บทที่ 6 น้องหาย !
ม้านั่งรอแท็กซี่ด้านข้างของห้าง เด็กสาวตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและแปลกที่ แล้วกระพริบตาปริบ ๆ ปรับแสงสายตาพรางสะบัดหัวอย่างมึน ๆ มองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย แล้วก้มลงมองเสื้อตัวใหญ่ที่ตัวเองห่มอยู่จำได้ว่าเสื้อตัวนี้ศิลาใส่มา แต่ตัวเองไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ได้ แล้วหันไปมองรอบ ๆ อีกครั้ง
"อ้าว...ตื่นแล้วเหรอนังหนู ไม่สบายหรือเรา" เสียงชายวัยเลยกลางคนใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้าสดใส ผมสีดอกเลาทั้งศีรษะเอ่ยทักจากทางด้านหลัง
"สวัสดีค่ะ หนูมานอนที่นี่ได้ไงคะ" เด็กสาวยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยถามด้วยภาษาไทยที่พยายามจะช้าและชัดมากที่สุด
"ลุงเห็นพนักงานห้างเขาอุ้มมาน่ะ เห็นพี่สาวเราบอกว่าเราไม่สบายเลยให้ที่บ้านมารับนี่แล้วพี่เราไปไหนแล้วล่ะ หรือไปรอรถอีกที ปล่อยน้องได้ยังไงเนี่ย" คุณลุงใจดีชวนคุยแล้วเดินมานั่งลงข้าง ๆ
"หนูไม่มีพี่สาวนะคะ หนูมากับพี่ชายชื่อ ศิลา หนูเพิ่งมาจากอเมริกาเมื่อวาน หนูไม่รู้จักใครค่ะ" เด็กสาวตอบไปอย่างไม่รู้สึกกลัวและพอจะเดาได้ว่าพี่สาวที่ลุงใจดีเอ่ยถึงคือผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มแกล้งเธอแน่ ๆ
"อ้าว ~ แล้วจะกลับบ้านยังไงล่ะทีนี้ นี่ก็บ่ายมากแล้วด้วย โทรบอกที่บ้านมารับมั้ยหรือจะให้ลุงไปส่งดี" ลุงแท็กซี่เอ่ยถามอย่างสงสารเด็กน้อยอายุอานามก็น่าจะไม่เกินหลานสาวของแกที่เพิ่งเสียไปจากมะเร็งสมองเมื่อไม่นานมานี้นัก เมื่อเห็นเด็กสาวจึงคิดถึงหลานสาวที่เลี้ยงมาอย่างสุดหัวใจ
"เอ่อ... หนูอยากไปที่ลานจอดบิ๊กไบค์ 2A ต้องไปทางไหนคะ พี่หนูจอดรถที่นั่นค่ะ" เด็กสาวว่าอย่างนึกได้และคิดว่าจะไปยืนรอที่รถเลย
"โอ... ทางนั้นเปลี่ยวพอดูถ้าเดินอ้อม เอางี้ลุงเดินไปส่งละกันลูก" ลุงขับแท็กซี่พูดขึ้นอย่างใจดี
"ขอบคุณค่ะ" เด็กสาวยกมือไหว้แล้วลุกขึ้นยืน เดินตามลุงใจดีไปอย่างว่าง่ายจนถึงลานจอดรถที่ว่าแต่ปรากฎว่าไม่พบรถของพี่ชายเธอที่ตามที่บอกทำให้เด็กสาวหน้าเสียขึ้นมาทันที
"เขากลับแล้วมั้งคะ" เสียงเศร้า ๆ เอ่ยพรางก้มหน้าอย่างผิดหวัง
"เอาไงดีทีนี้ โทรไปบอกที่บ้านมารับมั้ย"
"หนูไม่มีโทรศัพท์ค่ะ"
"งั้นลุงให้ยืม" คุณลุงใจดีว่าพรางล้วงเอามือถือเครื่องกลางเก่ากลางใหม่ยื่นให้
"หนูไม่มีเบอร์โทรค่ะ" เด็กสาวว่าครั้นจะโทรหาแม่ที่ต่างประเทศก็ต้องใช้ไลน์และมันก็อยู่ที่แท็บเล็ตในห้องนอนของที่บ้านคุณลุง
"อ้าว?? งั้นเอางี้ลุงไปส่งที่บ้านละกันลูก เฮ้อ~เด็กสมัยนี้นี่นะ แกล้งกันไม่ดูเอาซะเลยแล้วจำทางกลับบ้านได้ใช่มั้ย"
"ไม่ค่ะ ตอนมาหนูหลับตากลัวตก หนูเลยไม่รู้ว่ามาจากทางไหน" เด็กสาวตอบไปด้วยท่าทีที่สงบ
"แล้วทำไงถึงจะกลับบ้านได้ล่ะเรา" ลุงใจดีหันมาถามอย่างหนักใจปนสงสาร
"ถ้าไปที่สนามบินแล้วออกประตู 2 หนูจำได้ค่ะหนูนับซอยมา แต่หนูไม่มีเงินไทยเลยนะคะ" เด็กสาวว่าแล้วทำหน้าม่อยอย่างนึกได้ เพราะเมื่อวานตอนลงจากเครื่องเธอไม่ได้แลกเงินไทยมาเลยแล้วคุณป้าบอกว่าวันนี้จะพาไปเปิดบัญชีเธอเลยกะว่าจะแลกเอาวันนี้พร้อมกับเก็บใส่บัญชีเอาไว้ใช้ยามจำเป็นด้วย
"โห...ไกลเลยนะนั่นสนามบินเลยนะ แล้วถ้าพาไปจะจำได้จริงนะ ไม่ใช่พาลุงหลงไปใหญ่อีกล่ะ" ลุงใจดีว่าอย่างตกใจเพราะจากตรงนี้ไปสนามบินในช่วงการจราจรชั่วโมงเร่งด่วนนี้ก็ค่อนข้างนานแล้วถ้าเด็กคนนี้จำทางไม่ได้อีกยิ่งจะทำให้เสียเวลาเข้าไปใหญ่ "แล้วชื่อหมู่บ้านล่ะ จำได้มั้ยลูก"
"มันเป็นภาษาไทยค่ะ หนูอ่านไม่ออกหรอก" เด็กน้อยส่ายหน้าตอบ
"แบบนี้ได้มั้ยคะ คุณลุงเซิร์ช ชื่อของคุณปู่หนูที่กูเกิ้ล มันจะมีเบอร์โทรด้วยมั้ยคะ เหมือนเยลโลเพจเจส น่ะค่ะ" เด็กสาวว่าอย่างนึกได้และมีความหวัง
"เออ ... แบบนั้นน่าจะง่าย แล้วคุณปู่ชื่ออะไรล่ะ หนูทำเองเลยลูก" ลุงใจดีว่าอย่างตื่นเต้นพร้อมทั้งยื่นมือถือให้เด็กสาว
"หนูพิมพ์ภาษาไทยไม่ได้ค่ะ คุณลุงพิมพ์ให้หน่อยนะคะ ชื่อ นายเดชา เศรษฐทรัพย์ไพศาล ค่ะ" เด็กสาวว่าเสียงใส เอ่ยชื่อคุณปู่ให้ลุงใจดีฟังอย่างคล่อง จนคนฟังขมวดคิ้วมองหน้าเด็กสาว "แน่ใจหรือลูก" ลุงใจดีถามเพื่อความมั่นใจ
"แน่ใจที่สุดค่ะ คุณปู่หนูเอง" เด็กสาวยืนยันเสียงหนักแน่น "งั้นไม่ต้องล่ะ ลุงรู้ว่าจะไปส่งที่ไหนแล้วลูก ปะขึ้นรถลุงไปส่ง" ลุงใจดีว่าพรางจูงคนตัวเล็กไปขึ้นรถแท็กซี่กลางเก่ากลางใหม่แล้วขับออกไปทันที ทำไมเขาจะไม่รู้จักท่านเดชาในเมื่อท่านเป็นเจ้านายเก่าที่เขาทำงานด้วยมานาน และขอลาออกมาดูแลหลานที่ป่วยจนตอนนี้หลานเสียแล้วเลยมาเช่าแท็กซี่ขับประทังชีวิตไป
วัน ๆ เพราะไร้ญาติให้พึ่งพิงและไม่รู้จะต้องดิ้นรนไปเพื่อใคร
.......... //..........
บ้านเศรษฐทรัพย์ไพศาล
รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดในโรงจอดรถ ชายหนุ่มรีบถอดหมวกกันน็อค แล้วเดินเข้าบ้านมุ่งตรงขึ้นชั้น 2 ห้องของเด็กสาวทันที เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นแต่ความว่างเปล่าสภาพคงเดิมเหมือนเมื่อเช้าก่อนออกไป ชายหนุ่มปิดประตูแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างอย่างเร็วพรางตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดังจนคนโดนเรียกลนลานกันไปทั้งบ้าน "ละมัย! ป้าไพร!"
"ขา.... คุณศิลาต้องการอะไรคะ" ละมัยรีบถลามาพร้อมเสียง
"ยัยตัวเปี๊ยก... ของขวัญ กลับมาแล้วยัง" เสียงห้วนเอ่ยถามอย่างร้อนรน
"อ้าว... ไม่นี่คะ ยังไม่เห็นเลยค่ะ" ละมัยตอบหน้าเหลอหลา [ก็ลากน้องไปด้วยกันแล้วมาถามฉันทำไมก่อน... ละมัยคิดในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา]
เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มจึงล้วงมือถือออกมากดโทรหาแม่ตัวเองทันที
ตรืดด..... ตรืดด....
(ว่าไงลูก) เสียงคุณหญิงว่านมาตามสาย
"แม่ครับ เบอร์โทรยายเปี๊ยกเอ้อ... ของขวัญเบอร์อะไรครับ" ชายหนุ่มถามอย่างร้อนรน
(น้องไม่มีมือถือนะลูกแม่ว่าจะพาไปซื้อวันนี้ศิลาก็พาน้องออกไปข้างนอกซะก่อน มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ)
"แมรี่ เอ้อ เพื่อนผมบอกว่าของขวัญกลับบ้านมาก่อนครับแต่ตอนนี้ผมอยู่บ้านยังไม่เห็นเลย" ชายหนุ่มว่าออกไปไม่เต็มเสียงนัก
(อะไรนะ! นี่ลูกพาน้องไปเจอยายแมรี่นั่นเหรอ ป่านนี้ไม่ฆ่าน้องตายไปแล้วรึไง แล้วน้องจะกลับมาก่อนได้ยังไงน้องไม่มีเงินไทยติดตัวซักบาทเลยนะ) คุณหญิงว่าเสียงดังอย่างตกใจเมื่อลูกชายบอก ซึ่งชายหนุ่มเมื่อได้ฟังก็ตกใจไม่แพ้กัน
(ศิลานะ ศิลา ออกไปตามน้องเลยนะ ไปหาที่โรงหนังถามคนแถวนั้นให้หมด แล้วดูกล้องวงจรปิดเอาหลักฐานมาให้หมดนะศิลา แล้วลูกจำไว้ถ้าของขวัญเป็นอะไรไปคนที่เสียใจที่สุดจะเป็นลูกเองนะ ศิลา) คุณหญิงเอ่ยกับลูกชายยืดยาวพร้อมกับน้ำตาไหลพรากทันทีอย่างห่วงหลาน