Chapter 6 ยังคงปกป้องเธอ
Chapter 6
ยังคงปกป้องเธอ
พึ่บ
“อ๊ะ...โอบ”
ฉันคงไม่อับโชคจนเกินไปเพราะคนที่เข้ามาช่วยฉันเอาไว้คือโอบอ้อม
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่ในเสี้ยวนึงฉันเห็นแววตาอบอุ่นและแสนดีของโอบอ้อมคนเดิม คนที่เป็นแฟนฉันตอนสมัยมัธยมปลาย
“มะ ไม่เป็นอะไร
ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ไม่คิดว่าโอบอ้อมจะเข้ามาช่วยอย่างนี้ ส่วนยัยจีมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆก็ได้แต่มองฉันสลับไปมากับโอบอ้อม
เมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไรแล้วเขาก็ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนและแน่นอนว่าการกระทำนี้ก็อยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมคลาสที่อยู่กลุ่มสองด้วยเหมือนกัน
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...งั้นก็ไปกันต่อดีกว่า”
โอบอ้อมปล่อยตัวฉันออกแล้วพาเดินชมเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนหัวใจดวงน้อยของฉันก็เดินได้แต่เต้นตึกตักกับตัวเอง
ทำไมต้องเต้นแรงด้วยนะหัวใจไม่รักดีเอ๊ย...
“มึงไหวไหมเนี่ย...โอเคใช่ไหม?”
จีมี่เมื่อเห็นว่าฉันยังตั้งสติไม่ค่อยได้ใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่สีข้างแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“กูโอเค...ไปต่อเถอะมึง”
พูดให้เพื่อนคลายกังวลก่อนที่จะเดินตามหลังโอบอ้อมต่อไป ฉันได้แต่จ้องมองเขาจากทางด้านหลังไม่กล้าที่จะทำอะไรมากกว่านี้
เดินชมนิทรรศการกันเสร็จก็ถึงเวลารวมตัวกันกลับมามหาวิทยาลัย
กลับมาถึงมหาวิทยาลัยฉันก็โบกมือลากับจีมี่เพื่อนรักและเตรียมตัวจะเดินกลับหอในแต่แล้วก็โดนกระชากข้อมือเล็กให้หันไปชนเข้ากับแผงอกกำยำ
“ออกัส...มาทำไมอีกเนี่ย
ฉันคิดว่าตัวเองพูดชัดเจนแล้วนะว่าฉันจะไม่กลับไปยุ่งกับออกัสอีกในสถานะนั้น
“ได้ข่าวว่าไปที่มหาวิทยาลัยเอเอมาเหรอ”
“ใช่ อาจารย์พาไปเพราะเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาที่ลงทะเบียนเรียน มีอะไรรึเปล่า?”
“ได้เจอไอ้โอบมั้ย”
เจอคำถามนั้นของออกัสยิงตรงฉันก็นิ่งไปในทันที ทำไมต้องถามถึงโอบอ้อมด้วยนะ
“เจอ...ทำไม?”
“หึ กะอยู่แล้วว่าต้องเจอมัน...มันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนั้นแถมยังเรียนวิศวะโยธาเหมือนเธอด้วยนี่”
“ก็ทำไมล่ะ”
ฉันเชิดหน้าสู้แม้จะแอบแปลกใจว่าออกัสรู้ได้ยังไง แต่ก็คงไม่แปลกหรอกเพราะออกัสมีทั้งเงินและพรรคพวกการที่จะตามสืบเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
ในเมื่อฉันกับออกัสก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แล้วจะมาหึงหวงฉันทำไมกันนะ
“อย่าหวังเลยนะว่าเลิกกับฉันไปแล้วจะได้ไปเสวยสุขคบกับไอ้นั่นน่ะ ฉันไม่ยอมให้เธอกลับไปคบกับมันง่ายๆหรอกนะแสนดี”
“จะอะไรก็แล้วแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของนายออกัส...แล้วก็เลิกเรียกชื่อเก่าฉันสักที บอกแล้วไงว่าให้เรียกว่าแซนดี้”
ชักจะสงสัยละว่าทุกคนเป็นอะไรกับชื่อเก่าฉันนักหนา บอกว่าให้เรียกแซนดี้แซนดี้ก็เรียกว่าแสนดีกันอยู่นั่นแหละ เฮ้อ
“ฉันจะไม่มีวันยอมให้มันคบกับเธอ”
“งั้นก็เสียใจด้วยนะกัส...”
ฉันต้องตัดความหวังของออกัสให้มากที่สุด จะพยายามไม่ให้ออกัสมายุ่งกับฉันมากกว่านี้อีกแล้วเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันก็เสียช่วงเวลาวัยรุ่นให้กับออกัสไปมากพอแล้ว
“เสียใจอะไร...เธอกำลังจะสื่ออะไร”
“ฉันกับโอบอ้อมเราได้กันแล้ว”
“!?”
ออกัสเบิกตาโพลงโตแล้วมองหน้าฉันพร้อมกับเร่งจังหวะบีบมือเข้าที่แขนเล็กให้แรงมากยิ่งขึ้นด้วยความโกรธ
“ได้ยินแล้วใช่ไหม...ฉันได้กับโอบแล้ว”
“เหอะๆ ทุเรศชิบ...นี่เธอ ทำลงไปได้ยังไงวะ”
ออกัสพูดเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด
“นายจะได้เลิกยุ่งกับฉันสักทีไง...ฉันไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องที่คู่ควรกับนายหรอกนะออกัส ฉันกับโอบเรามีอะไรกันแล้ว”
“เลิกกับฉันได้แป๊บเดียวเธอก็ไม่เอากับมันเลยเนี่ยนะ ทำไมทีกับฉันเธอไม่ง่ายอย่างงี้บ้างวะแซนดี้”
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบออกัสยังไง รู้แค่ว่าคนที่มันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
“อย่าถามอะไรให้มากความเลย...กลับคอนโดของนายไปได้แล้ว”
“ไม่ ฉันจะอยู่ตรงนี้จนกว่าเธอจะตอบว่าทำไมไปเอากับมันได้ แต่คบกับฉันมาตั้งหลายปีแม้แต่แขนยังไม่อยากจะให้จับ”
“ก็เพราะว่าไม่รักไง! ไม่รักก็คือไม่รักอะกัส มันไม่เห็นจะต้องมีเหตุผลอะไรเลย”
ฉันพูดด้วยความโมโหเมื่อออกัสพูดไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจที่ฉันจะสื่อ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรกับโอบด้วยความเต็มใจแต่ก็ยอมรับเลยว่าฉันมอบมันให้กับโอบอ้อมได้ง่ายดายกว่าออกัส เพราะใจมันยังมีเยื่อใยให้
“แม่งโคตรใจร้าย เธอแม่งโคตรใจร้ายเลยว่ะแซนดี้ทำกันได้ลงคอทั้งที่รู้ว่าฉันก็รักเธอขนาดนี้”
“ก็คนมันไม่ได้รัก...เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งได้แล้ว”
“อย่าหวังเลยว่าจะปล่อยให้เธอลอยนวลไปกับมันง่ายๆ”
“โอ้ยเจ็บนะ...นายจะทำอะไรอ่ะออกัส”
ฉันโวยวายเสียงดังเมื่อออกัสบีบแขนฉันแรงกว่าเดิมแถมยังฉุดกระชากลากถูให้ฉันเดินไปยังลานจอดรถ
“เอากับมันมาเมื่อคืนใช่ไหม...ได้ งั้นคืนนี้ฉันจะเอาเธอบ้างเอาให้สาสมกับที่เปย์มาหลายปีแต่ไม่เคยได้เลย”
“ปล่อยนะกัส! อย่าทำบ้าๆแบบนี้นะ”
