Chapter 3 ชดใช้หนี้
Chapter 3
ชดใช้หนี้
“งั้นก็เลือกเอา จะใช้หนี้และมีชีวิตอยู่หรืออยากจะลาไปยมโลกก็แล้วแต่”
กระบอกปืนถูกควักมาและจ่อไปที่หัวของคนตัวเล็กอีกครั้ง ดวงตากลมโตสั่นระเรื่อด้วยความหวาดกลัว
“หนูพูดความจริงไปแล้วหากว่าคุณไม่เชื่อก็ก็คงสุดจะแล้วแต่ค่ะ”
เธอพูดออกไปด้วยความน้อยใจในเมื่อพูดความจริงเขาก็ไม่ฟัง ในเมื่อเข้ามาในกรงกรรมกรงเกวียนของคนพวกนี้แล้วเพียงฟ้าก็คงจะจะต้องชดใช้มันต่อไปอย่างไม่อาจหลีกหนีได้พ้น
ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอแท้ๆ...
เวลาต่อมา
สุดท้ายแล้วเพียงฟ้าก็ต้องจำยอมและให้คนไปช่วยย้ายของจากคอนโดมาไว้ยังเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของบริกซ์ตั้น
“แล้วทำไมหนูต้องย้ายไปอยู่กับเขาด้วยล่ะคะ”
เพียงฟ้าที่นั่งอยู่เบาะหลังรถโดยคนขับรถเป็นลูกน้องหน้าฝรั่ง
“เพราะคุณจะต้องไปอยู่รับใช้นาย หากปล่อยให้คุณอยู่คอนโดคนเดียวแล้วหนีกลับไทยไปล่ะจะทำยังไง”
“เฮ้อ...ทั้งที่หนูก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยแท้ๆ”
ตอนนี้ความรู้สึกของเธอผสมปนเปกันไปหมดทั้งเศร้าเสียใจเรื่องที่เพื่อนเสียชีวิตในเหตุการณ์นั้น ไหนจะความหวาดกลัวที่ต้องเจอในแต่ละวัน
ตอนนี้เธอคิดถึงเมืองไทยจะแย่...อยากกลับไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่แล้ว
ติ๊งง
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นเห็นดังนั้นเพียงฟ้าจึงรีบรับโทรศัพท์ในทันทีเพราะสายที่โทรเข้ามาก็คืออัศวินผู้เป็นพ่อ
“สวัสดีค่ะพ่อ เห็นข้อความที่ฟ้าส่งไปหรือยังคะ”
เธอส่งข้อความไปหาพ่อและแม่บอกว่าเรียนจบแล้วจะยังไม่กลับบ้านเพราะอยากจะอยู่ท่องเที่ยวในเมืองก่อนและจะไปทำงานกับบริษัทของพี่ชายเพื่อนแต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นคำสั่งของมาเฟียร้ายอย่างนายบริกซ์ตั้นต่างหาก
“เห็นแล้ว แม่เองก็เห็นข้อความแล้วทำไมฟ้าถึงยังไม่กลับล่ะลูก พ่อกับแม่รอกอดลูกสาวใจจะขาดอยู่แล้ว”
อัศวินผู้เป็นพ่อคิดถึงลูกสาวคนเดียวของตระกูลอัครวินอย่างสุดหัวใจส่วนพิมพ์ดาวผู้เป็นภรรยาก็คิดถึงลูกมากเช่นกัน
“ที่จริงหนูก็อยากกลับมากเลยค่ะแต่พอดีว่าเพื่อนแนะนำให้ลองมาฝึกทำงานที่บริษัทของพี่ชายดูก่อน”
“ไม่เห็นจะต้องทำที่นั่นเลย...”มาช่วยพ่อบริหารบริษัทที่ไทยก็ได้ ที่ส่งให้ไปเรียนคณะบริหารที่อเมริกาก็เพราะอยากจะให้กลับมาพัฒนางานในบริษัทเรานี่แหละลูก”
อัศวินไม่ได้มีเจตนาคิดอยากให้ลูกไปอยู่ที่อื่นเลย
“หนูสัญญานะคะพ่อว่าจะกลับไปเจอคุณพ่อคุณแม่ จะกอดให้หายคิดถึงเลย”
