ว่าที่คู่หมั้น - 03
พวกเราใช้เวลารับประทานอาหารเช้ากันค่อนข้างนานนิดหน่อย เพราะว่ามัวแต่เถียงกันเรื่องที่เรียนใหม่ฉันตลอดเวลาของการทานข้าว และก็เหมือนเดิม...
คนที่ห้ามทัพของเราสองพ่อลูกก็คือแม่เล็ก ผู้มีนิสัยสุขุมและมีเหตุผลที่สุดที่ป๊าฉันยังไม่กล้าขัด
“เบื่อจัง! โทรบอกเรื่องเปลี่ยนที่เรียนให้ยัยยีนส์รู้สักหน่อยดีกว่า”
หลังจากที่นั่งอุดอู้อยู่ในห้องตัวเองมานานสองนาน ฉันเลยนึกถึงเพื่อนรัก เพื่อนสนิทในมหาลัยเก่าอย่างยัยยีนส์ขึ้นมา
ถ้าฉันไม่บอกมันก่อนล่วงหน้าว่าฉันต้องลาออกจากที่นั่นเพื่อไปเรียนที่ใหม่มีหวังยัยนี่ได้โกรธฉันไปสามชาติแน่ๆ ก็ฉันมีเพื่อนสนิทกับเขาแค่คนเดียวนี่เนอะ คนอื่นๆ ที่เข้ามาหาฉันก็เพราะว่าฉันรวยกันทั้งนั้น
ยกเว้น!... ยัยยีนส์ เพราะนางทั้งสวยและรวยเท่าๆ กับฉัน
ตู๊ด~
ฉันที่นั่งต่อสายหาเพื่อนสนิทอยู่ไม่ถึงสิบวิ ปลายสายก็กดรับพร้อมกับคำทักทายที่ฉันไม่คิดว่ายัยนี่ก็รู้แล้วเหมือนกัน
[ฉันเก็บของอยู่ ป๊าแกนี่จะรีบย้ายที่เรียนเร็วไปไหนห๊ะยัยเพลย์]
ได้ไงอะ!?
นี่ป๊าบอกยัยยีนส์เรื่องย้ายที่เรียนก่อนแล้วเหรอ แล้วที่หล่อนบอกว่าเก็บกระเป๋าอยู่คืออะไร?
“แกเก็บกระเป๋าทำไม แล้วทำไมป๊าถึงต้องบอกแกเรื่องนี้ก่อนฉัน”
ฉันรีบถามคำถามเพื่อนสนิทออกไปแทบจะลิ้นพันกัน
ไม่เข้าใจทำไมป๊าต้องบอกเรื่องนี้กับยีนส์...
... อย่าบอกนะว่าที่เธอกำลังเก็บกระเป๋าอยู่เพราะว่า...
[ก็ฉันต้องไปกับแกไง ยัยเพลย์เพื่อนรัก]
ว่าแล้วเชียว... ทำไมเวลาฉันเล่นทายหัวก้อยกับยัยยีนส์และเพื่อนๆ ในห้องถึงไม่ถูกเผงแบบนี้กันนะ
“แล้วแกรู้ป้ะ ว่าป๊าย้ายพวกเราสองคนไปที่ไหน” เพราะฉันคิดว่าป๊าต้องบอกรายละเอียดยัยยีนส์เยอะกว่าฉันน่ะสิ เลยต้องถามเธอออกไป
[ป๊าแกบอกว่าเป็น RNN university เป็นมหาลัยเอกชนที่เพิ่งเปิดได้เมื่อปีก่อนน่ะ]
RNN งั้นเหรอ?
ไม่เห็นจะเคยได้ยิน ถ้าเป็นมหาลัยเปิดอย่างที่ยัยยีนส์ว่า น่าจะคุ้นหูบ้างสิ แต่ยัยยีนส์บอกเองนี่ว่าเพิ่งเปิดได้แค่ปีเดียว คงจะยังไม่ดังหรอกมั้ง
“โอเค งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะเพื่อนรัก”
พูดลาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตัวเองเสร็จฉันก็วางสายเธอไป หมุนตัวลงจากเก้าอี้ตัวกลม เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของตัวเอง
“ได้เวลาเปลี่ยนที่อยู่ใหม่อีกแล้วสินะ”
สองตาจ้องมองตู้เสื้อผ้าใบใหญ่ตรงหน้า ริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อกัดปลายนิ้วชี้ขวาตัวเองเล่น สองคิ้วขมวดเป็นปมน้อยๆ ครุ่นคิดว่าจะเอาอะไรออกไปจากตู้ใบนี้ดี
ประเด็นมันอยู่ที่ ฉันจะไปอยู่ที่นั่นกี่วัน กี่เดือน หรือว่าตลอดไปไง
เพราะคิดไม่ตกก็เลยเลือกที่จะลากกระเป๋าเดินทางใบเขื่องสามใบออกมาวางแหมะบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่นอนกันได้ถึงห้าคน
จัดการรวบเสื้อผ้าครึ่งค่อนตู้ ยัดมัดลงกระเป๋าใบแรกจนล้น จากนั้นก็จัดการกับใบที่สองและสาม
“เหนื่อยชะมัด!”
นี่แค่จัดกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองแค่ห้าใบเองนะ แทบจะหมดแรง ตอนแรกคิดว่าสามใบน่าจะพอ แต่ฉันเป็นพวก รักพี่เสียดายน้อง ถ้าไม่เอาอันนั้นไปก็กลัวไปถึงที่นั่นแล้วเกิดอยากใช้ขึ้นมาจะไม่มีให้ใช้
สุดท้ายเลยกลายเป็นกวาดมันเกือบหมดทั้งตู้จนได้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ยักษ์มาห้าใบตรงหน้านี่ไงล่ะ
และแล้ววันเดินทางสู่สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ของฉันกับยัยยีนส์เพื่อนรักก็มาถึง ตอนนี้ยัยยีนส์มาหาฉันที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ก็คำสั่งป๊านั่นแหละ ให้คนไปรับเธอมา เพราะไปด้วยกันมันจะดีกว่าให้เจอกันที่นู่น
“โห! ยัยเพลย์ นี่แกกะจะย้ายบ้านเลยใช่มะ” ยัยยีนส์ทำตาโตทันที ที่เธอเห็นสัมภาระห้าใบของฉันที่พวกแม่บ้านกำลังช่วยกันขนมาขึ้นรถลีมูซีนสีดำมันเงา
“แกก็รู้ว่าฉันต้องพร้อมที่สุด” ฉันจับหน้าสวยเรียวเล็กของเพื่อนสนิทส่ายไปมาเบาๆ พร้อมกับย่นจมูกโด่งรั้นน้อยๆ ของตัวเองให้เพื่อนตรงหน้า
“พอเลย ฉันมึนหัว แล้วอย่ามาขอแรงฉันจัดกระเป๋าตอนถึงที่นู่นแล้วกัน”
หวา!! แย่เลย
ยัยยีนส์รู้ทันฉัน นี่กะว่าถึงที่นู่นจะให้เธอช่วยจัดกระเป๋าเข้าตู้สักหน่อย แบบนี้ฉันก็ต้องเอาของในกระเป๋าห้าใบออกมาจัดเองหมดเลยงั้นสิ
เพลย์เยอร์แย่แล้ว~