ฉันพยายามสะบัดแขนให้หลุดออกัสแต่ก็ไม่เป็นผลเลยเพราะแรงเขามากกว่าฉัน ร่างสูงผลักฉันเข้าไปที่ประตูฝั่งเบาะข้างคนขับ ฉันพยายามจะเปิดประตูหนีออกแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะออกัสในตอนนี้รีบขึ้นมาแล้วออกรถในทันที
“ปล่อยฉันไปนะกัส อย่าทำแบบนี้นะ”
ฉันโวยวายลั่นเสียงดังพร้อมกับรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพยายามจะติดต่อหาจีมี่เพื่อนรัก
ปั้กก
แต่ก็โดนปัดตกจนโทรศัพท์จอแตกร้าว
“กัส ทำอย่างนี้กับโทรศัพท์ฉันได้ยังไง”
“ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อโทรศัพท์เครื่องนี้ฉันก็เป็นคนซื้อให้เธอ ต่อให้ฉันจะเอาหินมาทุบหรือจะโยนทิ้งก็สิทธิ์ของฉันทั้งนั้น”
“นายมันบ้า...บ้าที่สุดเลยอ่ะ”
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพยายามจะติดต่อเพื่อนแต่ก็พบว่าทัชสกรีนไม่ไปแล้วเนื่องจากจอแตกร้าวไปหมด แย่จริง ช่วงนี้เงินก็ยิ่งไม่ค่อยอยู่ด้วยสิแล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนไปซ่อมหรือซื้อเครื่องใหม่ล่ะ ฮืออ
งานที่ผับก็ไม่ได้ไปทำแล้วเพราะกลัวว่าจะเจอโอบอ้อมอีกเพราะฉะนั้นช่วงนี้ฉันจึงยังว่างงาน คิดว่าเดี๋ยวอะไรโล่งๆคงจะไปสมัครงานพาร์ทไทม์ร้านอาหารทั่วไปแต่ก็ยังต้องมาตามหนีออกัสอยู่อย่างนี้อีก เมื่อไหร่ชีวิตฉันจะสงบสุขล่ะเนี่ย
“ก็ที่บ้าก็บ้ารักเธอนี่แหละ...ถ้าไม่รักก็คงไม่บ้าแบบนี้”
“ตั้งสติสิกัส...ยังมีคนมากมายที่พร้อมจะเข้าหานายนะ”
ฉันพยายามเตือนสติออกัสพร้อมยื่นมือเล็กจับเข้าที่แขนแกร่งซึ่งกำลังจับพวงมาลัยเอาไว้มั่นพร้อมกับเหยียบคันเร่งไปที่ร้อยแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงทำเอาฉันใจหวิว
“กัส!! ขับเร็วไปแล้วนะ ตั้งสติหน่อยสิออกัส!”
ฉันนั่งไปกุมพระในใจไปจนกระทั่งถึงคอนโดของออกัสสักที คอนโดนี้ฉันไม่ได้มาเหยียบสักพักแล้วตั้งแต่ขึ้นปีสามเทอมสองมาฉันก็อยู่หอในของมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด
“ไม่นะ...ฉันไม่ขึ้นไปนะ”
ฉันไม่อยากขึ้นไปข้างบนเพราะรู้ว่าถ้าหากขึ้นไปคืนนี้ฉันไม่รอดแน่ คงจะต้องตกเป็นของออกัส
“ไม่ขึ้นก็ต้องขึ้น!”
ออกัสเปิดประตูและลากฉันลงมาจากรถพร้อมฉุดกระชากลากถูจะพาขึ้นไปยังคอนโดจนกระทั่งมาถึงคอนโดชั้นที่ออกัสอาศัยอยู่
“ปล่อยฉันนะปล่อย! ช่วยด้วย !!”
ฉันเห็นคู่รักนักศึกษาคู่หนึ่งเดินผ่านมาพอดี น่าจะเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ชั้นนี้
“เอ่อ...มีอะไรกันรึเปล่าคะ?”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในชุดนักศึกษาหน้าตาดูน่ารักเอ่ยถามขึ้นโดยที่เธอคนนั้นถูกผลักไปอยู่ด้านหลังและผู้ชายที่ใส่เสื้อช็อปสีแดงก็เดินขึ้นหน้ามาแทน คงจะเป็นแฟนกัน
“ไม่มีอะไร...ถอยไป”
ออกัสตอบปัดแล้วพยายามจะดึงลากแขนฉันแต่ก็มีคนมาขัดขวางซึ่งก็คือผู้ชายใส่เสื้อช็อปสีแดงคนนั้น
แต่เอ๊ะ...ฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้มากเลยแหละ อ๊ะ นี่มันผู้ชายที่ชื่อคีย์ที่เจอกันเมื่อตอนกลางวันนี่นา เพื่อนของโอบอ้อม
“อะไรวะ...พูดกับแฟนกูให้มันดีๆหน่อย”
แหม น่ารักจังเลย...คลั่งรักแฟนจังเลยผู้ชายคนนี้ แต่เดี๋ยวสิยัยแซนดี้! นี่ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมัวแต่มามองคู่รักโรแมนติกกันนะ ตอนนี้ฉันกำลังโดนออกัสฉุดกระชากลากถูเข้าห้องไปทำมิดีมิร้าย
“ช่วยด้วยค่ะช่วยฉันด้วย ผู้ชายคนนี้จะลากฉันเข้าไปในห้อง”
“แซนดี้!”
ดูท่าออกัสจะโกรธฉันมากเมื่อฉันร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนี้
“ทำอะไรมึง? นี่จะข่มขืนผู้หญิงอ่อ?”
ผู้ชายที่ชื่อคีย์ขมวดคิ้วมุ่นและทำท่าเหมือนจะเข้ามาวางหมัดกับออกัส
“พะ พี่คีย์ ใจเย็นๆนะคะ”
ผู้หญิงในชุดนักศึกษาตัวเล็กน่ารักถักเปียสองข้างจับแขนของผู้ชายคนนั้นเอาไว้ ดูท่าว่าจะเป็นแฟนกันน่ะนะ
“ไม่ใช่...โถ่เว้ย!!”
ออกัสปล่อยมือจากฉันพร้อมสบถออกมาแล้วใช้มือหนาชกเข้าที่ผนังข้างห้องของใครสักคนด้วยความโมโห
หยาบคายชะมัดไอ้เจ้าบ้าเอ๊ย!
ได้ทีเผลอฉันรีบวิ่งเข้าไปหลบหลังน้องผู้หญิงคนนั้น ดูท่าน่าจะเป็นรุ่นน้องอ่ะนะให้เดาคงจะอยู่ปีหนึ่งเพราะหน้ายังเด็กอยู่มาก
“ทุเรศชิบ คิดจะขืนใจผู้หญิง”
“พี่คีย์คะ...รีบเข้าห้องหนูก่อนดีกว่าค่ะ”
ผู้หญิงคนนี้ที่น่าจะเป็นแฟนคนชื่อคีย์จับแขนฉันแล้วก็กระชากให้เดินเข้าห้องเธอไปพร้อมกับเรียกแฟนของเธอให้เดินเข้ามาด้วย
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ? โดนผู้ชายคนนั้นทำร้ายตรงไหนไหม?”
น้องผู้หญิงให้ฉันเข้ามานั่งในห้องของเธอโดยให้นั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธกลัวว่าจะทำให้คนอื่นเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตเอาไว้”
รู้สึกขอบคุณจากใจจริงๆ น้องยังอุตส่าห์ใจดีให้ฉันเข้ามาในห้องด้วย
“ไอ้ห่านั่นแม่งโคตรหยาบคายเลย รินต้องอยู่ให้ห่างเลยนะจากคนนิสัยแบบนั้นน่ะ”
ผู้ชายชื่อคีย์เดินเข้ามาอย่างหัวเสียพร้อมกับมาประชิดตัวแฟนสาวและยกมือขึ้นลูบหัวอย่างเอ็นดู
“ปกติก็ไม่ค่อยจะได้ไปเจอผู้ชายที่ไหนอยู่แล้วค่ะ”
“ดีแล้ว เอ๊ะ...นี่เธอเมื่อตอนกลางวัน”
คีย์มองหน้าฉันแล้วพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้หน้า น้องผู้หญิงที่ชื่อรินมองหน้าฉันสลับไปมากับแฟนตัวเอง
“พี่คีย์รู้จักเหรอคะ?”
“อืม...เจอเมื่อตอนกลางวัน คนรู้จักไอ้โอบ”
“อ๋อ เพื่อนพี่โอบนี่เอง...พอดีเลยค่ะ พี่โอบกำลังจะมาที่นี่พอดี”
“ฮะ! อะไรนะคะ!?”
หนีออกัสปะทะโอบอ้อมงั้นเหรอ ตายล่ะนังแซนดี้!
“เอ่อ พี่โอบกำลังจะมาที่นี่ค่ะ พอดีเห็นว่าลืมของไว้ห้องพี่คีย์”
“งะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณทั้งสองมากเลยนะที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้”
“อ้าว เดี๋ยวสิคะ...เดี๋ยวหนูเดินไปส่งข้างล่างดีกว่านะ กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายพี่อีก”
น้องรินพูดด้วยความเป็นห่วง น่ารักจังเลยอะน้แงคนนี้...ไม่แปลกใจที่คีย์เพื่อนของโอบอ้อมจะคลั่งรักได้ขนาดนี้
“เกรงใจจังเลย แค่ช่วยพี่เอาไว้ก็เกรงใจมากแล้ว...”
“ตัวแค่เนี้ยทำเป็นห่วงคนอื่น จะไปปกป้องใครเขาได้ หืม?”
“พี่คีย์อ่า..”
ป้าบ!
มือเล็กของน้องรินยกขึ้นตีเข้าที่บ่าของคีย์เบาๆ แหม แล้วนี่มันใช่เวลาที่ฉันจะต้องมาทนเห็นซีนสวีตของคู่รักมั้ยเนี่ย
“ปะๆ เดี๋ยวพี่ไปด้วย เดินไปส่ง เอ่อ เธอชื่ออะไรนะ?”
“แซนดี้จ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักทั้งสองคนนะ”
“อ่า โอเค ฉันชื่อคีย์ นี่แฟนชื่อรินอยู่ปีหนึ่ง”
แนะนำตัวกันเสร็จสรรพทั้งสองคนก็พาฉันเดินลงมาชั้นล่างเพื่อจะส่งขึ้นแท็กซี่
แต่แล้วก็เจอเข้ากับ...
“พี่โอบ! มาพอดีเลย!”
น้องรินยิ้มกว้างโบกมือให้โอบอ้อม ฉันหันไปมองเขาที่เดินยิ้มกว้างอย่างอ่อนโยนเข้ามาหาน้องรินกับคีย์ ในตอนนี้รอยยิ้มของเขาเหมือนกับสมัยมัธยมที่เรารักกันใหม่ๆเลย
แต่ฉันไม่เคยเห็นโอบอ้อมยิ้มให้ฉันแบบนี้นานแล้วล่ะ
“ไงยัยริน ไอ้คีย์ อารมณ์ดีกันมาเชียวมึง”
เห็นน้องรินยิ้มร่าก็เอ่ยทักทายอย่างสุภาพ ตอนนี้เขายังไม่ทันสังเกตเห็นฉัน
“พี่โอบ...พอดีว่าพวกเราบังเอิญเจอเพื่อนพี่โอบค่ะ”
“หืม? ใคร?”
สายตาคู่นั้นหันมาปะทะกับฉัน จากในเสี้ยววินาทีแรกที่มีความอบอุ่นกลับแปรเปลี่ยนมาเป็นสายตาเย็นชาที่ไร้ซึ่งความรู้สึก
“แซนดี้...”
“เอ่อ..” ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดทักทายอะไรออกไป
“มาทำอะไรที่นี่?”
น้ำเสียงดุเอ่ยถาม
“เปล่า...ไม่ได้มาทำอะไร ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่านะทุกคน”
ฉันรีบเอ่ยบอกทั้งสองคนแล้วหันมามองหน้าโอบอ้อมก่อนที่ตั้งท่าจะรีบเดินออกมาจากตรงนั้นแต่ก็โดนมือหนาจับเข้าที่แขนเล็กไม่ให้เดินหนีไปไหน
“เดี๋ยวไปส่ง”
“อ้าว แล้วที่ว่าจะขึ้นไปเอาของห้องพี่คีย์นี่จะขึ้นไปไหมคะเนี่ย”
“ไม่ไปแล้วล่ะ ไว้พรุ่งนี้มึงเอาไปให้กูที่มหาลัยแล้วกันนะคีย์”
”เออ โอเคมึงไว้เจอกัน”
ว่าแล้วคีย์ก็เดินโอบไหล่น้องรินเข้าไปในคอนโดอีกครั้งทิ้งให้ฉันต้องอยู่กับโอบอ้อมสองคน
“มาทำอะไรที่นี่”
เขาถามเสียงเขียว ดูท่าจะไม่พอใจที่เห็นฉันโผล่ไปอยู่กับเพื่อนเขาและแฟน
“ไม่ได้มาทำอะไร...”
“ได้เจอกับไอ้คีย์แค่ช่วงกลางวันแป๊ปเดียว ถูกใจอยากได้จนตัวสั่นถึงขั้นตามมาหาถึงที่คอนโดเลยเหรอ?“
“บ้า...ใครจะทำแบบนั้นกันล่ะ”
“ก็ผู้หญิงอย่างเธอไง”
“บ้าแล้ว...ฉันจะรู้ได้ไงว่าคีย์อยู่คอนโดไหน”
“หึ ถึงขั้นจำชื่อกันได้แล้ว...เธอคิดจะทำอะไร?”
“โอบ คิดอะไรอยู่เนี่ย!”
“ขอเตือนเธอไว้อย่างนะ อย่าคิดจะยุ่งกับไอ้คีย์... มันมีแฟนแล้ว แถมแฟนมันก็ยังน่ารักมากไม่กร้านโลกเหมือนผู้หญิงอย่างเธอ”
“...”
ฉันเสียใจฉันไม่รู้จะบรรยายคำไหนออกมา ถ้อยคำที่เอ่ยออกมามันดูถูกดูแคลนฉันเหลือเกิน
“ผู้หญิงอย่างเธอพูดอย่างเดียวคงจะไม่ฟัง”
“หมายความว่าไง”
“ไปกับฉัน”
“ไม่!!”
ไม่ทันจะมีเวลาให้ได้พูดอะไร โอบอ้อมกระชากแขนเล็กของฉันให้เดินตามเขา ฉุดกระชากลากถูไม่ต่างจากที่ออกัสทำกับฉันเลย
ทำไมทุกคนต้องทำเหมือนฉันเป็นสิ่งของไร้ค่าไม่มีหัวใจด้วยนะ...ฉันก็แค่อยากจะได้รับความรักที่ดีเหมือนที่คีย์มอบให้กับน้องริน แต่ดูแต่ละสิ่งที่ฉันเจอสิ...
ออกัสที่ปากบอกว่ารักนักรักหนาก็มองฉันเป็นแค่สิ่งของเท่านั้นแหละ รวมถึงโอบอ้อมที่ฉันเคยรักมากด้วยเช่นกัน เขาเองก็มองฉันไม่ต่างจากตุ๊กตาตัวนึงที่คิดจะลากให้ไปไหนก็ไปตามอำเภอใจ
แซนดี้คนนี้...นังลูกคุณหนูตกอับพ่อตายคนนี้มันก็มีหัวใจนะ จะมีใครได้ยินเสียงร่ำร้องในใจฉันบ้างมั้ย?