Midnight Black Spells 1: ลวงรักเจ้าหญิงต้องคำสาป

133.0K · จบแล้ว
Daydream, Ida Minami, Haruka Aya
91
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หนึ่งพันคืนมาแล้วเขาสาปเธอให้เป็นหงส์ขาว หนึ่งพันคืนมาแล้ว เขาโอบกอดเธอด้วยมนตร์และเสียงกระซิบที่เหมือนอยู่ในความฝัน และหนึ่งพันคืนอีกเช่นกันที่เขารั้งเธอไว้เคียงข้างกายด้วยความอ่อนโยนทว่าก็เยือกเย็นและมืดดำเหมือนเวลาเที่ยงคืน เพราะเฟรเดอริคเป็นพ่อมดที่หัวใจและเลือดในร่างกายเป็นสีดำสนิท สีขาวสวยที่เขามอบให้เธอฟังดูเหมือนสัญลักษณ์ของอิสรภาพ แต่ที่จริงมันกลับเป็นคำสาปที่ทำให้เจ้าหญิงอย่างเธอตกอยู่ใต้ปีกสีดำที่สวยงามเหมือนเทวทูตจากความมืดของเขาแล้ววันหนึ่งเจ้าหญิงก็ได้พบกับซิกฟริด...เจ้าชายที่หล่อเหลาและสง่างามไร้ที่ติราวกับไม่ใช่ความจริง เขาพร้อมที่จะคลายคำสาปให้เธอ เพียงแค่เขารักและสาบานกับเธอเท่านั้นคำสาปก็จะถูกทำลาย ในที่สุดเจ้าหญิงก็ได้เลือกที่จะคลายคำสาปให้ตัวเองที่งานเต้นรำของเจ้าชาย เธอรออย่างใจจดใจจ่อให้ถึงงานเต้นรำที่จะจัดขึ้นในปราสาทแสนสวยแห่งเทพนิยายแต่ใครจะรู้ล่ะว่า...ซิกฟริดไม่ใช่ชายคนเดียวที่รอเธออยู่ที่นั่น!

องค์หญิงรักแรกพบแฟนตาซี โรแมนติก

บทนำ A Thousand Nights

If I could be any part of you,

I’d be your tears

To be conceived in your heart,

Born in your eyes,

Live on your cheeks

And die on your lips.

(Unknown)

“ถ้าหากข้าอาจเลือกเป็นส่วนใดในร่างของท่านก็ได้

ข้าจะขอเลือกเป็นน้ำตา

เพื่อจะก่อร่างขึ้นในหัวใจของท่าน

หลอมรวมขึ้นที่ดวงตาของท่าน

ได้พักอยู่บนแก้มของท่าน

และมลายหายไปเหนือริมฝีปากของท่าน”

(นิรนาม)

กาลครั้งหนึ่งในยุคแห่งเทพนิยายที่แสนห่างไกล เจ้าหญิงแสนสวยองค์หนึ่งถูกพ่อมดใจร้ายลักพาตัวมาจากอาณาจักรของเธอ เขาสาปเธอให้เป็นหงส์ขาวในเวลากลางวัน และคืนร่างเจ้าหญิงให้กับเธอในเวลากลางคืน หัวใจที่เย็นชา มืดดำและทะเยอทะยานของเขาต้องการตัวเธอและอาณาจักรของเธอยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

...และนี่คือเทพนิยายเรื่องนั้น...

ดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้ว ห้วงทะเลสาบสีเงินที่ใสราวกระจกบานใหญ่ดูเหน็บหนาวอยู่ภายใต้หุบเขาสีน้ำเงิน ฝูงหงส์ขาวแหวกว่ายอย่างเปลี่ยวเหงาเหนือผิวน้ำเยือกเย็นก่อนจะทยอยขึ้นฝั่งหายไปเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดแสง

หงส์ขาวตัวสุดท้ายที่ว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งคือเจ้าหญิงโอเดท เอเดลลา เจ้าหญิงผู้ถูกพ่อมดพรากมาจากอาณาจักรและสาปให้เป็นหงส์ขาว ครอบครองมงกุฎสีทองบนศีรษะแม้ในขณะที่อยู่ในร่างหงส์ และมงกุฎนั้นทำให้คนที่เห็นรู้ว่าเธอคือเจ้าหญิงหงส์ขาวถ้าหากจะมีใครสักคนมาที่นี่ หากทว่าที่จริงก็ไม่เคยมี

...นอกเสียจากเขาคนนั้นที่สาปเธอ...

แล้วดวงจันทร์เสี้ยวบางเฉียบเริ่มส่องสว่าง แสงนั้นเงียบและหนาวเย็นเหมือนความรู้สึกของหงส์ขาวอย่างเธอในเวลานี้ไม่มีผิด และทันทีที่แสงจันทร์ตกกระทบเธอก็คืนร่างกลับเป็นเจ้าหญิงในแสงอันสว่างทว่าหม่นเศร้า

เจ้าหญิงโอเดทสวมชุดสีขาวยาวแตะปลายเท้า ประดับด้วยมงกุฎสีทองและอัญมณีเหนือเส้นผมสีบลอนด์สว่างที่ยาวคลุมแผ่นหลังไว้ทั้งหมด ดวงตาสีฟ้างดงามราวท้องฟ้าในแดดสายที่เป็นประกายเวลานี้หมองหม่นลงด้วยคำสาปและความเศร้าใจ

เจ้าหญิงต้องสาปนิ่งมองห้วงน้ำนิ่งนานจนร่างเย็นเฉียบ ไม่นานผิวน้ำสั่นไหวเมื่อนกเรเวนสีดำขนาดใหญ่บินมาเกาะบนพื้นเคียงข้างร่างของเธอ ปีกสีดำทรงพลังของนกที่มาพร้อมกับความมืดทำให้เส้นผมของเจ้าหญิงปลิวกระจาย หากทว่าเธอไม่ตกใจเลยสักนิด เพราะเวลาหลังดวงอาทิตย์ตกดินของเธอเป็นเช่นนี้มานานแล้ว และเจ้าหญิงรู้จักทรราชอย่างเขามานานยิ่งกว่า

...นานราวกับคำสาปที่จะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์...

ไม่มีท่าทีใดจากเจ้าหญิงเมื่อนกเรเวนที่ครอบครองปีกสีดำทรงพลังกลายร่างเป็นชายหนุ่มร่างสูงที่หล่อเหลาราวกับเทวทูตจากสวรรค์ แสงจันทร์เสี้ยวส่องไล้ใบหน้าคมคายและชุดสีดำสนิทของเขาราวปรารถนาจะโอบกอดอย่างหลงใหล ปีกใหญ่สีดำสนิทไม่ต่างจากความมืดของเที่ยงคืนปรากฏค้างอยู่บนแผ่นหลังของเขาชั่วครู่ก่อนจะเลือนหายไป ทำให้ร่างนั้นดูราวเทวทูตที่ลึกลับไม่ต่างจากกาลเวลาเที่ยงคืนอันปราศจากแสงใดๆ

รูปร่างหน้าตาของเขางดงามและไร้ที่ติราวกับสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์ เส้นผมหนานุ่มมีสีแดงสดเหมือนใบไม้แห่งฤดูใบไม้ร่วง สวยจับตาทว่าหม่นเศร้า ถึงอย่างนั้นกลับไม่ได้น่ามองไปกว่าดวงตาสีม่วงอมเทาที่ซีดจาง...ดูหม่นหมองก็จริงหากแต่กลับสวยอย่างประหลาดจนยากจะละสายตา นัยน์ตาสีอ่อนนั้นคงทำให้คนที่เกลียดเขานึกถึงสีของปลาที่ตายแล้ว แต่สำหรับคนที่รักเขา...ถ้าหากจะมีสักคนบนโลกนี้ นัยน์ตานั้นก็จะดูราวกับอัญมณีอะเมทิสสีม่วงจางที่สวยลึกลับและแสนจะน่าหลงใหล

ร่างสูงสง่างามราวกับเจ้าชายแห่งความมืดที่เงียบนิ่งและเย็นชาเดินเข้ามาหยุดชิดร่างของเจ้าหญิงโอเดท ก่อนจะปลดผ้าคลุมไหล่ของตัวเองออกคลุมร่างให้เธอ แต่เธอไม่หันไปมองเขาด้วยซ้ำไป

“อยู่ที่นี่เองหรือเจ้าหญิงโอเดท” เขาเอ่ยด้วยเสียงนุ่มเบาที่แสดงความเป็นเจ้าของ ไล้ปลายนิ้วเรียวยาวสีขาวงดงามราวหินอ่อนชั้นดีไปบนแก้มของเจ้าหญิง ตามด้วยคำพูดแผ่วเบาข้างหูเธอที่ฟังล่องลอยเหมือนสายลมหนาว

“ร่างของท่านเย็นเกินไป”

นานเกือบนาทีหลังจากพูดจบเขาถึงช้อนร่างของเจ้าหญิงขึ้นเหมือนเด็ดดอกลิลลี่สีขาวน้ำหนักเบา แล้วปีกแบบนกเรเวนสีดำมหึมาก็ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของเขาเพื่อโอบล้อมเขาและเธอเอาไว้

แล้วพ่อมดตัวร้ายในเทพนิยายก็พาเจ้าหญิงโอเดทของเขาบินหายไปในความมืดและหมอกหนา

ชายปีกดำที่งดงามราวรูปสลักเทวทูตพาเจ้าหญิงโอเดทมาปรากฏตัวบนระเบียง ที่นี่คือปราสาทของเขาซึ่งอยู่ติดทะเลสาบ หลบเร้นอยู่ในเงาของภูเขาและหุบเหว จันทร์เสี้ยวส่องแสงขุ่น ปีกสีดำของเฟรเดอริคหายไปแล้วตอนที่เขาอุ้มเจ้าหญิงเข้าไปในห้องที่จัดเตรียมไว้อย่างดีสำหรับเธอเท่านั้น

ห้องนอนทั้งห้องประดับด้วยทองคำ เพชรพลอย และไม้เอโบนีสีดำสนิทที่หายาก เตียงขนาดใหญ่ทำจากไข่มุกสีชมพูนับพัน ด้านบนโรยกลีบกุหลาบแดงที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนจางไปทั่วห้อง และที่ผนังสว่างเรื่อเรืองด้วยตะเกียงสีน้ำเงินที่ส่องแสงนุ่มทำให้เหมือนตกอยู่ในความฝัน

พ่อมดวางเจ้าหญิงลงหน้ากระจกบานใหญ่ก่อนจะนิ่งมองเธอจากเงาสะท้อน ดึงแผ่นหลังของเธอมาชิดกับแผ่นอกของเขาและเอ่ยแผ่วเบาที่ข้างหู

“อากาศที่นี่คงจะเย็นเกินไปสำหรับเจ้าหญิงอย่างท่าน”

ปลายนิ้วของพ่อมดไล้เส้นผมสีบลอนด์เหยียดยาวและไหล่เล็กบางสีขา แล้วเมื่อนิ้วเยือกเย็นราวกับกลางคืนไล่ไปถึงชุดเปิดไหล่เขาก็พึมพำเวทมนตร์ที่ฟังราวกับบทเพลง เพื่อที่จะเปลี่ยนชุดขาวบนร่างของเธอให้เป็นชุดสีขาวชุดใหม่ที่สวยงามยิ่งกว่า ทำขึ้นจากวัสดุดีที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา ทุกคืนเขาอยู่ข้างเจ้าหญิงที่เขาลักพาตัวมาเช่นนี้เพื่อใช้เวทมนตร์เปลี่ยนชุดให้เธอราวกับเล่นแต่งตัวตุ๊กตา

“ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงแล้วสินะ” เขาพึมพำราวกับบอกตัวเองก่อนจะหลับตา “และฤดูนั้นก็เหน็บหนาวราวกับหัวใจของข้า”

“หนึ่งพัน” เจ้าหญิงเอ่ยขึ้นหลังความเงียบยาวนาน ดวงตาสีฟ้าสว่างราวอัญมณีของเจ้าหญิงจ้องมองดวงตาสีม่วงอ่อนเหนือไหล่ของเธอในเงาสะท้อน คำพูดของเธอทำให้พ่อมดลืมตา

“คืนนี้เป็นคืนที่หนึ่งพันที่ท่านลักพาตัวข้ามาและสาปข้า” เจ้าหญิงหงส์ขาวทวนความจำให้เขา “เฟรเดอริคข้าเกลียดท่าน ข้าเกลียดท่านเหลือเกิน”

เจ้าหญิงไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดเฟรเดอริค ลาเมนเทียถึงกลายเป็นทรราชไปได้ และยิ่งไม่เข้าใจเมื่อพ่อมดเอ่ยแผ่วเบาเคียงข้างเธออีกครั้ง

“ข้ารู้”

“นั่นสินะ คนเลือดเย็นอย่างท่านข้าจะพูดอะไรไปก็คงไม่มีความหมาย หากคนตายให้อาณาจักรกับท่านได้ท่านก็คงขอความรักจากคนตายแล้ว เสียดายที่ข้าเป็นเจ้าหญิงที่มีอาณาจักร และท่านก็อยากได้ตัวข้าเพื่อครอบครองอาณาจักรของข้าเท่านั้น”

แล้วเจ้าหญิงหันหลังกลับเพื่อเผชิญหน้าและกุมมือขอร้องเฟรเดอริค “พาข้ากลับอาณาจักรบาลเธียได้ไหม ขอให้ข้าได้เห็นท่านพ่อและท่านแม่บ้าง แค่นาทีเดียวก็ยังดี พวกท่านคงคิดถึงข้าจนแทบขาดใจแล้ว พาข้าไปตอนนี้ก็ได้นะเฟรเดอริค ทุกคนในบาลเธียคงจะหลับหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครเห็นข้าแน่ ให้ข้าได้แอบจูบแก้มท่านพ่อท่านแม่สักครั้ง อย่างน้อยก็อาจทำให้พวกท่านฝันว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ขอร้องล่ะ พาข้าไปเถอะนะ”

ทว่าพ่อมดยังนิ่งเมื่อเจ้าหญิงวิงวอนอีก “ไม่ลำบากท่านเลยใช่ไหมเฟรเดอริค ง่ายนิดเดียวเอง ท่านก็รู้ว่าข้าหนีท่านไปไหนไม่ได้”

ลึกๆ แล้วเจ้าหญิงรู้ว่าครั้งนี้เขาต้องทำให้เธอผิดหวังอีกเป็นแน่ แล้วเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ด้วยการตอบเสียงเรียบเหมือนทุกครั้งตลอดพันคืนที่ผ่านมา “ไม่ได้”

เจ้าหญิงหัวใจแตกสลาย “เฟรเดอริค ข้าเกลียดท่านเกลียดที่สุด!”

เมื่อเจ้าหญิงทำเหมือนจะตำหนิและทะเลาะกับเขาครั้งใหญ่พ่อมดเคลื่อนมือมาสัมผัสใบหน้าสวยหวานของเธอ รั้งให้ใบหน้าราวนางฟ้าต้องมองดวงตาอันดูเหมือนอัญมณีอะเมทิสล้ำค่าของเขา และฟังเสียงร่ายมนตร์ที่ทำให้เธอเริ่มง่วงและหลับไป

ไม่กี่ชั่วลมหายใจเจ้าหญิงโอเดทก็ทรุดร่างและหลับสนิทแน่นิ่งโดยมีแขนข้างหนึ่งของพ่อมดประคองไว้ ก่อนที่เขาจะช้อนร่างราวกับดอกลิลลี่สีขาวของเธอขึ้น เดินไปที่เตียงและวางร่างนั้นเหนือกลีบกุหลาบสีแดงที่เกลื่อนกระจาย

แล้วทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่ใส่ใจทว่าดวงตาสีม่วงจางกลับนิ่งมองเธออย่างลืมเวลาราวกับจะจดจำความงดงามตรงหน้าไว้ พ่อมดคิดถึงเวลาที่ดวงตาราวกับท้องฟ้าที่เก็บความฝันของคนมากมายเอาไว้นั้นตื่นอยู่ ทว่าเขากลับต้องทำให้ดวงตานั้นง่วงและปิดลงทั้งที่อยากมองตลอดไป ดวงตาสีอะเมทิสที่หมองหม่นมองเรื่อยต่ำลงไปตามเส้นผมสีบลอนด์ยาวนุ่มมือที่เงาวับจนราวจะเรืองแสงได้ เขามองเธออยู่นานทีเดียว นานราวกับใกล้หมดเวลาที่จะได้อยู่เคียงข้างต่อไป

เจ้าหญิงที่เปราะบางเหมือนแก้วและสวยจนไม่อยากละสายตาจะยอมร้องไห้ต่อไปอีกกี่คืนกัน? เฟรเดอริค ลาเมนเทียได้แต่สงสัยอยู่ภายในใจ เขาอยากให้ความหลับเป็นเพื่อนปลอบใจเจ้าหญิงยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งหมด

“ราตรีสวัสดิ์เจ้าหญิง” เขากระซิบแผ่วเหนือเปลือกตาที่ปิดสนิทของเธอก่อนจะลุกเดินออกไปที่ระเบียง

“ข้าเลือดเย็นอย่างนั้นหรือ?” เฟรเดอริคเอ่ยถามดวงจันทร์ที่ลอยหงายอยู่บนฟ้าด้วยเสียงแผ่วเบา เสี้ยวสว่างคืนนี้ดูราวกับรอยยิ้มอันโหดร้ายของนางฟ้า แล้วเขายกมือขึ้นก่อนจะก้มกัดปลายนิ้วของตน หยาดสีดำหยดลงบนพื้น...และนั่นคือหยดเลือดจากปลายนิ้วของเฟรเดอริคเอง

ดวงตาราวกับอัญมณีที่ตายแล้วเหม่อมองเลือดสีดำที่รินไหล ดูราวธารน้ำสายเล็กสีดำสนิท ถูกต้องแล้ว...เลือดของเฟรเดอริค ลาเมนเทียเป็นสีดำ ทั้งที่แต่ก่อนนั้นเคยมีสีแดงสดเหมือนเลือดของพ่อมดทั่วไป และในวันเก่าที่ผ่านไปแล้วนั้นเขาเคยมีรอยยิ้ม ความหวัง และความรัก ทว่าเวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างสูญหายไป

และหัวใจของพ่อมดกลายเป็นสีดำสนิทเช่นเดียวกับเลือดในร่างกาย ทว่าจังหวะการเต้นของมันยังเหมือนเดิม...หนักแน่นและเชื่องช้า...นั่นเป็นข้อแตกต่างระหว่างพ่อมดและมนุษย์ หัวใจพ่อมดนั้นจะเต้นช้ากว่ามนุษย์สองถึงสามจังหวะทว่าหนักหน่วงกว่า

แล้วเฟรเดอริคทรุดนั่งที่ราวระเบียงมืดและเงียบงัน เงยมองท้องฟ้า ปล่อยแสงจันทร์ลูบไล้ใบหน้าคมสวยราวกับรูปวาดอย่างเหงาๆ นึกย้อนถึงวันที่เขายังไม่ ‘เลือดเย็น’ อย่างที่เจ้าหญิงโอเดทว่า และหัวใจยังมีสีแดงเหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีความรักได้

...ห้วงกาลที่เหมือนจากไปแล้วไกลแสนไกล...

...และวันเวลาแห่งความสุขที่ไม่มีวันย้อนกลับคืนอีกแล้ว...