06 กัดกับหมา
~ บ้านภากร ~
“นี่บ้านนายเหรอ?” ฉันมองไปข้างหน้าเมื่อลงจากรถมา ฉันก็ไม่ได้ตื่นเต้นหรอกที่ได้เห็นบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ เพราะฉันก็เห็นมาเยอะแล้วที่ฝรั่งเศส
คนรวยจะมีบ้านหลังใหญ่แค่ไหนก็ได้ไม่เห็นจะแปลกเลย
“อืม…”
“เป็นมาเฟียเหรอ? หรือว่าเป็นนักการเมือง?” ที่ฉันถามเพราะว่าฉันเห็นการ์ดเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
“ก็ไม่เชิงอะ ตาฉันเป็นมาเฟีย ทุกอย่างมันก็เลยสืบทอดมาที่ฉัน”
“อ๋อ” ฉันพยักหน้าเบาๆ งั้นก็ไม่แปลกที่จะมีลูกน้องเยอะเต็มบ้านขนาดนี้
“จะเข้าไปด้านในกันได้ยัง พ่อฉันรออยู่แล้ว”
“อ่าค่ะ”
ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายนะแต่พอรู้ว่าครอบครัวนี้เป็นมาเฟีย ฉันก็รู้สึกประหม่ายังไงไม่รู้ เพราะป๊า ( พ่อเลี้ยง ) เคยบอกกับฉันว่าส่วนใหญ่มาเฟียจะน่ากลัว โหดร้าย ทารุณ ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลา และไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถ้าอยู่ห่างจากคนพวกนี้ได้ก็ควรที่จะอยู่ห่างไปเลย
คนหน้าตาดีแต่งตัวดีก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ ซึ่งนั่นฉันก็ไม่ได้ไว้ใจอีตาบ้าภากรนี่เลย แต่ที่ฉันยอมมาด้วยก็เพราะว่าอยากเจอพ่อ
แต่ถ้าจะทำอะไรฉัน ฉันก็มีแผนที่จะรับมืออยู่แล้ว เพราะฉันก็เรียนการต่อสู้มาไม่น้อยเหมือนกัน
ด้านใน
ฉันกับภากรเดินผ่านใครบางคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำอะไรอยู่ ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะหันกลับมาทำเอาฉันตกใจจนสะดุ้ง เพราะหมอนั่นบวกตาเขียวอี๋ มองไม่ออกเลยว่าเป็นใคร
“คะ ใคร!?” ฉันเอ่ยถามด้วยท่าทางที่เกร็งไปทั้งตัว
“น้องชายของฉันเองน่ะ ชื่อว่าภาคิณ เมื่อหลายวันก่อนมันไปกัดกับหมาที่ไหนมาก็ไม่รู้ สภาพก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
“กัดกับหมา?” ฉันถามย้ำ
“มึงหุบปากไปเลยไอ้ภากรไม่ต้องมาตอกย้ำกู ถ้ากูรู้ว่าคนนั้นเป็นใครสภาพกูคงไม่เป็นแบบนี้หรอก อย่าให้กูเจอตัวได้เถอะมึง จะจับเลาะหนังออกมาทำผ้าเช็ดตีนให้ดู โอ้ยซี๊ด! ส่วนกระดูกกูก็จะเอาไปให้หมาแทะเล่น”
“….” ฉันมองหน้าของผู้ชายคนนั้นอย่างไม่กระพริบตา เหมือนกับว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภวังค์
“ไม่ต้องสนใจมันหรอก รีบไปกันเถอะ”
“….” เสียงของภากรทำให้ฉันได้สติขึ้นมาอีกครั้ง
อย่าบอกนะว่าคนที่ฉันเล่นงานไปเมื่อหลายวันก่อนคือผู้ชายคนนี้ซึ่งไม่ใช่นายภากร แต่เป็นน้องชายของเขา ที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายที่ชื่อภาคินจะโหดร้ายมากกว่าเยอะ
ทั้งสายตาที่จ้องมอง ทั้งคำพูดที่เอาจริงเอาจัง ทำให้ฉันรู้สึกเสียวต้นคอวาบ กลัวว่าจะโดนจับไปถลกหนังแล้วทำเป็นผ้าเช็ดเท้า
พิลึกดีคนในบ้านหลังนี้
นายภากรพาฉันมาถึงยังหน้าห้องห้องหนึ่ง ที่มีประตูบานใหญ่ลายมังกรอยู่ตรงหน้า ซึ่งน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของมาเฟีย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใคร?” คนด้านในตะโกนถามออกมา น้ำเสียงดูเย็นยะเยือกแปลกๆ
“ผมเองครับพ่อภากร”
“เข้ามาสิ”
“ครับ ปะเขาไปกัน”
“….” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามหลังนายภากรเข้าไปด้านใน ภายในห้องเย็นเฉียบอย่างกับขั้วโลกเหนือแน่ะ
“ผมพาผู้หญิงที่คุยกับพ่อไว้เมื่อวันก่อนมาเจอครับ”
“….” ร่างนั้นค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับฉัน “สะ สวัสดีค่ะ หนูชื่อโรสสิรินค่ะ”
“ไม่ต้องเกร็งหรอกตามสบายเลย ลุงไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น” ชายชราพูดกับฉันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งก็ทำเอาฉันผ่อนคลายความกลัวลงไปบ้าง
“คือหนู”
“ภากรเล่าให้ลุงฟังหมดแล้วล่ะว่าหนูมาตามหาพ่อ ถ้าอย่างนั้นลุงก็จะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะ”
“ค่ะคุณลุง”
“ตอนนั้นลุงออกไปเที่ยวทะเล ไปเจอพ่อของหนูติดประกาศขายบ้านด่วนลุงก็เลยเข้าไปซื้อไว้ ลุงรู้แต่ว่าพ่อของหนูเดือดร้อนเรื่องเงินมาก ลุงก็เลยให้เพิ่มไปอีกเพราะพ่อของหนูติดนี่การพนันในบ่อน แต่ก็ไม่น่าจะไปไหนไกลนะ เพราะลูกน้องของลุงบอกว่าเคยเห็นพ่อของหนูมาแอบมองที่บ้านหลังนั้นอยู่บ่อยๆ เหมือนกับว่ากำลังรอใครอยู่”
“….” ได้ฟังคุณลุงพูดจบฉันก็น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม แสดงว่าพ่อไม่เคยทิ้งฉันไปไหนไกลเลยพ่อยังคอยอยู่แถวนั้นรอฉันกลับมา “ละ แล้วพอจะบอกได้ไหมคะ ว่าที่เจอพ่อของหนูมาแอบมองอยู่ที่ไหน?”
“ภากรน่าจะช่วยได้นะ”
“เดี๋ยวฉันพาไป”
“หนูขอบคุณคุณลุงมากเลยนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ถ้ามีโอกาสหนูจะมาตอบแทนคุณลุงนะคะ” ฉันรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่จะได้เจอกับพ่อแล้ว ดีใจที่พ่อยังรอฉันกลับมาตลอด พ่อไม่เคยทิ้งฉันไปไหนเลย ในขณะที่ฉันทิ้งพ่อไปไกลหลายปี
“ครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณลุง” ฉันยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า ก่อนจะหันหลังเดินออกไปพร้อมกับภากร
“ตากร!”
ฉันกับภากรหยุดเดินพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงคนนึง เพราะฉันหันกลับไปมองก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนยืนอยู่ทางด้านหลัง ถึงภายนอกจะดูแก่แต่ก็ไม่ได้ลดความสวยลงเลย
“พาใครมาบ้านลูก แฟนเหรอ?”
“เอ่อ..”
“มะ ไม่ค่ะคุณป้าหนูไม่ได้เป็นแฟนกับภากรค่ะ เราสองคนแค่รู้จักกันเฉยๆ” ฉันรีบตอบแทนเพราะกลัวว่าจะมีคนเข้าใจผิด ส่วนนายนั่นก็ได้แต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ
“อ๋อ”
“สวัสดีค่ะคุณป้า” มัวแต่ตกใจจนลืมไปว่าตัวเองลืมไหว้ผู้ใหญ่
“สวัสดีจ้ะหนู เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันละเนี่ย หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเชียว”
“เอ่อ หนูเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสค่ะ อยู่กับแม่ที่โน่น” บอกไปคุณป้าแกก็คงไม่รู้จัก เพราะฉันโตมากับบ้านหลังนั้นไม่เคยเข้ากรุงเทพเลย เพิ่งจะมาได้เข้ากรุงเทพก็ตอนโตเนี่ยแหละ
“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายกันนะลูก แม่ไม่ขัดล่ะ”
“ครับคุณแม่”
“ฉันจะกลับคอนโดแล้วนะ นายไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้ฉันจะนั่งแท็กซี่ไป”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง ฉันจะแวะไปที่นั่นพอดี”
“….” ฉันถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะเดินนำหน้านายภากรออกมา ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนเมื่อไหร่นายนี่จะต้องมีธุระที่นั่นตลอด ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจกันแน่
ไม่นานเราสองคนก็มาถึงยังคอนโดของจินที่ฉันพักอยู่
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง”
“ก็ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันมีธุระที่นี่พอดี จะพาเธอมาด้วยก็ไม่เห็นแปลกถือว่าช่วยเพื่อนร่วมทาง”
“หรา…ชิ!”
ลึกๆ ก็แอบปากเสียนะนายนี่ เสียดายที่คนที่ฉันเล่นงานวันนั้นไม่ใช่นายภากรนี่ เพราะถ้าใช่ฉันก็คงจะสมน้ำหน้าแทนที่จะรู้สึกผิด