Chapter 4 เริ่มงาน
“ใส่ชุดเสร็จแล้วกรุณาเรียก จะมีคนพาขึ้นไปค่ะ” พนักงานสาวตอบ
บริษัทนี้มีชุดให้ด้วย...?
มันเป็นเดรสสีดำที่หรูหราและสวยมีสไตล์ ติดจะแปลกที่เป็นชุดหนัง บริษัทอาจจัดงานโชว์สินค้าและจะให้ฉันแต่งตัวเป็นพริตตี้แนะนำสินค้าละมั้ง ฉันเคยรับงานเป็นพริตตี้อยู่เหมือนกัน
ทว่าตะลึงได้อีกเมื่อซองสีขาวขนาดเล็กซองหนึ่งยื่นมาที่ฉัน ภายในบรรจุการ์ดวาววับ
“อะไรคะ”
“คีย์การ์ด สำหรับเพนท์เฮ้าส์ของคุณค่ะ”
“เพนท์เฮ้าส์!?” ที่หมายถึงที่พักหรูหราซึ่งมักตั้งอยู่ใจกลางเมืองในทำเลแพงสุดนะเหรอ!? “ให้ฉันทำไมคะ อ้อ...คงให้ฉันเข้าไปปัดกวาดหรือจัดของ”
งานทำงานใช้หนี้แทนพ่อคงต้องทำทุกอย่าง
“ระหว่างการทำงานที่บริษัทนี้เพนท์เฮ้าส์นี้เป็นของคุณค่ะ สามารถย้ายของเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องทำความสะอาดเพราะทำเรียบร้อยแล้ว”
“ฉันไม่เข้าใจค่ะ”
“ฉันไม่ทราบว่าคุณงงอะไร เพนท์เฮ้าส์เป็นของคุณแล้วจริงๆ ท่านประธานบอกอย่างนั้นค่ะ”
“ท่านประธาน?”
“ก็คนที่คุณต้องเข้าพบและสัมภาษณ์ไงคะ พร้อมหรือยังคะ”
หลังยกหูโทรศัพท์ขึ้นต่อสายและถามสั้นๆ หญิงสาวคนเดิมเดินนำฉันขึ้นลิฟท์ไปชั้นสูงสุด
ประตูเปิดออก พนักงานฟรอนท์ที่พาฉันมาโค้งคำนับตั้งแต่กรอบประตู “มาแล้วค่ะ ท่านโทคิยะ”
ประตูใหญ่หนักปิดลง เหลือเพียงความเงียบเมื่อฟรอนท์ที่มาส่งฉันกลับออกไป ทิ้งฉันไว้หน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ เบื้องหน้าคือเก้าอี้ของชายคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้ฉัน เหมือนมองออกไปนอกหน้าต่างสูงจรดเพดาน
“สวัสดีค่ะ” ฉันโค้งคำนับร่างที่พนักเก้าอี้บัง เห็นเพียงเศษเสี้ยวของช่วงไหล่กว้างและปลายเส้นผมสีเข้ม ชุดสูทดูเคร่งขรึม
เก้าอี้พนักสูงที่หันหลังให้ฉันพลันหันกลับมา
ดวงตาของฉันถูกแช่แข็ง เวลาถูกหยุด แม้แต่ลมหายใจก็ชะงักชั่วขณะ นั่นเพราะคนบนเก้าอี้ประธานคือร่างของชายที่ฉันชนเมื่อวาน!
“ค...คุณ...”
“ท่าน” อีกฝ่ายเอ่ยแก้สรรพนามที่ฉันใช้เรียกประธาน ใบหน้าคมคายเยือกเย็นน่าครั่นคร้าม อาจเรียกว่าคาริสมาหรือบารมี ในเมื่อเขาเป็นประธาน ฉันคิดอย่างนั้น
ไม่นึกว่าประธานแห่งโทคิยะคอร์ปจะเป็นเขา และหนุ่มขนาดนี้
ฉันโค้งคำนับอย่างรวดเร็วอีกครั้ง “เมื่อวานฉันขอโทษค่ะ ฉัน....”
“ชื่อยูนะ...?” เขาถามแทรกเสียก่อน
“อะ... เอ่อ...ค่ะ”
เขาก็ดูเป็นคนธรรมดานี่ เมื่อวานไม่รู้คุณพ่อจะตัวสั่นขนาดนั้นทำไมตอนที่แม่เลี้ยงบอกว่าฉันต้องมาทำงานที่นี่ คุณแม่เลี้ยงก็เหมือนกันที่ทำสีหน้าจริงจังจนฉันอดกลัวไม่ได้
แต่ก็แค่งานทำความสะอาดไม่ใช่เหรอ? ถึงอย่างนั้นก็แปลกที่บอกให้ฉันใส่ชุดหนังสวยเท่ขึ้นมาเริ่มงานแบบนี้ บางทีอาจให้เป็นพริตตี้ในบางเวลาอย่างที่ฉันคิดจริงๆ
“ขอบคุณนะคะที่ยอมให้ฉันทำงานใช้หนี้ให้คุณพ่อของฉัน คุณใจดีมาก ให้ฉันทำงานตำแหน่งไหนดีคะ งานอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“ทาส”
ฉันนิ่งอึ้ง
“อะไรนะคะ” สงสัยฟังไม่ถนัด
“คนรับใช้”
“อ่อ...ค่ะ” บางทีอาจหมายถึงงานเลขาด้วยหรือเปล่า แต่จะให้ฉันชงน้ำชากาแฟอะไรก็ได้ทั้งนั้น ฉันจบปริญญาตรี “ต้องทำอะไรบ้างคะ”
“ทุกอย่าง” เขาตอบสั้น ไม่พูดมาก ดูไม่ชอบพูดด้วยซ้ำ
บางทีผู้ชายที่หล่อเหลาก็เข้าใจยาก เขาดูดี กำยำและสูงเท่ยิ่งกว่านายแบบเสียอีก น่าแปลกที่ถึงจะเป็นธุรกิจของตระกูลแต่เขากลับก้าวขึ้นมาในตำแหน่งสูงด้วยอายุน้อยขนาดนี้
ฉันโค้งหัว “ยูนะยินดีรับใช้ค่ะ ทำได้ทุกอย่าง ฉันจะเป็นคนรับใช้ที่ดีนะคะประธาน...” ชื่ออะไรนะ ฉันยังไม่รู้ชื่อเขาเลย
“ฮารุ”
“ค่ะ คุณฮารุ”
“ท่าน”