EP.3 เขาบอกให้ฉันสลดลงบ้าง
ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่พอจะเชื่อถือได้
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้าชัดๆสักที แต่คำพูด คำถาม และการหยิบยื่นความช่วยเหลือที่เขามีให้
มันทำให้รู้สึกว่า ไม่เป็นไร
ถ้ามีเขาอยู่ด้วย ฉันคงจะปลอดภัย
ถึงตอนที่เขาจะพยายามควบคุมสติฉันให้โฟกัสกับเขาเพื่อไล่ความตื่นกลัวจากการหนีตายของฉัน ออกจะดูล่วงละเมิดไปหน่อย แต่ฉันรู้สึกมันเล็กน้อยเลย หากเทียบกับเหตุการณ์ที่ฉันอาจจะต้องเจอ ถ้าโดนคนพวกนั้นจับได้
ตอนนี้ฉันว่า ดีแล้วที่เจอเขา อย่างน้อยก็รอดตายแล้วล่ะ
ใจมันเบาขึ้น เหมือนคนได้ใช้ชีวิตที่สอง...หลังผ่านความตายมาประมาณนั้น
เฮ้อ......นี่มันวันอะไรของฉันน้า...โคตรซวยเลย แม่งเอ๊ย
ฉันรีบอาบน้ำอย่างเร็วและใส่เสื้อผ้าจากในห้องน้ำเลย ฉันยังใส่ชุดเก่าของตัวเองอยู่ ถึงเขาจะบอกว่าให้หยิบใช้ของในห้องได้ แต่ดูเหมือนที่นี่จะมีแต่ของใช้ผู้ชาย
ไอครั้นจะให้ฉันใส่ผ้าขนหนูตัวเดียว แล้วนั่งรอในห้องนอน มันก็ดูจะน่าขนลุกไปหน่อย ถึงคำพูดของเขาจะส่อแววมาทางนี้ก็เถอะ แต่ฉันคิดแล้วล่ะ
ให้ถอดอีกรอบยังดีกว่าออกตัวแรงแล้วเขามาบอกกันทีหลังว่า ไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้
แบบนั้นคงหน้าแตกหมอไม่รับศัลย์ใดๆ แล้วล่ะ
ตอนนี้ฉันไม่อยากเจอเรื่องน่าอายให้เหนื่อยหัวใจอีก
เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ประตู ทำฉันเกิดอาการลนลาน ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหนของห้องนี้ดี
คนนั้นเขามาแล้ว
แอด!
ปัง!
เสียงประตูปิดลง
ฉันมองเห็นเขากำลังมองหาตัวฉันอยู่ ตอนนี้ฉันได้แต่ยืนปิดปากตัวเองเงียบเชียบ หลับตาภาวนาให้...
พรึ่บ!!!!
"ว้าย!"
"ตลกเหรอ" เสียงเย็นเข้าไปอีก
"มานี่" เขาเรียกให้ฉันเดินตาม ฉันค่อยๆม้วนตัวเองออกมาจากซอกประตูระเบียงที่มีผ้าม่านผืนใหญ่สองชั้น เพราะมันปิดแค่ชั้นเดียว อีกผืนเลยกองชิดผนังจับจีบอยู่ ฉันเลยไปยืนในกองม่านนั้น
"แหะๆๆๆ" ฉันยิ้มแหยๆ เดินตามเขามา
เขานั่งลงที่เตียงใหญ่ เพราะขนาดลำตัวกว้างที่ทิ้งน้ำหนักลง ฟูกแน่นๆก็ยวบได้เหมือนกัน
"มานั่งนี่"
ถึงเวลาแล้วสินะ เอาล่ะ มาตอบแทนท่านผู้มีอุปการะคุณซะ อย่าทำให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล
ฉันรีบเดินไปนั่งที่ตักของเขา เสียงเขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วสัมผัสเอวฉันทำเอารู้สึกวูบวาบที่หน้าท้องเลยแฮะ
"มานั่งทำไมตรงนี้...ฉันหมายถึงให้เธอนั่งตรงนี้ ยกขาขึ้นมาด้วย"
แค่คำพูดนั้นฉันก็สะดุ้งทันที รีบลุกขึ้น
"เอ่อ...ฉันนั่งผิดท่าหรอ"
แล้วฉันก็เปลี่ยนมานั่งบนเตียงเต็มตัว ฉันยกขาขึ้นมาบนเตียงตามที่เขาบอก แล้วพยายามอ้าขาล้อมรอบตัวเขาไว้ แต่เขาตัวกว้างมากนี่ แล้วชุดกระโปรงนี้ก็...
"นี่เธอยั่วฉันหรอ"
แล้วเขาก็สะบัดขาข้างหนึ่งของฉันให้ลงไปที่พื้น ส่วนอีกข้างที่อยู่บนฟูกนั้น เขาจับหมุนดูตรงข้อเท้า แล้วก็เอื้อมมือไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ข้างล่างเตียงฝั่งใกล้เขา
"ไม่ได้เคล็ดใช่มั้ย"
ความอายเมื่อกี้ยังไม่ทันหาย ก็มาหน้าแตกอีกรอบ นึกว่าเขาอยากจะให้เรากางขาแบบโจ๋งครึ่มเพื่อความสะดวกอะไรแบบนั้น
ถ้าเขาไม่ถาม นี่คงเป็นอีกเรื่องที่ฉันไม่รู้ว่าตัวเองบาดเจ็บ ที่เท้าข้างขวามีรอยบาดตรงฝ่าเท้า ส่วนเท้าข้างซ้าย นิ้วก้อยบวมนิดหน่อย อาจชนอะไรไป แต่จำไม่ได้
คนตัวใหญ่ขนาดนี้ มือเบาชะมัด แล้วกล่องปฐมพยาบาลนี่มันอะไร ชุดใหญ่ไฟกระพริบ
"มีแผลตรงไหนอีกมั้ย"
"ตรงนี้ค่ะ"
ฉันรีบชี้ให้ดูแผลที่หางคิ้ว อยากได้รางวัลตอบถูกสักเรื่อง
แผลนี้ไม่รู้ได้ตอนจังหวะวิ่งหนีชนขอบชั้นแขวนแก้วไวน์หรือเพราะโดนมุมบันไดตอนที่แอบรอบแรก แต่ที่รู้เพราะอาบน้ำเมื่อกี้ เล็บไปโดนซ้ำ แสบจนร้องน้ำตาเล็ดเลย
"ขอบคุณนะคะ"
"สลดลงบ้างก็ดีนะ เผื่อจะได้สติ"
นี่เขาหมายถึงอะไรหรอ...ฉันดูสนุกสนานอยู่หรอ จะบ้าหรือไง ก็กลัวอยู่ แต่เขาไม่ได้ดูน่ากลัวเท่าที่เห็นภายนอก....เออ...ใช่แล้ว
ฉันเห็นหน้าเขาแล้วล่ะ
ตอนทำแผลที่หน้าผาก เลยได้เห็นหน้าเขาเรียกว่าระดับ 4K ไรหนวดเครา เส้นผม ขนตา สันจมูก และแววตาที่เย็น....แท้
แต่โดยรวม...เยี่ยมยอดค่ะ ครูให้ผ่าน
ข้อแรก ไม่ใช่คนรู้จักของฉัน
ข้อสอง ไม่ใช่พวกคนดังที่เห็นปั๊บรู้ปุ๊บ
ข้อสาม ไม่หล่อ......ซะที่ไหน
แม่เจ้า....ถ้าจะหล่อขนาดนี้ ฉันไม่เล่นตัวหรอก ได้สักครั้งถือเป็นความทรงจำดีๆที่หาเองได้ยาก
"อย่าเล่นริมกระจก อาจโดนส่องยิงได้"
"ฮะ!?"
"ไม่ต้องอ้าขาให้บ่อยๆ อยากได้เดี๋ยวเอาเอง"
"คะ!?"
"เปลี่ยนชุดซะ ผับเลิกแล้ว"
แล้วเขาก็เดินไปหยิบเสื้อโยนมาให้ฉันตัวหนึ่ง
"ตัวแค่นี้ ใส่แค่เสื้อก็คลุมหมดแล้วมั้ง แล้วก็นอนได้แล้ว"
"อ๊ะ...ค่ะ...นอนไหนคะ"
"เตียงไง"
"ลำบากคุณเปล่าๆ นอนโซฟาลำบากแย่ ฉันไปนอนข้างนอกเอง"
"ใครบอกว่าฉันจะไปนอนข้างนอก ฉันก็นอนเตียงนี่แหล่ะ เธอนอนมุมนั้น ฉันนอนฝั่งนี้ โอเค๊"
"อ่อ...ได้ค่ะ...ได้มั้ง...เนอะ"
"ฉันบอกให้เธอสลดลงบ้างไง ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น นอนๆไปซะ"
เคยมีคนบอกฉันบ่อยๆเหมือนกัน ว่าฉันเป็นพวกซ่อนความคิดความรู้สึกไม่เก่ง ทุกอย่างจะแสดงออกทางแววตาหมดเลยว่าคิดอะไรอยู่
บ้าจัง เขาต้องรู้แน่เลย ว่าฉันคิดอะไร แง....