Risk Heart ดั่งใจผูกรัก

91.0K · จบแล้ว
นญาดา
47
บท
7.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปหลอกคุณเลย ฉันมีความจำเป็นจริงๆ ค่ะ" ฉันละล่ำละลักออกไปด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน อยากให้เขาใจเย็นแล้วช่วยฟังสิ่งที่ฉันอยากอธิบาย ฉันไม่ได้ตั้งใจเข้ามาหลอกเขาเลยเพียงแค่ยังหาเวลาบอกเรื่องนั้นกับเขาไม่ได้เท่านั้นเอง ความจริงแล้วเขาต่างหากล่ะที่หลอกฉัน คนที่ต้องรู้สึกเสียใจมันเป็นฉันต่างหาก แกร๊ก! ปืนสีดำทมิฬถูกยกขึ้นจ่อที่ศีรษะของฉันในขณะที่เจ้าของปืนกลับระบายยิ้มหวานส่งมาให้แทน "หนูอยากเป็นเมียพี่ไม่ใช่เหรอคะ" เขายังคงระบายยิ้มหวานทั้งๆ ที่ปืนจ่อศีรษะคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง "ฉะ...ฉันขอโทษค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายในชีวิตของคุณอีกเลย" "บังเอิญพี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้นซะด้วยสิ" "ละ แล้วคุณต้องการอะไรคะ" "ปัง!" "เฮือก!" จู่ๆ คุณธีโอก็พูดเสียงดังพร้อมกับแกล้งกดปืนลงเหมือนจะยิงฉันจริงๆ น้ำสีใสที่คลอหน่วงอยู่ตรงขอบตาร่วงลงมาเป็นสาย "ร้องไห้ทำไมคะ พี่ทำหนูตกใจเหรอ" เอ่ยถามพลางยกยิ้มมุมปาก มือหนาค่อยๆ เลื่อนเข้าหาใบหน้าของฉันกลับโดนปัดมือทิ้งเสียก่อน "คุณมันคนบ้า!" ฉันตวาดออกไปอย่างสุดจะทน เขาเหมือนคนโรคจิตที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกันสุดๆ ทั้งที่รู้ว่าฉันกลัวแต่ก็ยังคิดจะแกล้งกันอยู่ได้ แถมยังไม่คิดจะฟังเหตุผลอะไรของฉันเลยสักนิด.... "หึ! หมดเวลาเล่นสนุกแล้วค่ะ" คุณธีโอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจออกมาราวกับเหนื่อยหน่ายเสียเต็มประดา "เฮ้อ~ หนูออกมาเล่นวิ่งไล่จับตอนตีหนึ่งแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ รู้มั้ยว่าพรุ่งนี้พี่มีงานเช้า" เขาปรายตามองมาทางฉันก่อนจะหันไปสั่งบอดี้การ์ดที่ยืนรออยู่ข้างหลังแล้วเดินนำไปที่รถตู้เบนซ์ของตัวเอง "พาไปขึ้นรถ" "ปล่อยนะ ฉันไม่ไป! ปล่อยเดี๋ยวนี้" ฉันพยายามดิ้นเพื่อเอาตัวรอดเมื่อบอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้าไปหิ้วปีกทั้งสองข้าง รู้หรอกว่าไม่มีทางรอดแต่ฉันก็ไม่อยากยินยอมพร้อมใจเดินตามเขาไปเฉยๆ "อย่าขัดขืนเลยนะครับคุณเจนิส จะเจ็บตัวเปล่าๆ" พี่ฟาริคหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ สุดท้ายฉันก็ถูกพาขึ้นไปนั่งบนรถข้างๆ กับคุณธีโอที่กำลังทอดมองออกนอกต่างรถ นิ้วชี้เคาะลงบนตักแกร่งราวกับกำลังใช้ความคิด "ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมปล่อยฉันไป" ในเมื่อหนียังไงก็คงหนีไม่พ้น ทางเดียวคือทำให้เขาพอใจแล้วยอมปล่อยฉันไปเองสินะ "ครางชื่อพี่เสียงหวานๆ ค่ะ"

นิยายรักโรแมนติกประธานมาเฟียฟินๆรักแรกพบเศรษฐีตลกรักหวานๆโรแมนติก

••××Intro×ו•

ตึก ตึก ตึก

เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นถนนดังถี่รัวบ่งบอกว่าเจ้าของกำลังวิ่งด้วยความเร็วแต่ก็ไม่ได้เร็วพอที่จะทำให้เจ้าตัวรู้สึกหลุดพ้นจากความอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงกลางดึกเส้นทางที่ร่างบางกำลังวิ่งอยู่จึงไม่มีรถสัญจรผ่านมาสักคันเพื่อให้เธอขอความช่วยเหลือได้เลย

ปัง!

“กรี๊ดด!”

เสียงปืนที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหูด้วยความตกใจแต่สองขายังคงวิ่งหนีสุดชีวิต ชายชุดดำสามคนที่วิ่งไล่ตามมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามเธอเลย

‘ฉันไม่น่าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องนี้เลย’

นี่คือความคิดที่วนเวียนอยู่ซ้ำๆ ในสมองของหญิงสาวตอนนี้ เจนิสสาวน้อยวัยยี่สิบสองปีผู้มีผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มเหมือนดาร์กช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มตาโตปากนิดจมูกหน่อยทำให้เธอดูหน้าอ่อนกว่าวัยจนใครๆ ก็คิดว่าเธอเป็นเด็กมัธยมทั้งที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว

ปัง!

“หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย!”

เสียงปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าอยากจะหยุดใครจะวิ่งหนีตั้งแต่แรก ยิงเธอให้ตายเสียดีกว่าให้เธอกลับไปหาเขาเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอทำไว้กับเขา ยังไงเขาก็ไม่มีทางให้อภัยเธอแน่ๆ

พลั่ก!

“อ๊ะ! คะ...คุณ...ธีโอ”

เพราะมัวแต่เหลียวมองข้างหลังจึงทำให้หญิงสาววิ่งชนใครบางคนเข้าอย่างจัง แรงกระแทกทำให้เธอล้มลงที่พื้นทันทีทั้งที่เขายังคงยืนนิ่งราวกับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ

เจนิสเงยขึ้นมองหน้าคนที่เธอพึ่งจะวิ่งชนจนล้มลงด้วยความตกใจ เขาคือผู้ชายที่เธอตั้งใจจะหนีไปให้ไกลสุดชีวิต

ธีโอ แกริค เรนเดล มาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจวัยยี่สิบแปดปี เขาเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มแคสเซียน กลุ่มอิทธิพลที่ดูแลเมืองบาเลนเซียนเจ้าของกิจการแคสเซียนแอร์ไลน์สายการบินชั้นนำระดับประเทศ

ใครๆ ก็ต่างเรียกเขาว่า ‘คาสโนว่าหน้าหวาน’ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาแต่บางมุมก็ดูหวานเสียจนผู้หญิงบางคนยังอายบวกกับข่าวคราวการเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าและวงในก็รู้กันดีว่าเขาไม่เคยกินผู้หญิงคนไหนซ้ำจึงทำให้ได้ฉายานี้มาอย่างไร้ข้อกังขา

“จะหนีไปไหนล่ะคะสาวน้อย”

ธีโอย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าของตัวเองเพื่อให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวชัดๆ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแต่ดวงตาคู่สวยกลับดูดุดัน ลึกลับและเคลือบแคลงไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นใจชัด

ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงเข้ามาหลอกเขา

“ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปหลอกคุณเลย ฉันมีความจำเป็นจริงๆ ค่ะ”

เจนิสละล่ำละลักออกไปด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดแต่เธอมีเหตุจำเป็นจริงๆ

แกร๊ก!

แต่การกระทำของเขากลับทำให้ร่างบางที่กำลังตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวนั่งนิ่งอัตโนมัติ

ปืนสีดำทมิฬถูกยกขึ้นจ่อที่ศีรษะของหญิงสาวในขณะที่เจ้าของปืนกลับระบายยิ้มหวานส่งมาให้เธอ

“หนูอยากเป็นเมียพี่ไม่ใช่เหรอคะ”

หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากขั้วของมัน เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้อันตรายมากแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะน่ากลัวได้มากขนาดนี้ เขายังคงระบายยิ้มหวานทั้งๆ ที่ปืนจ่อศีรษะคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง

“ฉะ...ฉันขอโทษค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายในชีวิตของคุณอีกเลย”

“บังเอิญพี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้นซะด้วยสิ”

“ละ แล้วคุณต้องการอะไรคะ”

“ปัง!”

“เฮือก!”

จู่ๆ ธีโอก็พูดเสียงดังพร้อมกับแกล้งกดปืนลงเหมือนจะยิงเธอจริงๆ เล่นเอาร่างบางสะดุ้ง น้ำสีใสที่คลอหน่วงอยู่ตรงขอบตาร่วงลงมาเป็นสาย

“ร้องไห้ทำไมคะ พี่ทำหนูตกใจเหรอ”

เอ่ยถามพลางยกยิ้มมุมปาก มือหนาค่อยๆ เลื่อนเข้าหาใบหน้าสวยหวังจะเช็ดน้ำตาให้แต่กลับโดนเธอปัดมือเขาทิ้งเสียก่อน

“คุณมันคนบ้า!”

เจนิสตวาดออกไปอย่างสุดจะทน เขาเหมือนคนโรคจิตที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกันสุดๆ ทั้งที่รู้ว่าเธอกลัวแต่ก็ยังคิดจะแกล้งกันอยู่ได้

“หึ! หมดเวลาเล่นสนุกแล้วค่ะ”

ธีโอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรพลางยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาหนึ่งนาฬิกาสามสิบแปดนาที

“เฮ้อ~ หนูออกมาเล่นวิ่งไล่จับตอนตีหนึ่งแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ รู้มั้ยว่าพรุ่งนี้พี่มีงานเช้า”

ร่างสูงปรายตามองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นถนนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หัวเข่าทั้งสองข้างของเธอปรากฏรอยถลอกขึ้นเล็กน้อยน่าจะตอนที่เธอวิ่งชนเขาแล้วล้มลงไป

“พาไปขึ้นรถ”

น้ำเสียงดุดันเอ่ยบอกบอดี้การ์ดที่ยืนรอรับคำสั่งก่อนจะเดินนำไปที่รถตู้เบนซ์คันสีดำ

“ปล่อยนะ ฉันไม่ไป! ปล่อยเดี๋ยวนี้”

เจนิสพยายามดิ้นเพื่อเอาตัวรอดเมื่อบอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้าไปหิ้วปีกเธอทั้งสองข้าง

“อย่าขัดขืนเลยนะครับคุณเจนิส จะเจ็บตัวเปล่าๆ”

มือขวาของมาเฟียหนุ่มเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ทำงานกับเจ้านายมานานเขารู้ดีว่าเจ้านายไม่มีทางปล่อยหญิงสาวไปง่ายๆ แน่ ถ้าอะไรที่เจ้านายเขายังสนใจหรืออยากได้ มาเฟียหนุ่มจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน

สุดท้ายร่างบางก็ถูกพาขึ้นไปนั่งบนรถข้างๆ กับมาเฟียหนุ่มที่กำลังทอดมองออกนอกต่างรถ นิ้วชี้เคาะลงบนตักแกร่งราวกับกำลังใช้ความคิด

“ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมปล่อยฉันไป”

ในเมื่อหนียังไงก็คงหนีไม่พ้น ทางเดียวคือทำให้เขาพอใจแล้วยอมปล่อยเธอไปเองสินะ

“ครางชื่อพี่เสียงหวานๆ ค่ะ”