บท
ตั้งค่า

INSIDE ME | 04 ผู้อุปการะ

หัวใจดวงน้อยคล้ายว่าจะหยุดเต้น มือไม้สั่นเทิ้มหยิบจับอะไรไม่ถูก มีเทอแสร้งหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแนบใส่หูแล้วกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทั้งที่ไม่มีใครโทร. เข้ามา

“เอ้อ…ว่าไงแก เออๆ กำลังจะออกไปแล้ว” โฮปมองตามร่างบางอย่างไม่เข้าใจ เธอมีท่าทีแปลกทุกครั้งที่เจอเขา หรือจริงๆ แล้วเธอคือคนรู้จักเขา แต่ก็แปลกใจอยู่เพราะเขาคุ้นเสียงเธอมาก

“คงไม่ใช่…” โฮปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดอ่านข้อความจากเลขาที่ส่งงานมาให้เขาตรวจสอบ จากนั้นจึงเดินออกไปที่หน้าโรงพยาบาล ยืนพิมพ์ข้อความตอบกลับเลขาเสร็จก็เดินไปที่รถตัวเอง ระหว่างนั้นเขามองหาเธอคนนั้นไปด้วย “เพี้ยน” ริมฝีปากหยักพึมพำเบาๆ แล้วขับรถออกไป

“เฮ้อ~ อะไรกันเนี่ย ทำไมตอนเราเข้าไปไม่เห็นเขาล่ะ” ถึงตอนนี้โฮปขับรถออกไปแล้วหัวใจก็ยังเต้นแรงจนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้ “ให้ตายสิ”

“น้องมีเทอคะ”

“อ๋อ ค่ะพี่”

“เชิญทางนี้หน่อยค่ะ”

“ได้ค่ะๆ” มีเทอเดินตามเข้ามาและรับฟังหมอที่รักษาลูกสุนัขที่เธอเก็บมารักษาอย่างตั้งใจ สรุปได้ว่าน้องอาการดีขึ้นตามลำดับและออกจากโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้

“ขอให้น้องได้บ้านดีๆ และเจ้านายที่รักน้องมากๆ นะครับ” หมอหนุ่มยิ้มให้มีเทอจนตาหยีหากแต่จริงๆ เขากำลังทอดสะพานอยู่ทว่ามีเทอไม่เล่นด้วย มีหลายครั้งที่หมอชวนไปกินข้าวและซื้อน้ำซื้อขนมมาให้ในตอนที่เธอมาเยี่ยมสัตว์เลี้ยงที่พามารักษา ทุกการเปลี่ยนแปลงของมีเทอหมอคนนี้และทุกคนที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้เห็นหมด

“ขอบคุณมากๆ นะคะหมอ พรุ่งนี้มีเทอจะถ่ายคลิปเจ้าอ้วนลงเพจ เอาให้พ่อแม่ที่เข้ามาเห็นน้องตกหลุมรักแล้วมาพาน้องไปเลี้ยงเลยค่ะ”

“ครับ ว่าแต่น้องมีเทอ…”

“ขอตัวนะคะ” มีเทอตัดจบไม่เหลือเยื่อใย เธอหมุนตัวกลับไปหาลูกสุนัขตัวอ้วน

บ๊อก! บ๊อก!

“เห่าเก่งขนาดนี้เลยเหรอ คงอาการดีขึ้นแล้วจริงๆ สินะเรา” ฝ่ามือบางลูบไล้ลำตัวลูกสุนัขอย่างอ่อนโยนด้วยความเอ็นดู “พรุ่งนี้เรามาเล่นกันนะอ้วน จะถ่ายรูปหล่อๆ ลงเพจ” ว่าจบมีเทอก็ลุกขึ้น เธอหันไปโปกมือให้พี่ที่สนิทกันแล้วเดินออกมา

วันต่อมา

ภายในห้องประชุมที่ปกคลุมไปด้วยความตึงเครียดแต่โฮปกลับนั่งนิ่งมองไปที่จอไอแพดที่เปิดรูปสุนัขตัวอ้วนสีขาว เขาจำไม่ผิดแน่ว่ามันคือตัวเดียวกับที่เห็นอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ หากจริงๆ เขากำลังชั่งน้ำหนักในใจว่าจะรับมาเลี้ยงดีไหมกับปล่อยให้มันไปอยู่กับคนที่มีเวลามากกว่า

“คุณว่าการเลี้ยงลูกสุนัขตัวหนึ่งมันต้องใช้เวลาขนาดไหน” คำถามที่หยุดทุกการสนทนาของคนในห้องประชุมให้หันมามองเขาเป็นตาเดียว เลขาสาวกระอักกระอวนพูดไม่เต็มเสียง

“คุณโฮปคะ…เอ่อ…เราประชุมอยู่นะคะ”

“…” โฮปเหลือบตามองทุกคนที่กำลังจ้องมองเขา “ขออภัยครับ ประชุมต่อได้” ชายหนุ่มปิดหน้าจอไอแพดแล้วตั้งใจประชุมต่อจนเสร็จ เขารีบกลับไปที่ห้องทำงานพร้อมกับเลขาสาว

“เห็นคุณโฮปถามเพ็ญเรื่องเลี้ยงลูกหมา”

“อ๋อ ครับ”

“เพ็ญว่ามันค่อนข้างละเอียดอ่อนอยู่นะคะ ต้องมีเวลาเลี้ยงมีเวลาเล่นกับมันมากพอสมควร”

“ครับ” จริงๆ แล้วเขาตัดสินใจได้ตั้งแต่เอ่ยถามเธอในห้องประชุมแล้ว “ช่วยติดต่อเพจนี้ไปหน่อยนะครับ บอกว่าผมจะอุปการะเลี้ยงลูกหมาตัวนี้เอง” โฮปชี้นิ้วไปที่รูปลูกสุนัขสีขาวตัวอ้วน พอเลขาได้รับคำสั่งแล้วเธอก็รีบทำตามที่เจ้านายบอกทันที

โฮปยกยิ้มมุมปากแล้วโทร. หาเพื่อนทั้งสองคน

(ว่าไง) ไออุ่นตอบกลับก่อนวอร์

“มีไรจะถามหน่อย”

(ว่ามาดิ)

“จะเลี้ยงหมาตัวสีขาวหน้าตาเหมือนไอ้วอร์ จะให้ชื่ออะไรดี”

(หน้าเหมือนใครนะ) วอร์ถามขึ้น

(หน้ากวนส้นตีนเหมือนมึง) ไออุ่นตอบกลับเสียงดังฟังชัด

(ไอ้เหี้ย!)

“หึหึ เออนั่นแหละ จะให้ชื่ออะไรดีวะ” เขาถามความคิดเห็นจากเพื่อนทั้งสองคน

(ชื่อไรก็ได้แต่ห้ามชื่อวอร์ก็พอ) วอร์โพล่งขึ้นทำเอาไออุ่นกับโฮปหัวเราะลั่น

(เหมาะจะตาย เวลาเรียกก็เรียกไอ้เหี้ยวอร์ กูว่าวิ่งมาหาด้วยความเร็วแสง ว่าแต่ทำไมมึงไม่เลี้ยงเองเลยวะวอร์)

(เลี้ยงเหี้ยไร หนูดีกูตบตาหลุดแน่)

(เออกูก็ลืมว่ามึงเลี้ยงแมว เป็นทาสแมวนี่หว่า)

“เออช่างเถอะ สรุปเอาไง”

(กูนึกไม่ออกอะ) วอร์ออกตัวก่อน เรื่องคิดชื่อสัตว์เลี้ยงหรือชื่ออะไรก็แล้วแต่เขาไม่ถนัดเลย ชื่อหนูดีแมวตัวโปรดยังเป็นหนูพิ้งค์ที่ตั้งให้

(แมวหรือหมานะ) ไออุ่นถามย้ำเสียงเรียบคล้ายว่ากำลังนึกชื่ออยู่

“หมา ตัวสีขาว”

(ตัวเมียหรือผู้) เขาถามต่อ

“น่าจะผู้นะ”

(อืม…เต้าหู้ เพราะไหมถ้าไม่เพราะก็เปลี่ยน)

“กูชอบชื่อนี้ เต้าหู้”

(อืม)

(โห…ไออุ่นมึงนี่โคตรความคิดดี)

(ใครจะไปคิดเลวได้อย่างมึง) พอไออุ่นพูดจบประโยคนั้นเขาก็วางสาย

(ไอ้ฉิบหาย!!) วอร์แหวผ่านสายจนโฮปเบือนหน้าหนีด้วยแสบแก้วหู

“มันวางสายแล้ว แค่นี้นะ” เขาเองก็วางสายทันทีแล้วกดเข้าไปในไลน์เพื่อเปิดอ่านข้อความจากเลขาคนสวยที่ส่งภาพแช็ตกับเพจที่ประกาศหาคนรับเลี้ยงลูกสุนัขและลูกแมวจรจัด โฮปยกยิ้มเล็กน้อยแล้วกดปิดจอโทรศัพท์มือถือ

“เรียบร้อยนะคะคุณโฮป ถ้ายังไงพรุ่งนี้เพ็ญจะไปรับลูกหมาให้”

“เต้าหู้ครับ ผมให้มันชื่อเต้าหู้”

“ค่ะ ชื่อเพราะนะคะ”

“ครับ ยังไงรบกวนคุณเพ็ญด้วยนะครับ”

19:00

“โอ๊ยยายมีเทอออกไปจากตัวฉันก่อนจะได้ไหมเนี่ย อื้อ!!”

“อื้อ~ ฉันดีใจอะแน็ก แกรู้ไหมมีคนรับเจ้าหมีขาวไปเลี้ยงแล้ว โปรไฟล์คนที่มารับอุปการะน้องก็ดีดูมีฐานะ เจ้าหมีอ้วนไม่อดเหมือนที่ผ่านมาแล้ว”

“อืม ดีใจกับแกด้วย แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเก็บหมาแมวจรจัดไปรักษาสักที นี่หมดไปหลายแสนแล้วนะคนสวย” มีเทอยู่ปาก หากจะให้เลิกคงยาก ก็ตอนสบตากับน้อง ๆ เหมือนถูกสะกดจิตยังไงไม่รู้ แค่มองตาก็ใจอ่อนยวบแล้ว

“ไม่เอา หมดกี่แสนเดี๋ยวก็หาใหม่ได้”

“จ้าแม่คนรวย แล้วนี่เขาจะพารับหมีอ้วนตอนไหน”

“พรุ่งนี้น่ะ พอดีเลยน้องออกจากโรงพยาบาลก็ไปอยู่กับแม่คนใหม่เลย”

“อืม ๆ แล้วนี่จะไปส่งน้องไหมอะ” สแน็กเอ่ยถามพลางเขี่ยโทรศัพท์ไปด้วย

“ไปนั่นแหละ และแกต้องไปกับฉันด้วย”

“เฮ้อ~ โอเคค่ายายคุณหนู”

“รักแน็กที่สุด”

“หมาแมวจรจัดกับฉันแกจะเลือกใคร”

“อย่าใจร้ายสิแน็กจ๋า ยังไงฉันก็เลือกเพื่อนอยู่แล้วไหม”

“ให้มันจริงเถอะ!”

“แฮ่ ๆ”

วันต่อมา

มีเทอนั่งกอดนั่งดมลูกสุนัขตัวอ้วนที่ถูกพี่ๆ อาบน้ำให้ตัวหอมฟุ้งน่าฟัดเป็นการล่ำลากัน

“ไปอยู่บ้านใหม่ก็ทำตัวดีๆ นะรู้ไหม”

บ๊อก!

“ท่าจะคุยกันรู้เรื่องแฮะ” สแน็กยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นลูกสุนัขเห่าทุกครั้งที่มีเทอพูดจบ ไม่นานก็มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกับกรงใส่สัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก

“สวัสดีค่าพี่ พี่มารับหมีขาวใช่ไหมคะ”

“ใช่ค่ะ ใช่น้องเจ้าของเพจบ้านสัตว์เลี้ยงขาจรไหมคะ”

“ใช่ค่ะพี่ นี่ค่ะเจ้าหมีขาวที่พี่รับอุปการะ” มีเทออุ้มเจ้าหมีขาวไปให้พี่เขาดู “น้องสมบูรณ์มากค่ะ ที่สำคัญฉีดวัคซีนแล้ว เหลืออีกสามเข็มนะคะ” เธอยื่นสมุดบันทึกการฉีดวัคซีนให้

“อ๋อ ช่วยพี่สวมปลอกคอให้น้องหน่อยได้ไหมคะ” มีเทอพยักหน้าหงึกแล้วรับปลอกคอมาสวมให้เจ้าหมีขาว

“เต้าหู้เหรอคะ น้องชื่อเต้าหู้เหรอ”

“ค่ะ”

“ว้าว…เพราะมากเลยค่ะ” หญิงสาวดึงหน้ากากอนามัยลงไปใต้คางแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหูเจ้าอ้วนเต้าหู้ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เป็นเด็กดีนะลูกเต้าหู้ตัวอ้วน”

“ขอบคุณนะคะ”

“ฝากน้องด้วยนะคะพี่”

“ค่ะ” จันทร์เพ็ญพาเจ้าเต้าหู้กลับไปส่งเจ้านายที่บ้านตามคำสั่งทันที

18:00

ลูกสุนัขตัวอ้วนนอนอ้าขาอยู่ข้างชามใส่นมแพะที่โฮปเพิ่งเทให้กินเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงชามเปล่าที่ไม่มีน้ำนมเหลือสักหยด

“ไงเรา อิ่มแล้วสบายตัวเลยนะ” โฮปนั่งมองเต้าหู้ผ่านสายตาเอ็นดูมัน “อยู่บ้านก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อยนะสุดหล่อ” เขาหันหลังให้เพียงพริบตาเดียวเจ้าเต้าหู้ก็เดินเตาะแตะไปนอนที่ฟูกนุ่มๆ ที่เขาเตรียมไว้ให้

“อ๋อ…ยังเด็กอยู่สินะ”

ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูมันมาก เขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะเลี้ยงให้เติบโตด้วยตัวเองเพื่อสานฝันในวัยเด็กที่อยากเลี้ยงสุนัขแต่ทางบ้านคัดค้านตลอด แต่มันก็ทำให้เขานึกถึงใครบางคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel