ตอนที่ 3 สัมภาษณ์/3
ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอีกสินะ
“ฉันดื่มเองได้” คว้าหมับเข้าที่แก้ว พร้อมจิบไปเพียงเล็กน้อย ความบาดลึกของมันทิ่มแทงเสียจนเธอต้องไอออกมาอีกหน
ใบหน้าแดงปลั่งขึ้น...พร้อมๆ กับที่แววตากลมโตแดงก่ำ
“อีกหน่อย เดี๋ยวไม่หาย” ปลายนิ้วชี้ของเขาดันที่ก้นแก้ว เชิงจะป้อนให้เธอดื่มมันอีกรอบ
เพื่อตัดความรำคาญและห้วงเวลาพวกนี้ให้มันรีบจบๆ สิ้น หญิงสาวจำต้องกลั้นใจกระดกไปอีกสักอึก...แต่ไม่ใช่แค่อึก มันแทบจะหมดแก้วได้!
ก็เพราะเจ้าปลายนิ้วแข็งแรงของเขานั่นแหละ ที่ดันก้นแก้วจนคอกเทลลงคอเธอไปจนเกือบหมด
“แค่กๆ” หล่อนสำลักมันอีกจนได้สิน่า!
ฟางข้าวเนื้อแทบเต้น...
หล่อนเห็น เห็นว่าเขากำลังยิ้มเยาะอยู่ในดวงตาเรียบเฉยคู่นั้น
แกล้งกันหรือนี่!
“ใช้ได้” หล่อนไม่นึกหรอกว่านี่คือคำชมที่ควรจะยิ้มย่อง เขาเป็นปีศาจร้ายเกินกว่าชื่อเสียงเรียงนามเสียจริงๆ
คอกเทลออกฤทธิ์รวดเร็ว ทำเอาคนคออ่อนร้อนผ่าวไปทั่วร่าง ขนาดอากาศที่ว่าหนาวก่อนหน้า ก็ไม่อาจระงับความร้อนที่อยู่ตอนนี้ได้
“ทำอะไรอยู่นะเราน่ะ”
สุ้มเสียงทุ้มเอ่ยชิดข้างหู ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้ไปทั่วไหล่กลมมน ปลายจมูกพ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาไม่หยุดหย่อน
“เพิ่งลาออกจากงานธนาคารค่ะ” น้ำเสียงติดขัดพยายามเข้มแข็ง เชิดใบหน้าขึ้น...แม้จะรู้สึกแขยงบริเวณแถวต้นคอเพียงใด
“ทำไมล่ะ”
กลิ่นหอมกรุ่นแถวๆ ปลายจมูกทำให้เขาต้องยื่นเข้าไปคลอใกล้ แบบแทบอยากจะฝังจมูกโด่งคมลงไป เสียให้รู้แล้วรู้รอด
“มีปัญหานิดหน่อยค่ะ” กลั้นลมหายใจตอบ หลับตาลงเหมือนพยายามข่มตัวเองไม่ให้เบี่ยงตัวหนีจากสัมผัส
“รู้อะไรเกี่ยวกับงานนี้บ้าง” คำถามเรียบเรื่อยของเขาเหมือนถามฆ่าเวลาเสียมากกว่า หล่อนไม่อยากจะเสียเวลาตอบเลยด้วยซ้ำ
“รู้ทุกอย่างค่ะ”
แน่สิ...ถ้าไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียดและเข้าใจถ่องแท้แล้ว มีหรือที่คนอย่างฟางข้าว จะยอมเลือกทำสิ่งไหน
หล่อนเป็นเด็กเรียนเก่ง มีความสามารถ สวย ฉลาด ทุกอย่างดูพร้อมสรรพ หากแต่มันกลับเปล่าประโยชน์นัก กับชีวิตเส็งเคร็งที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้น่ะ
“รู้ แต่ทำไมยังทำอยู่ล่ะ” เขาไม่ได้ตำหนิ แต่กำลังตักเตือนเหมือนผู้ใหญ่เตือนเด็กเสียมากกว่า
‘แด๊ดดี้เขาไม่ชอบผู้หญิงเก่ง ฉลาดเป็นกรด เขาชอบคนว่าง่าย ใจง่าย อยู่ในโอวาท โง่ด้วยจะดีมาก แกอย่าเผลอไปฉลาดให้เขาเห็นเชียว!’
หล่อนลืมไปเสียสนิท จนต้องค่อยๆ หันไปช้อนสายตาขึ้นสบกับเขาช้าๆ ยกสองมือขึ้นพนมก้มกราบแทบอกเขาด้วยความกล้ำกลืนฝืนใจ
มือแกร่งข้างหนึ่งมารวบมือเธอไว้เหมือนรับไหว้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอความชอบใจออกมา พอจะพาให้ใจหญิงสาวชื้นขึ้น
“ฟางขอโทษค่ะ...ฟางแค่ไม่ชินน่ะค่ะ”
ทำเป็นหลบเอียงอาย ทอดสายตาลงต่ำ เอนกายลงไปซบกับลำแขนแกร่งของเขาที่โอบล้อมรอบกายตัวเองอยู่
“ไม่เคยนอนกับใครถูกมั้ย ที่ให้ข้อมูลมา”
นั่นล่ะที่หล่อนคิดว่า นี่น่าจะเป็น ‘ความสามารถพิเศษ’ ที่พอจะเอามาชนะคนอื่นเขาได้
พยักหน้าตอบรับน้อยๆ จนเห็นว่าดวงตาของเขา ทอแสงบางอย่างออกมา ก่อนเหลือบมองเรือนร่างของเธอทีละส่วนแบบละเอียด อย่างจงใจเป็นครั้งแรก
ฟางข้าวหายใจเริ่มไม่ออกแล้ว รู้สึกกระอักกระอ่วนไปหมด แต่จะทำอย่างไรได้ เลือกแล้วนี่
“ฉันเป็นพวกไม่เชื่อคำพูดใครง่ายๆ เสียด้วยสิ” พูดพร้อมวางฝ่ามือหยาบกร้านนาบลงบนต้นขาเรียวงาม ที่มีกระโปรงรัดรึงตัวสั้นพาดผ่านเพียงครึ่ง
ส่วนที่เปิดเปลือยนั่นแหละ ที่เขาวางมือลงไป เคลื่อนไหวปลายนิ้วเพียงนิด ลมหายใจของหล่อนก็แทบขาดห้วง
หัวหน้ามาเฟียผู้ทรงอิทธิพลจ้องกวางน้อยในวงแขนของตัวเองก็ยิ่งรู้สึกสนุก เจ้าหล่อนดับความหงุดหงิดเรื่องงานก่อนหน้าไปจนได้หมด
หล่อนเบี่ยงเบนความสนใจจากทุกอย่างบนโลก ให้ลงมาที่ตัวเองได้อย่างน่าประหลาด