Chapter 2 เมื่อวาน
-โทคิยะ ฮารุ-
เมื่อวาน
14.21 น.
เสียงฝีเท้าถี่วิ่งใกล้เข้ามา ตรงหัวมุมตึกร่างผมถูกชนอย่างจัง
ตุบ!
“อื้อ...”
เสียงผู้หญิง ร่างนุ่มนิ่มนั้นล้มทับร่างของผม และตอนนี้ก็นั่งคร่อมอยู่เหนือสะโพกของผมเหมือนท่าบนเตียงแบบผู้หญิงอยู่บน
เส้นผมยาวสยาย ปอยหนึ่งตกระริมฝีปากผม นัยน์ตาสีเทาอมดำ
ความเจ็บแปลบเจือจางเหนือริมฝีปากผมที่เกิดจากการชน
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
การเห็นผมทำให้ใบหน้านั้นแดงเรื่อและนิ่งงันเหมือนผู้หญิงเกือบทุกคนที่ได้เห็นผม
“ฉันไม่ได้ตั้งใจชนคุณล้ม ฉัน....เอ่อ...มาตามหาคุณพ่อของฉัน ได้ยินว่าคุณพ่อมาที่นี่”
ริมฝีปากสีชมพู ผิวร่างชาวจัด...รองเท้าผ้าใบ ชุดสีหวาน ผมอดสงสังไม่ได้ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรในชุดหนัง ถือแส้สักอัน
“คุณเห็นเขาไหมคะ” ใบหน้าสีขาวยิ่งเรื่อแดง มักไม่มีใครกล้ามองตาผมตรงๆ และเธอก็เช่นกัน “อา...ฉันนี่แย่จริง คุณจะรู้จักคุณพ่อได้อย่างไรกัน”
เธอลุกขึ้น ปัดฝุ่นบนกระโปรงสั้น “ขอโทษค่ะ ฉันต้องไปแล้ว”
แล้วเธอก็วิ่งออกไป แต่ผมยังมองตาม แปลกใจตัวเองที่ยังนิ่งและมอง
ไม่บ่อยที่ผมจะจ้องมองดวงตาของใครคนหนึ่งเกินเสี้ยวลมหายใจเหมือนเมื่อครู่
บางทีวันนี้อาจเป็นวันที่ดีอีกวัน
วันเดียวกัน
15.00 น.
“ท่านโทคิยะขอรับ” พนักงานในชุดสูทโค้งคำนับเมื่อผมกลับมาถึงห้องทำงาน หากพูดให้ถูกคือห้องประธาน ”มีแขกมาขอพบ เป็นลูกหนี้ที่มาขอยอมความขอรับ”
“เชิญกลับไป” ผมหันหลัง “เรียกรปภ.หรือตำรวจ หากจำเป็น”
คนรายงานอึกอัก “เอ่อ...คนเป็นภรรยาบอกว่าหากท่านไม่ออกไปพบสามีเธอ เธอจะแต่งตัวไว้ทุกข์และและซุ่มปาไข่เน่าใส่ประตูคฤหาสน์ท่านทุกวัน”
ผมชะงัก
น่ารำคาญ
15.12 น.
“ขอบคุณท่านโทคิยะที่ใจดี” ลูกหนี้สองสามีภรรยาคำนับเมื่อได้เข้าพบ
ผมเงียบ ไม่ต้องการคำชม เพราะที่จริงไม่เคยใจดีกับใครทั้งนั้น
“ท่านจะจับเราดำเนินคดีจริงเหรอ ไม่ทำได้ไหม อย่างไรเสียพวกเราก็ไม่มีเงินคืนท่านหรอก" ทั้งสองคนอ้อนวอน คนอื่นเห็นคงสงสาร
“ลูกหนี้ไม่มีสิทธิ์ต่อรอง เมื่อกู้เงินไปทำธุรกิจพังแล้วใช้หนี้ไม่ได้ก็ต้องเข้าคุกตามกฎหมาย รปภ. เชิญแขกกลับ” เอ่ยจบผมหันหลัง
“เดี๋ยว !” เสียงแข็งกร้าวจากภรรยาผู้ประกาศจะโยนไข่เน่าใส่ประตูบ้าน ไม่เลิกตื๊อใส่ประธานอย่างผมผู้ที่ไม่ชอบทนรำคาญ “ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน ฉันจะให้ลูกสาวมาทำงานให้ท่าน”
“เชิญกลับไปซะ”
“ได้โปรดรอก่อน ฉันมีรูปเธอ เธอน่ารักและเป็นเด็กดีมาก”
แขนผมถูกรั้งด้วยมือเล็กกว่าของสตรีวัยกลางคนที่วิ่งตามมาเพียงคนเดียว ทิ้งสามีที่ดูอ่อนโยนและอ่อนแอไว้ข้างหลัง
เรียวนิ้วแห้งกร้านจากการทำงานหนักเลื่อนภาพในโทรศัพท์มือถือ “ดูสิท่านโทคิยะ เธอเป็นเด็กขยัน ว่าง่าย จะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ภาพที่ถูกเลื่อนหยุดรั้งให้ผมนิ่งครู่หนึ่ง
เส้นผมยาวสยาย ดวงตาสีดำอมเทา
มันเป็นภาพของเธอคนนั้น
เสียงร่างชนร่างที่มุมตึกเมื่อครู่ย้อนกลับมาในความทรงจำ สัมผัสของเส้นผมลื่นที่ยังนิ่มติดมือ
แทรกขึ้นมาด้วยเสียงภรรยาลูกหนี้ “เธอชื่อยูนะ เป็นคนง่ายๆ หนักเอาเบาสู้ สั่งอะไรถ้าเพื่อพ่อละก็ทำทั้งนั้น กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำอาหาร จะสั่ง เอ๊ย ขออะไรก็ทำ”
มันทำให้ผมนึกถึงซินเดอเรลล่ากับแม่เลี้ยงใจร้าย
“ฉันให้เปล่า ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน ให้ทำอะไรก็ได้ เมตตาเราด้วยท่านโทคิยะ”
ภาพในสกรีนวูบดับเมื่อเรียวนิ้วกรำงานกดปิด แทนที่ด้วยใบหน้าจริงจังแกมวิงวอนของลูกหนี้
“ได้โปรดเถอะ ฉันยกเธอให้คุณ แล้วหนี้เราเป็นอันสิ้นสุดกัน”