บท
ตั้งค่า

THE HEARTLESS : 05

“ธามมม~ โรสเจ็บ ม่ายช่ายตรงนั้น แต่มันเป็นตรงนี้ต่างหาก อึก”

ผมเงยหน้าขึ้นมองร่างบางที่พูดด้วยเสียงออดอ้อนราวกับเด็กน้อยก็ไม่ป่านพร้อมกับมือข้างขวาที่ทาบอยู่บนอกข้างซ้าย ก่อนจะค่อยๆ โน้มหน้าลงมาหาผม นัยน์ตาสั่นระริกแดงก่ำที่ไม่รู้จากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือจากการที่เธอร้องไห้กันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือผมเงาเห็นตัวเองสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน ใจผมที่มันแทบจะหยุดเต้นไปแล้วเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา แต่เธอทำให้มันกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เอาจริงๆ คือผมโคตรคิดถึงผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้เลย อยากกอด อยากหอม แล้วดูชุดที่ใส่ตอนนี้ดิ บวกกับตาหวานเยิ้มคู่นั้นอีก มันน่าไหม นี่เธอไม่ได้ยั่วผมอยู่ใช่ไหม

ปึกกกก

“โอ๊ยย!! เจ็บๆๆ”

ยัยตัวเล็กร้องออกมาพลางเอามือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ เมื่อหัวทุยเล็กโยกไปมาและมาจบที่หน้าผากผมอย่างแรงด้วยความเจ็บ ในขณะเดียวกับที่ผมไม่ทันตั้งตัวก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นอย่างจังโดยมียัยขี้เมาตัวแสบหล่นลงมานั่งเอนไปเอนมาอยู่บนตักผม หมดกันความคิดเมื่อครู่ เจ็บฉิบ...หัวแข็งจังวะ

“ไหนดูดิ” ผมจับมือเล็กออกจากหน้าผากพร้อมกับมืออีกข้างเลื่อนโอบเอวบางไว้หลวมๆ แล้วถามออกไปด้วยความเป็นห่วง ขนาดผมยังเจ็บเลยแล้วบอบบางอย่างเธอจะเหลือรึ

“เจ็บอ่า ธามม~~ เป่าให้เค้าหน่อย~~” เสียงเล็กออดอ้อนออเซาะหลุดออกมาพลางเลื่อนหน้าผากเข้ามาจ่อที่ปากผม เหอะ...ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน จากหน้ามุ่ยเพราะความเจ็บเมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นทำตาปริบๆ แทน ทำไมน่ารักจังวะ

“ไม่ต้องมาเนียน” ผมพูดต่อว่าคนขี้เมาบนตักพร้อมกับกดลงไปตรงรอยแดงเบาๆ อย่างกลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง นี่ผมกำลังเขินคนเมาเนี่ยนะ...เหอะ

“โอ้ยย เจ็บน้า~ อย่าแกล้งเค้าเซ่~” แต่โรสกับร้องออกมาดังลั่นจนผมตกใจพลางทำหน้าเหยเกบูดบึ้งใส่ผม เหอะ..สงสัยจะเจ็บมากจริงๆ ผมอดยิ้มให้กับความน่ารักของคนบนตักไม่ได้เลย

จุ๊บ///

ผมเลยกดจูบลงไปตรงรอยแดงบนหน้าผากมนเบาๆ แล้วผละออกเพื่อเป็นการปลอบประโลม ก่อนจะเอ่ยถามคนขี้อ้อนตรงหน้าอย่างอ่อนโยนพลางใช้นิ้วโป้งลูบคลึงรอยแดงนั่นไปด้วย

“หายเจ็บยัง”

“ยางเลย~~ ธามมจ๋าาา~ เป่าอีกๆ” เสียงเอื้อนเอ่ยอย่างออดอ้อนดังขึ้นอีกแบบคนได้ใจ เหอะ...ได้ทีแหละเอาใหญ่ ถ้ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน อย่าหวังว่าผมจะมาทำแบบนี้ให้เธอ เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่ตอนนี้สถานะเราเปลี่ยนไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมกำลังหวั่นไหวและใจสั่นสุดๆ

