Chapter 2 เครื่องเพชรเจ้าปัญหา
Chapter 2
เครื่องเพชรเจ้าปัญหา
คอนโดของเพียงฟ้า
เพียงฟ้าได้แต่นั่งน้ำตาซึมอยู่กับตัวเองมาหลายวัน อีกแค่เพียงสองวันก็ถึงกำหนดการที่จะต้องกลับไทย
ซึ่งตอนนี้เธอได้รู้ข่าวว่าซีเวียเพื่อนรักถูกยิงตายคาที่พร้อมกับไบรอัน เพื่อนๆต่างโทรมาแสดงความเสียใจกับเธอเพราะคิดว่าเธอนั้นคบกับไบรอัน แต่แท้จริงแล้วคนที่คบกับไบรอันก็คือซีเวีย
“ฮึกๆ ไม่นะ..”
ได้แต่เศร้าที่เพื่อนรักเสียชีวิตอย่างอนาถโดยที่ตัวของเพียงฟ้าไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
เธอมองกล่องเครื่องเพชรที่ตอนนี้ถืออยู่ในมือ แล้วเธอจะทำยังไงดี ซีเวียบอกให้เธอเก็บเอาไว้เธอจะเอามันไปคืนที่ใครได้ แต่เพียงฟ้าค่อนข้างมั่นใจว่ากล่องเครื่องเพชรนี้จะต้องเป็นของไบรอันอย่างแน่นอน
พิธีศพของซีเวียและไบรอันจะถูกจัดขึ้นที่โบสถ์แห่งนี้ซึ่งอยู่ในเมือง
เพียงฟ้าลุกขึ้นแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีขาวดำสุภาพพร้อมกับมวยผมไว้ด้านหลังเธอจะไปเข้าร่วมพิธีของไบรอันเพราะมั่นใจว่าจะต้องมีญาติเขาอยู่ที่นั่น เธอจะมอบเครื่องเพชรชุดนี้คืนแก่เจ้าของที่แท้จริง
เธอนำเครื่องเพชรกล่องนั้นใส่ในถุงกระดาษสีน้ำตาลแล้วเดินถือออกมาจากคอนโดพร้อมกับเดินทางมาที่โบสถ์ด้วยรถบัส
เพียงฟ้าใช้ชีวิตที่นี่อย่างเรียบง่ายเพราะไม่ได้ติเหรูอะไรแม้ว่าที่บ้านเธอจะมีฐานะรวยมากก็ตาม พ่อแม่เธอทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าแบรนด์เนมชื่อดัง
เพียงฟ้าได้แต่เดินปาดน้ำตาไปด้วย ตอนนี้เธอลงจากรถบัสและเตรียมจะเดินเข้าไปที่โบสถ์
“ฮึกๆฮือ”
คนตัวเล็กถือถุงกระดาษใส่กล่องเครื่องเพชรไปพร้อมกับร้องไห้ปาดน้ำตา ไม่คิดว่าเพื่อนรักที่เพิ่งเรียนจบจะมาจบชีวิตเร็วอย่างนี้
แต่แล้วเหตุการณ์โกลาหลก็เกิดขึ้นอีกเมื่อชายใส่ชุดดำมาฉกถุงกระดาษสีน้ำตาลไปจากเธอ
“เฮ้ เอาคืนมานะ! มันเป็นของฉัน!!”
เพียงฟ้าตวาดใส่ชายฝรั่งคนนั้นด้วยภาษาอังกฤษ
“นี่ครับนาย”
ชายหน้าฝรั่งคนนั้นส่งกล่องกระดาษที่ใส่กล่องเครื่องเพชรให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เดินเข้ามา
ร่างสูงโปร่งกว่า 189 เซนติเมตร ผมสีน้ำตาลอ่อนพร้อมกับดวงตาสีเขียวหม่นแสดงให้เห็นถึงเชื้อชาติทางตะวันตก
“นี่ใช่ไหมเครื่องเพชรของตระกูลไอ้บริกซ์ตั้น”
ชายหน้าหล่อแสยะยิ้มเมื่อลูกน้องส่งถุงกระดาษให้ เขาหยิบกล่องสีดำขึ้นมาเปิดดูก็เพราะว่ามันเป็นเครื่องเพชรชุดเล็กประจำตระกูล
“เอาคืนมานะคะ......ฉันจำเป็นจะต้องเอามันไปคืนเจ้าของที่แท้จริง!”
