บทที่5 ช้อปปิ้งกับเพื่อน
.
..
เช้าตรู่วันต่อมา
หลี่โถว หลงอี้ หลินฟานเอ๋อ และเฉิหยาง
ทุกคนเตรียมตัวเสร็จ จึงพากันออกเดินทางไปที่ห้างแห่งนึงที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากเมื่อเข้าไปข้างในห้างแล้ว ทุกคนไม่รอช้าที่จะหาร้านเสื้อผ้า ทุกคนรอเวลานี้มานานที่จะได้เห็นเฉินหยาง เปลี่ยนเสื้อผ้าเเละลุคใหม่จะได้ไม่ต้องเป็นนายเฉิ่ม ถึงแม้ทุกคนจะไม่ได้คบที่เฉินหยางที่เงินแต่ก็อยากให้เฉินหยางได้ใส่เสื้อใหม่บ้างอะไรบ้าง
เมื่อก่อนทุคนพยายามอย่างมากที่จะซื้อเสื้อผ้าให้เขา
ตอนนี้ทุกคนมีโอกาสแล้วจึงไม่อยากให้เสียเปล่า
"นายจำกัดงบหรือเปล่า"
ฟานเออ์ถามขี้นเพราะกลัวว่าเงินของเขาจะไม่พอ
ทุกคนรู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะให้เงินของพวกเขาแน่นอน
"ไม่อ่ะ ตามสบายเลย"
เขาตอบอย่างเรียบๆ
"ถ้าพวกนายอยากได้อะไรก็เอาเลยนะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ ตอบแทนเรื่องวันเกิดเมื่อวานนี้"
้เขาตอบพร้อมยิ้ม
ทุกคนอึ้งในสิ่งที่เขาพูดแต่ก็ไม่ได้อะไรมาก ถ้าเขาบอกจะเลี้ยงทุกคนก็ไม่กล้าขัด ยิ่งเขาบอกว่าไม่จำกัดเงินทุกคนก็คิดว่าเขาน่ามีเงินเพราะเขาเป็นประหยัดมาก
จากนั้นทุกคนก็เลือกเสื้อผ้ามาให้เฉินหยางคนละหกชุด เเละของตัวเองอีกคนละสองชุด
ส่วนใหญ่นั้นทุกคนเลือกเป็นชุดแนวสตรีท เพราะว่าเฉินหยางนั้นเป็นคนตัวไม่สูงมาก สูงแค่ร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร ผิวขาวสะอาดหมดจด เป็นผู้ชายที่ไม่มีซิกแพคแต่น่าดู ถ้าไม่ใส่เสื้อผ้าจะดูหล่อมาก หมายถึงเสื้อผ้าที่เขามีอยู่นั้น เขาสามารถเป็นดาราได้เลย
เมื่อเลือกเสื้อผ้าเสร็จแล้วพวกเขานั้นก็กำลังจะเดินไปจ่ายเงินอยู่นั้น
ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา
"ที่รัก รองเท้าคู่นี้สวยมากเลย เราซื้อคู่กันดีมั้ยที่รัก"
ผู้หญิงคนนั้นพูดออดอ้อนอยากได้มาก
"พวกนายอยากได้มั้ย เราจะได้ใส่เหมือนกันทุกคน"
เฉินหยางพูดอย่างยิ้มๆ
"มันจะแพงเกินไปเหรอพวกเราอาจจะไม่มีเงินจ่ายก็ได้นะ"
หลี่โถวพูดขึ้นมาทำให้ทุกคนพยักหน้าตามตามกัน
"เราไปดูก่อนก็ได้ถ้ามันแพงเกินไปเดี๋ยวฉันซื้อให้เอง"
พูดจบเขาก็เดินไปที่ทุกคนมุงดูอยู่
ทุกคนก็ทำเพียงแค่เดินตามไปเท่านั้นด้วยความสงสัยว่าเขาเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ แต่ก็ไม่กล้าถาม
เมื่อเดินไปถึงก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหนได้แต่เป็น หวังหยางกับจินโฮว เป็นเพื่อนร่วมห้องของทั้งสี่คน ซึ่งเป็นคนที่ชอบแกล้งเฉินหยางมากที่สุด ทั้งสามคนพยายามห้ามตลอดแต่ก็ไม่เคยได้ผล
"ได้สิที่รัก"
หวังหยางพูดด้วยความภูมิใจเพราะมีคนมุงดูเขามากมายทำให้เขาสามารถโชว์ความรวยได้เพิ่มขี้นอีก
"ราคากี่บาทอ่ะครับ"
"คุณลูกค้าคะ รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของทางร้านเราเลยนะคะ เป็น ส่งตรงมาจากร้านรองเท้าในถนนเทียนทางค่ะ ราคาอยู่ที่คู่ล่ะแปดหมื่นหยวนค่ะ"
เมื่อพนักงานขายพูดจบด้วยรอยยิ้มให้ เพราะคิดว่าหวังหยางจะซื้อเพราะท่าทางของหวังหยางนั้นท่าทางมีเงิน
พนักงานคนนี้ เมื่อตอนพวกเขาเดินเข้ามานั้นทำท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เพราะว่าทั้งทั้งสามคนอยู่ด้วยเลยยอมให้เขานั้นเข้ามาแต่ก็ไม่ยอมมาแนะนำสินค้าแล้วยังจะมามองแบบเหยียดหยามอีก
"ห้ะแปดหมื่น รองเท้าอะไรกันแพงขนาดนี้ ที่รักคุณไปหาดูรองเท้ารุ่นอื่นดีกว่านะ"
หวังหยางพูดปลอบใจจินโฮว
"ผมมีงบให้คุณแค่ห้าพันเท่านั้นนะที่รัก"
เขากระซิบที่หูของแฟนสาวเบาเบา
จินโฮว ทำท่าทางไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้เถียงกับและหวังหยางทำท่าทางอวดความรู้เกี่ยวกับของแบรนด์เนมในร้านอย่างโอ้อวด ทำให้ทุกคนชื่นชมเขาใหญ่
ด้านทางฝั่งของเฉินหยาง
"ไม่ต้องซื้อก็ได้หรอกพี่หยาง นายเก็บเงินไว้ดีกว่า"
หลงอี้พูดแล้วทำท่าไม่สนใจในรองเท้าแต่ก็ปิดบังไม่อยู่
แต่เขาก็ไม่สนใจแล้วเดินไปจ่ายเงินกับของที่พวกเขาเลือกไว้
"คุณลูกค้าคะ เช็คเงินเลยมั้ยค่ะ"
พนักงานขายพูดขึ้น ซึ่งตั้งแต่เข้ามาไม่มองเหยียดหยามเขาแค่นั้นยังพูดจายิ้มแย้มกับเขาอีก ซี่งเขาประทับใจในพนักงานคนนี้มาก
"ครับ"
เขาพูดขึ้นมาอย่างเรียบๆ
"คุณลูกค้าค่ะทั้งหมด สามแสนห้าหมื่นบาทค่ะ จ่ายเป็นเงินสดหรือรูดบัตรดีคะ"
แต่ยังไม่ทันได้หยิบบัตรออกมา เมื่อหวังหยางได้ยินก็รีบเดินออกมาแล้วมองหาว่าใครกันที่จ่ายเงินมากขนาดนี้
"โอ้ นึกว่าใคร ที่แท้เฉินหยางนี่เอง นี่นายขนาดอยากได้ของถึงขนาดที่ให้เพื่อนของนายซื้อของให้เป็นแสนๆเลยเหรอ"
หวังหยางพูดอย่างดูถูก
"นี่คุณพนักงานครับ"
เขาหันไปพูดกับพนักงานทางด้านขวา
"ทุกคนครับไอ้คนคนนี้คือไอ้คนโคตรจนมหาวิทยาลันครับ คิดว่าคนแบบนี้จะมีปัญญาจ่ายเหรอครับ ทางที่ดี เรียกผู้จัดการมาดีกว่าครับ"
หวังหยางพูดเสร็จทุกคนในที่นี่ก็มองด้วยสายตารังเกียจ
จากนั้นพนักงานที่อยู่ข้างหวังหยางก็วิ่งเข้าไปในห้องทำงานใหญ่แล้วก็เรียกผู้จัดการมา
"มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ"
เมื่อผู้จัดการเดินมาจึงเอ่ยถามแบบเรียบๆ
"คุณผู้จัดการครับ คนคนนี้เขาไม่มีเงินง่ายคุณหรอกครับเพราะเขาเป็นคนจนครับ"
หวังหยางรีบฟ้อง
"จริงเหรอคะคุณชายหวัง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรไปว่าเขานะคะ เอ่อคุณชายคะเชิญรูดบัตรได้ตามสบายเลยค่ะ"
ถึงแม้ผู้จัดการคนนี้จะพูดอย่างให้เกียรติยังไงแต่สายตาก็มองออกว่าดูถูกอย่างมาก
เฉินหยางจึงหยิบบัตรสีทองดำออกมาทำให้ทุกคนตะลึงกับสิ่งที่เห็น
แล้วพนักงานหญิงคนนั้น ก็หยิบบัตรไปอย่างระมัดระวังไปรูด แต่ปรากฏว่า
-ขออภัยวงเงินของคุณยังไม่ถึงกำหนดขอให้คุณเพิ่มสินค้าค่ะ-
ทุกคนในร้านยิ่งตะลึงเข้าไปอีก
เฉินหยางรีบหยิบโทรศัพท์กดไปหาจื่อฝานทันที
"พี่ฝาน เงินในบัตรของผมวงเงินตั้งไว้เท่าไรครับ"
เขาถาม
"ห้าแสนหยวนครับ"
จื่อฝานตอบในทันที
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินหยางจึงเอามือกุมขมับทันที
"เอารองเท้าอันนั้นมาสี่คู่ครับ"
เขาชี้มือไปที่รองเท้าผ้าใบใหม่ล่าสุดของร้าน
"คุณลูกค้าค่ะนั้นคู่ล่ะแปดหมื่นเลยนะคะท่านต้องการจริงๆเหรอคะ"
พนักงานเช็คบิลถามอย่างสงสัย
"ครับ รับสี่คู่ขอไซส์ สามแปดหนึ่งคู่ไซร์สี่สองสามคู่ครับ"
เมื่อเฉินหยางพูดจบพนักงงานจึงรีบไปนำมาให้
"ลูกค้าคะ ทั้งหมดเป็นเงินหกแสนเจ็ดหมื่นหยวนค่ะ กรุณา กรอกรหัสบัตรค่ะ"
เฉินหยางเดินเข้ากรอกเสร็จ
ติงติง
เป็นเสียงสัญญาณเตือนว่าชำระเงินเสร็จ
เฉินหยางก็ได้หอบเอาของทุกอย่างแจกเพื่อนๆของเขาแล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี
.
..