“เวอร์แหละ”

สิ้นเสียงผมโรสฉีกยิ้มหวานให้แล้วโผเข้ากอดผม ซุกข้างแก้มแนบเข้ากับแผงอกแกร่งแน่น จนผมชะงักไปนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เธอกอดอยู่แบบนั้น และใจผมแม่งเต้นโคตรแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว

“คิดถึงธาม~ อย่าเกลียดโรสเลย อย่าเกลียดโรสได้ไหม โรสรักธามคนเดียว อย่าเกลียดโรสเลยนะ อย่าเกลียด”

เสียงพึมพำคล้ายกับคนละเมอเล็ดลอดออกมาจากปากเล็กแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่มันกลับดังก้องอยู่ในโซนประสาทผมอย่างชัดเจนทุกคำ ก่อนจะค่อยๆ แผ่วลง...แผ่วลงและเงียบไปในที่สุด กลายเป็นลมหายใจที่สม่ำเสมอออกมาแทน นั่นบ่งบอกได้ว่าคนที่ฉวยโอกาสกอดผมหลับสนิทไปแล้ว

ผมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่พลางเลื่อนแขนไปกอดตอบร่างเล็กแน่นราวกับไม่อยากให้เธอหายไปไหนอีก ใจผมมันควบคุมทุกอย่างในร่างกายผมไปหมดแล้ว ผมกำลังแพ้ใจตัวเอง ผมควรจะทำยังไงดี ผมรักผู้หญิงคนนี้มากมายเหลือเกิน ไม่ว่าเธอจะทำให้ผมเจ็บปวดมากแค่ไหน สุดท้ายผมก็เกลียดเธอไม่ลงอยู่ดี

....

ผมช้อนร่างเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงเดินตรงเข้าไปในห้องนอนที่ถูกตกแต่งด้วยสีโรสซะเป็นส่วนใหญ่ตามสไตล์ของเธอ แล้วค่อยๆ วางร่างบางที่หลับใหลไม่ได้สติลงบนที่นอนหนานุ่มขนาดคิงไซซ์อย่างเบามือ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นไล่ไปตามกรอบหน้าหวาน ผมไม่ได้มองหน้าเธอชัดๆ แบบนี้มาสี่ปีเต็ม ขนตางอนงามยาวเป็นแพ จมูกเล็กโด่งคมเป็นสัน ปากเรียวเล็กที่ถูกแต้มด้วยลิปสติกสีหวาน ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวยขึ้นมาก อาจเพราะเธอโตขึ้นและเป็นสาวเต็มตัว อะไรๆ เลยดูสมส่วนไปหมด

สายตาคู่คมไล่ไปตามร่างอรชรที่นอนหลับสนิทเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถ้าผมทำอะไรเธอตอนนี้ เธอก็คงจะไม่รู้เรื่องหรอก ร่างกายที่ผมเฝ้าทะนุถนอมและคิดว่าเป็นของผมคนเดียวมาตลอด ไม่เคยแตะต้องล่วงเกินแม้แต่น้อยจนมาถึงตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่า...มันยังเป็นของผมอยู่รึเปล่า

ผมโน้มตัวลงไปกดจูบบนหน้าผากมนด้วยความโหยหา คิดถึง...คิดถึงมากเหลือเกิน ก่อนจะผละออกและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ร่างกายเธอ แล้วลุกขึ้นเดินสำรวจไปรอบห้องอย่างถือวิสาสะ รูปคู่ของเราที่ถูกวางไว้หลายจุดในห้องทำให้ผมหลุดยิ้มน้อยๆ ออกมา เธอยังรักผมเหมือนอย่างที่ปากพร่ำบอกจริงๆ แต่อะไรคือสาเหตุที่เธอทิ้งผมไปล่ะ

ใจผมหล่นวูบหุบยิ้มลงทันทีที่เหลือบไปเห็นรูปคุณน้ารัน ผู้เป็นมารดาของเจ้าของห้องวางอยู่บนหัวเตียง เธอคงจะเสียใจและเจ็บปวดไม่น้อยที่ต้องสูญเสียมารดาและญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ดูแลเธอมาตลอดไป ถ้าผมได้เป็นคนปลอบเธอในเวลาแบบนั้นก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งผู้เป็นบิดาที่เธอมาอยู่ด้วยในตอนนี้ผมไม่เคยเห็นหน้าท่านด้วยซ้ำตั้งแต่วันที่ คุณน้ารันกับโรสย้ายเข้ามาอยู่บ้านใกล้ผมเมื่อสิบกว่าปีก่อนตอนผมอายุประมาณเจ็ดขวบ

รักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นในตอนนั้น ผมหันกลับไปมองร่างบอบบางบนเตียงอีกครั้ง แล้วนึกถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่ชิงช้าสวนสาธารณะในหมู่บ้านเพราะคิดถึงพ่อ ผมรู้สึกอยากปกป้องเธอตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนเปลี่ยนความคิดผมได้ เวลาต้องการปลดปล่อยก็แค่บอกไอ้ดินมันก็จัดการหาเด็กมาให้แหละ จ่ายตังค์ก็จบ ไม่ผูกมัด ไม่มีเงื่อนไข และผมก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ เพราะยัยขี้แยนี่ยึดพื้นที่ในใจผมไปจนหมด หึ..

“อ้ายยคนจายร้าย~”

“เชี่ยยย!!”

ผมสะดุ้งสุดตัวพร้อมอุทานออกมาเสียงดังเอามือทุบอกเบาๆ เมื่อจู่ๆ ร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงดีดตัวขึ้นนั่งชี้มือไปข้างหน้าพ่นคำยืดยาวออกมาทั้งที่เปลือกตาบางยังปิดสนิท ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ผมเลยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก...ใจหายแวบเลยกู เหอะ...กระเจิดกระเจิงไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ความคิดเมื่อกี้ ผมเดินอ้อมไปนั่งลงข้างคนที่นอนไม่ได้สติอีกครั้ง มือหนายกขึ้นบีบจมูกโด่งเล็กเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ลึกๆ ผมก็ดีใจไม่น้อยที่เธอกลับมา

“ยัยขี้แย เราไม่ได้ค่อยเช็ดน้ำตาให้โรสตั้งสี่ปี โรสทำยังไงถึงหยุดร้องไห้ได้โดยไม่มีเรา เข้มแข็งขึ้นแล้วซินะ ถึงอยู่ได้โดยไม่มีเรา แต่เรากลับอ่อนแอลงทุกวันตอนที่ไม่มีโรส เราจะทำยังไงดี ดูเหมือนยิ่งฝืนเท่าไหร่มันยิ่งเป็นแรงดึงดูดให้เราเข้าใกล้กันมากเท่านั้น และมันยิ่งเจ็บมากกว่าเดิม”

จุ๊บ///

พูดจบผมก็ก้มลงจุมพิตไปที่ปากบางเบาๆ ก่อนจะผละออก ผมเกลียดผู้หญิงคนนี้ไม่ลงจริงๆ ยิ่งอยากให้เธอตายไปจากใจเท่าไหร่ มันยิ่งตอกย้ำว่าผมยังมีเธออยู่ในใจมากขึ้นเท่านั้น กลายเป็นผมที่อ่อนแอจนไม่อาจทำอย่างที่สมองสั่งการได้สักอย่าง และตอนนี้มันมีความรู้สึกอีกอย่างเกิดขึ้นมาด้วย ผมตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ เพราะถ้าอยู่นานกว่านี้ผมไม่มั่นใจตัวเองเลย แค่กลิ่นหอมจากร่างกายเธอผมก็แทบความคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่น่าไปจุ๊บปากเธอเลย เป็นห่าอะไรวะ...หื่นขนาดนี้เลยเหรอกูเนี่ย หรืออาจเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ได้ปลดปล่อยรึเปล่า ช่างแม่งเหอะ...กลับห้องก่อนดีกว่า ผมเอามือขยี้ผมตัวเองก่อนจะดึงประตูคอนโดเธอเปิดออก

