3
อลันคิดว่าอะไรมันจะบังเอิญขนาดได้นี้ ทำไมถึงต้องจะเป็นพศกร น้องชายของผู้หญิงใจดำคนนั้น คนที่เขาอยากให้อยู่ห่างจากลูกและเขามากที่สุด เขาย้ายจากกรุงเทพฯ มาที่เชียงใหม่เพื่อที่เหตุการณ์แบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้น ครั้งสุดท้ายที่เขาเจอพศกรคือหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่คูเปอร์เกิด ซึ่งนั่นมันเมื่อห้าปีที่แล้ว แม้พศกรจะเปลี่ยนไปแต่เขากลับจำได้แม่น สิ่งที่เด่นชัดคือกลิ่นของน้ำหวานที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว กลิ่นหอมหวานที่ลอยจาง ๆ อยู่ในอากาศเวลาอยู่ใกล้ สัญญาณเตือนในตัวเองบอกว่าจะให้พศกรเจอคูเปอร์ไม่ได้ ต้องห้ามไม่ให้ชายหนุ่มเข้าใกล้ลูก เขาเลยเข้าไปยืนขวางด้านหน้าลูกไว้ทันที แล้วยิ่งตอนที่ได้สบตากัน เขายิ่งโมโหเพราะดวงตาของพศกรดันเหมือนกับของผู้หญิงที่เขาเกลียด
ตอนนี้คูเปอร์กำลังนอนหลับ เขาได้ยินเสียงประตูถูกผลักเข้ามา ทำให้เขายืดตัวตรงขึ้นโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะกลับไปพิงพนักเก้าอี้ใหม่เมื่อเห็นว่าเป็นอลิซ น้องสาวแท้ ๆ ของเขาเองที่เดินเข้ามา
“ลิซรีบมาหลังจากเลิกงานเลยค่ะ” อลิซบอกพร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งข้างเขา
“ขอบใจ” เขาบอกและยิ้มเนือย ๆ
อลิซกัดริมฝีปาก เธอสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ ห้อง “บังเอิญมาก แต่พี่รู้มั้ยว่าพี่พลูเป็นหมออยู่ที่นี่”
“อืม พลูเป็นหมอเจ้าของไข้คูเปอร์” อลันรับเสียงเนือย
“หา! ลิซอยากอยู่ด้วยตอนที่พวกพี่เจอกันจัง” อลิซพูดอย่างนึกสนุก
“พี่แทบช็อกตอนที่เห็นพลูเดินเข้ามา” อลันยอมรับ
“แล้วพี่ได้ถามถึงหมอคนอื่นมั้ยคะ”
“ถามแล้วแต่พลูยืนกรานว่าเป็นหมอคนเดียวที่อยู่เวรกะดึกคืนนี้ในแผนกนี้” เขาขี้คร้านจะเถียงต่อ
“แล้วคูเปอร์รู้มั้ยคะว่าเขาเป็นใคร” อลิซลดเสียงลง
“ไม่ และมั่นต้องเป็นแบบนี้ตลอดไป เธอดูลูกให้พี่เดี๋ยว พี่จะออกไปซื้อกาแฟสักหน่อย”
“ได้ค่ะ ซื้อมาเผื่อลิซด้วย”
ตอนที่อลันเดินกลับเข้ามา พศกรได้เดินเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ ใบหน้าหวานของชายหนุ่มดูเคร่งเครียดจริงจัง เขาอยากจะไล่ไปให้พ้น ๆ แต่เขาไม่อยากเป็นจุดสนใจไปมากกว่านี้เพราะพยาบาลในแผนกกำลังจับจ้องมาจุดที่พวกเขายืนอยู่เป็นตาเดียวกัน
“ผมขอคุยกับพี่หน่อยครับ” พศกรเอ่ย
“ถ้าไม่ใช่เรื่องอาการของลูก ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับ”
“ขอเวลาผมแค่ห้านาที”
“สามนาที” เขายื่นคำขาด
“โอเคครับ สามนาที” พศกรยอมรับเงื่อนไขของเขาดีกว่าไม่ได้คุยอะไรกันเลย
พศกรเดินนำชายหนุ่มไปยังห้องเดิมที่คุยกับเขาก่อนหน้า ปิดประตูลง และยืนขวางตรงประตูไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
ระหว่างนี้อลันได้ลอบสังเกตชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าหวานผิดจากผู้ชายทั่วไปไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิด และชุดกาวน์ที่สวมยิ่งทำให้ร่างอ้อนแอ้นดูสง่างาม เปลี่ยนจากเด็กเรียนขี้อายเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่เต็มตัวและมีความมั่นใจในตัวเอง
“ผมพยายามโทรหาพี่เป็นเดือน ๆ ไม่สิ เป็นปี ๆ” พศกรเริ่มพูด
“ฉันบอกนายว่าไง ถ้าไม่เกี่ยวกับคูเปอร์ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วย” เขาเตือน
“พี่อย่าเพิ่งพาลสิครับ”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน”
“โธ่พี่อลัน พลูแค่อยากบอกว่าพลูพยายามติดต่อพี่แต่ก็ติดต่อไม่ได้ อยู่ ๆ พี่ก็หายไปเสียเฉย ๆ” น้ำเสียงตัดพ้ออยู่ในที
“ฉันเปลี่ยนเบอร์” เขาตอบเสียงห้วน
“ทำไมครับ”