูถูกไม่ได้
"ทำไม คนจนจนอย่างแกน่ะ มีสิทธิ์อะไรมามองตาแข็งใส่ฉันไม่ทราบ"
ชายคนนั้นพูดพร้อมกับคนนิ้วมือจิ้มๆที่หัวของเขา
"คนจนอย่างพวกแก ไม่มีเงินพอแม้แต่ซื้อรองเท้าหรูๆใส่ด้วยซ้ำ แกคิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรือไงห้ะ"
ชายคนนั้นด่าเขาอีกครั้ง
"ครับผมยอมรับนะครับว่าผมนั้นไม่มีปัญญาพอที่จะซื้อรองเท้าหรูๆใส่ แต่จิตใจที่หรูกว่าคุณมั้งครับ"
เขาพูดแบบลอยแต่จงใจให้ชายคนนั้นได้ยิน
"แก แก แกว่าอะไรนะ"
ชายคนนั้นเริ่มโมโหมากยิ่งขึ้น
"แกคิดว่า คนจนอย่างแกมีสิทธิ์ที่จะด่าคนอย่างฉันหรือไง"
ชายคนนั้นพูดเสียงดังยิ่งขึ้น
"ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ด่าละครับ คนจนอย่างผมนี่แหละครับ อาจจะทำให้คุณตกต่ำก็ได้น่ะครับ"
เมื่อเขาพูดจบก็ได้เอามือที่ติดเค้ก เอาไปลูบหน้าของชายคนนั้น
ชายคนนั้นก็ได้เริ่มโวยวายอีกครั้ง
เมื่อชายคนนั้นเริ่มโวยวายใส่เขา เขาก็ได้ทำท่าทำทางเลี่ยนแบบ กวนโอ๊ยใส่ชายคนนั้นคืน
แล้วเขาก็ได้เดินหัวเราะอย่างผู้มีชัยไปที่ห้องน้ำทันที
"ฮ่าฮ่าฮ่า สมน้ำหน้า ทีหลังคุณอย่าเที่ยวไปดูถูกใครเข้าล่ะ"
เขาทำท่าทางบายๆเเล้วหันหลังให้อย่างยิ้มเยาะชอบใจ
"เห้อยากจะบ้าตาย คนรวยเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าเนี่ย น่ารำคาญเป็นบ้า"
เขาเริ่มบ่นไปด้วยล้างหน้าไปด้วย
'การประมูลถึงโค้งสุดท้ายแล้วนะครับทักท่าน'
เสียงแว่วของพิธีกรดังเข้ามาถึงในห้องน้ำเพราะพิธีกรตะโกนใส่ไมค์ดังมากทีเดียว
เมื่อได้ยินแล้วก็ได้ยิ้มออกมา
"ใกล้จะได้กลับแล้วสิน่ะ "
เขากำลังคิดว่า เหลือวันที่พ่อให้เวลาอีกหนึ่งวัน กับวันหยุดอีกสองก็ได้รู้สึกหดหู่ลงเล็กน้อย
เมื่อเปิดห้องน้ำออกมาก็ได้เห็นผู้คนมากมายถยอยออกมาจากห้องประมูล บางคนทำหน้าอย่างมีชัย
บางคนทำหน้าโหโม เสียใจ หงุดหงิด ตามๆกันไป
..
...