ร่างเล็กพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นมือเรียวเล็กยกขึ้นปาดน้ำตา พูดไปแบบนั้นทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะมีวาสนาได้กลับเห็นหน้าพ่อหน้าแม่อีกครั้งมั้ย
ชีวิตของเธอในอเมริกาตอนนี้มันช่างน่ากลัวและเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ขับรถมาสักพักก็ถึงเพนท์เฮาส์สุดหรู บริกซ์ตั้นไม่ได้ให้เพียงฟ้าไปอยู่ที่คฤหาสน์แต่ให้มาอยู่ที่เพนท์เฮาส์สุดหรูนี้แทนเพราะเป็นส่วนตัวกว่าและสามารถควบคุมได้ง่าย
เพนท์เฮาส์ที่แสนจะหรูหราวิวที่เห็นทั่วเมืองแต่จิตใจของเพียงฟ้าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ใจของเธอตอนนี้คิดถึงบ้านที่เมืองไทยมากกว่า
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
บริกซ์ตั้นเดินเข้ามาหาเพียงฟ้าโดยสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาว เพียงฟ้าที่ยืนมองวิวกระจกอยู่หันไปมองก็ถึงกับตกใจรีบยกมือขึ้นมาปิดทันที
“คะ คุณ ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้มันดีคะออกมาแบบนี้ทำไม”
แม้จะมาอยู่เมืองนอกเมืองนาอยู่ในอเมริกาถึงสี่ปีแต่หญิงสาวไม่เคยต้องใกล้ชิดชายไหนขนาดนี้มาก่อน
“ทำไม ผู้หญิงอย่างเธอก็น่าจะคุ้นชินกับอะไรแบบนี้ดีนี่”
“คุณควรใส่เสื้อผ้าให้ดีก่อนนะคะ”
เพียงฟ้าเถียงออกไปแบบนั้นแล้วปล่อยมือลงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตาแม้จะสูงเพียงร้อยหกสิบเซนติเมตรแต่เธอก็เงยคอสู้กับชายที่สูงถึงร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรอย่างบริกซ์ตั้น
“ก็นี่มันบ้านฉัน...จะใส่อะไรมันก็เรื่องของฉัน ต่อให้จะแก้ผ้าเดินเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่ง”
ไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชายของไบรอันจะเป็นคนแบบนี้...
“นิสัยของคุณกับไบรอันนี่ต่างกันจังเลยนะคะ”
แม้จะเป็นแค่เพื่อนไม่ได้เป็นแฟนแต่เธอก็รู้จักนิสัยของไบรอันดีเพราะซีเวียคบกับไบรอันมาเป็นปี
“ไบรอันมันเป็นคนดีเกินไป...ถึงกล้าให้ของสำคัญอย่างเครื่องเพชรประจำตระกูลกับผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธอไง”
พอพูดถึงเรื่องเครื่องเพชรทีไรบริกซ์ตันก็รู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้าทุกที
“เพชรอะไรนั่นหนูไม่ได้รู้เรื่องด้วยสักนิด...ไม่ได้อยากได้ด้วย”
“ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีสิทธิ์พูดถึงเครื่องเพชรประจำตระกูลฉันแบบนั้น!!”
นั่นคือสิ่งที่บริกซ์ตั้นเกลียดที่สุดคือคำพูดของเพียงฟ้าที่ดูถูกเครื่องเพชรประจำตระกูลเบอริอันต์อันแสนยิ่งใหญ่
“หนะ หนูขอโทษค่ะ” เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพลั้งพูดแบบนั้นไปเพียงฟ้าก็รีบยกมือขึ้นป้องปากเล็ก เธอไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลยเพราะอารมณ์ชั่วชั่ววูบแท้ๆไม่รู้ว่ากระบอกปืนพกจะมาจ่อหัวกะโหลกเธออีกหรือเปล่า
“เก็บปากของเธอไว้กินข้าวดีกว่าสาวน้อย”
เขาไม่อยากจะถกเถียงอะไรกับเธอให้เยอะจึงเดินเข้าไปใกล้ก้มหน้าลงมองใบหน้าเล็กสวยได้รูปของสาวไทยที่มาเรียนไกลถึงอเมริกา
“เคลียร์กับทางบ้านเธอเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอแอบบอกที่บ้านว่ามาอยู่กับฉันที่นี่...ถ้าเธอแอบบอกคงจะรู้นะว่าชีวิตจะต้องเจอกับอะไร”
“ค่ะ...หนูไม่ได้บอกที่บ้านเรื่องนี้ค่ะ”
เพียงฟ้าตัดสินใจไม่เล่าเรื่องที่โดนเขาบังคับให้ใช้หนี้และย้ายมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์เพราะกลัวว่าที่บ้านจะเป็นห่วงและเธอรู้ว่าตระกูลเบอริอันต์นั้นมีอำนาจมากแค่ไหนในอเมริกา เธอกลัวว่าการกระทำของเธอจะส่งผลกับธุรกิจของทางบ้าน
“ดี....เธอต้องอยู่ใช้หนี้จนกว่าจะหมดฉันถึงจะปล่อยเธอไป”
เขาพินิจพิเคราะห์ใบหน้าเล็กได้รูปไม่รู้ว่าน้องชายเขาคิดยังไงมาเอาเด็กนี่ทำเมีย หากบอกว่าเอายัยซีเวียที่โดนยิงนั้นมาทำเมียยังจะน่าเชื่อกว่าเพราะทรวดทรงองค์เอวและหน้าตาของซีเวียคือสเปคของไบรอันซึ่งต่างจากเพียงฟ้าที่ตัวจะตัวเล็กอ้อนแอ้นตามสไตล์สาวไทยแท้
“แล้วคุณจะให้หนูไปทำงานที่ไหนเหรอคะ ที่บริษัทเหรอ”
เพียงฟ้าเคยได้ยินมาว่าบ้านของไบรอันนั้นมีธุรกิจใหญ่โตอยู่ในอเมริกา ทั้งตระกูลเขายังเป็นมาเฟียเก่าแก่ที่มีธุรกิจทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายอีกต่างหากแต่ก็ไม่สามารถมีใครคนโค่นอำนาจได้
“ฝันหวานอยู่เหรอ”
“คะ หมายความว่ายังไง?”
“ทำงานบริษัทน่ะธรรมดาเกินไป...”
“คุณหมายความว่ายังไงคะ...”
น้ำเสียงเล็กเอ่ยถามสั่นเครือ ตอนนี้เธอเริ่มจะมีความกลัวขึ้นมาซะแล้วสิ
“ที่ฉันให้เธอเก็บของมาอยู่ที่นี่เพราะว่าจะให้ทำงานใช้หนี้”
“ก็ใช่ไงคะ หนูถึงถามว่าจะให้ไปทำตำแหน่งอะไรที่บริษัทหนูเรียนคณะบริหารธุรกิจมา”
“ฉันไม่ได้จะให้เธอไปทำงานที่บริษัท”
“เอ๋ งั้นจะให้หนูทำอะไรล่ะคะ”
“สิ่งที่เธอต้องใช้ไม่ได้ให้จ่ายด้วยเงิน”
“...”
เขาหมายความว่ายังไงกันนะ ร่างเล็กได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจและภายในใจของเธอตอนนี้ก็ร้อนรุ่มซะเหลือเกิน
“แต่เธอจะต้องใช้หนี้ฉันด้วยร่างกาย”