บท
ตั้งค่า

3 - ลมหึงของนาสูร

สุดท้ายหมูกระทะก็ไม่ได้กิน เพราะฝนไม่ยอมหยุดเลยจนต้องได้วิ่งตากฝนและลมกลับมายังห้องพัก ตอนนี้สภาพของพุดซ้อนเปียกปอนดูแทบไม่ได้ พอเข้ามาในห้องปิดล็อกประตูก็รีบจัดการถอดเสื้อผ้าที่เปียกโยนทิ้งในตะกร้าผ้าที่วางตั้งไว้หน้าห้องน้ำทันที เธอมัวแต่สนใจตัวเองจนไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้มีใครบางคนนั่งพิงหัวเตียงตัวเองอยู่ พอจัดการเปลื้องผ้าเสร็จถึงได้มองเห็นผู้บุกรุก

ว้าย!

“คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงคุณนาสูร”

เธอกอดตัวเองพร้อมกับคว้าหยิบผ้าที่เปียกขึ้นมากอดห่มตัวเองไว้ให้พ้นสายตาเกรี้ยวโกรธของอีกฝ่าย เธอกลัวสายตาของเขาในตอนนี้ มันดูมีพลังอำนาจลี้ลับ และยิ่งไปกว่านั้นสันกรามที่ปูดโปนของเขาอีกบ่งบอกได้ชัดว่าเขากำลังโกรธอยู่ แล้วโกรธอะไรล่ะ โกรธใครกัน

เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!

เสียงลมพายุฝนฟ้ายังคงดังให้ได้ยินตลอดตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย และยิ่งได้มองหน้าราวรูปปั้นหลุดมาจากเทพนิยายของนาสูร ร่างน้อยเปลือยเปล่าที่กอดตัวเองกับเสื้อผ้าเปียกหนาวสั่น ตอนนี้ได้แต่ถอยตัวเองหายไปในห้องน้ำเพื่อจะหลบสายตาดุดันที่จ้องมองมาทางตัวเอง แล้วก็ต้องร้องกรี๊ดตกใจอีกครั้ง เมื่อเขาเคลื่อนตัวราวกับลมกรดมาหยุดนิ่งตรงหน้าตัวเองพร้อมกระชากเสื้อผ้าที่กอดอยู่โยนทิ้งกลับไปในตะกร้า

ว้าย!

“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่คุณนาสูร”

เธอเริ่มหวาดกลัวแล้วในตอนนี้ ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองคิดไปเอง แต่เมื่อนึกย้อนไปเรื่องราวตอนกลางวันที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วมันไม่ใช่แล้ว เขาไม่ใช่มนุษย์แล้วแบบนี้

“แล้วอยากให้ฉันเป็นอะไรเด็กน้อย”

น้ำเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำเอ่ยรดใบหน้างามที่เขาเชยคางมนให้แหงนเงยหน้าขึ้นสบตาในตอนนี้ นาสูรรู้และอ่านความคิดของเจ้าหล่อนออกว่าตอนนี้กำลังหวาดกลัวและสงสัยในตัวของเขา และตัวเขาเองก็อยากให้เธอรู้ตัวตนที่แท้จริง อยากให้ยอมรับและรู้ว่ามันคือความจริงไม่ใช่เทพนิยายที่หล่อนนึกมโน

“ฉันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คุณไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนคุณนาสูร”

เท้าเล็กก้าวถอยไปหนึ่งก้าว แต่เขาก็ก้าวตามพร้อมตวัดแขนโอบเอวเล็กแล้วกอดรั้งเข้ามาปะทะอกของเขา สองมือน้อยดันหน้าอกเขาไว้เพื่อไม่ให้สองเต้าอวบอูมตัวเองเบียดสีไปกับหน้าอกของบุรุษแข็งแรง

“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันเป็นยักษ์”

น้ำเสียงหนักแน่นพร้อมสายตาที่เธอจ้องสบนั้นหาได้มีแววตลกหรือแกล้งแน่นอน เขาจริงจัง เธอมองสำรวจใบหน้าหล่อราวรูปปั้นของนาสูร เลื่อนมองมายังริมฝีปากหนาที่จูบคลึงปากเธอ และมันคือจูบแรกของเธอ แล้วเลื่อนต่ำมายังลูกกระเดือกที่กำลังเคลื่อนไหวตามเจ้าของร่างยามหายใจและกลืนน้ำลาย

“อย่ามาล้อฉันเล่นแบบนี้คุณนาสูร ฉันไม่ตลกด้วยนะ”

เธอบอกเขาพร้อมเบือนหน้าหนีไปด้านข้างเมื่อรู้สึกว่าสายตาของเขาช่างมีมนต์ขลังเหลือเกิน มองแล้วหลงระทวยและอยากโอบกอด อยากให้เขากอดแนบแน่นเหมือนค่ำคืนที่เร่าร้อนกับตอนเช้าที่เร่าร้อนในห้องน้ำเล็กๆ ของห้องนี้

หึหึ

นาสูรรู้ว่าหล่อนเป็นคนฉลาด และคนฉลาดหัวไวอย่างพุดซ้อนมีหรือจะไม่คิดตามและประกอบกับที่เขาทำกับเธอตั้งแต่รู้จักกัน มือใหญ่เคลื่อนผละจากเอวลูบไล้มากอบกุมก้นกลมกลึงของเธอพร้อมบีบเคล้นหนักหน่วง

“อ่ะ...อื้อ ยะ...อย่าเพิ่งทำแบบนี้ถ้ายังไม่พูดกันให้รู้เรื่อง คุณไม่ใช่คนได้ยังไง ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ยักษ์ที่กินคนหรอก คุณเล่นของใช่ไหมคุณนาสูร? ใช่...ต้องใช่แน่ๆ คุณต้องเป็นคนเล่นของแน่นอนถึงทำเรื่องประหลาดได้มากมายแบบนี้”

เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!

พุดซ้อนถามเองตอบเอง ก็ตอนนี้ในหัวเธอมันวุ่นวายไปหมด สับสนไปหมดว่าอันไหนจริงอันไหนฝัน อันไหนภาพที่มโนของเธอที่วาดขึ้นมาเอง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าคือของจริง

“งั้นมองฉัน มองตาฉันและมองหน้าฉันเด็กน้อย”

มือใหญ่ผละจากก้นกลมกลึงมาจับคางเล็กพร้อมบังคับให้หันมามองสบตาตัวเอง ส่วนพุดซ้อนก็ทำตามแม้จะไม่อยากสบตามีพลังงานของเขาก็ตาม เธอรับรู้ได้ถึงความขลังของดวงตาของเขาแล้วก็ต้องเบิกตาโตกว้างเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าราวเทพบุตรของนาสูรที่มันเปลี่ยนไป มันมีคิ้วแบบยักษ์ในนิทานพื้นบ้าน มีเขี้ยวยักษ์ และที่สำคัญดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีไฟลุกสลับกับสีเขียวมรกต

“กรี๊ด! ผียักษ์!” หล่อนร้องกรี๊ดออกมาสุดเสียงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป โชคดีที่นาสูรโอบประคองไว้อยู่จึงไม่ร่วงหล่นไปกองกับพื้น

“สุดท้ายเธอก็กลัวฉันน้อง เธอกลัวฉัน”

นาสูรพึมพำกับตัวเองพร้อมอุ้มร่างเปลือยของเธอไปยังเตียงแล้วก็จัดการจัดท่านอนและห่มผ้าให้เธอ ก่อนจะหายวับไปจากตรงนี้

เปรี้ยง! ปร้าง! เปรี้ยง!

เพล้ง!

เสียงลมพายุยังคงดังอยู่ด้านนอก และอารมณ์ของเจ้าของคฤหาสน์ก็เช่นกันเหมือนลมพายุ พอกลับมาห้องก็จัดการปัดข้าวของทุกอย่างที่ตกแต่งในห้องทิ้งจนระเนระนาดเต็มห้องไปหมด ทำให้พาทีที่โผล่มาหลังจากรับรู้ได้ถึงอารมณ์คุกรุ่นของนาย

“นายครับ ใจเย็นๆ ก่อนครับ ทำลายข้าวของไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”

พาทีเอ่ยแทรกขึ้นแล้วนายก็ตวัดสายตาเอาเรื่องมาทางมันทันทีพร้อมกับพุ่งตัวเข้าหาผลักมันกระเด็นกระแทกกับผนังห้องจนผนังห้องร้าว

ตุ้บ!

โอ๊ย!

พาทีขยับตัวลุกขึ้นจากพื้นพร้อมจับหน้าตัวเองและคอตัวเองที่เหมือนจะเคล็ดให้เข้าที่พร้อมกับเดินเข้าไปหานายอีกครั้ง ด้วยรู้ดีว่าตอนนี้นายโกรธอยู่ แต่แล้วโกรธเรื่องอะไรล่ะ หรือเรื่องเกี่ยวกับสัตวแพทย์คนนั้นอีกแล้ว

โอ๊ย!

ตุ้บ!

พาทีโดนหมัดหนักๆ ของนายตนเองกระแทกใส่หน้าจนเลือดกบปากเลยตอนนี้ มันเจ็บแต่มันต้องทน เพราะมันคือลูกน้องและไม่มีสิทธิ์บ่นแม้จะเจ็บมากแค่ไหนตอนนี้

“อ่า...นายครับ ผมว่า...”

“มึงอย่าพูดพาที ผู้หญิงคนนั้นรู้แล้วว่ากูคือยักษ์ รู้แล้วว่ากูไม่ใช่มนุษย์เหมือนหล่อน” เขาพูดพร้อมกำหมัดแน่นแล้วเดินสาวเท้ายาวๆ ตรงไปกระชากคอเสื้อเชิ้ตของพาทียกขึ้นจนร่างใหญ่ของพาทีลอยเหนือพื้น และตัวของนาสูรเองก็เปลี่ยนจากที่ใหญ่อยู่แล้วยืดตัวขยายใหญ่กว่าที่เป็นอยู่จนหัวแตะเพดานห้องนอน

“แค่กๆ ผะ...ผมหายใจไม่ออกครับท่าน แค่กๆ” พาทีจับมือที่บีบคอตัวเองให้ปล่อยคลายออก แต่เหมือนยิ่งพยายามนายยิ่งบีบแรงขึ้น

“แม่งเอ้ย! ตุ้บ!” แล้วร่างของพาทีก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกผนังห้องที่แตกร้าวอีกครั้งและครั้งนี้ทะลุไปจนไปอยู่อีกห้อง

นาสูรพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิม แต่หน้าของเขายังคงเป็นยักษ์อยู่ เท้าใหญ่ก้าวยาวๆ ไปหาคนที่ถูกเหวี่ยงทะลุไปอีกห้องพร้อมกับจับไหล่หนาของพาทีที่คอพับอยู่กับพื้นยกขึ้นมาพร้อมเอ่ยออกมาว่า...

“กูขอโทษ” แค่คำสั้นๆ แต่มันให้ความรู้สึกดีกับพาทีไม่น้อย มันรู้ว่านายมันเป็นคนโกรธอารมณ์รุนแรงและมันก็ชินเสียแล้ว เพราะร้อยปีจะมีสักครั้งแบบนี้

“ผมไม่เคยโกรธแค้นท่านเลยสักครั้งครับ” เมื่อยืนเองได้พาทีก็เอ่ยตอบทันที พาทีในปีนี้อายุจะครบแปดร้อยปี แต่ก็คอยดูแลและทนอารมณ์ร้ายของนาสูรมาตลอดหลายร้อยปี และมีแค่มันคนเดียวที่ตอบสนองอารมณ์ร้อนของเขาได้

“ตอนนี้อารมณ์กูดีขึ้นแล้ว”

เขาปรับสีหน้าให้เป็นปกติเรียบเฉยเย็นชาแบบที่เคยทำพร้อมกับเขี้ยวยักษ์และคิ้วก็เลือนหายไป นาสูรเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้หลุยส์ที่ตั้งอยู่ในมุมมืดของห้องทันที โดยมีพาทีเดินตามกลับไปด้วยและยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆ ตนเองพร้อมก้มหน้ารอฟังคำสั่งของนายที่เคารพ

นาสูรมองไปด้านนอกที่ตอนนี้ฝนฟ้าและเสียงพายุได้เริ่มซาสงบลงแล้ว เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ฝนฟ้าอากาศในบริเวณของฟาร์มล้วนอยู่ในการควบคุมของเขาทั้งนั้น ฝนที่ตกหนักไม่มีทีท่าจะหยุดก็หยุดลงราวสั่งได้ พาทีเองก็อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อนายควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

“เล่าให้ผมฟังได้ไหมท่านว่ามันเกิดอะไรขึ้น” พาทีถามนายที่เคารพรักทันทีเมื่อรู้ว่าตอนนี้นายพร้อมจะตอบแล้ว

“หล่อนรู้แล้วว่าฉันไม่ใช่คน” คำหยาบก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนมาเป็นสุภาพชนเหมือนเดิมพร้อมกับยกมือขึ้นแล้วแก้วบรั่นดีก็ปรากฏอยู่ในมือของเขาพร้อมกระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

“ดื่มไหม?” เขาถามพาทีทันทีเมื่อดื่มหมดแก้ว

“ก็ดีครับท่าน” แล้วเก้าอี้หลุยส์อีกตัวก็โผล่ขึ้นมาทันทีพร้อมกับส่งสายตาสั่งให้พาทีนั่งลงและในมือก็มีแก้วบรั่นดีที่พร้อมดื่มในอุ้งมือใหญ่ และสภาพในห้องที่เละเทะก็กลับมาเป็นปกติเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้มีพายุอารมณ์เกิดขึ้น

“ฉันคิดผิดจริงๆ ที่เผยตัวตนที่แท้จริงให้หล่อนดู ฉันคิดผิดที่คิดว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น” แล้วก็กระดกบรั่นดีในแก้วที่กลับมามีเหมือนไม่ได้ดื่มลงอีกครั้ง ส่วนพาทีก็ยกดื่มตามนาย

“แปลก พันสามร้อยปีนายท่านไม่เคยรู้สึกแบบนี้ แล้วทำไมกับมนุษย์ผู้หญิงคนนี้ถึงได้ทำให้นายท่านของผมเปลี่ยนไปได้แบบนี้ หรือนี่จะเรียกว่าความรัก?” พาทีเงยหน้าขึ้นถามนายของตนเอง

หึหึ

“ความรักน้ำเน่าแบบมนุษย์นั่นน่ะเหรอพาที ไม่มีวันนั้นหรอก อย่าเอาความรู้สึกน่ารังเกียจแบบมนุษย์มายัดเยียดให้ฉัน” เขารีบบอกปัดพร้อมกับกระดกบรั่นดีในแก้วที่กลับมาเต็มแก้วอีกครั้งต่อให้หมดแก้ว

อ่า!

ความขมของบรั่นดีบาดลำคอของเขาจนต้องสูดปากร้องครางออกมา

“แล้วทำไมนายท่านถึงบอกหล่อนให้รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และเป็นอะไร”

พาทีรู้ว่าตอนนี้นายที่เคารพรักกำลังตกหลุมรักมนุษย์ แต่ไม่อยากยอมรับความรู้สึกของตัวเอง นี่แหละนายของเขา ปากแข็งก็ที่หนึ่ง อยู่กับมนุษย์นานเรียนรู้การเป็นมนุษย์นานมาหนึ่งพันสามร้อยปี แต่ก็ยังไม่ยอมรับว่าตอนนี้ทุกวันตัวเองนั้นอยู่แบบมนุษย์ปกติทั่วไป จะมีก็แต่การกินเท่านั้นที่ยังกินเนื้อสดๆ อยู่ เพราะไม่อาจทานเนื้อสุกได้ หากทานไปจะเกิดการคลื่นไส้อาเจียนออกมาทุกครั้ง แบบนี้เจ้าของฟาร์มนาสูรถึงไม่ค่อยออกงาน ชอบอยู่เงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร แม้ว่าชื่อเสียงของฟาร์มจะโด่งดังไปทั่วภาคแล้วก็ตามในตอนนี้

“ฉันไม่รู้ ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ต่างจากคนที่นายพามาให้ฉันเสพสุขบนเตียง” เขาบอกคนสนิทของตัวเองที่เหมือนน้องชาย แล้วก็มองหน้าที่แตกกับมุมปากที่มีเลือดซึมออกมาของพาทีแล้วก็ปัดมือไปทางหน้าของอีกฝ่ายแล้วแผลที่เห็นก็หายไปทันที

“ขอบคุณครับท่าน” พาทีเอ่ยขอบคุณเมื่อได้รับการรักษาแผล

“มันเป็นสิ่งที่ฉันต้องทำ เพราะมันเกิดขึ้นเพราะฉัน...พาที”

“ครับท่าน” พาทีรอฟังคำสั่งเมื่อถูกเรียกชื่อ

“นายว่าน้องจะรู้สึกหวาดกลัวฉันอยู่ไหมหลังจากตื่นขึ้นมาจากการสลบไปเมื่อกี้”

“ผมก็คาดเดาไม่ได้ เพราะมนุษย์ผู้หญิงเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก” พาทีเอ่ยตอบ

“ฉันจะไปบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำหนึ่งอาทิตย์ นายอยู่ทางนี้ดูแลทุกอย่างให้ดีด้วยล่ะ”

“ท่านเพิ่งกลับมาไม่ถึงเดือนจะกลับไปอีกแล้วเหรอครับ” เขาถาม เพราะปกตินายจะไปทุกๆ สามเดือน แต่รอบนี้ทำไมไปไว

“ฉันอยากไปอยู่เงียบๆ ทบทวนตัวเอง เพราะวันนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้จนทำให้เกิดพายุ” เขาบอกตอบเสียงเรียบเฉย

“ครับท่าน แล้วผู้หญิงคนนั้น?”

“ก็ปล่อยให้หล่อนมีชีวิตปกติไป แต่อย่าให้ผู้ชายคนไหนแตะต้องหล่อน เพราะหล่อนเป็นของฉันจำไว้พาที” เขาไม่ลืมสั่งกำชับในช่วงท้ายประโยค

“ครับ แล้วนายท่านจะไปวันไหนครับ”

“ตอนนี้” สิ้นเสียงเข้มนาสูรก็หายไปจากเก้าอี้หลุยส์ที่นั่งอยู่ทันที ส่วนพาทีก็นั่งงงตามอารมณ์ของผู้เป็นนายไม่ทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel