บทที่ 2 - ที่ตรงนั้นของคุณยายฉัน 2
ปัง! ปัง! ปัง!
“อุวะ!” เขาสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดแล้วยกร่างบนตักตัวเองไปนั่งข้างๆ และลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับสั่งหล่อน
“จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย” แล้วเขาก็เดินก้าวเร็วๆ ไปเปิดประตูห้องที่ดังอยู่ทันที
ปัง! ปัง! ปัง!
แอค!
ประตูห้องถูกกระชากเปิดออกตามอารมณ์ของคนเปิดที่ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“มึงทำอะไรของมึงไอ้เป้าโต!” คนที่มายืนเคาะห้องนานแล้วถามทันทีเมื่อคนข้างในเปิดออกแล้วถามต่ออีก
“แล้วมึงจะล็อกห้องทำไมฮะ!”
“ก็เนี่ยห้องทำงานผม ว่าแต่คุณตาเถอะ คิดถึงเลขาผมหรือผมถึงได้มาหา”
“อุวะ! ไอ้หลานเวร! มึงจะให้ตามึงยืนปวดขาอีกนานไหม กูแก่แล้ว แล้วแม่นั่นน่ะใคร ไล่กลับไปซะ ที่นี่ที่ทำงาน อย่ามาทำอุบาทว์ที่นี่” ท่านนายพลมองเลยหลานชายตัวดีไปข้างในห้อง
“ก็เนี่ยห้องทำงานผม ผมจะทำอะไรก็ได้”
“แต่โรงพยาบาลนี้ของฉันไม่ใช่ของแก ฉันแค่ให้แกมาเป็นท่านรองประธานไม่ได้ยกให้แกสักหน่อย จัดการไล่หล่อนออกไปซะ” แล้วอดีตพลตำรวจเอกก็เดินผ่านหลานตัวเองเข้าไปในห้องทำงาน
“แนนซี่ คุณกลับไปก่อนนะวันนี้ เราคงต่อกันไม่ได้แล้ว”
เขาบอกสั่งหล่อนแล้วนางแบบสาวก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปทันที และไร้มารยาทเหลือเกินทั้งๆ ที่ตาของวัลดัสก็อยู่ด้วย แต่หล่อนกลับไม่คิดแม้แต่จะไหว้ท่าน
“ดูผู้หญิงที่มึงเอาด้วยไอ้เป้าโต ไม่มีแม้แต่มารยาท กูตามึงนะ หล่อนไม่คิดจะยกมือไหว้กูเลย โซฟานี้ยังไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม” ท่านถามก่อนจะนั่งลง
“ก็แค่นั่งคร่อมจูบกัน ยังไม่ได้เข้าครับคุณตา” เขาตอบตรงๆ
“อือ...คงจูบกันนัวมากสินะ ปากถึงได้แดงแบบนั้น ไปเช็ดปากก่อนไหมไอ้หลานเลว”
แล้วคนที่ถูกทักท้วงก็เดินไปยังโต๊ะทำงานของตนเองเพื่อหยิบกระดาษทิชชูในกล่องออกมาเช็ดปากจนคิดว่าสะอาดดีแล้วก็เดินกลับไปหาคุณตาที่นั่งเอนหลังกับโซฟาตัวที่แนนซี่และตนนั่งอยู่ก่อนนี้
“คุณตามาทำอะไรที่โรงพยาบาลครับวันนี้ มาหาผมหรือมาหาเลขาผมครับ” เขาหย่อนก้นลงที่ว่างข้างๆ พร้อมถามท่าน
หึหึ
“ปากและสมองมึงเนี่ยนะไอ้เป้าโต คิดได้แต่เรื่องอุบาทว์ ที่มาที่นี่เพราะต้องมาเซ็นเอกสารสำคัญ”
“อ้อ...แล้วทำไมแวะมาหาผม”
“เอ้า! แวะไม่ได้เลยเหรอไอ้เป้าโต แล้วแบบที่ทำเมื่อกี้อย่าให้มีอีกแล้วกัน ที่นี่ที่ทำงาน มึงน่ะเป็นถึงผู้บริหาร เป็นถึงรองประธานจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ เดี๋ยวหมอ พยาบาลคนอื่นเขาจะไม่นับถือเอาได้” ด้วยรู้ดีว่าหลานชายคนเล็กน่ะร้ายแค่ไหน
“ครับผม”
แล้วเขาก็มองไปทางประตูห้องทำงานที่เปิดกว้างออกพร้อมกับภัทร์รวีเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่มเข้ามาในห้อง
“น้ำขิงร้อนๆ ค่ะคุณท่าน” พอมาถึงก็วางถาดถ้วยน้ำขิงที่ชงมาให้ท่านไว้แล้วหยิบยกถ้วยน้ำชาให้ท่านดื่มแก้กระหาย
“ขอบใจหนูแพม เอ๊ะ! มือไปโดนอะไรมาหนูแพม” ท่านรับถ้วยน้ำชาก็เห็นว่านิ้วมือของเด็กสาวมีปลาสเตอร์ติดแผลอยู่
“พอดีหนูโดนเศษจานบาดมือค่ะ” เธอตอบท่านเสียงหวาน
“ล้างแผลแล้วใช่ไหมหนูแพม”
“ล้างแล้วค่ะ”
“สำออยเหลือเกิน แผลเท่ามดมันไม่ถึงกับร้ายแรงหรอกครับคุณตา ว่าแต่ถ้าจะมาคุยกับผมก็สนใจผมด้วยครับ อย่าสนใจเลขาผม ส่วนเธอก็ออกไปจากห้องได้แล้ว ตาหลานเขาจะคุยกัน” วัลดัสเอ่ยแทรกออกมาด้วยความหมั่นไส้และกรุ่นโกรธ
“ไปเถอะหนูแพม ขอบใจมากนะที่ชงน้ำขิงมาให้ฉัน” คนแก่พูดพร้อมส่ายหน้ารู้สึกผิดแทนหลานชายตัวเอง ภัทร์รวียิ้มรับคำขอบคุณแล้วเดินจากไปทันที
“เป็นห่วงหล่อนขนาดนั้นก็ตามออกไปสิครับคุณตา แล้วผมถามหน่อยเถอะ คุณตารู้สึกผิดต่อคุณยายบ้างไหมที่ทำแบบนี้ และยัยนั่นก็รุ่นหลานด้วยซ้ำ คุณตาทำได้ยังไง”
“ไอ้หลานเวร! มึงก็เรียนจบตั้งสูงเป็นถึงอาจารย์หมอ แล้วทำไมมาโง่กับเรื่องพวกนี้” ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะโกรธ แต่เพราะชินแล้วกับคำพูดและความคิดอกุศลแบบนี้ของหลานชาย ก็ดูเอาเถอะ คิดได้ยังไงว่าเขากับภัทร์รวีนั้นเป็นชู้กัน
“ก็ผมเห็นคุณตากับเธอทำกันลับหลังคุณยาย”
“ตอนไหน”
“หลายตอนก็แล้วกันน่า แล้วเนี่ยมาเซ็นเอกสารก็ไปสิครับ ผมจะไปหาข้าวทาน หิวก็หิว และบ่ายต้องมีตรวจคนไข้กับผ่าตัดอีก ผมต้องเติมพลังงาน” เขาบอกไล่คนเป็นตา
“ไม่ต้องไล่กูหรอกไอ้เป้าโต แล้วหัดทำตัวดีๆ ด้วย อย่าให้รู้ว่านัดผู้หญิงมามีเซ็กซ์ในที่ทำงานอีกล่ะ”
“ครับผม ต่อไปจะนัดไปเอากันที่แฟลตและคอนโด ไม่ก็โรงแรมม่านรูดครับ” เขาตอบประชดกลับแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับประคองคนเป็นตาลุกขึ้นตาม
“ฉันแข็งแรงดีไม่ต้องพยุง” คนที่ยังแข็งแรงสะบัดตัวออกจากมือหลานชายที่โอบพยุงให้ลุกขึ้น
“ครับผม ผมลืมไปว่าคุณตาน่ะมีเมียเด็กเลยแข็งแรง”
เฮ้อ!
ท่านส่ายหน้าถอนหายใจกับความคิดลบๆ ของหลานชายแล้วเดินจากไปทันที ส่วนวัลดัสเมื่อคุณตาออกไปแล้ว เขาก็เดินไปส่องกระจกในห้องน้ำเพื่อเช็กหน้าตาของตัวเองว่ายังมีคราบลิปสติกของนางแบบสาวอยู่รึเปล่า พอเช็กดูแล้วว่าไม่มีก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกมา แต่พอเปิดประตูมาก็ไม่เห็นเลขาตัวเองอยู่หน้าห้องก็พอจะเดาได้ว่าหล่อนหายไปไหน
“ฉันไม่ยอมให้เธอมาแทนที่คุณยายคนสวยของฉันหรอกนะแพม” เขาหมายมาดกับตัวเองแล้วเดินจากไปทันที เพราะเสียงท้องเริ่มร้องประท้วงแล้ว
โครก...คราก...