Love Pharmacist - 09 | เรื่องสำคัญ
(ไฟฟ้า)
“ลืมเรื่องสำคัญไปได้ไงวะกู” ผมเดินมาได้สักพัก บางอย่างก็แว้บเข้ามาในหัว นั่นจึงทำให้ผมเดินวนกลับไปยังห้องเดิมที่เพิ่งออกมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะประตูไปสามทีแล้วยืนรอสักพัก แต่ก็ไม่ยักจะมาเปิดประตูให้ ผมเลยตั้งใจจะเคาะซ้ำอีกครั้ง แต่ประตูดันเปิดออกมาพอดี
“ลืมอะไรถึงได้ย้อนกลับมา” เขาถามผม สภาพหัวเปียกชุ่ม คงเพิ่งจะอาบน้ำเตรียมพักผ่อน
“ของสำคัญ” ผมบอกพร้อมกับสบตาเขาที่ยืนจับประตูอยู่ตรงหน้า ตัวเล็กกว่าผมแต่สายตาโคตรท้าทาย
“ของสำคัญ?” เขาถามย้ำ
“อืม” ผมก็ยืนยิ้มกริ่มแค่นเสียงตอบรับเบา ๆ
“ผมไม่เห็นอะไรที่นอกเหนือจากของที่ผมมี” ไอ้หน้าขาวนี่แม่งจริง ๆ เลย ทำไมมันไม่เข้าใจอะไรง่าย ๆ กว่านี้นะ
“เราสองคนเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม?” ย้อนถามประโยคใหม่เผื่อว่าจะเข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม
“ใช่” ตอบแบบอึน ๆ ผมเห็นแล้วก็อยากจะคว่ำกะบาลไปสักป้าบ ได้แต่กัดฟันอดทนเท่านั้นแหละครับ
“ก็ต้องมีเบอร์โทรหรืออะไรไว้ติดต่อกันไง ทำไมต้องโชว์โง่ด้วยเล่า” แต่ฟิวขาดครับทนไม่ไหว หัวร้อนจนแหกปากด่าไอ้หน้าขาวนี่ปลดปล่อยอารมณ์ซะหน่อย
ป้าบ!!! หัวแทบหลุดจากบ่า เพราะว่าไอ้หน้าขาวมันตบหัวผมครับ มันกล้านักผมแค่คิดเองนะ แต่ไอ้หน้าขาวนี่มันลงไม้ลงมือ ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยปั๊ดโธ่เอ๊ย
“นี่!”
“นี่อะไร ทีตัวเองด่าคนอื่นไม่คิดสักนิด ประสาทกลับหรือไงมาด่าผมว่าโง่น่ะ”
“เอาเบอร์ เอาไลน์ เอาห่าเหวอะไรก็ได้ที่ติดต่อกันได้...เอามา!”
ผมก็ได้แต่กัดฟันอดทนต่อไปครับ ทั้งที่เจ็บใจและโคตรจะเสียหน้า ไม่พอแถมยังหน้าชาเล็กน้อยด้วยตอนนี้ แบมือไปตรงหน้าของนายนั่น ที่สีหน้าตึงอย่างกับจอมมารบู
“ขอดี ๆ ไม่เป็นหรือไง พูดเพราะจะขาดอากาศหายใจตายว่างั้น?” เขาพูดขึ้นซึ่งสีหน้าตอนนี้เรียบตึงยิ่งกว่าขึงผ้าซะอีก จริงจังแค่ไหนแค่ไหนเรียกจริงจัง
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า...เอามาดิเร็ว”
“คิดผิดหรือถูกที่ตกลงเป็นเพื่อนกับนาย”
“คิดโคตรถูกมากอะบอกเลย...เร็วดิจะได้รีบกลับบ้าน”
“ตกลงเป็นเพื่อนไม่ถึงห้านาที เริ่มจะปวดหัวแล้วล่ะ”
มีแอบบ่นให้ผมไปอีก นี่ผมพูดไม่เพราะตรงไหน นี่เพราะสุดแล้วปกติคำว่าผมเคยพูดซะที่ไหนล่ะกับเพื่อนอะ ยังนิ่งอีกครับยืนถอนหายใจมือกุมหัวอยู่นั่นแหละ
“เมื่อยขาแล้วนะ” ผมพูดขึ้น
“.........” เขาแบมือมาตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร ซึ่งผมก็เข้าใจดีรีบวางมือถือบนฝ่ามือของเขา
“ปลดล็อกหน้าจอด้วย” ผมลืมไปครับ เลยต้องรีบทำตามที่นายหน้าขาวบอก ไม่งั้นเดี๋ยวเปลี่ยนใจผมคงอดเข้าใกล้พอดี...นี่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่คิดว่าไปได้สวยเชียวล่ะ แม้เขาจะเริ่มสถานะให้ผมเป็นแค่เพื่อนก็ตาม แต่อนาคตเราสองคนอาจจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้ ผมมั่นใจ!
“อะ” ปลดล็อกเสร็จผมก็ส่งมือถือให้ และเขาก็กด ๆ จิ้ม ๆ ก่อนจะส่งคืนให้ผม ในใจนี่ฉีกยิ้มแล้วครับมีช่องทางติดต่อแล้ว
“ก็แค่เนี่ย ทำเป็นลีลา” ผมพูดทิ้งท้ายแล้วก็รีบเดินหนีออกมา ไม่ได้หันกลับไปมองหรอกครับว่าคนที่อยู่ข้างหลังผมจะแสดงสีหน้ายังไง แต่ผมก็พอจะนึกภาพในหัวได้ คงอยากจะตบกะบาลผมให้สักป้าบแน่ ๆ ได้แค่คิดแล้วก็ยิ้ม