และก็ต้องชะงักไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะไอ้เพื่อนรักจอมจุ้นยืนหรี่ตามองอย่างจับผิดเมื่อเห็นว่าผมเปิดประตูออกมาจากห้องตรงข้าม ผมรีบเก๊กหน้าให้เหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะปิดประตูลงอย่างเบามือ

“มาทำเหี้ยไร ดึกป่านนี้” ผมเอ่ยถามเพื่อนรักตัวเองที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างพิงประตูห้องผมอยู่เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากสิ่งที่มันเห็น

“นั้นดิ ดึกป่านนี้แล้ว มึงเข้าไปทำอะไรในคอนโดโรสตั้งนานสองนาน” สิ้นเสียงไอ้ดินตามผมก็เบิกกว้างขึ้นทันที มันรู้ได้ไงว่าห้องโรส ขนาดผมเองยังเพิ่งรู้ก่อนหน้านี้ไม่นาน หรือว่า...

“นี่มึง”

“เออ กูเห็นตั้งแต่มึงพาโรสเข้าไปแหละ เนียนได้อีกนะมึงอะ หึ” มันพูดขึ้นเสียงเรียบและยกยิ้มขึ้นมุมปากอย่างกวนส้นตีนสุดๆ น่าเตะปากฉิบหาย แม่งเอ๊ย! บังเอิญอะไรเบอร์นี้วะ แล้วแม่งก็ความอดทนสูงจริงๆ ยืนรอกูตั้งนานเพื่อจะจับผิดกูเนี่ยนะ นับถือเลยไอ้ห่า แต่ผมก็ยังทำเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินมาหันหลังพิงกำแพงข้างประตูยกเท้าไปข้างหลังเพื่อยันกำแพงไว้ข้างหนึ่งและก้มมองปลายเท้าอีกข้างอยู่แบบนั้น

“มึงยังรักโรสอยู่ ทำไมถึงปฏิเสธมันวะ โรสมันต้องมีเหตุผลแน่ๆ ที่ทำแบบนั้น ไม่ลองให้ใจมึงมันเลือกเองหน่อยเหรอวะ”

“เพื่อ?” ผมเลิกคิ้วหันไปถามไอ้ดินทันที แบบหน้านิ่งๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยแสดงอาการอะไรให้ใครเห็นอยู่แล้ว เก็บมันได้ดีเลยด้วยซ้ำ

“อ้าวไอ้ฟาย ก็เพื่อความสุขของมึงและก็คนที่มึงรักไง ที่มึงทำอยู่แบบนี้ มีความสุขดีแล้ว?” ไอ้ดินด่าผมพร้อมกับผลักหัวจนเซไปตามแรงของมันก่อนจะพูดบอกให้ผมคิด ใช่...ตอนนี้ผมไม่มีความสุข แต่ถ้าผมยอมทำตามใจตัวเอง ผมจะมีความสุขจริงเหรอ ใครจะรับประกันได้ว่าผมจะมีความสุขจริงๆ ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน คิดไม่ตกจริงๆ กับเรื่องนี้ ยิ่งคิดยิ่งหาทางออกไม่เจอ มันตื้อไปหมด

“เอาให้แน่นะมึง นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้าย คิดให้ดี” ไอ้ดินพูดย้ำผมอีกครั้งพลางตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์เพื่อกลับขึ้นคอนโดตัวเอง ไอ้เพื่อนเวร...อยู่รอเพื่อทิ้งคำถามไว้ให้กูปวดหัวแล้วก็ไป เหี้ยจริงๆ

แล้วผมควรจะทำยังไงกับสิ่งที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ดี สายตาคู่คมจ้องบานประตูห้องตรงหน้าที่ปิดสนิทด้วยแววตาที่สับสนวุ่นวาย นั้นไง...เสือกคิดตามที่มันพูดอีก ความคิดในหัวผมแม่งตีกันอีนุงตุงนังไปหมด ผมยังรักโรสแล้วโรสก็ยังรักผม ถ้าเอาแบบง่ายที่สุดก็คือเรากลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่ที่มันยากเพราะผมกลัวจะต้องกลับไปเจ็บแบบนั้นอีก….

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel