บท
ตั้งค่า

THE HEARTLESS : 04

“พอเหอะ ผู้หญิงคนนั้นตายไปนานแหละ” เสียงเรียบไร้อารมณ์และความรู้สึกหลุดออกมาจากปากเขา นี่เป็นประโยคที่ยาวที่สุดในรอบสี่ปีและมัน...เจ็บปวดแสนสาหัสที่สุดเช่นเดียวกัน มันเป็นเหมือนมีดแหลมคมเป็นร้อยเล่มปักเข้ามาที่ใจฉัน มันเจ็บจนพูดไม่ออก ฉันเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยภาพที่พร่ามัวแต่กลับเห็นสายตาที่ว่างเปล่าของเขาอย่างชัดเจน

เขาคงหมดรักฉันแล้วจริงๆ ซินะ

ฉันผละถอยออกยกมือเล็กขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ แล้วปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอ่ยบอกคนตรงหน้าที่แสนจะเย็นชาและไร้หัวใจ

“งั้นเราคงไม่เคยรู้จักกัน ขอโทษนะคะรุ่นพี่ ที่ทำให้เสียเวลา” พูดจบฉันก็โค้งให้เขาน้อยๆ แล้วหันหลังดึงเปิดประตูเปิด แต่ก็ต้องชะงักไปเพราะทุกคนที่อยู่ในห้องเมื่อกี้ต่างพากันยืนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่หน้าห้อง ฉันรีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ทั้งเจ็บ ทั้งอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บ้าชะมัด...เลือกเอง ทำตัวเอง...เองแท้ๆ ยังจะมาหวังอะไรลมๆ แล้งๆ ใครเขาจะบ้ามาตั้งหน้าตั้งตารอผู้หญิงที่ทิ้งเขาไปตั้งสี่ปีขนาดนั้น แกมันบ้าไปแล้ว...โรส

Tanin Talk

ผมมองตามแผ่นหลังเล็กที่เพิ่งเดินออกจากห้องไป ใจหนึ่งก็อยากคว้าเธอเข้ามากอด อีกใจมันก็ยังไม่พร้อมจะกลับไปเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว ผมยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรงและไอ้พวกที่เผือกกันอยู่ข้างนอกก็ตามเข้ามานั่งประจำที่ตัวเอง

สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ผมอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะไอ้เหี้ยดิน ตัวดีเลยไอ้ห่าเนี่ย เสือกไม่เข้าเรื่อง มันคงอยากจะให้ผมกับโรสปรับความเข้าใจกัน แล้วเป็นไงล่ะทีนี้แย่กว่าเดิมเข้าไปอีก น่าตบให้กระบาลแยกจริงๆ

“กูคิดดีแล้ว” ผมพูดดักคอขึ้นทันทีที่เห็นว่าไอ้ดินกำลังจะอ้าปาก ทำให้มันเม้มปากเข้าหากันแน่นและหันหน้าหนีไปอีกทาง ผมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่และยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวจนหมด

ผมจะไม่ให้โอกาสผู้หญิงใจดำคนนั้นอีกแล้ว เพราะผมให้เธอมาตั้งสี่ปี...สี่ปีที่เธอไม่เคยคิดจะติดต่อกลับมาอธิบายให้ผมฟัง ว่าสาเหตุที่เธอทิ้งผมไปอย่างไร้เยื่อใยแบบนั้นมันคืออะไร จนกระทั่งวันนี้เธอก็ยังไม่คิดที่จะพูดมันออกมา ทั้งที่ผมให้โอกาสเธอแล้ว ไม่อยากได้ยินคำว่าขอโทษ คำว่ารัก หรือคำว่าคิดถึง แค่อยากรู้ว่าทำไมทิ้งกันไปแบบนั้นต่างหาก

บรรยากาศตึงเครียดเข้าปกคลุมภายในห้องทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรพูดอะไรในตอนนี้ แต่ถึงพวกมันจะคุยอะไรกันผมก็ไม่สนใจอยู่ดี ผมแอบเห็นหนูดา ภรรยาคนสวยของไอ้ดินซุบซิบอยู่ข้างหูสามีตัวเอง เดาไม่ผิดก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องผม ส่วนเฮียวามันก็คงไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้สักเท่าไหร่เลยลุกออกจากห้องไป

….

….

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ผมไม่รู้เลยว่ากินมันเข้าไปมากเท่าไหร่แล้ว ไอ้น้ำสีเหลืองทองเนี่ย เพราะมันเป็นสิ่งเดียวในตอนนี้ที่จะทำให้ผมลืมใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา นัยน์ตาสั่นไหวที่มองผมอย่างเจ็บปวดนั่นได้ แต่ผมกลับคิดผิดเพราะมันยิ่งทำให้ภาพเหล่านั้นชัดขึ้นไปอีก ดีที่เธอเลือกจะเดินออกไปก่อนเพราะถ้านานกว่านั้นผมคงต้องดึงเธอเข้ามากอดตามที่ไอ้ใจไม่รักดีของผมมันสั่งให้ทำแน่ๆ

“มึงจะไปไหน” ไอ้ยูเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินไปที่ประตู ผมหยุดฝีเท้าและหันกลับไปด่าเพื่อนจอมจุ้นเสียงเข้ม

“เสือก!”

“อ้าวไอ้ห่า”

ผมไม่สนใจว่ามันจะว่าอะไร หันกลับมาจับลูกบิดประตูหมุนดึงมันเข้ามาและเดินออกไปทันทีก่อนจะปิดมันลงอย่างแรง ตรงไปยังรถตัวเองที่จอดไว้ด้านหน้าก่อนจะขับมันออกมาด้วยความเร็ว

@คอนโด

ผมเดินออกมาจากลิฟต์ตรงไปยังห้องของตัวเองทันที แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้คิ้วหนาขมวดเป็นปมก่อนชะลอฝีเท้าลงเปลี่ยนเป็นค่อยๆ เดินเข้าไปหาร่างบางที่กำลังพยายามเปิดประตูคอนโดอย่างหัวเสียเพราะมันเปิดไม่ออก

“อ้าย ประตูบ้า~ ทามไมเปิดไม่ออกวะ~” เสียงหวานยืดยานที่พูดแทบจะไม่เป็นภาษานั่นทำให้ผมหลุดอมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ ยัยบ๊องเอ๊ย! จะเปิดออกได้ไง นี่มันประตูคอนโดเธอที่ไหนกันล่ะ ผมส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปโอบร่างที่โยกไปโยกมาทรงตัวยืนด้วยความยากลำบากนั้นไว้หลวมๆ เพื่อประคองเธอไม่ให้ล้มลงพื้น

“อ๊ะ ธามม~” โรสสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ผม ใบหน้าแดงก่ำ สายตาหวานเยิ้ม และกลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งกลบกลิ่นน้ำหอมไปจนหมดสิ้น เธอดื่มมาไม่น้อยเลยแหละ ปกติโรสไม่เป็นแบบนี้นะ ไม่เคยดื่มหนักขนาดนี้ด้วย เป็นบ้าอะไรวะ

อุ๊บ!

โรสเอามือขึ้นปิดปากหน้าตาตื่น ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กันเพราะกลัวเธอจะอ้วก แต่ไม่ใช่...

"ม่ายช่ายๆ ต้องเรียกรุ่นพี่ซินะ เราไม่ได้รู้จักกันนิเนอะ" เธอเอามือออกแล้วพูดขึ้นเสียงอ่อย หน้าหงอยลงอย่างน่าสงสาร ใจผมกระตุกวูบเลยกับคำพูดของคนในอ้อมแขน ขนาดเธอเมา ยังคิดถึงแต่คำพูดของผม มันคงทำร้ายจิตใจเธอไม่น้อยเลยและนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอดื่มหนักขนาดนี้

“เมา?”

“เราม่ายได้เมา~ แต่ประตูบ้าเนี่ยมันพัง เปิดม่ายออก” สิ้นเสียงผมคนในอ้อมแขนก็ยกมือขึ้นปฏิเสธเป็นพัลวันพร้อมทั้งยู่หน้าใส่ประตูคอนโดผมอย่างหงุดหงิด หนำซ้ำยังยกขาขึ้นเตะมันอย่างแรงจนตัวเองร้องขึ้นเสียงดันลั่นพลางลดตัวไปนั่งกุมเท้าด้วยความเจ็บ

ปึกกก

โอ้ยยย

“ทำบ้าอะไรเนี่ย” ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กันลดตัวลงชันเข่าพลางจับข้อเท้าเธอพลิกสำรวจดู ก่อนจะค่อยๆ ประคองเธอลุกขึ้น แย่งคีย์การ์ดมาจากมือเล็กและดูเลขห้อง ปรากฏว่ามันอยู่ตรงข้ามห้องผมพอดิบพอดี มีอะไรบังเอิญกว่านี้อีกไหม ผมก้มพินิจมองไอ้ชุดบ้าที่เธอใส่ด้วยความหงุดหงิด เกาอกสีดำที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาตั้งสองสามคืบ ใส่เข้าไปได้ยังไง เห็นไปถึงไหนๆ แล้วเนี่ย

ผมแตะคีย์การ์ดดันประตูเปิดและปิดมันลงด้วยเท้าของผม ก่อนจะพยุงร่างบางที่คอพับคออ่อนมานั่งลงบนโซฟา เหอะ...หอบสังขารกลับมาได้ไงวะ สภาพแย่ขนาดนี้ ผมย่อตัวลงถอดส้นสูงออกจากเท้าเล็กเพื่อจะดูว่าที่เตะประตูเมื่อกี้มันเป็นอะไรหรือเปล่า

“ธามมม~ โรสเจ็บ ม่ายช่ายตรงนั้น แต่มันเป็นตรงนี้ต่างหาก ฮึก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel