EP 5 | แผนการของเสือ
สายตาคมมองใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวพลางอมยิ้มบางๆ น่าแปลกใจเหมือนกันที่ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาสนใจได้มากขนาดนี้
เมื่อวานเขาให้ช่องทางติดต่อเธอทั้งเบอร์โทรศัพท์และไลน์ แต่เธอกลับไม่แม้แต่จะติดต่อเขามาเลยสักทาง ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมีช่องทางติดต่อเขาส่วนตัวขนาดนี้ มีเหรอที่พวกเธอจะพลาดในการทำความรู้จักกับเขา
แถมคอนโดที่เธอสนใจเขาก็อุตส่าห์ลงทุนซื้อเอาไว้เพื่อให้เธอเช่าได้ในราคาที่ต้องการ แต่เธอกลับเลือกที่จะปฏิเสธนายหน้าแบบเนียนๆ
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดใช่เล่น จากที่คิดไว้ว่าเขาน่าจะสนใจเธอได้สักเดือนสองเดือน เจอแบบนี้เข้าดูเหมือนเขาน่าจะสนใจเธอได้สักครึ่งปีล่ะมั่ง
เป็นสถิติสูงที่สุดแล้วที่มาเฟียหนุ่มเคยควงสาวมา
“หนูเรียนจบอะไรมาคะ”
ธีโอเอ่ยถามทั้งที่เขารู้ประวัติทั้งหมดของเธอแล้ว ก็เขาเป็นคนให้ฟาริคไปสืบประวัติของเธอแถมยังติดต่อไปทางโรงเรียนให้เรียกตัวเธอมาทำงานเองด้วย
“คุณครูปฐมวัยค่ะ แต่ฉันวาดรูปเก่งนะคะสอนวิชาศิลปะให้เด็กๆ ได้สบาย คุณธีโอไม่ต้องกังวลเลยค่ะ”
เจนิสรีบอธิบายตามคำตอบของเธอไปทันทีกลัวเขาจะคิดว่าเธอจบแค่ครูปฐมวัยเหมาะที่จะสอนเด็กๆ อย่างเดียวแต่วาดรูปไม่เป็น
“เป็นเด็กดื้อจริงๆ”
มาเฟียหนุ่มพูดปนขำเมื่อเธอยังคงแทนตัวเองว่า ฉัน ไม่ยอมพูดว่า หนู อย่างที่เขาพยายามพูดด้วยเสียที
เจนิสขมวดคิ้วเล็กน้อยกับประโยคของเขา ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเรื่องการสอนพิเศษมัวแต่สนใจเรื่องสรรพนามแทนชื่อที่เธอไม่ยอมพูดตามเขา
“เรื่องสอนพิเศษพี่จะให้สอนทุกวันเสาร์ที่บ้านค่ะ วันจันทร์ถึงศุกร์เนเน่เค้าไปโรงเรียน เด็กน้อยของพี่ค่อนข้างเอาแต่ใจนิดหน่อยนะคะแต่จริงๆ แล้วเป็นเด็กน่ารักค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเจนิสเงียบไปมาเฟียหนุ่มจึงยอมพูดเรื่องงานที่เขาติดต่อเธอไป ทั้งที่ความจริงแล้วเนเน่ไม่จำเป็นจะต้องเรียนพิเศษวิชาศิลปะเลยด้วยซ้ำ
เนเน่สาวน้อยวัยสามขวบกว่าๆ ซึ่งเป็นลูกของพี่สาวเขาที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปพร้อมกับสามีเมื่อปีที่แล้ว มาเฟียหนุ่มจึงรักเธอเหมือนกับลูกสาวของตัวเอง
เพราะสูญเสียพ่อกับแม่ทั้งที่ยังเด็กทำให้ครอบครัวของเขาตามใจเธอกันสุดๆ เรียกได้ว่าไม่กล้ามีใครกล้าขัดใจคุณหนูน้อยของบ้านเลยล่ะ
“พี่จะจ้างหนูเดือนละแสนทำงานสี่วันต่อเดือน มีรถรับส่งจากที่บ้านหนูมาที่บ้านของพี่ค่ะ ส่วนเรื่องที่พักจะให้พี่จัดการให้ด้วยมั้ยคะ”
“ดะ เดี๋ยวค่ะ เดือนละแสนมันไม่เยอะเกินไปเหรอคะ”
เจนิสถึงกับช็อกเมื่อได้ยินสวัสดิการคุณครูสอนพิเศษของคุณหนูเนเน่ แถมยังสอนแค่วิชาศิลปะวิชาเดียว
ทำงานเดือนละสี่วัน
เงินเดือนเดือนละแสน
มีรถรับส่ง
แถมยังจะมีสวัสดิการที่พักให้ด้วย
นี่มันงานสอนพิเศษเด็กสามขวบจริงๆ เหรอเนี้ย?
“ไม่เยอะไปหรอกค่ะ เป็นเรื่องปกติของคุณครูสอนพิเศษให้เนเน่ค่ะ^^”
ธีโอตอบกลับอย่างอารมณ์ดี เห็นสีหน้าตกใจของเธอแล้วเขาก็เผลอยิ้มออกมาจนได้ ทำไมผู้หญิงคนนี้ทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลย
“เรื่องสัญญาจ้างเดี๋ยวพี่ให้ฟาริคจัดการให้แล้วกันคะ ว่าแต่หนูมีธุระที่ไหนต่อหรือเปล่าคะ”
มาเฟียหนุ่มรีบรวบรัดตัดตอนไม่ให้เจนิสมีเวลาได้ทบทวนอะไรนาน เขาลุกขึ้นยืนพลางติดกระดุมเสื้อสูทให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยถามเธอด้วยรอยยิ้ม
“มะ...ไม่มีค่ะ”
“งั้นเราไปหาของหวานทานกันดีกว่าค่ะ”
พูดจบธีโอก็คว้าหมับเข้าที่มือเรียวของเธอแล้วเดินออกจากห้องทำงานทันที เจนิสก้มลงมองมือที่กำลังจับกันอยู่ด้วยความตกใจแต่จะให้ดึงกลับเลยเธอก็ไม่กล้า จึงทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยแล้วเดินตามเขาไป
จะว่าไปมือของเขาก็นุ่มมากเลยนะ เขาคงไม่เคยทำงานหนักแน่ๆ แต่คนรวยอย่างเขาจะไปทำงานหนักอะไรล่ะเกิดมาบนกองเงินกองทองขนาดนี้
มาเฟียหนุ่มเดินนำสาวน้อยของเขาเข้าไปในลิฟต์ กดหมายเลขชั้นที่ต้องการแล้วหันกับมาส่งยิ้มหวานให้เจนิส
“พี่ตื่นเต้นจังเลยค่ะ ดูสิมือเปียกหมดเลย”
พ่อคาสโนว่าพูดพลางยื่นมืออีกข้างไปตรงหน้าหญิงสาวแต่มือที่กุมมือของเธออยู่นั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยออก
การกระทำของเขายิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงกว่าเดิม รู้นะว่าเขาน่ะเป็นเสือร้ายแต่ก็อดหวั่นไหวกับเขาไม่ได้อยู่ดี
“ตื่นเต้นอะไรเหรอคะ”
“ก็จะได้ไปเดทกับคนน่ารักแบบหนูไงคะ”
ธีโอพูดพร้อมโน้มตัวลงมาจนใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับเจนิส ก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นเขี่ยจมูกของเธอเบาๆ
เจนิสรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นไข้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่โดยเฉพาะใบหน้าของเธอที่ตอนนี้รู้สึกร้อนผะผ่าวจนแทบจะระเบิด
ติ๊ง!
มาเฟียหนุ่มจับมือเธอเดินออกจากลิฟต์ด้วยท่าทางสบายๆ ต่างกับอีกคนที่เดินก้มหน้าก้มตาไม่หันไปมองใครทั้งนั้น จนผ่านตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เจนิสก็สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังมองมาทางเธอ
ไม่ใช่พนักงานสองคนนั้นหรอกแต่เป็นเจสันพี่เขยของเธอต่างหาก เขากำลังจะเดินกลับขึ้นไปบนออฟฟิศแต่ต้องชะงักเพราะเห็นร่างบางที่คุ้นตากำลังเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับคนที่เขาไม่คิดว่าเธอจะรู้จัก
ทำไมเจนิสถึงมาเดินอยู่กับคุณธีโอได้ เขาเฝ้าดูเธอเติบโตมาตั้งนานเรื่องอะไรจะปล่อยให้เสืออย่างธีโอคาบไปกินง่ายๆ ดูเหมือนว่าเขาควรจะรีบจัดการเรื่องนี้ซะแล้ว
ทางด้านเจนิสเมื่อเห็นสายตาของเจสันที่มองมา เธอรีบขยับเข้าไปควงแขนธีโอเอาไว้ทันที มาเฟียหนุ่มหันมามองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร
“เชิญค่ะ”
เมื่อเดินมาถึงที่รถไฮเปอร์คาร์คันหรูสีดำสนิท ธีโอก็ยื่นมือไปเปิดประตูรถให้หญิงสาว การกระทำของเขาต่างทำให้บอดี้การ์ดหันมองหน้ากันด้วยความงุนงงแม้เจ้านายของเขาจะเป็นคาสโนว่าเปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้าแต่ก็ไม่เคยบริการให้สาวคนไหนมาก่อน
“ขอบคุณค่ะ”
ปิดประตูรถเสร็จเรียบร้อยธีโอเดินผิวปากอ้อมไปฝั่งคนขับรถ เมื่อเห็นว่าสาวน้อยของเขายังคงนั่งนิ่งเขาจึงเอี้ยวตัวไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยมารัดให้
แกร๊ก!
“ขะ...ขอบคุณค่ะ”
ลงสลักล็อกเรียบร้อยแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับไม่ยอมขยับออกไปเสียที เจนิสจึงรีบเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ทำไมคุณครูตัวหอมขนาดนี้คะ”
เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวนแถมสายตาของเขาก็ยังวาววับแสดงออกถึงความต้องการตัวเธออย่างชัดเจน
“กลิ่นยาสระผมมั่งคะ ฉะ...ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอม”
ธีโอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะกลิ่นตัวของเธอหอมมากจริงๆ แต่เขาคิดว่าคงจะเป็นน้ำหอมดีๆ สักยี่ห้อหนึ่งที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน
“เป็นคุณครูโกหกไม่ดีนะคะ”
“ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอมจริงๆ ค่ะ”
เจนิสรีบตอบกลับไปทันที เรื่องแค่นี้เธอจะโกหกเขาไปเพื่ออะไรแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาเจ้าเล่ห์ของคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องมองจนเธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
“งั้นพี่ขอพิสูจน์หน่อยนะคะ”
“พิ...พิสูจน์ยังไงคะ”
ธีโอไม่ตอบแต่กลับเอียงใบหน้าหล่อเหลาออกเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวลงไปจนลมหายใจร้อนๆ เป่ารดอยู่ตรงซอกคอของหญิงสาว
เจนิสถึงกับนั่งตัวแข็งทื่อเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะเมื่อปลายจมูกโด่งเฉียดไปมาบนผิวเนียนนุ่มของเธอ
“ไม่ได้โกหกจริงๆ ด้วยค่ะ”
มาเฟียหนุ่มผละออกไปนั่งในตำแหน่งคนขับ เขาเปิดไฟเลี้ยวแล้วขับรถออกไปด้วยท่าทางปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ต่างจากอีกคนที่ตอนนี้กำลังท่องสารพัดบทสวดเพื่อให้หัวใจของเธอเต้นช้าลงหน่อย