12 What is Love?(2)
เจ้าชายนิ่งคิดเมื่อท่านแม่พูดต่อ ‘การรักตลอดไปโดยไม่เปลี่ยนใจเท่านั้นถึงจะเป็นความรักที่แท้จริง ความรักคือการกระทำและความตั้งใจ ไม่ใช่อารมณ์ที่อ่อนไหว ไม่ใช่การรักมากในวันแรกและเลิกรักในอีกวันตามอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงหรือความเบื่อหน่าย เพราะหัวใจที่โลเลและแปรเปลี่ยนง่ายเป็นจุดอ่อนของมนุษย์ และสิ่งนั้นนั่นเองที่จะขัดขวางเจ้าชายอย่างลูกจากการเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่”
เรียวนิ้วประดับอัญมณีของราชินีเคลื่อนสัมผัสเส้นผมบลอนด์สว่างของร่างสูงกว่าอย่างรักใคร่ ‘สิ่งที่แม่จะขอร้องก็คือลูกจะรักใครก็ได้ แต่หากเลือกรักใครแล้วก็ขอให้รักตลอดไป’
เจ้าชายหลับตา เพื่อที่ริมฝีปากอุ่นของหญิงผู้รักเขาที่สุดในโลกจะทาบทับลงข้างริมฝีปากของใบหน้างามสง่า ‘สุขสันต์วันเกิดนะ เจ้าชายซิกฟริด’
เจ้าชายตื่นขึ้นจากความทรงจำเมื่อครู่ เข้าใจชัดเจนทีเดียวว่าความรักที่ยืนนานตลอดกาลทำให้เทพนิยายน่าหลงใหล เพราะเมื่อรักแล้วก็จะรักตลอดไป ทำไมเจ้าชายอย่างเขาจะไม่อยากรักผู้หญิงสักคนล่ะ? แต่จะรักใคร? รักเจ้าหญิงที่ปลอมตัวมาด้วยวิธีแปลกประหลาดพวกนั้นหรือ?
ซิกฟริดมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง “ถ้าหากสาวใช้หรือแม่ครัวกลายเป็นเจ้าหญิงได้ ก็คงจะมีเจ้าหญิงซ่อนอยู่แถวๆ นี้อีกแน่...”
ทันใดนั้นกบตัวหนึ่งกระโดดผ่านหน้า เจ้าชายคว้าตัวมันไว้ได้ก่อนจะยกขึ้นระดับสายตา จ้องมองครุ่นคิด
ถ้าเจ้านี่เป็นเจ้าชายกบล่ะ หรือถ้าหากเป็นเจ้าหญิงที่ถูกสาปไว้จะว่าอย่างไร ในโลกนี้มีแต่คำสาปแปลกๆ ทั้งนั้น พ่อมดแม่มดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำความเข้าใจยากจริงๆ สิให้ตาย
แล้วใบหน้าสง่างามเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้กบที่มองตอบด้วยดวงตาหวานเยิ้ม
“หากข้าจูบมัน มันอาจจะ...”ความคิดแปลกๆ ทำให้เจ้าชายเคลื่อนใบหน้าใกล้เข้าไปอีก...ใกล้เข้าไป กบจ้องเขาตอบด้วยดวงตาใสแจ๋ว หลงรักเจ้าชายรูปงามสุดหัวใจ ทว่าแล้วเจ้าชายกลั้นหายใจ ผะอืดผะอมจนต้องโยนกบทิ้งลงบ่อน้ำพุไป
“จูบกบเพื่อคลายคำสาปเช่นนี้หรือ ข้าไม่มีวันยอมรับแน่! แล้วพ่อมดแม่มดที่สาปแบบนั้นก็รสนิยมต่ำมากด้วย” เจ้าชายส่ายหน้า ขณะเดียวกับที่เสียงหัวเราะเยือกเย็นและงดงามของใครคนหนึ่งดังขึ้น
เจ้าชายยิ้มตื่นเต้นก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น “อาจารย์อัลเบริช”
ที่เจ้าชายยิ้มก็เพราะว่าเขารู้จักเจ้าของเสียงนั้นดี เวลานี้เบื้องหน้าเขาปรากฏร่างสูงสะดุดตาของชายที่หล่อเหลาและสง่างามจนน่าประหลาดใจ ครอบครองดวงตาสีเทาหม่นราวกับหมอกควัน ทั้งลึกลับและน่าหลงใหลจนเกินจะอธิบายได้ ผิวขาวจัดราวกับไม่เคยถูกแดด เส้นผมสีดำสนิทที่ในเวลาแสงจันทร์ส่องสว่างจะสะท้อนเงาสีม่วงลึกลับล้อมกรอบใบหน้าที่งามราวกับรูปสลักเทวทูตนั้นไว้
อัลเบริชเป็นผู้ที่แนะนำสั่งสอนเจ้าชายทุกเรื่อง เป็นพ่อมดประจำเอเดลริคที่ประชาชนเคารพรัก เป็นที่ปรึกษาของราชอาณาจักรและเป็นผู้ปกป้องบัลลังก์ ซิกฟริดรักพ่อมดอัลเบริชเหมือนพี่ชาย
“ข้าเข้าใจความรู้สึกท่านนะเจ้าชาย วันนี้เป็นวันที่น่าเวียนหัวมากทีเดียว” พ่อมดหยักยิ้มเลือนจาง “แต่ก็น่าเห็นใจเจ้าหญิงพวกนั้นอยู่หรอก ในเมื่อเจ้าชายของข้าทั้งอ่อนโยนและสง่างามถึงขนาดนี้”
“ท่านเห็นด้วยหรือ?” เจ้าชายประหลาดใจ “จริงสิ ไม่มีอะไรในอาณาจักรนี้รอดพ้นสายตาท่านไปได้นี่นะ”
ดวงตาสีเทาหม่นราวกับมนตรานิ่งมองเจ้าชาย “แต่ท่านอาจจะต้องเวียนหัวเพิ่มอีกนิดกับของขวัญวันเกิดจากข้า และสิ่งนี้ก็พิสูจน์หัวใจของข้าว่าข้าจงรักภักดีกับท่านเพียงใด สุขสันต์วันเกิดนะเจ้าชาย”
แล้วอัลเบริชเป่าปาก ทำให้เกิดลมเย็นพัดวูบผ่านร่างสง่างามของทั้งสองไป ตามด้วยเสียงฝีเท้ากุบกับที่ดังใกล้เข้ามา แล้วม้าสีขาวสง่าเหมือนแสงอาทิตย์เที่ยงวันก็วิ่งเข้ามาใกล้ก่อนจะก็หยุดคำนับเบื้องหน้าเจ้าชายผู้งามสง่า
“พาร์ซิฟาลหรืออัศวินขี่ม้าขาว” อาจารย์แนะนำชื่อม้า “เป็นม้าสายพันธุ์ดีที่หาได้ยาก มีอยู่ไม่กี่ตัวในโลก เดินทางมาไกลจากคาเมล็อตดินแดนอัศวินแห่งเทพนิยาย ม้าตัวนี้พูดได้ แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้และใช้มนตร์ได้หลายชนิด พาร์ซิฟาลจะเป็นทาสรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเจ้าชายนับแต่วันนี้ไปข้า ขอมอบมันเป็นของขวัญวันเกิดให้ท่าน”
แล้วพ่อมดโค้งคำนับเจ้าชาย ทันใดนั้นร่างของม้าหายไปในแสงสีขาวจ้า ก่อนจะปรากฏเป็นร่างของเด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินที่หน้าตาน่ารักแทน
อัลเบริชหยักยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าอัศจรรย์ใจของเจ้าชาย “ข้าเตือนท่านแล้วไม่ใช่หรือว่าจะต้องปวดหัวต่ออีกสักนิด ม้าที่กลายเป็นคนได้อย่างไรล่ะ ยกโทษให้ข้าด้วยเจ้าชาย ข้าสัญญาว่านี่จะเป็นเรื่องการแปลงตัวเรื่องสุดท้ายของวันนี้แล้ว”
“ยกโทษอะไรกันอัลเบริช นี่เป็นม้าที่เยี่ยมที่สุด เป็นของขวัญที่ล้ำค่าเกินไปด้วยซ้ำ ข้าไม่รู้จะขอบคุณท่านอย่างไรดี” เจ้าชายกล่าวอย่างซาบซึ้ง
“โปรดตอบแทนอาจารย์คนนี้ด้วยการขึ้นเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่เถิดเจ้าชายซิกฟริด”
ดวงตาสีหมอกควันมองเจ้าชายอย่างอ่อนโยน หากแต่ลึกๆ แล้วดวงตานั้นก็ยังสมกับเป็นดวงตาของพ่อมดดำ อัลเบริชไม่ใช่พ่อมดธรรมดาหากแต่เป็นพ่อมดดำที่ราวกับเดินเปล่าเปลี่ยวอยู่บนโลกที่ไร้แสง และเขาเป็นพ่อมดหนึ่งเดียวในอาณาจักรนี้ ดวงตาของเขาแฝงไว้ด้วยเงาลึกหม่นยากจะเข้าใจ ดูราวกับภาษาของอาณาจักรที่ล่มสลายไปแล้ว
เจ้าชายยิ้มขอบคุณก่อนจะขึ้นขี่ม้าพาร์ซิฟาลและควบออกไป กำธนูแน่นในมือ เจ้าชายกำลังทำตามธรรมเนียมของเจ้าชายที่พร้อมจะขึ้นครองบัลลังก์ นั่นก็คือการออกล่าสัตว์ที่สง่างามกลับมาเป็นรางวัลให้กับตัวเอง
หากแต่ซิกฟริดไม่รู้เลยว่าการล่าสัตว์ครั้งนี้จะไม่เหมือนกับครั้งไหน
...อีกทั้งไม่เหมือนสิ่งใดที่เขาเคยนึกฝันมาก่อนเลย...!