••××Intro×ו•
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นถนนดังถี่รัวบ่งบอกว่าเจ้าของกำลังวิ่งด้วยความเร็วแต่ก็ไม่ได้เร็วพอที่จะทำให้เจ้าตัวรู้สึกหลุดพ้นจากความอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงกลางดึกเส้นทางที่ร่างบางกำลังวิ่งอยู่จึงไม่มีรถสัญจรผ่านมาสักคันเพื่อให้เธอขอความช่วยเหลือได้เลย
ปัง!
“กรี๊ดด!”
เสียงปืนที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหูด้วยความตกใจแต่สองขายังคงวิ่งหนีสุดชีวิต ชายชุดดำสามคนที่วิ่งไล่ตามมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามเธอเลย
‘ฉันไม่น่าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องนี้เลย’
นี่คือความคิดที่วนเวียนอยู่ซ้ำๆ ในสมองของหญิงสาวตอนนี้ เจนิสสาวน้อยวัยยี่สิบสองปีผู้มีผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มเหมือนดาร์กช็อกโกแลต ใบหน้าจิ้มลิ้มตาโตปากนิดจมูกหน่อยทำให้เธอดูหน้าอ่อนกว่าวัยจนใครๆ ก็คิดว่าเธอเป็นเด็กมัธยมทั้งที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว
ปัง!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย!”
เสียงปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าอยากจะหยุดใครจะวิ่งหนีตั้งแต่แรก ยิงเธอให้ตายเสียดีกว่าให้เธอกลับไปหาเขาเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอทำไว้กับเขา ยังไงเขาก็ไม่มีทางให้อภัยเธอแน่ๆ
พลั่ก!
“อ๊ะ! คะ...คุณ...ธีโอ”
เพราะมัวแต่เหลียวมองข้างหลังจึงทำให้หญิงสาววิ่งชนใครบางคนเข้าอย่างจัง แรงกระแทกทำให้เธอล้มลงที่พื้นทันทีทั้งที่เขายังคงยืนนิ่งราวกับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ
เจนิสเงยขึ้นมองหน้าคนที่เธอพึ่งจะวิ่งชนจนล้มลงด้วยความตกใจ เขาคือผู้ชายที่เธอตั้งใจจะหนีไปให้ไกลสุดชีวิต
ธีโอ แกริค เรนเดล มาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจวัยยี่สิบแปดปี เขาเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มแคสเซียน กลุ่มอิทธิพลที่ดูแลเมืองบาเลนเซียนเจ้าของกิจการแคสเซียนแอร์ไลน์สายการบินชั้นนำระดับประเทศ
ใครๆ ก็ต่างเรียกเขาว่า ‘คาสโนว่าหน้าหวาน’ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาแต่บางมุมก็ดูหวานเสียจนผู้หญิงบางคนยังอายบวกกับข่าวคราวการเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้าและวงในก็รู้กันดีว่าเขาไม่เคยกินผู้หญิงคนไหนซ้ำจึงทำให้ได้ฉายานี้มาอย่างไร้ข้อกังขา
“จะหนีไปไหนล่ะคะสาวน้อย”
ธีโอย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าของตัวเองเพื่อให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวชัดๆ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแต่ดวงตาคู่สวยกลับดูดุดัน ลึกลับและเคลือบแคลงไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นใจชัด
ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงเข้ามาหลอกเขา
“ปะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปหลอกคุณเลย ฉันมีความจำเป็นจริงๆ ค่ะ”
เจนิสละล่ำละลักออกไปด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดแต่เธอมีเหตุจำเป็นจริงๆ
แกร๊ก!
แต่การกระทำของเขากลับทำให้ร่างบางที่กำลังตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัวนั่งนิ่งอัตโนมัติ
ปืนสีดำทมิฬถูกยกขึ้นจ่อที่ศีรษะของหญิงสาวในขณะที่เจ้าของปืนกลับระบายยิ้มหวานส่งมาให้เธอ
“หนูอยากเป็นเมียพี่ไม่ใช่เหรอคะ”
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากขั้วของมัน เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้อันตรายมากแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะน่ากลัวได้มากขนาดนี้ เขายังคงระบายยิ้มหวานทั้งๆ ที่ปืนจ่อศีรษะคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง
“ฉะ...ฉันขอโทษค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายในชีวิตของคุณอีกเลย”
“บังเอิญพี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้นซะด้วยสิ”
“ละ แล้วคุณต้องการอะไรคะ”
“ปัง!”
“เฮือก!”
จู่ๆ ธีโอก็พูดเสียงดังพร้อมกับแกล้งกดปืนลงเหมือนจะยิงเธอจริงๆ เล่นเอาร่างบางสะดุ้ง น้ำสีใสที่คลอหน่วงอยู่ตรงขอบตาร่วงลงมาเป็นสาย
“ร้องไห้ทำไมคะ พี่ทำหนูตกใจเหรอ”
เอ่ยถามพลางยกยิ้มมุมปาก มือหนาค่อยๆ เลื่อนเข้าหาใบหน้าสวยหวังจะเช็ดน้ำตาให้แต่กลับโดนเธอปัดมือเขาทิ้งเสียก่อน
“คุณมันคนบ้า!”
เจนิสตวาดออกไปอย่างสุดจะทน เขาเหมือนคนโรคจิตที่คำพูดกับการกระทำสวนทางกันสุดๆ ทั้งที่รู้ว่าเธอกลัวแต่ก็ยังคิดจะแกล้งกันอยู่ได้
“หึ! หมดเวลาเล่นสนุกแล้วค่ะ”
ธีโอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรพลางยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาหนึ่งนาฬิกาสามสิบแปดนาที
“เฮ้อ~ หนูออกมาเล่นวิ่งไล่จับตอนตีหนึ่งแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ รู้มั้ยว่าพรุ่งนี้พี่มีงานเช้า”
ร่างสูงปรายตามองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นถนนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หัวเข่าทั้งสองข้างของเธอปรากฏรอยถลอกขึ้นเล็กน้อยน่าจะตอนที่เธอวิ่งชนเขาแล้วล้มลงไป
“พาไปขึ้นรถ”
น้ำเสียงดุดันเอ่ยบอกบอดี้การ์ดที่ยืนรอรับคำสั่งก่อนจะเดินนำไปที่รถตู้เบนซ์คันสีดำ
“ปล่อยนะ ฉันไม่ไป! ปล่อยเดี๋ยวนี้”
เจนิสพยายามดิ้นเพื่อเอาตัวรอดเมื่อบอดี้การ์ดชุดดำเดินเข้าไปหิ้วปีกเธอทั้งสองข้าง
“อย่าขัดขืนเลยนะครับคุณเจนิส จะเจ็บตัวเปล่าๆ”
มือขวาของมาเฟียหนุ่มเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ทำงานกับเจ้านายมานานเขารู้ดีว่าเจ้านายไม่มีทางปล่อยหญิงสาวไปง่ายๆ แน่ ถ้าอะไรที่เจ้านายเขายังสนใจหรืออยากได้ มาเฟียหนุ่มจะไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่นอน
สุดท้ายร่างบางก็ถูกพาขึ้นไปนั่งบนรถข้างๆ กับมาเฟียหนุ่มที่กำลังทอดมองออกนอกต่างรถ นิ้วชี้เคาะลงบนตักแกร่งราวกับกำลังใช้ความคิด
“ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมปล่อยฉันไป”
ในเมื่อหนียังไงก็คงหนีไม่พ้น ทางเดียวคือทำให้เขาพอใจแล้วยอมปล่อยเธอไปเองสินะ
“ครางชื่อพี่เสียงหวานๆ ค่ะ”