10 Prince Siegfried(2)
แล้วเจ้าหญิงที่เพิ่งเหยียบเท้าเจ้าหญิงอเมลิน่าแรงเหมือนเหยียบเท้าม้าก็อวยพรเจ้าชาย “สุขสันต์วันเกิดปีที่สิบเก้าจากหัวใจของชาวลินซาผู้หยิ่งทระนง เจ้าชายซิกฟริด”
“เจ้าหญิง ข้ารู้สึกคุ้นหน้าท่านเหมือนกัน ไม่รู้ทำไม”
“ข้าคือฟรันซ์ ทหารม้าของท่าน” เจ้าหญิงผู้สง่างามตอบ “คนที่จูงม้ามาให้ท่านทุกเช้าโดยไม่เคยลาป่วยสักวันอย่างไรล่ะ ท่านพอจะนึกออกไหม? ”
แขกเหรื่อฮือฮาเสียงดัง
“อะไรนะ!?” เจ้าชายนิ่งค้าง “ถ้าอย่างนั้นท่านก็เป็นผู้ชายปลอมตัวมาเป็นเจ้าหญิงสิ!?”
หากทว่าอีกครู่ซิกฟริดปะติดปะต่อเรื่องใหม่ “มะ...ไม่ใช่ ท่านถึงกับปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อแอบมาเป็นทหารม้าของข้าอย่างนั้นหรือ!?”
“ถ้าจะพูดให้ถูก ข้าคือเจ้าหญิงฟรานซิสก้าแห่งลินซา” คนตอบยิ้มงามสง่า
“เจ้าหญิงฟรานซิสก้า...?”
หากทว่าเจ้าชายนึกภาพทหารที่จูงม้าทุกเช้าไม่ออกเลย นึกออกแต่หน้าของม้าเพราะมันยาวและใหญ่กว่า
“นอกจากข้าจะมีของขวัญวันเกิดพิเศษสุดจากลินซาเป็นเพชรสีแดงหมื่นกะรัตที่หายากที่สุดแล้ว ข้ายังมีของขวัญส่วนตัวอีกอย่างจะให้ท่านด้วย นั่นก็คือ...”เธอนิ่งให้แขกทั้งงานลุ้นก่อนตอบ “ข้าจะเป็นทหารม้าให้ท่านตลอดไป”
“ตลอดไป?!”
“ทำไมต้องตกใจด้วย ข้าไม่ได้ขอแต่งงานกับท่านสักหน่อย ไม่เป็นจะเป็นไร” เธอสรุปอย่างเอาแต่ใจ
“เดี๋ยวก่อนสิ ข้า....”
“ถึงต่อไปข้าจะไม่ได้แต่งงานกับท่านก็ไม่เป็นไร ท่านคบเจ้าหญิงคนไหนข้าก็จะดีกับเธอเหมือนที่ดีกับท่าน ม้าของท่านข้ายังดูแล แล้วทำไมท่านที่เป็นถึงเจ้าชายข้าจะดูแลไม่ได้”
“แต่ข้าคิดว่า...”
“ตามนั้น อย่าปฏิเสธเลยเจ้าชาย เพชรของลินซาแพงล้ำค่าแค่ไหนท่านรู้ไหม?!”
เสียงฮือฮาและเสียงโห่ร้องดังขึ้นอย่างสนุกตื่นเต้น แต่แน่นอนว่าไม่ได้ดังไปกว่าเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของเจ้าหญิงขี้อิจฉาอีกเต็มไปหมดเจ้าชายยกมืองดงามก่ายหน้าผาก ทว่ากลับต้องมึนตื้อหนักขึ้นอีกกับการแนะนำตัวของเจ้าหญิงองค์ต่อไป
“ข้าคือเจ้าหญิงแอนนาเบลลาแห่งอัลบา สุขสันต์วันเกิดเพคะเจ้าชาย” เจ้าหญิงผมเปียในชุดสีชมพูฟูนุ่มเหมือนขนมเค้กทักอย่างเขินอาย “เมื่อเช้าเจ้าชายชิมเค้กราสเบอร์รี่ที่ข้าทำสุดฝีมือแล้วชอบไหม?”
“เค้ก? ”
“ข้ารู้ดีว่าเจ้าชายไม่ชอบกินผัก ข้าก็เลยพยายามบดผักใส่ลงไปในขนมทุกอย่าง ทั้งบร็อคโคลี่ แครอท หอมหัวใหญ่ พริกหวาน...”
