บท
ตั้งค่า

4 - ฝันหรือจริง 1

นาสูรมาโผล่ที่ห้องนอนของสัตวแพทย์สาว เขามองไปยังคนที่หลับสนิทบนเตียงนุ่มและเหมือนว่าหล่อนกำลังยิ้มราวกับว่ากำลังฝันหวานอยู่ตอนนี้ เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ พร้อมกับลูบมือสากกร้านไปกับแก้มนุ่มนิ่ม ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บแก้มสีระเรื่อของหล่อนแผ่วเบา

อือ!

พุดซ้อนปัดสิ่งรบกวนออกจากแก้มนุ่มนิ่มตัวเองด้วยความรำคาญ ก่อนจะขยับพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขาพร้อมควานมือดึงรั้งหมอนใบใหญ่อีกใบมากอดไว้

“แล้วฉันจะกลับมา หวังว่าตอนนั้นเธอจะไม่กลัวนะเด็กน้อย” นาสูรพึมพำกับคนที่หลับสนิทพร้อมปัดปอยผมที่ติดข้างแก้มไปทัดหูให้อย่างอ่อนโยน คนที่ปฏิเสธความรักมาตลอดและปฏิเสธความรู้สึกห่วงใยมาตลอดกลับทำทุกอย่างกับพุดซ้อนในตอนนี้ แม้จะบอกตัวเองว่าแค่หล่อนแปลกจากผู้หญิงที่เคยเจอ แต่เขาก็มีท่าทางและแสดงออกกับหล่อนราวกับว่าสำคัญกับตัวเอง

“ไปนะเด็กน้อย”

แล้วเขาก็ก้มลงจุ๊บแก้มนุ่มนิ่มหอมกรุ่นอีกครั้ง ก่อนจะหายไปจากตรงนี้ ส่วนคนที่หลับสนิทก็ยังคงหลับอมยิ้มฝันหวานอยู่บนเตียง

อือ!

หนึ่งอาทิตย์เหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอยังคงฝังใจและติดตา ทุกสัมผัสยังคงตามหลอกหลอนยามหลับตานอน ยามปิดไฟก็เห็นแต่หน้ายักษ์ที่มีเขี้ยวที่มุมปากสองข้าง และดวงตาสีไฟลุกสลับกับเขียวมรกตนั้นอีก อยากจะบอกตัวเองว่ามันคือฝัน แต่ทุกอย่างมันชัดเจนเหลือเกิน

“ไม่ใช่ฝันแน่ เขาไม่ใช่มนุษย์” เธอพึมพำกับตัวเองขณะเช็กวัคซีนที่เพิ่งถูกส่งมาให้ทางฟาร์ม

ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!

เสียงสั่นเตือนของโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกเตือนสติของเธอให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว พอล้วงออกมาจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ที่ใส่อยู่ก็เห็นว่าเป็นใครก็อมยิ้มน้อยๆ พร้อมกดรับสาย

“ไงแก...ยัยน้อง หายไปเลยนะ เป็นไงบ้าง ไม่เห็นโทรมาเล่าเรื่องพี่หมอไม้เลยนะ หรืองานยุ่งฮึ” ฟ้าใสซักถามกลับมายาวเหยียดเมื่อเพื่อนรักกดรับสาย

“โทรอะไรล่ะ งานยุ่งจะตายชักตอนนี้ อีกอย่างอย่าพูดแบบนี้อีก ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่หมอไม้ เราเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันย่ะ! อย่าพูดอีกนะ พี่เขาเสียหาย”

เธอบอกตอบกลับไปในสายโดยไม่รู้เลยว่าประโยคที่เธอพูดนั้นทำให้คนที่เดินเข้ามาในห้องเก็บยาได้ยินพอดี

“พูดแบบนี้แสดงว่าเจอคนใหม่แล้วสิ ว่าแต่ใครนะ”

“เลิกงานค่อยวิดีโอคอลได้ไหมแก ตอนนี้ทำงานอยู่ ที่ฟาร์มแกงานไม่มีรึไงถึงโทรมากวน” เธอถามเพื่อนรักกลับไป

“ก็เพิ่งว่างแหละถึงได้โทรหา งั้นเย็นนี้วิดีโอคอลเม้าท์มอยกันนะยัยน้อง”

“อือ...ค่อยคุยกันยัยฟ้า”

แล้วก็กดตัดวางสายเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วจัดเก็บวัคซีนต่อพร้อมกับมองไปยังเสียงย่ำเท้าที่เข้ามาใกล้

“พะ...พี่หมอไม้”

เธอเรียกชื่อผู้มาใหม่อย่างตกใจด้วยไม่รู้และกลัวว่าเขาจะได้ยินที่เธอคุยกับเพื่อนก่อนหน้านี้

“ครับ ว่าแต่หมอน้องมีอะไรให้พี่ช่วยไหมครับ” เขาถามเธอทำเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินอะไรทั้งๆ ที่ในใจนั้นจุกและเจ็บมากมายกับความจริงที่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วสำหรับพุดซ้อนแล้วนั้นเขาเป็นเพียงรุ่นพี่เท่านั้น

“ไม่เป็นไรค่ะ น้องเก็บใกล้เสร็จแล้ว ว่าแต่พี่หมอไม้จะเข้ามาเอาอะไรคะ”

“พี่จะเข้ามาดูยาแก้อักเสบน่ะ พอดีเจ้าวัวที่เพิ่งช่วยมาเมื่อวานมันมีแผลด้วย พี่กลัวมันจะอักเสบเลยมาหายาไปทาให้มัน”

“อ้อ...ค่ะ เดี๋ยวน้องหยิบให้นะคะ” ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบยาแก้อักเสบที่อยู่ไม่ไกลส่งยื่นให้รุ่นพี่ ส่วนพลชก็รับขวดยามาพร้อมขอบคุณก่อนจะจากไป

“พี่ไปนะหมอน้อง”

“ค่ะ แล้วเจอกันตอนทานมื้อเที่ยงค่ะ”

“ครับ” แล้วพลชก็เดินจากไปทันทีทิ้งเหลือเธอไว้ในห้องยาเหมือนเดิม

“พี่หมอไม้จะได้ยินที่เราพูดไหมนะ แต่พี่เขาก็ปกติดีคงไม่ได้ยินหรอกเนอะ!” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วหันมาสนใจงานตรงหน้าตัวเองต่อ รีบทำให้เสร็จจะได้ออกไปฉีดยาให้ลูกวัวที่เพิ่งคลอดเมื่อวานตอนเย็น

นาสูรจิตใจว้าวุ่นไม่สงบเลยตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ เขามองไปยังเทือกเขาตรงหน้าพร้อมกับหลับตารับลมเย็นๆ ที่ปะทะกับผิวกายของเขาในตอนนี้ เวลานี้เป็นเวลาดึกสงัด เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องทั่วภูเขา เขาอยู่ในถ้ำบนยอดภูเขาและที่นี่คืออาณาจักรของเขา ป่าแห่งนี้คือของเขาแต่บรรพกาล

“พาที” เขาเรียกหาคนสนิททันทีเมื่อออกจากการบำเพ็ญเพียร เพราะตอนนี้เขาหิวมาก

วิ้วๆ

เสียงลมยังคงตีกระทบหน้าของเขาพร้อมกับพาทีปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเขา นาสูรเอี้ยวหันไปมองเพียงเล็กน้อยแล้วหันกลับมามองความมืดมิดตรงหน้าตนเองอีกครั้ง

“ฉันหิว”

“ครับท่าน ผมได้เอาช้างป่ามาให้ท่านทานก่อนกลับครับ”

“อือ” เขาตอบรับคำแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในถ้ำก็เห็นช้างป่าตัวใหญ่นอนไร้ลมหายใจตรงหน้าทันที

“ขอบใจมากพาที”

“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับท่าน”

“อือ...นายกลับไปเถอะ ฉันยังไม่กลับวันนี้หรอก พรุ่งนี้ตอนบ่ายฉันถึงจะกลับ”

“ครับท่าน” แล้วพาทีก็จากไปทันทีทิ้งเหลือแต่เจ้านายกับช้างตัวใหญ่ไร้ลมหายใจ

“นายเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของฉันเจ้าช้างน้อย”

แล้วเขาก็ยกช้างตัวใหญ่ขึ้นมากัดกินเนื้อ เพียงเวลาไม่นานก็เหลือเพียงกระดูกกองพะเนินอยู่ตรงหน้า

เอิ๊ก!

เสียงเรอดังออกมาพร้อมกับมือใหญ่เช็ดคราบเลือดที่เปื้อนตามหน้าและมุมปากตัวเองออกให้สะอาด ก่อนจะเดินไปยังลำธารในถ้ำที่ไหลออกจากถ้ำสู่ฐานของภูเขาลูกใหญ่ลูกนี้

“อ่า...เด็กน้อย ทำไมถึงตามหลอกหลอนฉันไม่หยุดแบบนี้”

เมื่อกระโดดลงไปในลำธารแล้วโผล่หัวขึ้นมาพ้นน้ำเขาก็พึมพำกับตัวเองเมื่อยังคงนึกถึงกลิ่นกายหอมๆ กับผิวสวยนุ่มนิ่มของพุดซ้อน ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ เขาไม่มีสมาธิเลยสักครั้งที่หลับตา เพราะเพียงแค่หลับตา ภาพของหล่อนก็ฉายเข้ามาในหัวให้กระวนกระวายและหงุดหงิด

“เธอมันร้ายกว่าผีพายอีกเด็กน้อง”

นาสูรพึมพำแล้วก็ดำน้ำอีกครั้งและครั้งนี้แช่ตัวนานกว่าเดิม ก่อนจะดีดเด้งโผล่ตัวขึ้นมาแล้วสะบัดหัวแรงๆ ไล่ภาพของพุดซ้อนออกจากหัว ก่อนจะก้าวขึ้นจากลำธารเพื่อกลับไปยังที่นั่งบำเพ็ญเพียรของตัวเอง แม้จะออกจากบำเพ็ญเพียรแล้ว แต่เขาก็ยังอยากกลับไปนั่งสงบจิตสงบใจให้นิ่งอยู่ดี เพราะถูกพุดซ้อนโจมตีหนักเหลือเกินในตอนนี้ ไม่ว่าจะทางร่างกายและความรู้สึก

ในตอนเช้าเธอก็ตื่นแต่เช้ามารับสายจากฟ้าใสเพื่อนรัก ทั้งๆ ที่เมื่อคืนวานก็วิดีโอคอลคุยกันแล้ว แต่เหมือนว่าเพื่อนจะยังไม่พอใจเลยโทรมาปลุกในตอนเช้าแบบนี้ พอกดรับสายเพื่อนรักก็ซักถามเรื่องเดิมๆ อีกครั้งเหมือนเมื่อคืนที่คุยทันที เธอจะตอบและบอกเพื่อนยังไงดีล่ะ เพราะมันไม่มีคำตอบจะตอบเลยตอนนี้ และตัวหล่อนเองก็ไม่รู้ว่านาสูรผู้ชายไม่ธรรมดาคนนั้นหายไปไหนในตอนนี้

“อือ...แกจะโทรมาทำไมอีกยัยฟ้า”

“แกเล่ามาให้หมดนะว่าแกกับเจ้าของฟาร์มน่ะมีซัมติงรองกันรึยังแก เมื่อคืนในวิดีโอคอลแกมีพิรุธมากนะ” ฟ้าใสถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะเมื่อคืนเธอนอนไม่หลับ เพราะคิดฝันมโนเรื่องเพื่อนรักกับเจ้าของฟาร์มไปไกลมาก แบบนิยายที่เคยอ่านเลยแหละ

“แกฟังฉันนะ เมื่อวานวันอาทิตย์ ฉันก็ไปทำโอทีวันหยุด วันนี้ฉันก็ต้องไปทำงาน ไม่มีเวลามาเล่าเรื่องให้แกมโนหรอกยัยฟ้า อีกอย่างเขาเป็นเจ้านาย และอย่างที่บอก เขาไม่เหมือนคนธรรมดาอย่างเราด้วย” จะให้บอกเพื่อนได้ยังไงว่าเขาเป็นอะไร แม้จะไม่แน่ใจว่าวันนั้นคือความจริง แต่เธอก็เชื่อไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะตั้งแต่รู้จักเขาทำตัวลึกลับตลอดเวลา และวันนั้นเขาทำให้เธอเห็นตัวตนที่จริงของเขา มันคือมายากลหรือจริงก็ไม่รู้ เพราะเธอตกใจเป็นลมไปเสียก่อน

“ยังไงแก เงียบทำไมยัยน้อง” เมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปเลยกรอกเสียงเป็นคำถามกลับมา

“ไม่มีอะไรหรอก แค่นี้แหละ อยากคุยอะไรอยากรู้อะไรก็มาที่ฟาร์มนาสูรเองสิ เห็นว่าลาหยุดไม่ใช่เหรออาทิตย์หน้า”

พุดซ้อนบอกเพื่อนในสายเพื่อตัดความรำคาญ แต่หารู้ไม่ว่าฟ้าใสเอาจริง

“จริงนะ งั้นอาทิตย์หน้าเจอกันแก แค่นี้แหละ อยากเห็นเจ้าของฟาร์มแกจริงๆ ว่าแก่หรือหนุ่ม แต่เท่าที่ฟังมาแกบอกหล่อเหมือนหลุดมาจากเทพนิยายเนี่ยไม่ธรรมดาแล้วนะแก”

“อือ...ไม่ธรรมดาจริงนั่นแหละ แค่นี้นะ”

แล้วพุดซ้อนก็ตัดสายเพื่อนไปทันทีพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวเข้าไปในฟาร์ม เพราะจะนอนต่อก็กลัวจะหลับลึกตื่นสายได้

“มาแล้วคงเจอหรอก เพราะในฟาร์มก็ไม่มีใครเจอเขาเลย ถึงเจอก็นานๆ ที” เธอพึมพำแล้วคว้าหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนที่ราวตากผ้าขนาดเล็กในห้องมาถือไว้แล้วเดินปิดปากหาวไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานในเช้านี้

การปรากฏตัวของเจ้าของฟาร์มในรอบหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก็ว่าได้ทำให้คนงานในฟาร์มต่างพากันมองเป็นตาเดียวพร้อมกับตะลึงในความรูปงามราวเทพบุตร ใครหนอช่างปั้นแต่งชายผู้นี้ได้รูปงามเช่นนี้ นาสูรไม่ได้สนใจสายตาและเสียงพึมพำกับเสียงซุบซิบของคนงาน เขาเดินตรงไปหาคนที่กำลังช่วยทำคลอดควายตรงหน้าทันที และที่ยืนข้างๆ หล่อนก็มีพลช รุ่นพี่ของเธอยืนข้างๆ ด้วย

“มันจะคลอดเหรอ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel