เทียนเผารัก - 5
YUKKII CASINO
ตอนนี้รถคันหรูสีน้ำเงินคันเดิมที่ไปรับรุ้งนภาที่สนามบินเมื่อคืนได้ขับมาจอดหน้ากาสิโนชื่อดังในย่านกลางเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดวงตาเรียวสวยมองป้ายชื่อกาสิโนสีทองอร่ามขนาดใหญ่ที่ติดอยู่หน้าประตูพลางเอ่ยถาม
"นี่ไม่ใช่ Lanlan Casino นี่คะ?" เธอเริ่มมีหางเสียงเมื่อรู้แล้วว่าคนที่อยู่หลังพวงมาลัยรถไม่ใช่คนของพ่อบุญธรรมเธอ
"ครับ นายให้ผมพาคุณเซินมาส่งที่นี่"
นี่มันอะไรกัน เธอได้รับภารกิจให้เข้าใกล้เจ้าของ Lanlan Casino ไม่ใช่ Yukkii Casino แห่งนี้สักหน่อย
"เชิญครับ"
มัวแต่คิดอะไรเพลินจนไม่รู้ตัวว่าประตูฝั่งที่ตนนั่งอยู่ถูกสารถีหน้าตาหล่อเข้มเปิดให้แล้ว ขาเรียวสวยภายใต้กระโปรงจีบลายหมากฮอตสีแดงเลือดนกค่อย ๆ ก้าวลงมาเหยียบพื้น สายตาเธอยังคงมองป้ายชื่อกาสิโนแห่งนี้พร้อมขบคิดอยู่ในหัว
"ทำไมนายคุณถึงให้พามาที่นี่" รุ้งนภาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
หรือเธอทำอะไรให้ถูกจับได้เลยไม่ถูกพาไปที่ที่ควรจะได้ไป
"เดี๋ยวเข้าไปคุณเซินก็จะรู้คำตอบเอง" มือหนาภายใต้ถุงมือหนังสีดำผายเชื้อเชิญให้อีกคนเดินไปด้านหน้าอย่างมีมารยาท ความนอบน้อมนี้ช่างขัดกับหน้าตาที่ออกแนวเข้มดุของเขาเหลือเกิน
เมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้าของกาสิโนชื่อดัง การ์ดฝีมือดีที่คอยเฝ้าคนเข้าออกรีบค้อมหัวทำความเคารพลูกน้องคนสนิทของภรรยาเจ้าของที่นี่ทันที
"สวัสดีครับคุณฉิงเฉา" หนึ่งในการ์ดเอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร
ฉิงเฉาทำเพียงแค่มองสบตาคนพูดแค่ชั่ววินาทีก่อนจะเปิดประตูให้แขกที่มาจากต่างแดนเดินเข้ามา
ภายในกาสิโนแห่งนี้ว่าชื่อสถานที่หรูหราแล้วด้านในก็หรูหราไม่แพ้กัน พอเห็นแล้วนึกถึงวอลเลอร์กาสิโนของพ่อบุญธรรมเธอเลย บรรยากาศมันได้ เสียงดนตรีของเครื่องเล่นมันแสนยั่วยวนให้อยากเดินไปหยอดเหรียญเสี่ยงโชคจริง ๆ
"นายอยู่ไหน" ฉิงเฉาเดินมาถามการ์ดที่เฝ้าบันไดทางขึ้นชั้นบน
"อยู่ห้องครัวครับ" คนถูกถามรีบตอบทันที
"เชิญทางนี้ครับ"
บอดี้การ์ดหุ่นมาดแมนผายมือเปลี่ยนทิศทางเชิญสาวสวยลุคคุณหนูที่เพิ่งลงเครื่องมาเมื่อคืนไปยังห้องครัวที่ว่า
เสียงคุยกันจอแจดังขึ้นภายในห้องครัวที่กว้างขวางประมาณหนึ่ง
บอดี้การ์ดฝีมือดีที่นำทางสาวสวยเคาะประตูที่เปิดอ้าไว้เพื่อแจ้งเจ้าของห้อง
"นายครับ คุณเซินมาแล้วครับ"
คนถูกเรียกที่กำลังง่วนอยู่กับการจับนั่นปรุงนี้เพื่อให้น้องสาวสุดที่รักชิมจิ๊ปากทันที "มึงจัดการก่อน"
คนได้ฟังที่รู้ว่าเขาหมายถึงตนเองชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที
"ถ้ายุ่งอยู่น่าจะนัดกันวันหลังนะคะ"
ความเป็นคนไม่ยอมใคร ดื้อรั้นของรุ้งนภาทำให้เธอเอ่ยออกไปอย่างประชดประชันอย่างรับรู้ได้
หลั่นเทียนวางของในมือลง ค่อย ๆ หันใบหน้าคมคร้ามมองเจ้าของเสียงกึ่งประชดนั่น
"คุณเซิน?" เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเซินที่ว่าคือใคร รู้เพียงแค่ว่าเมื่อวันก่อนได้รับสายด่วนจากหลันเฟิงกู้ หรืออากู้ น้องชายพ่อของเขาที่เสียไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน
หลันเฟิงกู้เป็นญาติคนเดียวที่เขาสองพี่น้องเหลืออยู่ให้เป็นที่พึ่งพิง ทว่าเมื่อวันก่อนอาที่ทั้งรักและเคารพกลับโทร.มาแจ้งข่าวกึ่งดีกึ่งร้ายว่าจะมีคนมาขอฝึกงานด้วยที่กาสิโน
คราแรกที่ได้ฟังรู้สึกแปลกใจเพราะที่มาร์เก๊าของอาก็มีกาสิโนอยู่เกลื่อนกลาดทำไมต้องพุ่งเป้ามาที่กาสิโนเขา แต่ด้วยความที่ผู้เป็นอาเอ่ยขนาดนี้แสดงว่าคนที่ถูกส่งมาต้องไม่ธรรมดาเขาจึงไม่ปฏิเสธ
ตอนนั้นหลันเฟิงกู้บอกเพียงแค่ว่าชื่อ เซิน เซี่ยอวี่ แต่ไม่ได้บอกว่าคนที่ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หลันเฟิงกู้บอกเพียงแค่ว่าให้ดูแลคนของเขาให้ดีเหมือนที่ดูแลหลันไฉ่หงน้องสาวของเขา
มันจะไปเทียบกันได้ยังไงในเมื่อไฉ่หงเปรียบเสมือนหัวใจอีกดวงของเขาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นฝั่งเป็นฝามีสามีที่สามารถดูแลเธอแทนเขาได้เขาก็ไม่วางใจ
ไม่ใช่ไม่เชื่อฝีมือ แต่เพราะโรคคลั่งน้องสาวของเขาเป็นเหตุต่างหาก
"ใครคะ?" ไฉ่หงมองหญิงสาวที่มาใหม่แถมการแต่งการยังดูเปรี้ยวแต่มีความมั่นใจเปี่ยมล้นด้วยความถูกชะตา
"คนที่อากู้ส่งมา"
"อาเฟิงกู้?" เธอเองก็ไม่ได้ติดต่อคุณอานานแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าไปได้สาวสวยคนนี้มาจากที่ไหน
"ที่จริงฉันก็อยากนัดเธอวันหลัง แต่ไม่อยากผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ เลยอยากได้จดหมายที่อาฉันบอกว่าอยู่กับเธอ"
เขาเริ่มสาธยายเกี่ยวกับเหตุผลที่เรียกอีกคนมาวันนี้
"ในเมื่อคุณก็รู้ว่าฉันจะมาแล้วทำไมไม่เตรียมตัวคะ"
เด็กคนนี้ใช่ย่อย เถียงเก่ง ท่าทางจะดื้อเอาการ
"ฉันบอกไอ้ฉิงเฉาให้พาไปรอที่ห้องทำงาน"
คนถูกเอ่ยชื่อมองหน้านายอย่างคันปาก ทว่าเพียงแค่สบตาเขาเท่านั้นก็รู้ใจทันทีว่าเป็นข้ออ้างให้หญิงสาวเลิกโทษตน
"ผมผิดเองที่ลืมคำสั่ง เชิญคุณเซินทางนี้ครับ"
"แปลกจัง ปกติฉิงเฉาไม่ได้เป็นคนขี้ลืมขนาดนี้นี่"
ยายน้องนะยายน้อง!
จะมาหักหน้าพี่ชายต่อหน้าคนแปลกหน้าอย่างเธอไม่ได้นะ ดูก็รู้ถ้าความจริงถูกเปิดว่าเมื่อกี้เป็นการโยนความผิดให้ลูกน้องมีหวังโดนผู้หญิงคนนั้นล้อตายเลย เขามองคนผิดเสียที่ไหน สายตาระดับหลันหลั่นเทียนคนนี้ไม่เคยมองอะไรพลาด
"นั่นสิคะ ดูก็รู้ว่าไม่กล้ารับผิดเพราะกลัวเสียหน้า"
"ใครกลัวเสียหน้า"
เจอกันยังไม่ถึงสิบนาทีก็ดูจะเข้ากันไม่ได้แล้วละงานนี้
สงครามน้ำลายเกือบจะเริ่มถ้าไม่ได้ 'ยูกิ' เจ้าของกาสิโนแห่งนี้เข้ามาห้ามศึกไว้ก่อน ทำให้ตอนนี้ทั้งห้าคนย้ายจากห้องครัวมาที่ห้องทำงานของเขากันหมดแล้ว
"หงส์ มานั่งนี่มา"
มือหนาตบลงบนโซฟาข้างตัวเองจนคนเป็นพี่ชายมองตาขวาง
"ให้พี่น้องเขามีเวลาอยู่ร่วมกันบ้างก็ได้เถอะมึง"
อาการหวงน้องสาวกำเริบอีกแล้ว
"น้องมึงแต่เมียกู คิดว่าคนไหนสำคัญกว่ากัน?"
คนพูดนี่ก็ใช่ย่อย ควบทั้งตำแหน่งเพื่อนสนิทและน้องเขย แต่ดันเป็นน้องเขยที่ติดเมียไม่แพ้เขาจนต้องมาตามหึงตามหวงกันไปมา
"พวกเฮียพอเลยค่ะอายแขกบ้าง"
เกิดเป็นเธอนี่เหนื่อยนะ คนหนึ่งก็พี่ชายคนหนึ่งก็สามี ความสำคัญไม่แตกต่างเพราะเธอรักและเคารพทั้งสองเท่ากัน คงมีแค่สองคนนี้แหละที่ชอบทำตัวให้เหนือกว่ากันด้วยเรื่องของเธอ
"เห็นแก่ยายน้องนะมึง"
แน่ะ! ยังจะมาแยกเขี้ยวขู่กันอีก
ส่วนอีกคนก็เบาที่ไหน ยูกิเอื้อมมือไปโอบกอดเอวภรรยาตนเองแสยะยิ้มมุมปากท่าทางเป็นต่อใส่หลั่นเทียน
"ไหนจดหมาย"
หลั่นเทียนยอมละสายตาจากคู่รักคู่ข้าวใหม่ปลามันที่ทำอะไรไม่เกรงใจพี่ขายอย่างเขาหันมาเอ่ยถามผู้หญิงตรงหน้า
สายตาคมเริ่มสังเกตคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้า ผิวเธอขาวเหมือนดั่งสำลีทว่าก็มีเลือดฝาดสีชมพูคล้ายกลีบซากุระแต่งแต้ม โครงหน้ารูปไข่ดวงตากลมโตเล็กน้อย จมูกโด่งรั้นแบบเอาแต่ใจ ท่าทางดื้อรั้นไม่เบา ริมฝีปากบางเป็นกระจับสีชมพูระเรื่อชวนให้หลงใหล
การแต่งตัวที่แหวกแนวเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระโปรงจีบรอบลายหมากฮอตสีแดงเข้ากับทรงผมที่ทำตามแฟชั่นสองสี ปอยผมด้านหน้าขาวส่วนที่เหลือสีน้ำตาลธรรมชาติเพิ่มลุคให้ดูเปรี้ยวเข็ดฟันเหมือนสาวสก๊อยสายแว้นตามท้องถนนที่เขาเคยเห็นบ่อย ๆ
มือเรียวที่ถูกถามหาของสำคัญค่อย ๆ ล้วงเข้าไปในกระเป๋าแบรนเนมราคาครึ่งแสนออกมาแล้วยื่นให้เขา หลั่นเทียนเอื้อมไปหมายจะหยิบจดหมายฉบับนั้นมาอ่านทว่าสาวน้อยกลับชักมือกลับเสียอย่างนั้น
"อุ้ย! ผิดฉบับ" เธอแกล้งทำเสียงอุทานที่ฟังแล้วดูแบ๊วในสายตาคนอื่น แต่กับเขาที่มองคนขาดรู้ได้ในทันทีเลยว่าโดนเด็กเล่นหัวเสียแล้ว
'ทนเอาไอ้เทียน อย่างน้อยอากู้ก็ส่งเธอมา ไม่เห็นแก่เธอก็เห็นแก่อามึงแล้วกัน'
"นี่ค่ะ" ริมฝีปากบางเป็นกระจับยิ้มให้จนปากแทบจะฉีก ทว่าอีกคนกลับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นจดหมายในมือเธออีกครั้ง
"นี่มันอันเมื่อกี้?" เสียงเขาดูฉุนเล็กน้อยมองหน้าผู้หญิงตรงหน้าอย่างต้องการคำอธิบาย
"กายนึกว่าหยิบจดหมายผิดซองต้องขอโทษด้วยมาก ๆ นะคะ"
เห็นใบหน้าเหวอ ๆ ปนหงุดหงิดของเขาแล้วรู้สึกหัวใจสูบฉีดแรงกว่าปกติ คงจะเพราะนาน ๆ ทีจะมีผู้ชายหล่อเหลาหน้าตาดีแบบนี้มาให้แกล้งเล่นมั้ง
ภารกิจครั้งนี้ทำไมดูท่าแล้วเธอไม่อยากให้มันจบเลยนะ อยากจะเปลี่ยนจากทำลายเขาเป็นล่าหัวใจอีกคนแทนเสียงั้น
"ยายแสบ!" เพิ่งเจอกันยังไม่ครบวันก็หัวจะปวดแล้ว
นี่ถ้าในจดหมายมีอะไรที่เกี่ยวข้องระหว่างเขากับเธอมากกว่านี้คงอกแตกตายมีอันได้จับเธอยัดลงกระเป๋าส่งขึ้นเครื่องกลับมาเก๊าทันทีแน่ ๆ
"อากู้เขียนว่ายังไงบ้างคะ" ไฉ่หงเอ่ยถามพี่ชายเมื่อเห็นเขาคลี่จดหมายฉบับนั้นอ่านได้สักพักแล้ว
"เธอนี่มันเด็กเส้นจริง ๆ" แถมยังเส้นใหญ่เหนียวหนึบเสียด้วย
"สกายไม่ 'เด็ก' แล้วนะคะ"
"ฉันไม่ได้หมายถึงอายุ แต่หมายความว่าเธอนี่ช่างมีแบล็กหลังดีจริง ๆ"
ไม่ใช่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่าเด็กเส้น เพียงแค่อยากจะแหย่เขาเล่นเท่านั้นเองเพราะเห็นเวลาหลั่นเทียนทำหน้าหงุดหงิดแล้วดูมีเสน่ห์