บท
ตั้งค่า

Love Pharmacist - 06 | โคตรคุ้ม

#ไฟฟ้า

"ใครมันมาออกกำลังเท้าแถวนี้กันวะ?"

ตุบ ตั๊บ พั๊ว พั๊ว เสียงชลมุนเหมือนคนกำลังมีเรื่องทำให้ผมที่กำลังเดินอยู่ริมถนนต้องหยุดฟัง ทำเอาต่อมเผือกของผมกระดิกเหมือนหางหมาเพราะอยากจะรู้ เลยค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปดูตามเสียง

"นั่นมัน..." คนที่นอนรองรับฝ่าเท้า เบ้าหน้าที่มีรอยฟกช้ำ ทำให้ผมตกใจมากรีบวิ่งเข้าไปอย่างไม่คิดเกรงกลัว แม้จะมีตัวคนเดียวก็ตาม เรื่องแบบนี้ผมค่อนข้างจะชินตามประสาเด็กช่างในสมัยเรียน ผมมันโคตรจะเกรียนเลยช่วงวัยรุ่น

"แม่งโคตรอ่อนเลยว่ะสามรุมหนึ่ง" ผมพูดขึ้นพร้อมสีหน้าที่ท้าทาย สายตามองต่ำไปยังคนที่นอนหมดสภาพไม่เป็นท่า ใบหน้ามีเลือดซึมและรอยแดงช้ำตรงปาก...ผมนึกสงสัยว่าคนอย่างนายหน้าขาวนี่ไปแกว่งเท้าหาเสี้ยนมาจากไหน ทำไมถึงได้มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้คือไอ้สามตัวนี่กำลังจะเลี้ยงไม่โต บังอาจมาแตะคนของผม ซึ่งเขาก็ยังไม่ยินยอมหรอก ผมคิดไปเองคนเดียวและยัดเยียดสถานะให้เองแหละ

"แล้วมึงเสือกอะไรด้วยวะ!" หนึ่งในสามคนพูดขึ้น นี่ผมต้องกลัวพวกมันไหมอะ แสดงไม่ถูกเลยจริง ๆ

"น นาย มาได้ยังไง" นายหน้าขาวเจ้าของร้านขายยาเงยหน้าแล้วพูดด้วยความทุลักทุเล ผมได้แต่มองไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ต้องระวังตัวไงมาคนเดียวเสือกโชว์กร่าง อยากโชว์แมนต่อหน้าคนที่ชอบเท่านั้นแหละ

"นายยังไม่ตายเนอะ" ผมพูดแซวทั้งที่เห็นแหละว่าเขากำลังแย่ ขยิบตาและยกยิ้มให้กำลังใจ สายตาที่ผมสื่อไปมันแอบแฝงด้วยความห่วงใย แต่เขาจะรับรู้ไหมผมก็ไม่แน่ใจ...ถ้าไม่ซื่อบื้อคงสัมผัสได้เองแหละเนอะ

"ยังหายใจเองได้" ก็ยังอุตส่าห์ตอบผม ไม่ดูสภาพตัวเองเอาซะเลย จะลุกยืนยังดูลำบาก

ตอนนี้ไอ้สามตัวมันเริ่มเดินเข้ามาใกล้ผม ถูกล้อมหน้าล้อมหลัง ซึ่งผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะสู้อีท่าไหนถึงจะไม่ให้ตัวเองเจ็บตัว เห็นผมหน้าชั่วร้ายแบบนี้ก็ไม่เคยหมาหมู่นะจะบอกให้

"มึงพวกมันใช่มะ...ก็ดี!" ไอ้คนที่อยู่ทางซ้ายมือของผมพูดขึ้น พร้อมกับไม้หน้าสามในมือชี้หน้าผม

"พวกไหมไม่รู้ แต่กูไม่ค่อยชอบพวกหมาหมู่ เห็นแล้วมันชอบคันไม้คันมือ ดูแล้วก็ไม่เจริญหูเจริญตา" ผมว่าขึ้นอย่างท้าทาย พร้อมกับประสานมือดัดนิ้วไปมาจนเสียงดัง พวกมันสามตัวมองหน้ากันแล้วพยักหน้าส่งสัญญาณ ทำให้ผมรับรู้ว่าต้องเตรียมตั้งรับ

และเป็นอย่างที่ผมคิด พวกมันเริ่มลงมือรุมผม แต่คนอย่างผมใช่ว่าจะไม่มีวิชาป้องกันตัว ผมสวนหมัดทั้งถีบพวกมันคนละทีสองที มีบ้างที่ผมก็โดนฝ่าเท้าและกำปั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมต้องนอนจมฝ่าเท้าทั้งหกข้าง เจ็บแต่ยังสู้ไหว ตอนนี้ผมมายืนบังนายเภสัชฯ นั้นไว้ ก่อนจะฟาดไม้หน้าสามเรียงหน้ากระดานเข้าเบ้าหน้าพวกมัน จากนั้นผมก็จับมือนายเภสัชฯ วิ่งหนีออกมา วิ่งชนิดที่ว่าใส่เกียร์หมาเลยครับ เพราะตอนนี้คงสู้ไม่ไหว เพราะผมก็เจ็บตัวไม่น้อย หนึ่งต่อสามสู้ได้ก็บ้าระห่ำแล้วครับ ผมไม่ใช่พระเอกซีรี่ส์เหมือนในทีวีหรอกนะ ที่จะเก่งปานนั้นต่อให้มีวิชาการต่อสู้แค่ไหนก็เถอะ

"นายโอเคไหม?" ผมพานายเภสัชฯ นั่งหลบตรงมุมลับสายตาแล้วถามขึ้น สภาพหน้าหล่อใสตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดและรอยช้ำ น่าสงสารฉิบหายเลย

"อืม"

"พวกมันคงไม่ตามมาแล้วล่ะ" ผมชะเง้อมองเห็นพวกมันวิ่งผ่านหน้าไป ตอนนี้คงรอดจากฝ่าเท้าทั้งหกแล้วล่ะ

"ขอบใจนะ ว่าแต่มาเจอได้ยังไง"

"นี่มันซอยเข้าบ้านผม"

"อ้อ"

"ขอถามหน่อยสิ พวกมันทำไมต้องทำร้ายนายด้วย"

มันคืออะไรที่ผมอยากรู้จริง ๆ ตั้งแต่วันนั้นแล้วที่เห็นพวกมันไล่ล่านายนี่ และวันนี้อีกถึงขั้นลงไม้ลงมือ มันมีเรื่องอะไรกันแน่ เพราะคนอย่างนายนี่ไม่น่าจะมีเรื่องกับพวกอันธพาลแบบนี้สักหน่อย หรือว่าผมประเมินนายนี่ดีเกินไป

".........." เขาเงียบ

"มันคือกลุ่มเดียวกันกับวันที่ไล่นายที่ผับวันนั้นใช่ไหม?" ผมถามขึ้นอีก

"อืม" ถามซะยาวมันก็ตอบผมมาแค่นี้ ผมจะรู้เรื่องไหมเนี่ยวันนี้

"เล่าให้ฟังได้ไหม?" เป็นคำพูดที่ผมก็ยังไม่เคยพูดกับใครด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อนเลยยกเว้น...นางสาวพันดาว

"แค่อยากได้แฟนคืน ผมรักเธอคนนั้นมากเพราะเธอคือรักแรกของผม" เขาเริ่มเล่าและผมก็ตั้งใจฟัง แต่จะรู้สึกแอบเศร้าที่เขามีแฟนแล้วก็ตาม ยังพยายามที่จะฟังต่อให้จบ

"พวกมันแย่งแฟนนาย?" ผมถาม

"เธอยินยอมไปเอง แต่ว่ามันคือความจำเป็น บริษัทพ่อเธอกำลังแย่เธอเลยเลือกที่จะไปแต่งงานกับนักธุรกิจช่วยที่บ้าน...เธอบอกเลิกผมทั้งที่เราสองคนรักกัน ผมเข้าใจเธอ แต่บางครั้งผมก็ทำใจไม่ได้ที่จะเสียเธอไปเลยแอบนัดเจอกับเธอบ้าง" นี่มันละครชีวิตหรือไง ทำไมก่อนหน้าที่ผมเจอเขาดูเหมือนใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่ร้านขายยาเหมือนจะสบายดีนี่นา แต่ก็อย่างว่าแหละชีวิตคนเรามักมีสองด้านด้วยกันทั้งนั้น

"นี่มันซีรี่ส์เรื่องไหนวะเนี่ย" ผมหันหน้าหนีแล้วบ่นเบา ๆ

"คุณไม่เคยเจอคงคิดว่ามันตลกและน้ำเน่าใช่ไหมล่ะ แต่นี่มันคือชีวิตจริงที่ผมพบเจอ"

"ก็ไม่ได้ขนาดแบบนั้นหรอก แค่ไม่คิดว่าชีวิตคนมันจะเจอเรื่องอะไรทำนองนี้เฉย ๆ..."

"ผมมันคงดูโง่ ดูหมดสภาพมากสินะ"

"เอาน่าคิดซะว่าไม่ใช่เนื้อคู่กัน" แหวะ ทำไมผมถึงได้พูดอะไรเลี่ยน ๆ แบบนี้ได้นะ ทั้งที่เกิดมาไม่เคยพูดปลอบลักษณะนี้สักครั้ง นายนี่นับว่าโชคดีแล้วล่ะที่ได้ฟังมันออกจากปากของผม

"ไปจำมาจากซีรี่ส์เรื่องไหนโคตรเลี่ยนเลย" อย่าว่าแต่คนฟังจะอวกเลย ผมพูดเองยังอยากอวกให้หมดไส้หมดพุง

"หน้าผมนี่เหมือนคนติดซีรี่ส์หรือไง..." ผมย้อนถามทีเล่นทีจริง ก็ไม่อยากให้เขาเครียดไปมากกว่านี้ แค่ชีิวิตเขาก็น้ำเน่าพอแล้ว

"ไม่เหมือนคนติดซีรี่ส์หรอก แต่ดูเหมือนจะติดอย่างอื่นมากกว่า เบ้าหน้าดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ สายซีรี่ส์นี่คงไม่น่าใช่หรอก ผมขอโทษละกัน" มันก็พูดซะยาวเลยเนอะ ทั้งที่ปากแตกเลือดไหล คงอยากได้ปริมาณเลือดเพิ่มอีกสิท่า

"ได้ทีเอาใหญ่ วันนี้ไม่ต่อปากกับนายแล้วกัน เห็นว่าโดนตีนมาหรอกนะถึงได้ยอม" ผมพูดขึ้นและมันก็ทำให้นายนั่นอมยิ้ม

"ขอบคุณอีกครั้งนะ เดี๋ยวผมขอเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนที่ช่วยผมวันนี้"

"อะ อืม"

ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม นายนี่ชวนผมกินข้าวด้วย หัวใจฟูเลยครับผมจนอยากจะฉีกยิ้มให้กว้างยันใบหู แต่ต้องเก็บอาการไว้ ผมค่อย ๆ ประคองนายนี่ให้ลุกยืน นั่งแอบอยู่ใกล้ถังขยะเน่า ๆ ก็ไม่ได้กลิ่นเลย อะไรรอบตัวก็หอมไปซะหมด ... โคตรดีใจแค่ได้ใกล้กันแค่นี้ผมก็รู้สึกดีแล้ว

"แล้วคุณชื่ออะไรต่อไปผมจะได้ไม่เรียกว่าคุณยาคุม" และผมก็ต้องดีใจอีกรอบเพราะเขาถามชื่อผมด้วย นี่เรียกว่าจีบผมทางอ้อมได้ไหมวะ...หรือว่าผมเข้าข้างตัวเองมากไป

"ไฟฟ้า" ผมอมยิ้มและตอบเขาไป "แล้วคุณล่ะ?"

"เคมี" คนเชี่ยอะไรวะชื่อเคมี แต่ไม่เป็นไรชื่ออะไรก็ช่างไม่สำคัญ มันอยู่ที่ว่าผมชอบคนไม่ได้ชอบที่ชื่อเสียงเรียงนาม

โดนตีนวันนี้โคตรคุ้มเลยครับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel