EP : 10
“โห~ นี่เป็นถึงขั้นนี้เลยเหรอคะพี่ชาร์ลขา~”
“หึ ๆๆ ไม่ต้องยุ่งมึงส่งรูปให้กูก็พอ ส่งแล้วก็รีบลบทิ้งอย่าให้มีรูปไม้หวายอยู่ในเครื่องมึงเด็ดขาด...กูหวง”
“...” ไม้หวายข่มอารมณ์ไว้ในขณะที่คนอื่นทำหน้าเขินทำหน้าอึ้งกันเป็นแถว
ไม่ว่าเขากำลังต้องการพยายามจะทำอะไรก็ตามแต่เธอจะไม่มีวันหลงกลเขาเด็ดขาด!
เอมิแซวเขาต่อนิดหน่อยเธอก็พยายามไม่สนใจทำหูทวนลมหลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ชวนกันลงไปข้างล่างแล้วร่ำลากัน
“กลับยังไง”
“มารถพี่เอมิค่ะ” ไม้หวายตอบส่ง ๆ ไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ
ไม่ต้องอยากรู้เรื่องเธอหรอกไปเทคแคร์น้องรหัสตัวเองก่อนดีกว่าไหมเพราะเธอมีพี่รหัสของเธอไม่ต้องมาห่วงใยเธอไม่ต้องการ
“มารถเอมิแต่กลับรถพี่คงไม่เป็นไรใช่ไหม”
“อะไรนะคะ?”
“กลับรถพี่ไงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ กลับรถพี่เอมิดีกว่า ขอบคุณนะคะ” ไม้หวายตอบแล้วเดินหนีเขาไปหาน้องรหัสปีหนึ่งของเธอทันที
“เอมิ”
“ว่า”
“เธอไปส่งน้องรหัสเธอถึงหอรึเปล่า”
“ไปส่งสิ ขามาให้น้องมาเจอกันที่หอฉันแต่นี่ดึกแล้วเดี๋ยวฉันไปส่งน้องที่หอ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันไปส่งไม้หวายเอง” ไม้หวายหันกลับไปมองเขาทันที นี่เขาคิดจะคิดเองเออเองสรุปเองหมดเลยรึไง จะไม่ถามความสมัครใจของเธอหน่อยเหรอ!
“ไม่เป็นไรค่ะ หวายจะกลับกับมายาพี่เอมิจะได้ไม่ต้องวนไปส่งด้วย”
“มายานั่งแท็กซี่มาจะกลับกับมายาได้ยังไง” เขาพูดขึ้นยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดในใจ น้องรหัสตัวเองนั่งแท็กซี่มาแทนที่จะห่วงน้องรหัสบ้างแต่เปล่าเลยไม่ห่วงเลยสักนิด นี่ไม่รู้ว่าน้องรหัสอีกสองคนของเขามายังไง
“ก็นั่งแท็กซี่กลับกับมายาไงคะ ใช่ไหมมายา”
“อื้ม เดี๋ยวมายากับหวายนั่งแท็กซี่กลับค่ะพี่ชาร์ล ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ”
“อยู่หอเดียวกันเหรอ?” เขาเอ่ยถามมายาทันที
“เปล่าค่ะ” มายาเองก็รีบตอบเขาเช่นกัน
“ถ้างั้นก็ต้องมีคนหนึ่งที่ลงก่อนแล้วอีกคนต้องนั่งแท็กซี่คนเดียวต่อใช่ไหมมายา”
“...ค่ะ”
“ใครถึงก่อน” เขาถามมายาด้วยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์แต่มายากลับเริ่มไม่ชอบใจมากขึ้นเพราะเธออยากให้ไม้หวายกลับแท็กซี่กับเธอมากกว่าให้พี่รหัสไปส่งเพื่อนสนิทของเธอ
“ว่าไง หอใครถึงก่อน”
“มายาค่ะ” มายาตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่เพราะเธอเริ่มจะรู้แล้วว่าคำตอบของเธอจะมีผลยังไง
“แสดงว่าไม้หวายต้องนั่งแท็กซี่ไปต่อคนเดียวงั้นสิ” ชาร์ลพูดขึ้นและมันก็เป็นอย่างที่มายาคิดจริง ๆ ทำให้เธอรีบปรับสีหน้าให้ดีขึ้นเพื่อแก้สถานการณ์
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ชาร์ล มายากับหวายเป็นเพื่อนรักกันดึกขนาดนี้มายาไม่ให้เพื่อนรักมายานั่งแท็กซี่คนเดียวแน่นอน เดี๋ยวให้หวายนอนห้องมายาค่ะ”
“พี่ว่าลำบากเปล่า ๆ แพรว”
“คะพี่ชาร์ล” แพรวน้องรหัสปีสามของเขาพอถูกเรียกก็รีบขานรับทันที
“ตอนมาถึงแพรวบอกพี่ว่าอยู่หอใกล้น้อง ๆ ใช่ไหม” น้องทั้งสองคนที่เขาพูดถึงคือมายาแล้วก็น้องรหัสปีหนึ่ง
“ใช่ค่ะ ให้มายากับน้องแอ้กับรถแพรวก็ได้พี่ชาร์ลเดี๋ยวแพรวไปส่งเองจะได้ไม่ต้องมีใครนั่งแท็กซี่”
“อื้มดีเลย ถ้างั้นพี่ฝากด้วยนะ”
“ได้เลยค่า~” แพรวตอบรับด้วยความเต็มใจและมันทำให้มายาเกิดอาการไม่พอใจขึ้นมาทันที แต่เธอก็แสดงออกมากไม่ได้
“ถ้างั้นเรากลับกับพี่แพรวนะมายาส่วนเพื่อนเราไม่ต้องห่วงพี่จะพาไปส่งให้ถึงห้องเลย”
“แต่...ค่ะ ถ้างั้นฝากเพื่อนมายาด้วยนะคะ” อาการของมายาเหมือนจะแย้งแต่สุดท้ายเธอก็กลับคำซึ่งมันทำให้ไม้หวายเกิดอาการเซ็งทันที
“พี่เอมิหวายกลับกับพี่เอมิดีกว่าค่ะ” ไม้หวายหันไปกระซิบคุยกับพี่รหัสของเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า หอพี่กับหอหวายไกลกันจะตายกว่าพี่จะส่งแต่ละคนเสร็จพี่ได้หลับในแน่นอน อีกอย่างคอนโดชาร์ลก็อยู่ใกล้หอหวายนิดเดียวเอง ไม่ต้องกลัวเดี๋ยวพี่จะกำชับให้รับรองไม่กล้าทำอะไรหรอก”
“หวายไม่สนิทจะกลับกับพี่เขาได้ไงล่ะคะ”
“แหม~ ถึงขั้นนี้ไม่ต้องอายแล้ว ไปเถอะไม่มีใครว่าอะไรหรอก หรือว่ากลัวไปคณะแล้วสาว ๆ ในคณะจะฉีกอกจ้ะเลยไม่กล้าออกตัวแรงยัยน้องรหัสคนสวย”
“ไม่ใช่ซะหน่อย” ไม้หวายรีบปฏิเสธความคิดของเอมิทันที ชักจะไปกันใหญ่แล้วเธอจะทำยังไงดี
“หึ ๆๆ ฉันว่าน่าจะเป็นอย่างที่เธอว่าว่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่ไม่ให้ใครมาทำอะไรเราได้แน่นอน” ไม้หวายหันไปมองคนที่เสียมารยาแทรกการสนทนาของเธอกับพี่รหัส ไร้มารยาทที่สุดแต่เธอก็ทำได้แค่แอบด่าเขาในใจ
“นั่นสิเนอะ ยังไงก็ฝากส่งน้องรหัสของฉันด้วยแล้วกัน ส่งให้ถึงที่อย่างปลอดภัยนะจ้ะ”
“แน่นอน”
“ออกจากที่นี่แล้วพุ่งตรงไปที่หอไม้หวายเลยนะชาร์ล”
“รู้น่า”
“ส่งเสร็จก็กลับเลยนะจ้ะ ไม่ต้องพยายามทำอะไรเข้าใจไหม”
“หึ ๆๆ พูดมากว่ะน้องรหัสเธอโตแล้วไม่ใช่เด็ก กลับดี ๆ เถอะรีบกลับกันได้แล้วก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้” เขาพูดจบทุกคนก็ร่ำลากันด้วยรอยยิ้มแล้วแยกย้ายกัน จะมีก็แค่ไม้หวายเท่านั้นที่ไม่ค่อยยิ้ม ส่วนมายาเพื่อนสนิทของเธอก็ยิ้มเหมือนกันแต่ยิ้มได้ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
“ไม่เห็นต้องหน้าบึ้งขนาดนี้”
“หวายไม่ได้เต็มใจกลับกับพี่ชาร์ล พี่ชาร์ลก็รู้อยู่แก่ใจแล้วจะให้ยิ้มได้ยังไงคะ” เธอตอบออกไปในขณะที่เขากำลังพาวนรถเพื่อลงจากอาคารจอดรถ
“หึ ๆๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ยิ้มแทนก็ได้”
“...ไม่ว่าจะต้องการอะไรหวายบอกตรงนี้เลยว่าไม่มีทางได้อย่างที่ต้องการแน่นอน”
“รู้รึไงว่าพี่ต้องการอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีหลังจากที่เธอพูดด้วยเสียงค่อนข้างเครียดมากจบลง
“ไม่รู้ไงคะเลยใช้คำว่าไม่ว่าต้องการอะไร”
“หึ ๆๆ เรานี่แอบตลกเหมือนกันนะ”
“เหมือนพี่ชาร์ลนั่นล่ะค่ะที่เดี๋ยวก็ร้ายเปิดเผย...เดี๋ยวก็ร้ายแบบไม่แสดงออก” ไม้หวายหันไปมองหน้าเขาแล้วพูดออกมาช้า ๆ
“มองพี่ในแง่ร้ายมากรู้รึเปล่า ดึกแล้วงีบก่อนไหมอีกพักใหญ่นะกว่าจะถึง”
“ไม่ค่ะ”
“ไม่พาไปทำอะไรหรอกง่วงก็นอนเถอะ”
“ไม่ไว้ใจอยู่ดีค่ะ”
“โอเค ถ้างั้นก็อยู่เงียบ ๆ ไม่ต้องหาเรื่องพี่ก็แล้วกัน”
“หวายไม่ได้หาเรื่องค่ะ หวายแค่คุยกับพี่ชาร์ลดี ๆ”
“ดีตรงไหน เรากล่าวหาว่าพี่มีเจตนาร้ายอยู่นะไม้หวาย” เขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ไม่มีท่าทางเหมือนจะโกรธเธอแม้แต่นิดเดียว แต่เธอก็ไม่วางใจอยู่ดี เขาต้องกำลังต้องการทำอะไรสักอย่างกับเธอแน่นอน
“เปล่าค่ะ แค่บอกว่าไม่ว่าต้องการจะทำอะไรมันจะไม่สำเร็จอย่างที่หวัง หวายไม่ได้เจาะจงว่าทำเรื่องดีหรือไม่ดีซะหน่อยไม่ใช่เหรอคะ”
“...หึ ๆๆ” ชาร์ลมองหน้าเธอพักหนึ่งก่อนจะหัวเราะในลำคอออกมาแผ่วเบา ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เธอดูอ่อนหวานเหมือนจะอ่อนแอ แต่เปล่าเลยเธอไม่ใช่อย่างที่เขาคิดแม้แต่นิดเดียว
“หัวเราะทำไมคะ”
“เปล่า แค่หัวเราะเพราะกำลังอึ้ง รู้ไหมว่าเรากำลังทำให้พี่หลงเสน่ห์เรามากขึ้นเรื่อย ๆ นะไม้หวาย”
“...” เธอมองเขาด้วยความไม่พอใจอีกครั้ง
หลงเสน่ห์เหรอ? ไม่มีทาง คนอย่างเขานี่นะจะหลงเสน่ห์เธอ คงเห็นว่าเธอไม่อ่อยไม่เข้าหาไม่สนใจเขาอย่างผู้หญิงคนอื่นมากกว่าก็เลยอยากเอาชนะเธอ
...มันแค่เกมล่าแต้มของผู้ชายรวย ๆ ก็แค่นั้น
เธอเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ พูดไปก็เท่านั้นเพราะเขาเองก็มีเป้าหมายของเขาถึงจะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรแต่เธอมั่นใจว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะฉะนั้นอยู่เงียบๆ แล้วระวังตัวเองให้ดีคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเธอ
ไม่มีการพูดคุยระหว่างเธอกับเขานานเกือบสิบนาที มีแค่การขับรถที่เร็วมาก ยิ่งถนนโล่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งขับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอทนไม่ไหวต้องเหลือบไปมองเข็มไมล์
“พี่ชาร์ลขับช้า ๆ หน่อยค่ะ” 195 กม/ชม. เธอเห็นตัวเลขแล้วแทบช็อกแถมดูเหมือนเข็มจะขยับขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่เอ่ยปากห้ามเธอตายแน่ ไม่หัวใจวายตายก็รถคว่ำตาย
“ทำไมล่ะ อยากอยู่บนรถกับพี่นาน ๆ รึไง”
“หวายกลัว! ไม่ได้อยากอยู่กับพี่ชาร์ลนาน ๆ ซะหน่อย”
“หึ ๆๆ” เขาแค่หัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ลดความเร็วลงเลย
“พี่ชาร์ลหวายกลัวจริง ๆ ลดความเร็วหน่อยค่ะ”
“รถสปอร์ตใครเขาขับช้ากัน”
“ไม่เอาพี่ชาร์ลหวายกลัวจริง ๆ นะ” เธอพูดไปก็มองไมล์รถไปด้วย 200 แล้ว มือเธอตอนนี้บีบกันไว้จนแน่น ขาก็จิกเกร็งไม่ใช่แค่กลัวแต่โคตรกลัว ใจเธอเต้นแรงไม่ต่างจากตอนอยู่บนรถไฟเหาะหรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำเพราะตอนอยู่บนรถไฟเหาะเธอรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะไม่ชนอะไรแต่กับรถยนต์เธอไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวินาทีข้างหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่ขับจนชินแล้ว”
“แต่หวายไม่ชินไง พี่ชาร์ลหวายกลัวขอร้อง” ไม้หวายเริ่มเสียงสั่นมากขึ้น มากจนน้ำตาเธอเริ่มคลอแต่อีกคนดูเหมือนจะสนุกมากกว่าที่ได้แกล้งเธอ
“ถ้างั้นต้องพาออกมาขับแบบนี้บ่อย ๆ จะได้ชินดีไหม” ชาร์ลยังพูดแล้วยิ้มมีความสุขโดยที่เขาไม่ได้หันมาดูอีกคนเลยว่ากำลังกลัวมากแค่ไหน
“ไม่เอาพี่ชาร์ลหวายกลัวจริง ๆ พี่ชาร์ลขับช้าลงหน่อยค่ะ ช้าลงสักนิดก็ได้หวายขอร้องล่ะ”
“หึ ๆๆ กลัวอะไรขนาดนั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกน่า”
“กลัวอุบัติเหตไงพี่ชาร์ลขับช้า ๆ ได้ไหม”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” เขาก็ยังเป็นเขาที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีและยังสนุกมากที่ได้แกล้งเธอ
“พี่ชาร์ลหวายกลัวจริง ๆ” เธอหันไปมองเขาพร้อมน้ำตาที่คลอตามากขึ้น มือเธอบีบเข้าหากันจนแน่นแต่เขาก็ไม่ได้หันมามอง
ไม้หวายกลัวมากแต่เพราะไม่รู้จะทำยังไงเลยหันหน้ากลับมามองที่ถนนอีกครั้งและทันใดนั้นเองรถของเขาที่พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงก็เข้าใกล้กับอะไรบางอย่างที่มองแทบไม่เห็นเพราะบริเวณนั้นไม่มีไฟข้างทางพอดี
“พี่ชาร์ลระวังข้างหน้า! พี่ชาร์ล! กรี๊ด!!!”