Chapter 3 ลูกหนี้
-ยูนะ-
ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร...?
ใบหน้าคมคายกว่าคนทั่วไป ฉันไม่เคยพบคนแบบนั้น เหมือนรูปปั้นที่ไร้ที่ติ
ริมฝีปากได้รูปที่ปอยเส้นผมของฉันปรกผ่าน ยังไม่ลืมดวงตาสีเข้มเหมือนคืนเดือนมืดที่ทำให้ฉันดำดิ่งลงไปสู่ห้วงนั้น...
และคราบเลือดที่ริมฝีปากเสี้ยวลมหายใจก่อนหลังมือกำยำจะเช็ดมันออก ดูอายุมากกว่าฉันแต่คงไม่เกินห้าปี
ความเคร่งขรึมรอบตัวเขาทำให้ฉันรู้สึกถึงพลังบางอย่าง แค่มองก็รู้สึกผิวร่างร้อนวูบ ไม่เข้าใจเลยว่าเพราะอะไร คงเพราะเขาดูน่ากลัวละมั้ง และสัมผัสจากร่างอบอุ่นของเขายังแผ่นซ่านบนผิวของฉัน...อาจเพราะฉันชนเขาอย่างแรง
“ยูนะ” เสียงแม่เลี้ยงของฉันฟังดูใจดีกว่าทุกครั้ง เหมือนคิดถึงและอยากรักฉันแต่ก็แค่เสแสร้ง “มานั่งนี่สิ”
“ฉันมีเรื่องจะบอก” เสียงของเธอกดด่ำกว่าทุกครั้ง เธอไม่เคยแทนตัวว่าแม่ เธอไม่เคยอยากเป็นแม้แต่แม่เลี้ยงของฉัน
มือกร้านแต่ประดับเล็บดำสมฐานะภรรยาเจ้าของร้านค้าเคลื่อนจับต้นแขนคุณพ่อเหมือนปรามไม่ให้เอ่ยบางอย่างเมื่อสั่งฉัน “ขอเธอให้ตั้งใจฟัง”
“ไม่หรอกยูนะลูกพ่อ ไม่ต้องฟังแม่เขาหรอก!” คุณพ่อร้องห้าม สีหน้าไม่สู้ดี เม็ดเหงื่อผุดเหนือหน้าผากประดับริ้วรอยจากการกรำงาน
“คุณเงียบเถอะ” แม่เลี้ยงปราม
“แต่...”
“ฉันพูดเอง“
แม่เลี้ยงมักทำให้พ่อเชื่อฟังได้ในหลายอย่าง และเพราะความใจดีและอ่อนโยนของพ่อทำให้แม่เลี้ยงอย่างเธอกลายเป็นหัวหน้าในบ้าน
เธอยิ้มอ่อนโยนให้ฉัน เสแสร้ง แต่ฉันไม่เกลียดเธอ เพราะเธอเป็นคนรักของพ่อฉัน “ชีวิตของพ่อขึ้นเธออยู่กับเธอแล้ว นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้แทนคุณท่าน”
ฉันนิ่งอึ้ง เลือดในร่างแน่นิ่งด้วยความประหลาดใจแกมระแวงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกในชีวิตสักครั้ง รอยยิ้มแบบนั้นมักนำเรื่องร้ายมาให้ฉัน
“ฉันหวังว่าเธอคงจะรักพ่อพอจะเลือกในสิ่งที่ช่วยพ่อของเธอได้ นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้แทนคุณท่าน เข้าใจไหมยูนะ”
วันรุ่งขึ้น
หลังจากได้ยินสิ่งที่แม่เลี้ยงพูดขาของฉันถึงได้มาหยุดยืนหน้าตึกสูงหนึ่งร้อยชั้นนี้อีกครั้ง สูงจนต้องแหงนมองคอตั้งบ่า ตึกเดียวกับเมื่อวานที่ขึ้นป้ายขนาดใหญ่น่าเกรงขาม
“โทคิยะคอร์ป”
หนึ่งในบริษัทอันมั่งคั่ง
เมื่อวานฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคุณพ่อ เพราะหลังจากฉันเพิ่งกลับจากรับจ้างเช็ดกระจกตึกสูงหกสิบชั้น (หลายคนอาจบอกว่าเสี่ยงตาย แต่ฉันรู้สึกเหมือนนางฟ้าที่ลอยอยู่กลางอากาศ) ฉันก็พบว่าบ้านว่างเปล่า
แต่สายตาของฉันเหลือบเห็นจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟา ทันใดนั้นทั้งร่างฉันเหมือนถูกฟ้าผ่า ริมฝีปากสั่นเมื่ออ่านจดหมายที่บอกว่าพ่อติดหนี้จนต้องถูกดำเนินคดี และเจ้าหนี้ของคุณพ่อก็คือเจ้าของตึกนี้
โทคิยะคอร์ป...
ทางเดินแกรนิตใสราวกระจก สะท้อนเสียงร้องเท้าคัชชูคู่กับชุดทำงานที่ดูเรียบร้อยและเป็นทางการของฉันในความเงียบ ชุดที่ยืมเพื่อนมาดูไม่เหมาะกับตัวเองเลย ฉันไม่เคยทำงานบริษัท
เท้าของฉันหยุดลงหน้าเคาน์เตอร์แผนกบุคคล ก่อนโค้งคำนับ “สวัสดีค่ะ ฉันมาเข้าทำงานวันแรก ชื่อฮิบาระ ยูนะค่ะ”
“เชิญตรวจเลือดค่ะ”
“เห?”
แปลก
ให้ตรวจเลือดตั้งแต่วันแรกของงาน? เป็นบริษัทที่ใส่ใจสุขภาพของพนักงานดีจัง บางทีที่นี่อาจเป็นบริษัทในฝันของฉัน
หลังจากนั่งรอราวหนึ่งชั่วโมงพนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาและยื่นผลตรวจเลือดให้
“ผลตรวจพบว่าคุณสุขภาพแข็งแรง ไม่มีเลือดบวก ไม่เป็นพาหะนำโรค”
มือของอีกฝ่ายวางชุดชุดหนึ่งลงหน้าโต๊ะที่ฉันนั่ง มือประดับเล็บสีดำเช่นเดียวกับชุดฟอร์ม ดูเป็นหนึ่งเดียวกับบรรยากาศรอบข้าง
“ชุดอะไรคะ?”