Ep : 2. ต้องการเท่าไหร่? 2
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
ขณะกำลังเดินดูคนงานที่กำลังใส่ปุ๋ยให้ต้นส้มอยู่นั้น เขาก็หยุดเดินล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมาดูว่าใครโทรมาหาตนเอง พอเห็นว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้าก็แค่นขำในลำคอก่อนจะกดรับสายแล้วกรอกเสียงห้วนแข็งส่งไปในสายทันที
“ว่ายังไงครับพ่อ เป็นห่วงเมียเด็กเหรอถึงได้โทรมา ผมไม่ฆ่า ‘นัง’ เด็กนั่นหรอกน่า ไม่ต้องห่วง”
“นั่นปากแกเหรอไอ้โหด”
“ครับ ปากผมเองที่พูดกับพ่อ ว่าไงครับ ถ้าจะโทรมาถามเรื่องเมียเด็กก็ไม่ต้องถามผม เพราะผมไม่มีอะไรจะเล่า อยากรู้อะไรทำไมไม่โทรถามกันเองล่ะครับผม”
“ไอ้ลูกเวร! มึงเนี่ยนะไอ้โหด มึงช่วยทำดีๆ กับหนูไอซ์หน่อยไม่ได้รึไงฮะ!”
“ไม่ได้หรอกครับ เกลียด!”
“หนูไอซ์ทำอะไรให้มึงถึงเกลียดนักหนา เพิ่งเจอกันเองนะเว้ย! แล้วจงเกลียดจงชังหนูไอซ์อะไรขนาดนั้นฮึ”
“เกลียดที่พ่อเอาเด็กนั่นมาแทนที่แม่ เกลียดที่เด็กนั่นมายั่วพ่อจนเสียคนตอนแก่” เขาตอบสวนกลับคนในสาย
“มึงเนี่ยนะไอ้โหด พ่อก็แก่แล้ว มึงจะอะไรนักหนา จะอยู่ได้อีกกี่ปีกันเชียว พ่อก็อยากได้หลาน มึงทั้งสามคนก็ไม่ยอมมีเมียสักที”
“พ่อเลยต้องมีเมียว่างั้น”
“เออ!”
“ตลกแล้วพ่อ ถ้าพ่อโทรมาบอกให้ผมดูแลยัยหนูไอซ์ของพ่อก็ฝันเถอะ โหดจะทำทุกอย่างให้เมียเด็กพ่อทนไม่ได้ร้องไห้กลับไปซบอกพ่อ หรือไม่ก็ร้องไห้ไปขอหย่าพ่อเลยคอยดู”
“พ่อจะรอวันนั้น ให้มันรู้ไปว่าใครกันแน่จะร้องไห้มาซบอกพ่อ หนูไอซ์หรือมึงไอ้โหด”
“ทำไมผมต้องไปซบอกพ่อด้วยล่ะ”
“คอยดูก็แล้วกัน ถนอมเมียพ่อด้วยล่ะ อย่าใจร้ายมากนัก เดี๋ยวเขาเกลียด”
“เกลียดไปสิ ผมก็เกลียดยัยนั่นเหมือนกัน”
“อย่ามาขอให้พ่อช่วยล่ะ แค่นี้แหละ อ่อนโยนกับหนูไอซ์บ้างก็แล้วกันไอ้โหด”
“ให้ตายผมก็ไม่อ่อนโยน จะกระทืบเสียด้วยซ้ำ ไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงผมกระทืบไปแล้ว”
“ปากดีเหลือเกิน แค่นี้แหละ พ่อโทรหาหนูไอซ์ก่อน”
“ตอนนี้เวลางาน ถ้าจะโทรหาก็ตอนเย็นครับพ่อ”
“มึงใช้น้องทำงานตั้งแต่วันแรกเลยเหรอไอ้โหด”
“แน่นอน มาทำงานก็ต้องทำงานสิ ไม่ได้มาเป็นคุณนายสักหน่อย แค่นี้แหละครับ ผมต้องทำงานไม่ได้ว่างเหมือนพ่อ”
แล้วเขาก็ตัดวางสายไปทันที ยิ่งพ่อแสดงความเป็นห่วงณปภัช เขายิ่งเกลียดหล่อนมากขึ้นเท่าทวีคูณ เกลียดเพราะหล่อนกล้ามาแทนที่แม่ของเขา กล้าดียังไงมาเป็นแม่เลี้ยงวัยกระเตาะของเขา มาดูกันว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน รับรองว่าอาทิตย์แรกก็หอบผ้าหอบผ่อนออกจากไร่เขาแน่นอน
หลังจากทานมื้อเย็นกับคนงานคนอื่นๆ เธอก็มาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของเจ้าของไร่ และจ้อนที่พามาก็ได้กลับไปแล้ว เธอยืนเคว้งอยู่กลางห้องโถงใหญ่ ไม่กล้าแม้แต่จะนั่งลงโซฟาราคาแพงของเจ้าของบ้านด้วยกลัวว่าเขาเข้ามาจะด่าว่าตัวเอง เธอยืนนิ่งก้มมองเท้าตัวเองรอให้คนที่เรียกมาลงมา
“ไม่มีก้นรึไงถึงไม่นั่ง” เสียงห้าวดังขึ้นพร้อมกับเขาเดินลงส้นเท้าหนักๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่น เขามองเห็นเจ้าหล่อนยืนกลางโถงห้องก็อดขำในลำคอเสียไม่ได้ สภาพของเธอตอนนี้ดูไม่ได้ มองยังไงก็ไร้เสน่ห์ ไม่รู้พ่อไปหลงเด็กนี่ตรงไหน
“คะ...ค่ะ” แล้วเธอก็รีบนั่งลงโซฟาตัวที่ใกล้ตัวเอง แต่แล้วก็ต้องดีดตัวลุกขึ้นเมื่อเสียงห้วนห้าวดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉันบอกเหรอให้นั่งบนโซฟา นั่งพื้น!” เขาพูดพร้อมเดินมาทิ้งตัวลงนั่งโซฟาตัวยาวประจำของตัวเอง ส่วนณปภัชก็ย่อตัวนั่งลงพื้นตามที่เขาสั่ง ก้มมองหน้าตักของตัวเองที่สองมือสอดประสานกันไว้แน่น
“เปลี่ยนใจกลับกรุงเทพตอนนี้ได้นะ ฉันไม่ว่าหรอก จะให้ไอ้จ้อนขับรถไปส่ง” หฤทย์เอ่ยพร้อมมองสภาพของคนที่นั่งก้มหน้ากับพื้นพรมของบ้านตัวเอง
“ฉันไหวค่ะ”
“แน่ใจว่าไหว?”
“ไหวค่ะ” สาวน้อยยืนยันคำเดิม ไม่ไหวก็ต้องไหว เพราะถึงไม่ไหวยังไงเธอก็ไปจากที่นี่ไม่ได้ถ้าไม่ครบกำหนดสามเดือนตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณท่าน
“บอกมาว่าต้องการเท่าไหร่?” เมื่อสาวน้อยยืนยันคำเดิม เขาก็เริ่มยื่นข้อเสนอให้เธอเพื่อจะได้ขับไล่ไสส่งณปภัชออกไปให้พ้นจากชีวิตพ่อของตัวเอง
“เท่าไหร่อะไรคะ?” เธอถามเสียงซื่อ
“อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลยน่า กล้าจับผู้ชายแก่ทำผัวแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร ต้องการเท่าไหร่กับการไปให้พ้นจากพ่อฉัน” หฤทย์พยายามสะกดความเดือดดาลในอกของตัวเองพูดกับหญิงสาวที่นั่งกับพื้นตรงหน้าตัวเอง
“เท่าไหร่ฉันก็ไม่ไปค่ะ ฉันจะไปก็ต่อเมื่อคุณท่านไล่ฉันไปเท่านั้น”
“ปากดีนี่! อยากรู้นักว่าปากของเธอมันจะดีได้นานแค่ไหน” เขาลุกขึ้นเคลื่อนตัวมานั่งย่อตัวอยู่ตรงหน้าของหล่อนพร้อมกับใช้มือหยาบกร้านเชยคางของเธอให้แหงนเงยหน้าขึ้นหาตัวเอง
“คุณจะทำอะไรฉัน ฉันเป็นเมียพ่อคุณนะ” เธอปัดมือใหญ่ออกจากคางตัวเองแม้ว่าจะหวาดกลัวสายตาเหี้ยมโหดของชายตรงหน้าที่จดจ้องมองตัวเองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ผู้หญิงสกปรกแบบเธอ ฉันไม่เอาตัวเองไปเกลือกกลั้วด้วยหรอก”
แม้ว่าปากน้อยจิ้มลิ้มของเจ้าหล่อนจะน่าคลอเคลียดูดเม้มก็ตาม ให้ตายเถอะ เขามีความรู้สึกแบบนี้กับเด็กนี่ได้ยังไง เด็กนี่เป็นแม่เลี้ยงของเขา เขาท่องไว้ในใจตลอด แต่ยิ่งได้มองสำรวจหน้าของณปภัชในระยะประชิดแบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้ว่าคราบดินที่เปื้อนตามแก้มของเธอมันไม่ได้บดบังความสวยของหล่อนเลย ‘ไม่แปลกที่พ่อจะหลง ‘อี’ เด็กนี่’ เขาพึมพำกับตัวเองแล้วขยับตัวขึ้นไปนั่งบนโซฟาเหมือนเดิม ด้วยกลัวว่าตัวเองจะบดจูบปากจิ้มลิ้มของหล่อน
“ไอ้จ้อนบอกรึยังว่าให้เธอมาทำงานที่บ้านฉันด้วย ทำความสะอาด ซักเสื้อผ้าให้ฉัน”
“บอกแล้วค่ะ”
“ดี! ทำงานที่บ้านเสร็จแล้วค่อยไปทำงานในไร่ และเพิ่มอีกอย่างคือทำกับข้าวของฉันด้วย เช้า เที่ยง เย็น เธอต้องเป็นคนทำ”
“แต่พี่จ้อนบอกว่าคุณโหดกินที่โรงอาหารกับคนงาน”
“นั่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เธอต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ก็ไปซะ! ไปให้พ้นจากไร่ฉัน”
“ฉันทำได้ค่ะ...ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้ คุณคิดผิดแล้วว่าฉันจะหนีไปเพราะทำงานพวกนี้” ท้ายประโยคเธอเอ่ยต่อในใจ
“ดี! กูจะรอดู ให้มันรู้ไปสิว่าเด็กอย่างมึงจะทนอยู่ที่นี่ได้” น้ำคำหยาบถ่อยดังลอดไรฟันออกมาพร้อมกับเขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ไปซะ! พรุ่งนี้มาแต่เช้าล่ะ” แล้วเขาก็เดินจากไปทันที
“ฉันต้องทนให้ได้ รับปากคุณท่านไว้แล้ว แต่ให้ตายเถอะ ผู้ชายอะไรหยาบคายที่สุด ต่ำ! สถุล!” เธอพึมพำกับตัวเอง เมื่อเขาเดินจากไปแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นกลับไปห้องพักของตัวเอง เพราะตอนนี้เริ่มฟ้ามืดแล้ว เธอต้องนอนแต่หัวค่ำเพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้ามาทำงานบ้าน ทำมื้อเช้าไว้ให้คนต่ำทราม