Chapter 12 การบุกรุกจากแก๊งคู่อริ
Chapter 12
การบุกรุกจากแก๊งคู่อริ
ปั้งงง
“กรี๊ดดดดด!”
“คุณฟ้า!”
ขณะที่กำลังจะขึ้นรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถจู่จู่ก็มีกระสุนปืนฝ่ายิงมาจากทิศไหนสักทาง บอดี้การ์ดทั้งสามรีบเข้าไปหาเพียงฟ้าแล้วดันตัวเธอให้ขึ้นรถไปพร้อมกับชักปืนออกมาเตรียมยิงสวน
“แม่งเอ้ย พวกไอ้ลูคัสแน่เลย”
ไมเคิลหันไปคุยกับจอห์นส่วนเจเรมี่ก็ยกปืนเตรียมยิงสวนหากมีกระสุนสวนออกมาซึ่งตอนนี้ทั้งสามคนเสียเปรียบเพราะไม่รู้มันยิงมาจากทางไหน
“รีบพาคุณฟ้ากลับเพนท์เฮาส์ดีกว่าว่ะ”
จอห์นได้หันไปบอกเพื่อนให้รีบพากันขึ้นรถและขับรถออกจากลานจอดรถแห่งนี้
คนขับรถรีบพาขับรถออกมาจากตรงนั้นแต่ก็ดูเหมือนว่าจะโดนไล่ล่าจากรถเก๋งคันเล็กซึ่งน่าจะเป็นคนของพวกลูคัส หัวขโมยที่ขโมยสร้อยเพชรประจำตระกูลไป
ปั้งงงง
“กรี๊ดดดด”
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งแต่รอบนี้มันยิงเข้าที่ล้อรถทำให้รถเหวี่ยงหมุนและถนนเส้นที่คนขับพามาก็เป็นทางลัดจึงทำให้ค่อนข้างเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครผ่านมา
เพียงฟ้ายกมือขึ้นปิดหูด้วยความหวัดกลัว ไม่คิดเลยว่าชีวิตของเธอต้องมาอยู่ท่ามกลางวงกระสุนดงปืนแบบนี้
“คุณฟ้าไม่เป็นไรนะครับ”
เจเรมี่ที่ถือปืนอยู่หันมาถามด้วยความเป็นห่วงตอนนี้รถเหวี่ยงลงข้างทางและรถเก๋งคันนั้นก็จอดพร้อมกับมีลูกน้องลงมาประมาณสามสี่คน
“ฉันกลัว...ฮือออ”
รอบนี้มันรุนแรงกว่าที่เคยได้เห็นมา เหตุการณ์มันรุนแรงพอๆกับวันนั้น วันที่ซีเวียเพื่อนรักของเธอเสียชีวิตพร้อมกับไบรอันแฟนหนุ่ม
ไมเคิลหยิบปืนขึ้นมาแล้วยัดใส่มือเพียงฟ้า
“คุณฟ้าหนีไปหลบที่ป่าด้านหลังก่อน คุณพกปืนแล้วก็เปิดจีพีเอสในโทรศัพท์ทิ้งไว้ด้วยผมจะส่งข้อความให้นายพาคนมารับ”
“ไม่เอา...ฉันจะไปกับพวกนาย ฉันกลัว”
“ไม่มีเวลาแล้วคุณฟ้า พวกมันบุกกันมากำลังคนแทบจะมากกว่าเรา ขืนอยู่รวมกันตายห่าหมดแน่”
จอห์นเริ่มตวาดเสียงดังเมื่อหญิงสาวไม่ยอมทำตาม
“คุณฟ้ารีบออกไปทางหลังรถแล้ววิ่งเข้าไปในป่า พกปืนไว้ด้วยถ้าเจอใครท่าไม่ดีดูจะเป็นพวกของไอ้ลูคัสก็ยิงแม่งได้เลยไม่ต้องกลัว เดี๋ยวทางนี้พวกผมจัดการเอง”
เจเรมี่รีบบอกถึงแผนการในหัวให้เพียงฟ้าได้ฟังแต่เธอก็หวาดกลัวเกินไปที่จะทำได้ เธอไม่กล้าที่จะต้องออกไปคนเดียวกลัวว่าจะเจอพวกของลูคัสมาบุกยิง
“ฉันกลัว...”
“งั้นคุณก็เลือกเอาจะตายห่ากันอยู่ตรงนี้หรืออยากจะมีชีวิตรอดกลับไปเจอหน้าพ่อหน้าแม่”
ไมเคิลเริ่มตวาดใส่เพียงฟ้าไม่สนใจว่าเป็นเจ้านายหรือลูกน้องแล้วตอนนี้ พวกเขาต้องเซฟชีวิตของเพียงฟ้าไว้ก่อน
“ฮืออ ไอ้บ้าไมเคิล คอยดูเถอะถ้าฉันรอดไปได้จะฟ้องคุณบริกซ์ตั้น! ฮืออ”
“ไปได้แล้วคุณฟ้า เร็ว!”
จอห์นหันมาตวาดบ้าง เพียงฟ้าพยักหน้างึกงักแล้วรีบหนีออกทางหลังรถอัลพาร์ดคันหรูแล้วรีบวิ่งเข้าป่าด้านหลังไปเพื่อจะหาที่ซ่อนตัว
ส่วนทางด้านบอดี้การ์ดสามคนก็รุมอยู่กับลูกน้องของลูคัสที่พากันมาหลายคนทั้งยิงสวน ทั้งเตะและต่อยไสกิลการต่อสู้ของทั้งสามนั้นฝึกมาตั้งแต่เด็กทำให้ไม่แพ้ใครง่ายๆ คนของบริกซ์ตั้นนั้นแข็งเก่งมากทำให้ยากที่จะเข้ามาทำร้ายตัวได้
ทางด้านของบริกซ์ตั้น
“นายครับ...โคเคนรอบนี้ทางฝั่งโน้นตอบรับมาแล้วครับ”
“อืม งั้นก็ตามนั้นเลย”
เขานั่งทำงานอยู่ภายในห้องพร้อมกับสวมชุดสูทสีดำ
แต่แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นโดยได้รับแจ้งจากบอดี้การ์ดทางฝั่งโน้นว่าเพียงฟ้ากำลังตกอยู่ในอันตราย
“บ้าฉิบ! เจมส์! เตรียมคนของเราให้พร้อมมันจะบุกมาทำร้ายผู้หญิงของกู!!”
บริกซ์ตั้นสั่งให้ลูกน้องรวบรวมกำลังคนที่มีพร้อมกับดูระบบจีพีเอสว่าตอนนี้หญิงสาวคนไทยตัวเล็กอย่างเพียงฟ้าอยู่ที่ไหน
ทางด้านของเพียงฟ้า
ปั้งง
ปึ้งงง
ผัวะ
เสียงการต่อสู้ยังดังขึ้นไม่หยุด เพียงฟ้าได้แต่นั่งน้ำตาซึมตอนนี้เธอหลบอยู่ในพุ่มไม้โดยหวังว่าตัวเองและบอร์ดี้การ์ดทั้งสามจะปลอดภัย เธอไม่อยากจะยิงใครเลยสักนิด
มือเล็กกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น เธอเปิดจีพีเอสำว้ตลอดเวลา
มือเล็กยกขึ้นป้องปากให้เสียงสะอื้นไม่ดังเล็ดลอดออกไป หากมีใครมาเจอเธอเข้าเธอคงตายอยู่คาพุ่มไม้แห่งนี้
“ฮึกๆ”
คนตัวเล็กปิดปากเอาไว้แน่นไม่ยอมให้เสียงดังออกมา
พึ่บบ
กรี๊ดดดดด
เพียงฟ้ากรี๊ดลั่นเมื่อเสียงพุ่มไม้โดนแหวกขึ้นแล้วเธอโดนกระชากข้อมือให้ออกไปจากตรงนั้นเพียงฟ้ารีบยกกระบอกปืนขึ้นมาเอาไปจ่อที่แผงอกกำยำพร้อมหลับตาปี๋
“ฟ้า! นี่ฉันเอง ตั้งสติสิ!”
เมื่อได้ยินเสียงอันแสนจะคุ้นเคยเธอก็ลืมตาขึ้นและพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคือบริกซ์ตั้นโดยที่ตอนนี้เธอจ่อปืนอยู่ที่หน้าอกของเขา
“คะ คุณบริกซ์ตั้น”
เมื่อเห็นว่าเป็นเขาเธอจึงรีบชักกระบอกปืนแล้วโยนมันทิ้งลงพื้นพร้อมกับโผเข้ากอดเขาแล้วซุกหน้าเข้าหาแผงอกกำยำ
“ฮืออ หนูนึกว่าหนูจะไม่มีชีวิตรอดซะแล้ว ทำไมมันน่ากลัวแบบนี้คะหนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮึกๆ หนูอยากกลับไทย! คุณปล่อยหนูกลับไปเถอะนะคะ!”
จิตใจของเพียงฟ้าในตอนนี้มันมีแต่ความหวาดกลัวต่อแก๊งค์มาเฟียทั้งหลายที่เธอไม่เคยข้องเกี่ยวด้วยมาก่อน
ได้ยินแบบนั้นหัวใจของมาเฟียหนุ่มก็ถึงกับสั่นไหว... หญิงสาวต้องการที่จะไปจากเขา
นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้บริกซ์ตั้นไม่คิดจะมีความรักจริงจังกับใครเพราะผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตเขามักจะต้องได้รับอันตรายเสมอและไม่รู้ว่าจิตใจเธอจะแข็งยอมทนอยู่กับผู้ชายที่มีอดีตรอบตัวอย่างเขาได้นานสักเท่าไหร่
“เธอกลัวมากเลยเหรอ”
มือหนายกขึ้นแล้วลูบลงที่หัวของสาวไทยตัวเล็กอย่างเพึยงฟ้า นี่เป็นครั้งแรกที่ใจสั่นขนาดนี้ทั้งที่พยายามไม่รู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงคนไหนแต่ทำไมพอเป็นเธอคนนี้บริกซ์ตั้นถึงได้รู้สึกหวั่นไหวขนาดนี้นะ
“กลัวสิคะ ใครเจอแบบนี้จะไม่กลัวบ้างฮึกๆ”
ร่างเล็กยังคงสะอึกสะอื้น ซุกหน้าเข้าหาแผงอกกำยำอยู่อย่างนั้ยไม่ยอมผละตัวออก
“...”
“หนูอยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วไม่รู้ว่าอยู่ที่นี่ไปจะมีชีวิตรอดได้อีกนานแค่ไหน”
คำที่คนตัวเล็กพูดมันบาดลึกเข้ามาในจิตใจของบริกซ์ตั้นซึ่งนั่นมันเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขาอยู่ได้เพียงไม่นานก็เป็นจะต้องโดนคู่อริลักพาตัวไปนั่นคือเหตุผลที่ทำให้บริกซ์ตั้นไม่คิดมีใครเพราะรู้ว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง
แต่กับเธอคนนี้...ทั้งที่เป็นผู้หญิงที่ตั้งใจจะให้เป็นเพียงนางบำเรอแต่ไม่รู้ทำไมจิตใจมันถึงหวั่นไหวและรู้สึกว่าไม่อยากให้เธอกลับไป
“มีสิ...เธออยู่กับฉันก็ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว”
“คุณไม่ได้อยู่กับหนูตลอด! คุณเองก็มีงานต้องออกไปทำ หนูต้องอยู่กับบอร์ดี้การ์ดของคุณซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน”
“...”
“ดูจากเหตุการณ์วันนี้สิคะ...หนูเกือบจะสิ้นชื่อแล้วนะถ้าคุณมาหาไม่ทัน”
“เธอกลัวมากเลยเหรอ?”
“ต้องถามว่ามีใครบ้างคะที่ไม่กลัว”
เด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนย้อนถามพร้อมกับเงยหน้าสบตาเขา ดวงตากลมโตแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“นั่นสินะ...จะมีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่กลัวเมื่อต้องมาอยู่คนแบบฉัน”
บริกซ์ตั้นพูดเสียงแผ่วเบาแต่เพียงฟ้าก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่เขาเองก็รู้สึกแย่มากเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกเหมือนคนที่เหงามานาน
แต่ไม่สิ...คนอย่างบริกซ์ตั้นจะเหงาได้ยังไง เราคงคิดมากไป
เพียงฟ้าปัดความคิดนึกเห็นใจในหัวทิ้งไปเพราะคนอย่างบริกซ์ตั้นไม่มีทางเหงาอยู่แล้ว ผู้หญิงรอบกายเขามีอยู่มากมายคงไม่ปล่อยให้ตัวเองนอนแห้งตายหรอก
เพียงฟ้าผละตัวออกจากคนตัวใหญ่กว่าพร้อมเช็ดน้ำตาออกจากดวงตากลมโตคู่สวย
“วันนี้เราปลอดภัยแล้วก็กลับกันเถอะค่ะ”
ที่ทำเป็นเข้มแข็งว่าไม่กลัวแล้วก็เพราะไม่อยากจะกอดเขาไปนานมากกว่านี้กลัวว่าตัวเธอเองจะรู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายที่ไม่ควรจะรู้สึกด้วยมากที่สุดอย่างบริกซ์ตั้น
“เดี๋ยวก่อนสิ...”
บริกซ์ตั้นคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ไม่ให้เธอเดินหนีนำหน้าไปทำให้คนตัวเล็กต้องหันมาสบตากับเขาอีกเป็นครั้งที่สอง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวพวกลูกน้องคุณก็ตามหาตัวเราให้วุ่นหรอก”
“อย่ากลัวไปเลยนะ...เธออยู่กับฉันฉันสัญญาว่าเธอจะปลอดภัย”
“...”
“จะไม่มีใครหน้าไหนทำอะไรเธอได้”
“...”
“ขอแค่อยู่ต่ออีกหน่อย...อย่าพึ่งไปจากกันเลย”
บริกซ์ตั้นพูดมันออกไปแล้ว...ความรู้สึกลึกๆที่มันอยู่ภายในใจซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรรู้แค่ว่าไม่อยากจะให้เธอไปจากกันไกล
ได้ยินแบบนั้นใจดวงเล็กก็สั่นระรัว การที่เขาพูดแบบนี้ออกมาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่? อยากให้เธออยู่ด้วยไปนานๆงั้นเหรอ
แต่สถานะที่เขามอบให้ก็เป็นเพียงนางบำเรอที่จะต้องคลอดลูกให้กับเขาเพียงเพราะเข้าใจเธอผิดว่าเธอขโมยเพชรประจำตระกูลไป
ความสัมพันธ์มันเริ่มต้นจากจุดนั้นมันก็ควรจะจบแค่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ? ความคิดสับสนตีวนปนเปในหัวของเพียงฟ้าอยู่ไม่หยุดแต่แล้วความคิดนั้นก็ต้องหายไปเมื่อคนตรงหน้าเข้ามาใกล้แล้วก้มหน้าลงประกบริมฝีปากหนาเข้าหาริมฝีปากบางระเรื่อสีเชอรี่
“อื้ม”
เป็นครั้งที่สองที่เพียงฟ้ายอมให้เขาฉกจูบอย่างง่ายดายไม่คิดขัดขืน
ริมฝีปากหนาประกบจูบอยู่เนิ่นนานจนเมื่อเพียงฟ้ารู้สึกตัวจึงใช้มือเล็กยันแผงอกกำยำของเขาออกแล้วหอบหายใจอย่างเหนื่อยเพลียจากการกระทำเมื่อคู่นี้
“เรารีบไปกันดีกว่าค่ะ...เดี๋ยวพวกลูกน้องจะรอนาน”
“ก็ได้”
ดวงตาคู่คมแสนจะมีเสน่ห์ของบริกซ์ตั้นมองหน้าเพียงฟ้าสาวไทยตัวเล็กอย่างไม่ละสายตาราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัวทำให้หญิงสาวต้องหลบสายตาด้วยความเขินอายเมื่อโดนจ้องมองด้วยสายตาคู่นั้นที่แสนจะมีเสน่ห์
“เราจะกลับไปต่อกันที่ห้อง”
“!?”
เพียงฟ้าเบิกตาโพลงโตตกใจในสิ่งที่คนตัวใหญ่กว่าพูดออกมา เพิ่งจะผ่านเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานมาได้แค่แป๊บเดียวเขากลับมีอารมณ์กับเรื่องอย่างว่าและลากเธอขึ้นเตียงอีกแล้วงั้นเหรอ
“ไม่ต้องมาทำตาโต”
เขาไล่มองฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งที่เขาเองก็ผ่านผู้หญิงมาเยอะทั้งนางแบบคนดังมากมายแต่ทำไมถึงมาตกหลุมพรางเสน่ห์ของคนตัวเล็กตรงหน้านี้นะ ไม่เข้าใจตัวเองเลย
“เหตุการณ์น่ากลัวขนาดนี้คุณยังจะมีอารมณ์อีกเหรอคะ”
สรุปแล้วที่ทำเป็นยื้อเธอเมื่อกี้ไม่ได้รักไม่ได้ห่วงไม่ได้อยากจะให้อยู่ด้วยแต่เพียงแค่ต้องการให้เธอสนองตันหาก็เท่านั้นเองเหรอ
“ก็หน้าเธอมันยั่ว...จะไม่ให้อยากได้ไง”