บท
ตั้งค่า

บทที่ยี่สิบห้า

เรื่องอาลแบร์ถูกกลุ่มนักเลงดักทำร้ายตรงบริเวณใกล้โรงเรียน ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างมากไม่เว้นแม้แต่ในห้องเรียนของเสมอแมน ถึงจะไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันแต่กลุ่มอิซายามะก็ไม่มีใคร รู้สึกสมน้ำหน้าหรือรู้สึกสะใจแต่อย่างใดตรงกันข้ามพวกเขารู้สึกว่า การกระทำของพวกนักเลงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกทั้งยังสงสัยด้วยว่าทำไมถึงมาทำร้ายอาลแบร์ เสมอแมนเองที่นั่งอ่านหนังสือแต่ใจก็ไม่ได้จดจ่ออยู่ที่ตัวหนังสือ เขากลับรู้สึกว้าวุ่นใจมากกว่าถึงอาลแบร์จะมีนิสัยผูกมิตรไม่ค่อยเก่ง แต่ก็เป็นคนชอบความสันโดษไม่มีทางที่จะสร้างศัตรูแน่นอน อย่างไรก็ตามเคราะห์ดีหน่อยที่อาลแบร์ได้ยุวชนทหารสองคนเข้าไปช่วย ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคาดว่าน่าจะบาดเจ็บสาหัส ขณะเดียวกันฝั่งห้องของพิมพ์พรรณซึ่ง "อาจารย์ลีวอนจุน" อาจารย์ประจำห้องตัดสินใจที่จะชักชวนทุกคนไปเยี่ยมเพื่อนร่วมห้อง ข่าวลือของอาลแบร์ยังพูดถึงในห้องเรียนของกลุ่มแพรววา เนื่องจากพวกเธอคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทว่าสิ่งที่นักเรียนหญิงพูดคุยกันก็คือหน้าตาความหล่อเหลาของสองยุวชนทหารต่างหาก ส่วนนักเรียนชายก็พากันทึ้งในทักษะการต่อสู้ของทั้งสองมาก

ทว่าแพรววากลับสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของอนัญลักษณ์ ที่กำลังมองไปยังกลุ่มนักเรียนหญิงซึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ สำหรับเด็กสาวแล้วนี้ดูไม่สมกับเป็นอนัญลักษณ์เลย เพราะตามนิสัยแล้วเรื่องแบบนี้เพื่อนคนนี้แทบไม่เคยสนใจมันเลย แถมสายตาของอนัญลักษณ์ที่แสดงออกตอนนี้มันชวนให้นึกถึงพศพัชร์ในเวลาที่มีหนุ่ม ๆ มายุ่งกับพจนวีร์ แพรววาเดินมาสะกิดอนัญลักษณ์ซึ่งมันทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งพอสมควร "อองตอง เธอโอเคหรือเปล่า" แน่นอนว่าคำตอบที่แพรววาได้รับคือ "เปล่านี่ ฉันไม่เป็นอะไรสักหน่อย" แพรววาทำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่แล้วอาจารย์ก็เดินเข้ามาเสียก่อนทำให้ทั้งห้องต่างพากันแยกย้าย และมานั่งเรียนตามปกติยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่มีสีหน้าถอดสีราวกับคนป่วยหลายเดือน เบลล่า นั่นเอง มือไม้ของเด็กสาวสั่นเทาด้วยความวิตกกังวลและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ซึ่งเธอพยายามที่จะทำตัวเป็นปกติเท่าที่ตัวเธอจะทำไหว พฤติกรรมของเบลล่าล้วนอยู่ในสายตาของคริสติน่าทั้งสิ้น

++++++++++++++++++

อาลแบร์ถูกหมอแนะนำให้พักฟื้นในโรงพยาบาลอย่างน้อยห้าวัน เรื่องที่เขาถูกดักทำร้ายทางโรงเรียนคงจะแจ้งครอบครัวไปแล้ว เด็กหนุ่มยอมรับว่าไม่ค่อยอยากให้พ่อแม่รู้เท่าไหร่ เขานึกสงสัยอยู่ว่าทำไมพวกนั่นถึงเข้ามารุมทำร้าย และบางอย่างบอกกับเขาว่าหากไม่ได้ยุวชนทหารสองคนเข้ามาช่วย พวกมันคงจะตั้งใจทำให้เขานอนหยอดข้าวต้มไปหลายเดือนแน่ ๆ ตำรวจเข้ามาสอบปากคำอยู่สองสามอย่างก่อนจะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตามลำพัง เมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุมห้องมันก็ชวนให้เขานึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งภาพของเสมอแมนก็แล่นเข้ามาในสมอง นาทีนั้นเองที่อาลแบร์ยอมรับว่า เขาอยากให้เสมอแมนอยู่ตรงนี้เหลือเกิน ภาพความทรงจำในช่วงเวลาที่เขากับอีกฝ่ายมีกันและกัน เขาไม่อาจจะลบเลือนมันออกไปได้เลย ถึงแม้มันจะผ่านมากว่าสามปีแล้วก็ตามซึ่งอาลแบร์พยายามเปิดใจ ในความสัมพันธ์กับคนใหม่ ๆ เผื่อว่ามันอาจช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของเขาไปได้ และเด็กหนุ่มพบว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย

"เปรม ฉันคิดถึงนายจัง" อาลแบร์พูดเสียงแผ่วเบาพอดีกับที่มีเสียงประตูห้องเปิด

คนที่เข้ามาเป็นชายกับหญิงสองคนที่มีสีหน้าร้อนรนด้วยความเป็นห่วง อาลแบร์เชื่อว่าในโลกนี้คนที่จะห่วงใยเขามากกว่าใคร ก็คงหนีไม่พ้น "ฟร็องซัว" กับ "เซซิลียา" พ่อแม่ของเขา ทันทีที่เห็นหน้าลูกชายเซซิลียาก็รีบเข้ามากอดเขาด้วยสีหน้าที่ทั้งโล่งอกและกังวล ฝั่งฟร็องซัวก็เข้ามากอดลูกชายด้วยเช่นกัน "ปลอดภัยก็ดีแล้วนะลูกพ่อ" อาลแบร์พยักหน้ารับก่อนจะพบว่ามีสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวไม่มา "มาร์เกอริตล่ะครับ พี่เขาไม่ได้มาด้วยเหรอ" แม้เขาจะถามฟร็องซัวแต่คนที่ตอบก็คือเซซิลียา "แม่บอกพี่เขาแล้ว เดี๋ยวก็คงมาถึง" สิ้นคำของแม่ เสียงประตูเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลวิ่งเข้ามากอดเด็กหนุ่ม 

"หวัดดี "มาร์เกอริต" " อาลแบร์ทักทายหลังจาก พี่สาวคลายกอดจากเขา "ดีใจที่ได้เจอพี่นะ"

"ใครทำอะไรนาย อาลแบร์ !" มาร์เกอริตพูด

"มาร์เกอริต ใจเย็น ๆ ก่อนสิลูก ที่นี้มันโรงพยาบาลไม่ใช่ในบ้าน" ฟร็องซัวปรามลูกสาว

มาร์เกอริตที่ได้สติก็รีบพูดว่า "ขอโทษคะ พ่อ"

ฟร็องซัวหันกลับมาที่ลูกชายซึ่งยังนอนอยู่บนเตียง "ช่วงที่พ่อไม่อยู่ "นาง" ยังตามรังควานลูกอยู่ไหม" แน่นอนว่าคนที่พ่ออาลแบร์กล่าวถึงย่อมหมายถึงพรนภา ภาพในอดีตกลับมาทำร้ายเด็กหนุ่มอีกครั้งเมื่อแม่ของเสมอแมน ใช้อิทธิพลที่มีมาข่มเหงครอบครัวเขาเพียงเพื่อต้องการกีดกันเขากับเสมอแมน มาร์เกอริตเองก็จำได้ว่าอีกฝ่ายถึงขั้นสั่งให้เจ้านายในที่ทำงานของฟร็องซัว ลงใบคำสั่งพักงานอย่างไม่มีกำหนดทั้งที่ฟร็องซัวทำงานดีมาตลอด ตอนนั้นเซซิลียาคิดว่าหากสถานการณ์ไม่คลี่คลายก็อาจต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ทว่าหลังจากเสมอแมนเป็นฝ่ายขอยุติความสัมพันธ์เสียก่อน พรนภาจึงล้มเลิกการรังควานครอบครัวของอาลแบร์ไป 

"ผมไม่คิดว่าเป็นแม่ของเปรมหรอกครับ" อาลแบร์พูดและครุ่นคิด "มันไม่ใช่สไตร์ของเขาเลยที่จ้างนักเลงมาทำร้ายผม"

"ถ้าไม่ใช่มนุษย์ป้านั่นทำ แล้วนายคิดว่าใคร" มาร์เกอริตถามต่อโดยไม่สนใจสายตาเชิงตำหนิของแม่ ตอนนี้เธอต้องการรู้ความจริงให้ได้ว่าใครคือคนอยู่เบื้องหลังนี้ "ช่วงที่ฉันไม่อยู่ มีใครหาเรื่องนายหรือเปล่า" 

อาลแบร์พยายามครุ่นคิดแต่แล้วก็ต้องซะงักเมื่อเจอคำถามนี้

"ระยะหลังนี้ลูกได้คุยกับเปรมหรือเปล่า" เซซิลียาถามขึ้น

"ไม่ครับ" อาลแบร์รีบตอบทันที เขาไม่ต้องการให้ครอบครัวรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในสวนน้ำ ทว่าพอนึกถึงสวนน้ำขึ้นมาภาพของเบลล่าเด็กสาวที่แอบชอบเสมอแมนก็ผุดขึ้นมา 

+++++++++++++++++

หลังพักเที่ยงเบลล่าแทบไม่มีสมาธิในการเรียนหรืออ่านหนังสือเลย และตอนนี้เธอไม่อาจควบคุมอาการสั่นเทาตามร่างกายได้ จนต้องแอบหนีขึ้นมาบนด่านฟ้าของโรงเรียน โชคดีที่บนด่านฟ้าไม่มีนักเรียนคนไหนขึ้นมาทำให้เธอตัดสินใจอยู่บนนี้แทน โทรศัพท์มือถือสั่นแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดหย่อนซึ่งมันคงส่งมาจากโซอี้และชอนยูอิน เบลล่าไม่ต้องการที่จะให้ใครเข้ามายุ่งกับเธอในตอนนี้ ทว่าสุดท้ายแล้วเบลล่าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนขึ้นมาบนด่านฟ้า เสียงหัวใจเต้นรัวเร็วดังมากขึ้นจนแทบจะทะลุออกจากกลางอก แต่แล้วมันกลับเบาลงจนเธอรู้สึกแปลกมากโดยเฉพาะเมื่อเจอกับคริสติน่าและคริสเตียน คู่แฝดที่เธอขับไล่กี่ครั้งก็ไม่เคยไปเสียทีและปฏิเสธไม่ได้ว่า เบลล่ารู้สึกอุ่นใจที่เห็นเพื่อนทั้งสองมากกว่าจะเป็นโซอี้กับซอนยูอิน แต่ด้วยความหยิ่งจึงทำให้เบลล่าแสดงออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มันขัดกับสิ่งที่อยู่ในใจของเธอตอนนี้อย่างมาก

"มาทำไม" เบลล่าพูดเสียงแข็ง "หรือที่สวน ฉันยังพูดไม่ชัดเจน"

"พอสักทีเถอะ !" คริสติน่าสวนกลับจนเบลล่าเป็นฝ่ายเงียบเสียเอง

คริสเตียนมองหน้าเบลล่าด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ "เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของเธอใช่ไหม"

เบลล่าจ้องหน้าเด็กหนุ่มด้วยความไม่พอใจ "หมายความว่าไงที่เธอพูดน่ะ คริส" เด็กสาวเดินมากระซากคอเสื้อคริสเตียนด้วยความโมโห "พูดให้เข้าใจหน่อย จะมากล่าวหากันลอย ๆ แบบนี้ได้ไงย่ะ" คริสติน่าเดินเข้ามาจับแยกทั้งสองออกจากกัน

"คิดว่าฉันสองคนไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรต่องั้นสิ" คริสติน่าหันมาพูดกับเบลล่า 

ฝั่งเบลล่าแม้จะรู้สึกหวาดหวั่นแต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ 

"ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร"

"กลุ่มนักเลงที่ไปทำร้ายรุ่นพี่คนนั่น ฝีมือเธอใช่ไหม" 

เบลล่านิ่งกลายเป็นหินเมื่อเจอคำถามของคริสติน่า อากัปกิริยาของอีกฝ่ายคือคำตอบชัดเจนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือเบลล่า คริสติน่าและคริสเตียนต่างตะลึงเพราะไม่คาดคิดว่า เบลล่าจะถลำลึกถึงขนาดกล้าจ้างคนมาทำร้ายร่างกายคนอื่น คริสติน่าเดินมาเขย่าตัวอีกฝ่ายด้วยความตกใจ "ไม่จริงใช่ไหม.... เธอทำอะไรลงไป รู้ตัวหรือเปล่ายัยบ้า" คริสติน่าพูดด้วยเสียงสั่นเครือ "เธออาจโดนจับได้นะ !" เบลล่าสะบัดตัวออกจากอีกฝ่ายและมองหน้าด้วยความโกรธ "อย่ามายุ่ง ! มันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ" 

"เราสองคนเป็นห่วงเธอนะ เบลล่า ถ้าเกิดพ่อเธอรู้เรื่อง...."

เสียงโทรศัพท์มือถือของเบลล่าดังขึ้นอีกครั้งจนคราวนี้ เธอจับต้องดึงเครื่องออกมาจากกระเป๋ากางเกงแต่แล้วเด็กสาวก็ถึงกับชะงัก เพราะเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอซึ่งสองพี่น้องเห็นหน้าถอดสีของเบลล่าก็พอจะเดาได้ว่าใครคือปลายสาย เด็กสาวตัดสินใจกดรับสายและเดินแยกตัวเพื่อคุยส่วนตัวกับปลายสาย คริสติน่ากับคริสเตียนมองหน้ากันด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก ครู่ต่อมาเบลล่าก็วางสายแล้วเดินมาคว้ากระเป๋าเรียนขึ้นสะพายหลัง "ฉันต้องไปแล้ว" เธอกล่าวเสียงห้วน ๆ ที่ดูยังไงมันก็ยังแฝงไปด้วยความวิตกกังลปนความหวาดกลัว คริสเตียนทำท่าจะเดินตามเบลล่าแต่ถูกน้องสาวจับแขนรั้งไว้

"อย่า..." 

คริสเตียนหันขวับมามองน้องสาว "เราจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ"

"ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร คริส..." คริสติน่าพูดอย่างเบื่อหน่าย "แต่เราทำอะไรไม่ได้เลยต่างหาก"

++++++++++++++++++++

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel