05 ช่วย
คอนโด
“แกยัยโรส”
“ว่า?”
“เจ้านายของฉันอยากเจอแก”
“แต่ฉันไม่ได้อยากเจอเจ้านายของแก ฝากไปบอกเค้าด้วยว่าฉันไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก”
“เขาบอกว่าพ่อของเขาเป็นคนซื้อบ้านหลังนั้นต่อจากพ่อของแกบางทีอาจจะรู้ก็ได้ ว่าพ่อของแกไปอยู่ที่ไหน”
“ไม่จำเป็น พ่อของฉันฉันตามหาของฉันเองได้” โรสสิรินยังคงยืนหยัดคำเดิม เธอไม่ชอบขอความช่วยเหลือจากใคร และก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเธอ โดยเฉพาะคนที่เธอไม่ได้ถูกชะตาด้วยตั้งแต่แรก
“แล้วแกจะงมตามหาพ่อแบบนี้หรอ แกยังไม่รู้เลยนะว่าพ่อของแกอยู่ที่ไหน เผลอๆ ไม่มีหลักฐานอะไรแบบนี้แกก็อาจจะไม่รู้เลยด้วยว่าพ่อของแกอยู่ที่ไหน”
“แต่แกก็รู้ว่าฉัน…”
“ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบบอสของฉัน แต่เค้าอยากช่วยแกนะเว้ย”
“ฉันไม่ได้ขอร้องให้เค้ามาช่วยนี่นา”
“โรส…”
“ฉันไม่อยากมีบุญคุณกับใคร”
“แล้วแกไม่อยากเจอหน้าพ่อของแกหรอ บอสของฉันรู้จักคนกว้างขวางนะ ถ้าเขาตกลงจะช่วยแกบางทีทุกอย่างมันอาจจะง่ายกว่าที่แกคิดก็ได้”
“….” โรสสิรินนั่งเงียบ
“โอเค แกยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ คิดก่อนแล้วค่อยตอบฉันอีกทีก็แล้วกัน”
“….” เธอไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนสนิท ลึกๆ เธอก็แอบสนใจ เพราะตอนนี้เธอก็จนปัญญาที่จะออกตามหาพ่อแล้วเหมือนกัน เธอไม่ใช่คนใหญ่โตอะไรไม่มีลูกน้องคอยเป็นหูเป็นตา
ตกดึก
โรสสิรินนอนคิดอยู่ครึ่งคืนว่าจะรับความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า เพราะเธอมีเวลาอยู่แค่สองเดือนเท่านั้น
“เฮ้อพ่อคะ ตอนนี้พ่อหายไปอยู่ที่ไหน โรสกลับมาหาพ่อแล้ว” โรสสิรินพูดพึมพำก่อนจะหลับตานึกถึงวันวานที่เธอกลับครอบครัวยังอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ด้วยที่เศรษฐกิจในช่วงนั้นบวกกับบ้านของเธอกำลังมีปัญหาทางด้านการเงิน พ่อกินเหล้าหนักขึ้น แม่ก็เครียดเพราะเพิ่งถูกไล่ออกจากงาน ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียน
และตอนนั้นเธอก็ต้องหยุดเรียนกระทันหัน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม
พ่อแม่เริ่มทะเลาะกันหนักขึ้น จนกระทั่งแม่ของเธอพาเธอหนีออกจากบ้าน ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ฝรั่งเศสกับคนที่แม่รู้จัก
คร่อก~
เช้าวันต่อมา
โรสสิรินตื่นแต่เช้าตามปกติก่อนจะลงไปซื้อน้ำเต้าหู้ที่ด้านล่างขึ้นมากิน เพราะเธอชอบกินน้ำเต้าหู้มาก
“วันนี้แกไม่ไปทำงานอ่อยัยจิน?”
“ไปสิ นี่ยังเช้าอยู่เลย ฉันยังไม่รีบไปหรอก” เธอไม่ค่อยดูเวลาเท่าไหร่ ชอบทำอะไรจนเพลิน ดูเวลาอีกทีก็ใกล้เวลาที่จะเข้าทำงานแล้ว
“ฉันซื้อน้ำเต้าหู้มาเผื่ออยู่นะอยู่ในครัว ไปเอามากินสิ”
“โอเค ขอบใจนะ”
“….”
“เรื่องนั้นที่ฉันให้แกไปนอนคิดสรุปแกจะว่ายังไง”
“ฉันขอเบอร์เจ้านายของแกเอาไว้ติดต่อหน่อยสิ”
“แป๊บนะ” จินตนาเดินไปหยิบสมุดกับปากกาแล้วจดเบอร์โทรติดต่อของเจ้านายให้กับเพื่อนสนิท “นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของเจ้านายฉันเลยนะ”
“ขอบใจ” โรสสิรินรับกระดาษใบนั้นมาแล้วนั่งกินน้ำเต้าหู้อย่างใจเย็น
“แล้วนี่แกจะออกไปข้างนอกหรือเปล่า”
“ไปอยู่ แกจะเอาอะไรมั้ยฉันว่าจะแวะไปห้างด้วย”
“ไม่ล่ะ ฉันไปก่อนนะ” จินตนาส่ายหัวรัวๆ ก่อนจะยกแก้วน้ำเต้าหู้กินทีเดียวจนหมด จากนั้นก็รีบคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกไปทันที
ไม่แปลกที่จินตนาจะดูเร่งรีบในช่วงที่กำลังจะใกล้ถึงเวลาทำงาน เพราะเจ้านายแสนเนี๊ยบไม่ชอบให้พนักงานมาสาย เพราะมันดูเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
เวลาต่อมา
โรสสิรินอาบน้ำแต่งตัวแล้วมานั่งเล่นที่โซฟา พลางจับกระดาษที่จดเบอร์โทรของภารกรพลิกเล่นไปมา แต่ยังไม่ตัดสินใจที่จะโทร
“คุณภากร คุณภากร คุณภากร” เธอเอ่ยเรียกชื่อของเขา ตามที่เพื่อนสนิทได้จดเอาไว้ให้บนกระดาษ
ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดไปตามเบอร์โทรที่อยู่ในกระดาษใบนั้น
ตี๊ด ตื๊ด
( สวัสดีครับ ภากรพูดครับ )
“ฉันเอง” โรสสิรินพูดเบาๆ
( เธอที่ชื่อโรส )
“อืม”
( อ่า มีอะไรหรือเปล่า )
“เรื่องที่นายฝากเพื่อนของฉันมาบอก ฉันอยากคุยกับนาย”
( ได้สินัดสถานที่มาเลยเดี๋ยวฉันไป )
“วันนี้ตอนเที่ยง เจอกันที่ร้านอาหารฝรั่งเศสในห้าง”
( โอเค )
โรสสิรินรีบกดวางสายจากภากร จากนั้นก็นั่งรอจนกระทั่งใกล้เที่ยงเธอจึงไปจองโต๊ะนั่งรอภากรอยู่ที่นั่น
“สวัสดี รอนานหรือเปล่า” ภากรเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ
“ไม่อะ”
“สั่งอะไรกินก่อนสิ เดี๋ยวฉันจ่าย”
“ไม่ต้อง พูดเรื่องของคุณมาเลยจะดีกว่า ฉันไม่อยากเสียเวลา”
“นั่งกินข้าวกับคนหล่อมันยากเย็นขนาดนั้นเลยหรือไง?”
“….” โรสสิรินไม่ตอบ แต่ส่งสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจไปแทน
“โอเคๆ ไม่สั่งก็ไม่สั่ง”
“พูดมา ฉันอยากรู้”
“พ่อของฉันเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอขายบ้านหลังนั้นให้เพราะร้อนเงิน พ่อฉันก็เลยให้เต็มราคาเพราะเห็นว่าบ้านสวยทำเลดี แต่ถ้าเธออยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็ต้องไปถามพ่อของฉันเองแล้วล่ะ”
“แล้วทำไมนายไม่รู้”
“ตอนนั้นฉันยังเด็ก จะไปรู้อะไรได้ยังไงกัน”
“สรุปถ้าฉันอยากรู้อะไรมากกว่านี้ ฉันต้องไปถามพ่อของนาย?”
“อ่าห๊ะ”
“ขอตัว!” โรสสิรินทำท่าจะลุกขึ้น เพราะเท่าที่ฟังภากรเล่ามามันก็ได้ความว่าพ่อของเธอร้อนเงิน จนต้องขายบ้านทิ้ง แล้วย้ายออกไป ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“จะไปไหน”
“มันยุ่งยาก ฉันตามหาเองดีกว่า”
“ดะ เดี๋ยวสิ ถ้าเธออยากไปถามพ่อของฉัน ฉันพาเธอไปได้นะ”
“ไม่อะ ฉันไม่อยากรบกวนใคร”
“ไม่หรอก เผื่อว่าพ่อฉันจะช่วยได้”
“….”
“เธออยากเจอพ่อไม่ใช่เหรอ”
“แล้วไง?”
“ก็จะพาไปสืบนี่ไง ฉันจะช่วย”
“นายจะมาช่วยฉันในฐานะอะไร”
“ก็ ก็ถือว่าฉันไถ่โทษที่หาว่าเธอบ้าก็แล้วกัน”
“ก็หายกันแล้วไง”
“หายกันแล้ว? หายกันตอนไหน?” ภากรถามกลับอย่างงงๆ
“ก็…ช่างมันเหอะ” โรสสิรินตอบปัดๆ ไป เพราะไม่อยากจะพูดว่าเธอคือคนที่จัดการกับเขาในวันนั้น
“ตกลงจะไปมั้ย”
“เออๆ ไปก็ไป จะให้ไปวันไหนก็โทรมานัดก่อนก้แล้วกัน ฉันกลับล่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง!” ภากรพูดขึ้น
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ จะแวะไปซื้อของด้วย”
“ฉันรอได้”
“วุ่นวายจริงๆ” เธอบ่นพึมพำก่อนจะเดินไปเลือกซื้อของใช้ของเธอ โดยที่มีภากรเดินตามหลังไปติดๆ