“ไม่...” เจ้าชายผู้เกลียดผักไม่ชอบเลยที่ได้รู้ส่วนผสมของเค้ก ทว่าการได้รู้จักตัวจริงของคนทำเค้กทำให้สยดสยองยิ่งกว่า “ท่านทำเค้กให้ข้า!? ท่านเป็นเจ้าหญิงแต่อยู่ในครัวของข้า!? ”
“เจ้าชายถึงไม่เคยเป็นหวัดเลยอย่างไรล่ะ ข้าอยากให้เจ้าชายแข็งแรง และข้าไม่สนใจว่าเจ้าชายจะชอบกินผักหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นท่านก็ต้องกิน”
พระราชินีแคทเธอรีนหมดสติไปแล้ว
“นั่นแอนผู้ช่วยแม่ครัวนี่” เจ้าชายเสียงหายเมื่อนึกได้ว่าเจ้าหญิงตรงหน้าเป็นใคร “ข้าน่าจะรู้ว่าทำไมรสชาติขนมหวานของเอเดลริคถึงได้แปลกใหม่ขนาดนี้...”
มือสง่างามของเจ้าชายยกขึ้นก่ายขมับ หากแต่กลับเหมือนเปิดโอกาสให้เจ้าหญิงจอมฉวยโอกาสบางคนรีบวิ่งมาซับเหงื่อที่หน้าผากให้ เรียกทั้งเสียงฮือฮาและเสียงกรีดร้องจากเจ้าหญิงเป็นร้อยที่สะเทือนเลือนลั่นจนทำแก้วหูแตกได้
งานวันเกิดของเจ้าชายน่าปวดหัวขึ้นทุกปีตามความสง่างามที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนรั้งไม่อยู่ ข้าราชบริพารทั้งน้อยใหญ่ต่างส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มที่ปากและเหงื่อที่หน้าผาก ทั้งขบขัน รักใคร่ และเอือมระอากับเหล่าเจ้าหญิงจอมวุ่นวาย
“ถ้าพวกเจ้าหญิงแปลงร่างเป็นเสื้อผ้า ที่นอน หมอนผ้าห่มหรือแม้แต่จานหรือช้อนได้พวกเธอก็คงจะทำไปแล้ว ท่านว่าจริงไหม? ”ข้าราชสำนักคุยกัน
“ว้าย! หนู!! ” อยู่ๆ เสียงหนึ่งกรีดร้องขึ้น
“กรี๊ด ไหนๆๆ!? ”
“อี๋! ขยะแขยง!!”
ทันใดนั้นหนูตัวจิ๋วก็วิ่งเฉียดชายกระโปรงฟูฟ่องของเจ้าหญิงองค์หนึ่งออกไปวิ่งสนุกสนานบนพื้น ทำให้เธอล้มพับ เจ้าชายเคลื่อนไหวเร็วพอจะรับร่างของเธอไว้ได้ทัน ท่ารับเจ้าหญิงหมดสติที่สง่างามเรียกเสียงกรีดร้องของบรรดาเจ้าหญิงขี้อิจฉาได้อีกระลอกใหญ่
“ว้าย เจ้าชาย ข้าก็กำลังจะเป็นลมเหมือนกัน”
“หนูนั่นทำให้ข้าใจสั่น ปล่อยเจ้าหญิงนั่นแล้วมาอุ้มข้าที ข้ายืนไม่ไหวแล้ว...”
“เจ้าหญิง!? เจ้าหญิง!?” เจ้าชายไม่ใส่ใจเสียงร้องเรียกของเจ้าหญิงจอมเจ้าเล่ห์คนอื่น และยังเขย่าร่างเจ้าหญิงในอ้อมแขนต่อไปด้วยความห่วงใยจนเหงื่อแตก
หากแต่คนที่ถูกกอดไปแล้วไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว มีแต่รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่มุมปาก เจ้าชายเห็นแล้วอึ้ง ทว่าไม่นานคนแกล้งเป็นลมกลับต้องรีบหุบยิ้มเมื่อถูกเจ้าหญิงอื่นที่รู้ทันจิกกัดจนได้
“หนูในวังของราชินีแคทเธอรีนสุดเนี้ยบอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้หรอก”
“หล่อนพกหนูมาเองแน่ๆ ”
“หล่อนฉลาดเหลือเกินที่ทำให้เจ้าชายกอดได้”
“ทำไมข้าไม่คิดเรื่องแบบนี้ออกบ้างนะ”
“ให้ตายสิ ข้าอิจฉา...”
“ข้าขอกรีดร้องดังๆ ได้ไหม กรี๊ด!”
เจ้าชายรูปงามถอนใจเหยียดยาวท่ามกลางเสียงกรีดร้องและเสียงบ่นงึมงำด้วยความอิจฉาที่ไม่หยุดลงง่ายๆ คิดในใจว่าบางทีหากเขาหาคนรักได้เรื่องวุ่นวายและหนวกหูพวกนี้ก็คงจะจบลงเสียที!