Chapter 11 นางบำเรอไร้สถานะ
Chapter 11
นางบำเรอไร้สถานะ
“เตรียมร่างกายของเธอให้พร้อมก็พอ...และเด็กที่คลอดมาจะเป็นลูกของฉันแต่เพียงผู้เดียว”
ตอนนี้เพียงฟ้ากลับเข้ามานอนภายในห้องนอนแต่ประโยคนั้นยังคงฝังอยู่ในหัวของเธอ ไม่รู้ว่าเธอผิดอะไรนักหนาถึงต้องตกมาอยู่ในสถานะแบบนี้
เป็นแค่นางบำเรอไร้สถานะ บำเรอกามให้ยามที่เขาต้องการ มีลูกให้เขาเพื่อสืบทอดแก๊งค์มาเฟียและธุรกิจมืด ทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
ร่างเล็กกระชับผ้าห่มให้เข้าหาอย่างแนบแน่นแล้วนอนกอดพร้อมกับเอาหน้าซุกเข้าอย่างต้องการความอบอุ่น เขามาหาเธอแค่ตอนที่ต้องการและตอนนี้ก็ได้กลับไปที่คฤหาสน์หลังโตแล้ว ด้านหน้าเพนท์เฮาส์ยังมีลูกน้องคอยเฝ้าอยู่ เธอไม่อาจหนีกลับไปได้เลย
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นสักทีนะ”
เพียงฟ้าในตอนนี้คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ที่ประเทศไทยซะเหลือเกิน หากบอกท่านไปพวกท่านจะช่วยได้ไหมนะ....ถึงพ่อเธอจะเป็นนักธุรกิจแต่ก็เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนม แม้จะรวยและมีเส้นสายในประเทศไทยแต่ก็คงไม่ได้มากพอที่จะต่อกรกับมาเฟียในอเมริกาอย่างครอบครัวตระกูลเบอริอันต์หรอก
เช้าวันต่อมา
แม่บ้านสองคนมาทำความสะอาดภายในเพนท์เฮาส์พร้อมกับเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้เพียงฟ้าซึ่งเป็นอาหารไทย
เพียงฟ้ามองโจ๊กในชามพร้อมกับใช้ช้อนเขี่ยไปมา ตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องอาหารของเพนท์เฮาส์เพียงคนเดียว ป่านนี้บริกซ์ตั้นคงจะไปทำงานของเขาอยู่ กว่าจะเข้ามาหาเธอก็คงจะมืดๆ เพียงแค่เข้ามาเอาแล้วก็จากไปเท่านั้น เขาไม่ยอมนอนค้างคืนกับเธอ
“คุณไม่นอนกับหนูเหรอคะคืนนี้?”
“คุณอย่างฉันไม่เคยนอนค้างคืนกับผู้หญิงที่ไหน และไม่มีวันจะทำด้วย อย่าถามอีกเป็นครั้งที่สอง”
นั่นคือสิ่งที่บริกซ์ตั้นบอกกับเธอ คนตัวเล็กเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นก็รู้สึกโมโหเอาช้อนสับโจ๊กจนเละไปหมด
“ไอ้คนบ้า...ก็แค่ถามเพราะสงสัยยังจะมาดุอีก อยากจะรู้จริงว่าคนอย่างนายมันจะรักใครเป็น เชอะ!”
หญิงสาวได้แต่พูดพึมพำกับตัวเองเป็นภาษาไทยจนแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดและทำกับข้าวให้ถึงกับมองหน้ากันด้วยความมึนงงว่าคนตัวเล็กพูดอะไร พวกเธอฟังกันไม่ออก
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จบอร์ดี้การ์ดหนึ่งในสามคนซึ่งก็คือเจเรมี่เดินเข้ามาภายในเพนท์เฮาส์และแจ้งกับหญิงสาว
“วันนี้เดี๋ยวพวกผมจะพาคุณฟ้าไปช้อปปิ้งนะครับ”
“คุณบริกซ์ตั้นให้ฉันออกจากห้องนี้ได้แล้วเหรอคะ รู้สึกประหลาดใจจริงๆ”
เธอพูดประชดประชันที่บริกซ์ตั้นยอมปล่อยให้เธอได้ออกไปเจอโลกภายนอก
“นายสั่งให้ไปช้อปปิ้งตามใจคุณเพียงฟ้าว่าอยากซื้ออยากได้อะไรก็สามารถหยิบได้เต็มที่เลยครับ”
โอ้ย ฉันจะไปกล้าซื้ออะไรมากมายเดี๋ยวก็ไปคิดเป็นบุญคุณอีก
เธอคิดในใจพร้อมกับเบ้ปาก ตอนนี้เธอเหมือนถูกควบคุมให้อยู่ในคุกแถมพูดอะไรมากก็ไม่ได้จะจูบเธออีก
“เอาเป็นว่านายสั่งให้พาคุณฟ้าไปเที่ยวให้พอใจครับ ช้อปปิ้งเสร็จอยากจะไปเที่ยวไหนเดี๋ยวพวกผมจะพาไป”
“คุณหนูฟ้าอย่างฉันน่ะเที่ยวทั่วนิวยอร์กหมดแล้วจ้ะ เบื่อจนไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้ว”
เพียงฟ้าไขว่ห้างทำหน้าเชิดแล้วหยิบรีโมททีวีขึ้นมาเปลี่ยนช่องไม่มองหน้าเจเรมี่
“งั้นเหรอครับ โอเค งั้นเดี๋ยวผมจะไปรายงานนายว่าคุณเพียงฟ้าไม่อยากจะออกไปไหนเพราะรู้สึกเบื่อเนื่องจากเที่ยวมาหมดแล้ว”
“เจเรมี่! นี่นายกวนตีนฉันหรอ? ระวังตัวไว้เถอะนะฉันจะสั่งให้คุณบริกซ์ตั้นตัดเงินเดือนนาย”
“โอ้ว ไม่นะครับคุณฟ้า ผมแค่รายงานไปตามจริงก็คุณฟ้าบอกผมมาแบบนั้นว่าไม่อยากจะออกไปเที่ยวไหน”
“ซื่อบื้อที่สุด! ก็ได้! ในเมื่อพวกนายตื๊อขนาดนี้ฉันจะยอมออกไปเที่ยวก็ได้ แต่ไม่ได้อยากจะไปหรอกนะบอกไว้ก่อน!”
เพียงฟ้าทำหน้ามุ่ยแล้วทุบหมอนอิงบนโซฟาที่เอาไว้บนตักลงกับโซฟาสีดำแล้วรีบเดินเข้าไปภายในห้องนอนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวจะออกไปเที่ยวโดยเลือกที่จะสวมเสื้อโค้ชชุดหนาสีครีมเนื่องจากตอนนี้นิวยอร์กกำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาวและมีหิมะตกเป็นระยะ
ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
เพียงฟ้าเดินนำหน้าโดยมีบอร์ดี้การ์ดทั้งสามคนคือจอห์น ไมเคิล และเจเรมี่ตามหลังไม่ห่าง
เธอเดินดูเสื้อผ้าไปพรางฝพร้อมกับเบ้หน้าเพราะรู้สึกไม่ได้ถูกใจอะไร ปกติเธอก็เป็นคนที่ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าบ่อยมากอยู่แล้ว
“ฉันเริ่มจะหิวข้าวละพวกนายเริ่มหิวกันหรือยัง?”
เพราะตอนนี้เธอเดินมาสักพักเป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้วและเมื่อเช้าก็กินโจ๊กมาเพียงนิดหน่อยเท่านั้นเพราะมัวแต่นึกถึงหน้าบริกซ์ตั้นแล้วรู้สึกแค้นใจอยู่ที่ชอบบังคับเธอ
“ถ้าหากหิวก็สามารถเลือกร้านอาหารได้เลยครับคุณฟ้า”
จอห์นเอ่ยบอก
“อ้าวแล้วพวกนายจะไม่กินด้วยรึไงมันก็เที่ยงแล้วนะ”
“เชิญคุณฟ้าตามสบายครับ...ตอนนี้มันเป็นเวลางานของพวกผม”
ไมเคิลบอกแบบนั้น ทั้งเจเรมี่และจอห์นก็ไม่ได้ตอบอะไร
“ก็กินพร้อมกันนี่แหละฉันไม่อยากจะกินข้าวคนเดียวหรอกนะ”
เพียงฟ้าพูดพร้อมกับเดินนำไปที่อาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งและบังคับให้ทั้งสามคนเข้ามานั่งกินด้วยโดยที่ทั้งสามคนนั่งตรงข้ามเธอและเพียงฟ้าก็หยิบเมนูอาหารขึ้นมาสั่ง
เธอสั่งมาเยอะมากเพราะสามหนุ่มฝรั่งบอดี้การ์ดตัวใหญ่อย่างกับยักษ์เธอกลัวว่าจะกินไม่อิ่ม
เพียงฟ้าสั่งมาทั้งซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าปลาไหลและราเมงอีกสามชามให้ทั้งสามคน
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟสามหนุ่มก็ถึงกับมองหน้ากันแล้วเกาหัวแกรก
เพียงฟ้าหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบซูชิทานอย่างเอร็ดอร่อยแล้วทำหน้าเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์
“อื้ม อร่อยจริงๆไม่ได้ทานนาน เอ้า นั่งมองหน้ากันอยู่ทำไมทานสิ อะนี่”
เพียงฟ้ายื่นตะเกียบทั้งสามอันให้กับสามหนุ่ม ทั้งสามคนมองหน้ากันและมองชามราเมง ปกติจะทานแต่พวกขนมปังกับเนื้อเพราะต้องใช้แรงในการฝึกช่วงสมัยที่ฝึกเรื่องการเป็นบอดี้การ์ดใหม่ๆ เรียกได้ว่าทั้งสามหนุ่มเน้นใช้แต่แรงจึงทานคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเยอะ ไม่ได้ทานอาหารหลากหลายจากทั้งฝั่งเอเชียสักเท่าไหร่
“พวกผมกินไม่เป็นหรอกครับคุณฟ้า”
ไมเคิลบอกแบบนั้น
“หมายถึงกินอาหารญี่ปุ่นไม่เป็นเหรอ”
ทั้งสามหนุ่มพยักหน้าพร้อมกัน เพียงฟ้าถึงกับลอบถอนหายใจ
“งั้นดูนี่นะ”
เพียงฟ้าใช้ตะเกียบค่อยๆคีบเส้นราเมงในชามของเธอขึ้นมาแล้วซู้ดเส้นโชว์ทั้งสามคน
“ก็แค่เนี้ย ใช้ตะเกียบคีบเส้นขึ้นมาแล้วก็สูดเข้าปากเคี้ยวๆกลืน คงไม่ยากเกินความสามารถบอดี้การ์ดก้ามปูแบบพวกนายใช่ไหม?”
ทั้งสามหนุ่มได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้มเจื่อนแต่ก็ยอมทำตาม เรียกได้ว่าหากเธอคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงของนายคงจะโดนพวกเขารุมเตะกระทืบไปแล้วเพราะกวนส้นตีนซะเหลือเกิน
เพียงฟ้ากินราเมงไปหนึ่งชามและทานซูชิกับซาชิมิอีกเล็กน้อยส่วนที่เหลือทั้งสามหนุ่มฟาดเรียบ
“นี่เป็นการกินอาหารเอเชียครั้งแรกของพวกนายป่ะเนี่ย”
“ครับคุณฟ้า แต่ก็อร่อยดีนะรสชาติไม่เลวเลย”
จอห์นเป็นคนตอบพร้อมกับวางตะเกียบลงหลังกินราเมงจนหมดชาม
“แล้วตอนนี้คุณบริกซ์ตั้นอยู่ที่ไหนเหรอ ฉันอยากไปหาเขา”
“นายทำงานอยู่ที่บริษัทครับ”
เพราะธุรกิจของบริกซ์ตันมีทั้งบริษัทส่งออกสินค้า ด้านชิ้นส่วนการประกอบอาวุธขนาดใหญ่
แน่นอนว่ามีทั้งขาวสะอาด เทา และดำทะมึนตามประสาแก๊งมาเฟียซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่บริกซ์ตั้นไม่ได้อยากจะให้ฝเพียงฟ้าเห็นเขาในมุมนั้นสักเท่าไหร่
“พาฉันไปหาคุณบริกซ์ทีสิ ไหนๆก็มาห้างแล้วอยากจะซื้ออาหารญี่ปุ่นไปฝากด้วย”
“ไม่ได้ครับ”
“ทำไมล่ะ? ก็ฉันอยากจะไปนี่นา”
“ยังไงก็ไม่ได้ครับนายสั่งกำชับเอาไว้แล้วว่าห้ามคุณไปเหยียบที่บริษัทเด็ดขาด”
“ชิ นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง”
“เอาเป็นว่าถ้าไม่ซื้ออะไรเพิ่มเติมแล้วเรากลับกันดีไหมครับ”
ที่บอกแบบนั้นเพราะจอห์นเองก็ไม่ได้อยากจะให้เธออยู่ที่นี่นานนัก กลัวว่าจะเป็นเป้าสายตาของแก๊งค์คู่อริ
“ก็ได้... กลับไปนอนดีกว่าเบื่อจะเถียงกับพวกนายแล้ว”
ทั้งสี่คนเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่นและตรงมาที่ลานจอดรถเพื่อที่จะเดินทางกลับเพนท์เฮาส์สุดหรูแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก
ปั้งงงง
“กรี๊ดดดดด!”
“คุณฟ้า!”