เพียงฟ้าเองก็ไม่ยอม เธอจะต้องเอามันไปคืนให้กับญาติของไบรอัน
“จะบอกอะไรให้นะสาวน้อย เธอจะเลือกอะไรระหว่างเครื่องเพชรกล่องนี้กับชีวิตของเธอเอง”
ชายคนนั้นหยิบกระบอกขึ้นมาจ่อหัวเพียงฟ้า ดวงตาคู่สวยหลับปี๋ด้วยความหวาดกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง
“เฮ้ย ไอ้ลูคัส”
เสียงชายชุดดำตะโกนออกมาจากทางโบสถ์แล้วรีบวิ่งกันมาประมาณห้าหกคน
“หึ มาตอนนี้ก็สายไปแล้ว...กูได้ของที่กูต้องการแล้วว่ะ”
ผู้ชายที่ชื่อลูคัสพูดจบก็รีบกระโดดขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ของลูกน้องแล้วรีบซิ่งขับออกไปจากตรงนี้ในทันที
“ฮึก ฮืออ”
เพียงฟ้ายังคงร่ำไห้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“คะ คุณ...คุณเป็นแฟนของคุณไบรอันใช่ไหม?”
เจมส์หัวหน้าลูกน้องที่เดินออกมาเมื่อเจอหน้าเพียงฟ้าก็จำได้ในทันทีเพราะเธอหน้าเหมือนกับผู้หญิงในรูปที่ได้ปริ้นส่งให้เจ้านายได้ดู
“เอ่อ คือ ค่ะ...”
เพียงฟ้าปาดน้ำตาออก จากที่ตอนแรกจะปฏิเสธแต่คิดว่าตอบรับไปก่อนดีกว่าว่าเธอเป็นแฟนของไบรอัน หากไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ได้เข้าไปร่วมพิธีในโบสถ์ก็ได้ เธออยากจะมาส่งศพเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายแม้จะไม่ได้สนิทกับไบรอันเท่าซีเวียก็ตาม
“เชิญด้านใน...เจ้านายผมต้องการจะพบกับคุณพอดี”
การที่เพียงฟ้ามาถึงที่โบสถ์แบบนี้ทำให้การทำงานง่ายขึ้นเพราะเจมส์จะได้ไม่ต้องไปตามหาลากตัวเธอมาให้บริกซ์ตั้นได้ลงโทษ
เพียงฟ้านั่งร่วมพิธีในโบสถ์อย่างเงียบๆจนพิธีเสร็จสิ้นไป แต่หลังจากพิธีเสร็จสิ้นแทนที่เธอจะได้กลับคอนโดอย่างสงบแต่เรื่องมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเธอโดนชายชุดดำลากมาที่รถคันหรู
“พวกคุณจะพาฉันไปไหนคะ...ฉันจะกลับคอนโดแล้ว”
เพียงฟ้าเจอแต่เรื่องน่าตกใจมาทั้งวัน ตอนนี้เธออยากจะกลับคอนโดและเตรียมแพ็คกระเป๋ากลับเมืองไทยเต็มที ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่พ่อและแม่ส่งเธอมาเรียนเธอไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง
“ผมให้คนพาคุณกลับไปที่เพนเฮ้าส์ด้วย เจ้านายมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ”
“แต่ฉันไม่มีอะไรอยากจะคุยกับใครทั้งนั้นค่ะ”
เธอปฏิเสธทุกอย่างเพราะไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับอะไรทั้งนั้น เพียงแค่เห็นเพื่อนทั้งคู่โดนยิงต่อหน้าต่อตาก็ช็อคมากแล้ว
แม้จะพยายามพูดเท่าไหร่ชายชุดดำทั้งสามคนบังคับให้เพียงฟ้านั่งมาด้วยกัน
เพียงฟ้าถูกพาขึ้นมาที่เพนเฮ้าส์หรูใจกลางเมืองนิวยอร์คซึ่งใหญ่คอนโดเธอประมาณสิบเท่าได้
เธอโดนผลักเข้ามาและปิดประตูลง
เพียงฟ้าเจอกับผู้ชายคนหนึ่งส่วนสูงกว่าร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรยืนหันหลังใส่ชุดสูทและมองตรงออกไปที่วิวนอกกระจก
เพียงฟ้าเดินตัวสั่นยกมือขึ้นกอดแขนตัวเองเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปให้ใกล้เขามากขึ้น
“เอ่อ คุณ...”
ชายคนนั้นหันหน้ามา ใบหน้าหล่อเหล่าของหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกันผมสีดำถูกเซ็ทอย่างดี ดวงตาเรียวสีน้ำตาลหม่นพร้อมกับจมูกที่โด่งพุ่ง คางคมเป็นสันสบตาเข้ากับเธอ
“ฉันชื่อบริกซ์ตั้น เป็นพี่ชายของไบรอัน”
คนตัวสูงกว่าเอ่ยทักทายเป็นภาษาไทยเพราะเขาสามารถใช้ภาษาได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะเกิดและโตที่อเมริกา
“ค่ะ สวัสดีค่ะ หนูชื่อเพียงฟ้าเป็นเพื่อนของไบรอัน”
“เพื่อนงั้นเหรอ? เพื่อนแบบไหนดีล่ะ?”
เขาจ้องหน้าเธออย่างดุดันแล้วเค้นเอาคำตอบจากปากเล็กนั้น ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดคำพูดจากปากผู้หญิงคนนี้
“เป็นเพื่อนจริงๆค่ะ หนูเป็นเพื่อนของไบรอันกับซีเวีย”
“ซีเวีย? ผู้หญิงที่ตายพร้อมกับไบรอัน เพื่อนตายคู่แต่ทำไมเธอรออยู่คนเดียวล่ะ”
“คือหนู...”
เป็นคำถามที่เธอเองก็ตอบไม่ถูก อาจจะเพราะเป็นจังหวะที่เธอหนีออกมาได้แต่ตอนนี้เครื่องเพชรกล่องนั้นก็ถูกขโมยไปแล้ว
“หลอกให้น้องชายฉันเลี้ยงดู พอถึงเวลาก็เขี่ยหัวมันทิ้งงั้นสิ”
“ไม่ใช่นะคะ! ไม่ใช่แบบนั้นสักนิด!”
เธอไม่ได้เป็นอะไรกับไบรอันสักหน่อย
“งั้นก็เอาเครื่องเพชรชุดเล็กประจำตระกูลมาคืนฉันสิ ได้ข่าวว่าเธอเอามันไป”
“หนะ หนู... คือมัน มันไม่ได้อยู่กับหนูแล้วค่ะตอนนี้”
ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะเอามาคืนแท้ๆ
“หึ แล้วมันหายไปไหน!!”
ชายหนุ่มเดินเข้ามากระชากข้อมือเล็กของหญิงสาวพร้อมกับกระชากตัวเธอให้เข้าใกล้แล้วก้มลงจ้องหน้าคนตัวเล็กกว่าที่สูงเพียงร้อยหกสิบเซนติเมตร
“มีคนขโมยมัน...ผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำ..”
“มันคือใคร!?”
น้ำเสียงแหบห้าวตะโกนถามอย่างดุดัน
“คิดว่า...หนูคิดว่าเค้าน่าจะชื่อลูคัสค่ะ”
นั่นคือสิ่งที่เธอได้ยินตอนที่เกิดเหตุโกลาหล แต่ก็ไม่มั่นใจนักว่ามันเป็นอย่างที่ได้ยินรึเปล่า
“บอกว่าผู้ชายคนนั้นขโมยไป แต่เธอกลับรู้จักชื่อมันราวกับคนที่รู้จักกันดี”
“ไม่ใช่นะคะ...หนูไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนั้น”
“ไม่รู้จักมันแต่รู้ว่ามันชื่อลูคัสซะด้วย”
เขามองเธอยังจับผิดและแน่นอนว่าคนอย่างบริกซ์ตั้นไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
“คุณไม่เข้าใจสิ่งที่หนูพูดบ้างเลย! ก็บอกว่าไม่รู้จักไงคะ!”
จากตอนแรกเศร้าร้องไห้เจียนตายตอนนี้เริ่มโมโหพี่ชายของไบรอันที่ไม่ยอมฟังเธอเอาซะเลย
“ถ้าบอกว่ามันขโมยไปฉันไม่เชื่อ แต่ถ้าบอกว่าเธอขายเครื่องเพชรนั้นให้กับมันฉันอาจจะเชื่อ”
“ไม่นะคะ...”
“บอกมาว่ามันให้เท่าไหร่ กี่ดอล?”
“ไม่นะคะ! หนูโดนขโมยไปจริงๆ”
“ฉันถามว่ามันให้เธอกี่ดอล!!”
“ว้าย!”
เขาผลักร่างเล็กให้ล้มลงไปนั่งพับเทียบกับพื้น ขาเล็กกระแทกเสียดสีเข้ากับพื้นจนเป็นรอยแดง
“บอกความจริงมาถ้าไม่อยากตาย...”
บริกซ์ตั้นคว้ากระบอกปืนพกสั้นขึ้นมาแล้วจ่อเข้าไปที่หัวของเพียงฟ้า
ตอนนี้เธออยากจะบ้าตายซะจริงๆ อยู่นิวยอร์คมาตั้งสี่ปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ แต่พอกำลังจะกลับไทยดันเจอแต่พวกมาเฟียท้องถิ่น
ปืนของเขาจ่อเข้าที่หัวของเธอ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็นปืนจริงก็ตอนนี้นี่แหละ
“คะ คุณคะ อย่าทำหนูเลยนะคะ...หนูขอร้อง”
มือเล็กยกขึ้นไหว้กลางอกในใจพลางคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ที่รออยู่ที่ไทย
“หึ ก็ได้! งั้นเธอก็ต้องทำงานใช้หนี้เพราะเธอทำเครื่องเพชรกล่องนั้นหายไป จะพยายามเชื่อแล้วกันว่าถูกมันขโมยไป!”
บริกซ์ตั้นเอากระบอกปืนมาเสียบไว้ที่เข็มขัดข้างกางเกงที่ยอมปล่อยเธอเพราะเขาคิดสนุกในใจ
หากยิงให้เธอตายไปซะก็คงจะจบง่ายไป...มันน่าจะมีวิธีทรมานคนเห็นแก่เงินและน่ารังเกียจอย่างเธอได้มากกว่านี้
“หนูไม่ได้ทำ... หนูไม่ได้เป็นแฟนกับไบรอัน”
“เลิกตอแหล”
“ถ้าพี่ไม่เชื่อลองถามเพื่อนๆดูก็ได้ค่ะ”
“เลิกโกหกและจงก้มหน้ายอมรับใช้หนี้ของเธอซะ”
“คุณอยากได้เท่าไหร่เหรอคะ หนูจะโทรบอกพ่อที่ไทยให้”
“ยังกล้าคิดอีกเหรอว่าจะปล่อยให้กลับไทยได้ง่ายๆ”
“ คุณหมายความว่ายังไง...”
“อยู่รับใช้กรรมของเธอที่นี่ รับใช้จนกว่าฉันจะพอใจ!”
“ไม่ค่ะ!”
“งั้นก็เลือกเอา จะใช้หนี้และมีชีวิตอยู่หรืออยาก จะลาไปยมโลกก็แล้วแต่”
กระบอกปืนถูกควักมาและจ่อไปที่หัวของคนตัวเล็กอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว
“หนูพูดความจริงไปแล้วหากว่าคุณไม่เชื่อก็คงสุดจะแล้วแต่ค่ะ”
เธอพูดออกไปด้วยความน้อยใจ ในเมื่อพูดความจริงเค้าก็ไม่ฟัง ในเมื่อเข้ามาในกรงกรรมกรงเกวียนของคนพวกนี้แล้วเพียงฟ้าก็คงจะต้องชดใช้มันต่อไปอย่างไม่อาจหลีกหนีได้พ้น
ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอแท้ๆ...