เทียนเผารัก - 6
"ตกลงอากู้บอกว่ายังไงบ้างคะ" ไฉ่หงอยากรู้ใจจะขาด ทว่าพี่ชายก็เอาแต่หยอกเล่นกับเธอคนนั้นอยู่ได้
"เอาไปอ่านเอง"
จดหมายฉบับนั้นถูกส่งต่อไปให้น้องสาวเขา ไฉ่หงใช้เวลาอ่านไม่กี่นาทีก็อ่านจบ "ยินดีต้อนรับนะคะคุณเซินเซี่ยอวี่"
รอยยิ้มที่ทำให้ยูกิและใครหลายต่อหลายคนหลงเสน่ห์ผุดพรายขึ้นบนกรอบหน้าสวยหวาน
"เรียกสกายดีกว่าค่ะ"
เธอไม่ค่อยชอบชื่อแซ่นั้นสักเท่าไร อาจจะเพราะพื้นเพเป็นคนไทยแท้มั้งแถมยังไปโตที่ลาสเวกัสอีก ทำให้ไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อเซินเซี่ยอวี่สักเท่าไร
"สกาย?" เสียงทุ้มของหลั่นเทียนเอ่ยถาม
"สกายคือชื่อเล่นฉันค่ะ"
"ทำไมต้องมีหลายชื่อ?"
"ฉันโตที่ลาสเวกัส"
"อ้อ เลยเปลี่ยนชื่อเล่นตามถิ่นที่อยู่?"
จะซักไซ้สนใจทำไมกะอีแค่ชื่อเล่น แต่นั่นหมายความว่าเขาเริ่มสนใจในตัวเธอ... หรือเปล่านะ
"ประมาณนั้นค่ะ"
"เมื่อกี้เธอบอกว่าโตที่ลาสเวกัส แต่ทำไมอาฉันต้องส่งเธอมาด้วย"
ซวยแล้วไหมล่ะ!
ทว่าด้วยความฉลาดของเธอมักจะแก้ไขสถานการณ์ได้ดีเสมอ
"ฉันบอกว่าโตที่นั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยกลับมาเหยียบที่มาเก๊านี่คะ?" คิ้วโก้งสวยเลิกขึ้นเหมือนต้องการท้าทายอีกคนให้จับผิดเธออีก
"เธอเป็นหลานอากู้"
หลาน? ข้อนี้พ่อบุญธรรมเธอไม่ได้บอกไว้ด้วยสิ
"ในนั้นเขียนแบบไหนก็ตามนั้นค่ะ ถ้าสงสัยอะไรคุณโทร.ไปเคลียร์กับอาคุณที่ส่งฉันมาไม่ดีกว่าเหรอคะ" เกรงว่าจะตอบไม่ตรงกับในจดหมายเลยต้องหยิบยกคนที่เป็นลูกค้าพ่อบุญธรรมเธอมาอ้าง หวังให้คนตรงหน้าไม่มาไล่บี้อะไรกับเธออีก
"เฮียเทียนจะซักอะไรนักหนาอะ นี่ก็ลายมือคุณอาอยู่แล้วนี่คะ" คนถูกน้องสาวดุถึงกับทำหน้าหงอ เล่นเอาคนที่รอคอยเวลาซ้ำรีบส่งเสียงทันที
"นิสัยพี่ชายเธอเป็นแบบไหนยังไม่ชินอีกเหรอ" แถมท้ายด้วยการแสยะยิ้มอย่างเย้ยเพื่อน
"คุณสกายไม่ต้องไปสนใจนิสัยเสีย ๆ เฮียเทียนนะคะ หงส์เชื่อว่าคุณสกายเป็นหลานอีกคนของอากู้และถูกส่งมาเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์อย่างที่คุณอาเขียนในจดหมายนี้"
คนอะไรนอกจากสวยแล้วยังจิตใจดีอีก แต่นิสัยแบบเธอน่าจะถูกหลอกได้ง่ายเพราะเป็นคนดีจนเกินไป
"ถ้าอากู้มีหลานอีกคนทำไมเราไม่เคยรู้เรื่อง"
นั่นสิ! ทำไมในจดหมายนั้นต้องบอกว่าเธอคือหลานของคนที่มาจ้างวานพ่อบุญธรรมเธอด้วย
อีกอย่าง อาจ้างทำลายหลาน แบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไร
"อากู้ทรงอิทธิพลแค่ไหนเฮียเทียนลืมไปแล้วเหรอคะ สาว ๆ น่าจะเยอะอยู่นะ"
สิ่งที่ไฉ่หงกำลังจะบอกคือ อาของเธออาจจะไปมีเมียเล็กเมียน้อยที่ไหนไว้ แล้วผู้หญิงตรงหน้าเธออาจจะเป็นหลานเป็นลูกติดหรือญาติสักทางของผู้หญิงที่อาเธอติดพัน
"ด้วยนิสัยของอากู้..."
"ถ้ามึงจะมานั่งคิดมากขนาดนี้กูว่าโทร.เถอะครับ" ยูกิเริ่มรำคาญความรอบคอบขี้สงสัยของเพื่อนสนิท เขาโยนโทรศัพท์มือถือของตนเองให้อีกคนจนเกือบรับแทบไม่ทัน "มึงก็รู้กูผ่านอะไรมาบ้าง คนใกล้ตัวนี่แหละร้ายที่สุด!"
ก็อาจจะจริง ในเมื่อน้องสาวเขากับเขาเพิ่งผ่านอะไรร้าย ๆ มา
แถมคนที่เป็นคนกระทำทั้งหมดก็เป็นคนใกล้ตัวที่แทบจะคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะโหดเหี้ยมอำมหิตถึงขนาดนั้น
"แต่นั่นอามึง"
หลั่นเทียนมองหน้าเพื่อนรักสลับกับคนที่นั่งมองเขาอย่างไม่ละสายตาสักเสี้ยววินาที "กูเชื่อใจอากู้ แต่กูไม่ไว้ใจคนอื่นที่ไม่รู้จัก"
รุ้งนภารู้สึกจุกที่อกเล็กน้อย ตอนแรกว่าเขาจะง่าย ทว่านาทีนี้เธอต้องรอบคอบกว่านี้เสียแล้วละ
"สกายเป็นผู้หญิงบอบบางขนาดนี้จะมีพิษมีภัยอะไร เฮียเทียนน่ะเลิกระแวงไปทั่วได้แล้วค่ะ" ไฉ่หงกลัวว่าคนมาเยือนจะรู้สึกเสียใจที่พี่ชายเธอเหมือนจ้องจับผิดทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ทำอะไรให้
"จะดีหรือร้าย เดี๋ยวให้อยู่ที่นี่ต่อก็รู้เอง" สายตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร การเก็บอาการของรุ้งนภาเป็นเรื่องกล้วย ๆ เพราะเธอถูกฝึกมาอย่างดีไม่ให้อ่อนไหวกับการถูกศัตรูจ้องจับผิด
"หมายความว่าคุณหลั่นเทียนจะทำตามในจดหมายฉบับนั้น"
เธอแสร้งทำเสียงเหมือนโล่งใจที่ผ่านการพิจารณา
"ในเมื่ออาฉันสั่งให้ดูแลเด็กเส้นอย่างเธอให้ดี ฉันคงไม่กล้าขัดคำสั่งนั้น"
"ขอบคุณค่ะ กายจะไม่ทำให้คุณหลั่นเทียนผิดหวังเลย"
ริมฝีปากสวยค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ เพื่อให้ดูน่ารักไร้เดียงสา
รอยยิ้มของเธอ จะสามารถคว้าหัวใจคนตรงหน้ามาทำลายได้หรือไม่ ยิ่งมองตัวจริงของเขาหัวใจเธอยิ่งเต้นตึกตัก ว่าในรูปหล่อแล้ว ตัวจริงทั้งหล่อ ทั้งมีเสน่ห์ น่าค้นหายิ่งกว่าหลายพันเท่า
"พาเธอกลับไปที่หลันหลัน" เขาสั่งบอดี้การ์ดข้างกายที่เคยเป็นบอดี้การ์ดของน้องสาวแต่ต้องกลายมาเป็นบอดี้การ์ดของตนแทนเพราะตอนนี้น้องสาวเขามีคนมากฝีมือดูแลแทนแล้ว
"ครับนาย เชิญครับ"
รุ้งนภายิ้มสวยให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินตามผู้ชายคนเดิมที่พาเธอมาที่นี่ออกไปจากห้องนี้ช้า ๆ
'หลันหลันกาสิโนจะเป็นสถานที่แบบไหนนะ ชักอยากจะรีบไปเห็นกับตาตัวเองแล้วสิ'